Calvin Klein - CK Free Blue
จะมีใครที่เดินห้าง ใช้น้ำหอมไม่รู้จักแบรนด์นี้มั่งเนี่ย 5555 คงแทบไม่ต้องบอกว่า Calvin Klein มีน้ำหอมฮิตตลาดแตกเยอะมาก แถมของปลอมระบาดสุดๆ ยังไม่พอดันมีแปลงชื่อรุ่นบางรุ่น เช่น Eternity เป็น Enter ก็มี เพราะแบรนด์นี้น้ำหอมเข้าถึงง่าย มหาชนใช้ มหาชนชอบนั่นเอง และราคาไม่แพงด้วยซ้ำ เช่นนั้น ขอมาแตะแบรนด์นี้กันซักหน่อยกับรุ่น CK Free Blue ครับ
CK Free Blue เป็น Flanker แตกออกมาจาก CK Free ปกติที่ฮิตมากพอสมควรอยู่แล้ว ประมาณต่อยอดความสำเร็จอะไรประมาณนั้นและกลิ่นแตกต่างจากต้นขั้วไม่มากเชื่อมโยงที่โทนใกล้เคียงกันนั่นคือ ความ Aromatic ที่ออกหอมนุ่มกลั้วสดชื่นใช้ง่าย (และขอแถมอีกด้วยว่า "กลิ่น Mang ไม่ทนเลย" ไม่ว่าจะตัวไหนใน CK Free ก็ตาม 55555) ซึ่งแน่นอนว่า Top Notes กลิ่นจะค่อนข้างเข้าถึงง่ายด้วยโทนของลาเวนเดอร์นุ่มๆ กับมินท์ที่ไม่เสียดจมูก ให้ความสดชื่นเย้ายวนเบาๆ กำลังดี ซึ่งเป็นอีกกลิ่นที่สามารถทำให้คนเสียตังค์ซื้อได้เพียงแค่ดมกลิ่นจากกระดาษที่เทสหรือดมจากหัวฉีด โดยไม่สนกลิ่นที่จะตามๆ มาได้เลย ถือเป็นข้อดีเลยทีเดียวที่จะได้เงินจากคนซื้อไป 5555 ซึ่งจริงๆ ถ้าจะรอถึง Middle Notes โทนก็เปลี่ยนไปเป็นแนวๆ Watery ออกแนวน้ำที่สดชื่นหอมอ่อนๆ มีกลิ่นลูกจันทน์เทศที่ทำให้ออกโทนซ่าๆ เย็นๆ แน่นอนกลิ่นใช้ง่ายอยู่เหมือนเดิม ซึ่งถ้าใครรอจนถึง Middle ก็อาจจะเสียตังค์ได้อยู่ดี เพราะกลิ่นก็ยังเข้าถึงง่าย ใช้ง่าย คนได้กลิ่นจะชอบทุกคน ที่สำคัญกลิ่นแบบนี้ไปได้ดีบนกระดาษหรือเสื้อผ้าเสียด้วย และถ้าใครฉีดกับผิวแล้วรอช่วง Base Notes แน่นอนงานนี้กลิ่นโทนสะอาดนุ่มๆ จะมาหาเพราะ Musk และกลิ่นหนังแบบเบาๆ ทำให้ออกกลิ่นผิวกายสะอาด และยังมีโทนอบอุ่นของแอมเบอร์ที่มาทำให้กลิ่นนุ่มขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ แน่นอนกลิ่นยังคง Concept สีฟ้าอ่อนๆ สบายๆ อิสระ และเข้าถึงง่าย ใช้ง่ายไม่มีผิดเพี้ยน
เหมาะสำหรับ - กลิ่นนี้จริงๆ ทำมาเป็นของผู้ชายครับ แต่จากที่ผมใช้แล้วบอกกงๆ ว่า Unisex มากกกกกสำหรับ CK Free Blue เพราะกลิ่นโทน Watery นี่แหละ เข้ากับทุกเพศง่ายๆ อยู่แล้ว ใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ใส่ทำงาน สัมภาษณ์งาน หาหมอ เข้าพบคนที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม ใส่เดินเที่ยวชิลล์ๆ ได้ ใส่อยู่บ้านเฉยๆ ใส่ออกกำลังกายยิ่งเหมาะใหญ่ หรือฉีดหลังออกกำลังกายก็ทำให้สดชื่นนุ่มๆ กำลังดีมากเลยทีเดียวครับ
ความทน - ขอหัวเราะนิดนึง กร๊ากกกกกกกกกกกก 4 - 6 ชม. ครับ 555555
การกระจาย - กระจายดีช่วง Top กระจายรอบตัวประมาณไม่เกิน 1 นิ้ว ช่วง Middle เป็น Skin Scent ติดผิวช่วง Base ประมาณกลิ่นหนังและ Musk แบบจางๆ (ตรงๆ คือไม่กระจายเลย นอกจากให้ความรู้สึกสะอาดนุ่มๆ ให้สัมผัสได้)
ทิ้งท้าย - ข้อดีของตัวนี้คือ กลิ่นที่ไม่รบกวนผู้อื่น เบาๆ เข้าถึงได้ง่าย คนได้กลิ่นส่วนใหญ่จะชอบ ราคาไม่แพงเท่าไหร่ เป็นกลิ่นที่สุภาพเลยทีเดียว แต่ข้อเสียมันอยู่ที่ความทนนี่แหละครับ ถ้าไม่ถือ แล้วเคมีเข้ากับตัวนี้ที่สามารถทำให้ทนได้มากขึ้น ก็ถือว่าเป็นตัว Play Safe ที่ใช้ได้ตัวนึงครับ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น