Lacoste
– L.12.12 Noir
จากที่เคยบอกเล่ารุ่นสีขาวอย่าง
Blanc ไปแล้ว ต้องมีอะไรมาสร้างความหยินหยางกันบ้างด้วยโทนสีดำของ Lacoste
ที่จะมาบอกเล่าถึงความนัวร์และดาร์กกันบ้าง
ซึ่งก็ชักอยากจะรู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะแบรนด์นี้เขาเน้นกลิ่นอายทาง Casual
ติดสปอร์ต เช่นนั้นมาเจอกันหน่อยดีกว่ากับรุ่นนี้เลย L.12.12
Noir
ความรู้สึกแรกที่ได้กลิ่นและได้ใช้มันบอกถึงความ
Sport ของผู้ชายที่ใส่เสื้อโปโลสีดำชัดเจนมาก คือ
มันไม่ได้นัวร์แบบที่จะลึกลับซับซ้อนอะไรตรงไหน ออกแนวตรงไปตรงมาสบายๆ
สดชื่นกว่าที่คิดเสื้อด้วยซ้ำ เพราะว่า Top Notes กลิ่นอายมาเต็มมากับแตงโมที่จะมีกลิ่นเขียวๆ
ติดซิตรัสของใบเวอร์บีน่าที่กลิ่นคล้ายมะนาวมาช่วยดันให้กลิ่นออกทางสดชื่นติด Aquatic เพียงแต่แตงโมที่ได้กลิ่นจะไม่ได้มาแบบฉ่ำน้ำหวานอะไรตรงไหน แต่มาออกแนว Sport
ค่อนได้ทางกลิ่นอายเปลือกแตงโมเสียมาก โดยกลิ่นเขียวๆ
ที่มาช่วยดันจะเริ่มชัดขึ้นและดึงเข้าสู่ Middle Notes กันเต็มตัว
และเปิดตัวออกมาคือกลิ่นของโหระพาที่จะมาแบบติด Spicy กลั้วนุ่มๆ
โดยจะมีกลิ่นหวานติดขมหน่อยๆ ให้พอรับรู้ได้
แต่ไม่แน่นเกินไปนักมาเสริมให้กลิ่นแตงโมติดซิตรัสนั้นเข้มขึ้นและมาทางแมนๆ ติด Sport
ชัดเจน
และจะมีกลิ่นอายของลาเวนเดอร์ที่มาแบบนุ่มโทนสะอาดเสริมเข้ามาก็จริงแต่จะมาแบบเบาๆ
เพราะกลิ่นหวานแบบติดขมเริ่มปล่อยของทีละนิดๆ จนเข้าสู่ช่วง Base Notes เปิดผ่างกันออกมานั่นคือ ชอคโกแลต ที่กลิ่นจะมาแบบหวานปนขมแบบไม่หนัก
เพราะมีกลิ่นไม้หอมกลั้ว Musk ที่เสริมเข้ามาพร้อมเอาพิมเสนมาด้วย
แถมมีความครีมมี่จางๆ มาเสริมเลยออกทางกลางๆ ไม่ขนม ไม่ครีม ไม่สปอร์ตจนเกินไป
กลิ่นออกทางสีดำก็จริงแต่มีความเข้าถึงได้ง่ายตามที่บอกไปตอนแรกว่าเหมือนผู้ชายเสื้อโปโลสีดำไม่มีผิดเพี้ยนเลย
เหมาะสำหรับ
– ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลายก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นใช้ง่ายกว่าที่คิด ซึ่งกลิ่นนี้จัดได้ไม่ว่าจะเป็นทั้งช่วงทางการหรือไม่ทางการเหมาหมด
โดยยามกลางวันสบายเลย เพราะเข้าถึงง่าย ออกกำลังกายยังได้เลย เพียงแต่คงไม่ใช่แนวๆ
แมนๆ เตะบอลกันขนาดนั้น ส่วนยามค่ำคืนอัดสเปรย์หน่อยก็สามารถ เป็นอีกหนึ่งในน้ำหอมที่ครอบจักรวาลในการใช้งานเลยทีเดียว
ความทน
– อยู่ที่ 6 -8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญ
ซึ่งส่วนตัวที่เจอ 10 ชม. เพราะจัดไป 8 สเปรย์ (แอบกลัวชาวบ้านเขามองหน้าอยู่นะ 555)
การกระจาย
– กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกความสดชื่นได้เลย
ก่อนที่จะลดลงมากระจายกลางๆ ไปเรื่อยๆ และเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย
แล้วจางลงตามเวลาที่ผ่านไป
ทิ้งท้าย
– สมกับการเป็นน้ำหอมที่บ่งบอกถึงความเป็น Sport ในสไตล์ของ
Lacoste เลยล่ะครับ และยิ่งคนที่ต้องการใช้น้ำหอมโทนสปอร์ตที่ฉีกออกมามีกลิ่นโทนหวานแบบไม่หนักหน่วง
และต้องการใช้น้ำหอมที่จะเริ่มฉีกไปในทิศทางอื่นบ้างแต่ยังคงโทนสปอร์ตไว้
ตัวนี้เป็นตัวที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น