Bond
No.9 – Broadway Nite
ได้เวลามหานคร
New
York กันอีกครั้งกับการปล่อยของของ Bond No.9 ในลักษณะที่บ่งบอกถึงกลิ่นอายของถนนสาย
Broadway ใน New York ที่เต็มไปด้วยแสงสีในยามค่ำคืนรวมถึงเป็นดินแดนของโรงภาพยนตร์ต่างๆ
ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นจะต้องมีจริตและไม่ใช่ไก่กา
เช่นนั้นก็ต้องมาดมกันหน่อยแล้วกับรุ่น Broadway Nite ว่าจะมาในลักษณะไหนกันหนอ?
เปิดต้นกลิ่นมาด้วยกลิ่นอายที่ออกโทนสดชื่นแน่นๆ
ติดโทนสบู่และแว๊กซ์ของ Aldehydes
กันก่อนเลย แต่สิ่งที่มาตัดทอนไม่ให้กลิ่นนี้คมเกินไปนั่นคือกลิ่นของใบไวโอเล็ตที่ให้ความเขียวติดหวานโปร่งสบายจมูก
ซึ่งจะมีความเป็น Old School หน่อยๆ
มาให้ได้รู้สึกถึงความคลาสสิค
เพียงไม่นานกลิ่นโทนแป้งจะเริ่มดันขึ้นมาอย่างชัดเจนมากจากดอกไวโอเล็ตที่เป็นตัวเด่นขึ้นมาตีคู่กับดอกเฮลิโอทรเป้ที่ให้ความรู้สึกแบบอัลมอนด์นุ่มๆ
หอมละมุนกลิ่น โดยจะมีไอริสมาเพิ่มความเป็นแป้งแบบอับหน่อยๆ
และมีดอกสายน้ำผึ้งที่ให้โทนแป้งหอมดอกไม้ติดหวานจางๆ
เลยตัดทอนไม่ให้กลิ่นแป้งของไวโอเล็ตออกทางโปร่งเกินไปซึ่งจะมีมิติของโทนแป้งให้จับต้องได้ในความนุ่มละมุนที่ได้รับ
ที่สำคัญไม่ใช้แค่ความเป็นแป้งเพียงอย่างเดียว
ยังมีจริตจะก้านที่เพิ่มความเซ็กซี่จากกุหลาบลงไปด้วยอีกสเต็ป
กลิ่นในช่วงกลางเลยกลายเป็นแป้งหอมละมุนติดอบอุ่นและนวลด้วยความเป็นดอกไม้
จนเมื่อมีกลิ่นของวานิลลาที่มาในโทนแป้งอบอุ่นมากขึ้น
ก็ดึงเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมกับกลิ่นอายอบอุ่นติดเซ็กซี่ของความเป็นโทนแป้งนุ่มละมุนที่จะมี
Musk มาเสริม
และจะได้กลิ่นแอมเบอร์ที่จะมาในโทนติดหวานหน่อยๆ
จากช่วงกลางมาให้ความอบอุ่นกับกลิ่นไม้หอมที่สร้างความมีระดับให้เนื้อกลิ่นแบบมีชั้นเชิง
ไม่ได้โล้นแค่โทนแป้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งภาพรวมเลยจะออกแนวผู้หญิงสวยๆ
กลิ่นอายแบบแป้งหอมที่ยืนอยู่ระหว่างความคลาสสิคและความร่วมสมัย
แถมมีความกรุยกรายมีระดับแบบไม่ต้องแสดงออกมาแต่ออร่าทางกลิ่นมันบ่งบอกชัดเจนว่า
“เซ็กซี่แบบไม่ต้องบอกกล่าวท่ามกลางแสงสี” มันเป็นเช่นนี้แล
เหมาะสำหรับ
– ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปเลย
กลิ่นมีทั้งความน่าค้นหาและมีจริตแบบเซ็กซี่ของความเป็นแป้งหอมผู้หญิงได้ดีมาก
สามารถใส่ได้ในบางสถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งยามทางการพอได้อยู่ และทั่วๆ
ไปแบบอากาศไม่ได้ร้อนจัดจะลงตัวไม่น้อย แบบจำกัดจำนวนสเปรย์ งดใส่ออกกลางแจ้งร้อนๆ
กับออกกำลังกายเด็ดขาดกลิ่นตีขึ้นจุกคอหอยตายทั้งตัวคนใส่และคนรอบข้างได้
ส่วนยามค่ำคืน นี่แหละยามปล่อยเสน่ห์ของตัวนี้ จัดเลยจ้า เสน่ห์มาเต็ม
ความทน
– มากกกกกก 12 ชม. กลิ่นยังอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน
ส่วนตัวเจอลากยาวไปที่ 15 ชม. เลยล่ะ
การกระจาย
– กลิ่นกระจายดีมากจนเรียกว่าจะแน่นเอาได้ในช่วงแรก
ก่อนจะลดลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ จนเป็นกระจายกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย
– เป็นครั้งแรกที่ได้กลิ่น Aldehydes แล้วรู้สึกว่ามันนุ่มจมูกมาก
ไม่ได้สะอาดแบบคมๆ จนตกใจแบบน้ำหอมติดแนว Old School ในหลายๆ
ตัว เรียกว่าเป็นอีกกลิ่นที่ประทับใจเลยทีเดียวกับความร่วมสมัยอย่างมีจริต
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น