วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review: Lanvin - Arpege Pour Homme


Lanvin - Arpege Pour Homme

หนึ่งในของดีมีคุณภาพที่เหล่าผู้รักน้ำหอมต่างยกย่องกันว่าเป็นน้ำหอมที่เป็นส่วนผสมที่แสนจะลงตัวระหว่างความเมโทรและสุภาพบุรุษที่อบอุ่น แต่ “เลิกผลิต” ไปแล้ว ทำมายยยยยยยยยยวะ! รมณ์เสีย! ของดีนี่เลิกผลิตกันจัง เช่นนั้น เลยมาบอกเล่าความดีงามของรุ่นนี้กัน ว่าทำไมคนเขาถึงเสียดายกันมากมายขนาดนี้ 

กลิ่นเปิดมากับโทนซิตรัสสดชื่นแบบนุ่มๆ ติดโทนหวานหน่อยๆ ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว เพราะกลิ่นของส้มและดอกส้มผสมกลมกลืนกันมาก ที่สำคัญจะมีกลิ่นวานิลลารองพื้นด้านหลังให้รับรู้ถึงออร่าได้ ยังไม่พอกลิ่นโทนเครื่องเทศสดชื่นติดหวานอย่างพริกไทยสีชมพูจะแทรกขึ้นมา จนทำให้กกลิ่นในช่วงนี้สดชื่นติดโทนหวานนุ่ม ที่จะส่งต่อให้ช่วงกลางผันตัวเองได้น่าดูชมมากกับกลายเป็นกลิ่นโทนแป้งแบบเมโทรติดเซ็กซี่ของดอกไอริส ที่จะดันขึ้นมาจนหอมออกทางกระเป๋าเครื่องสำอางผู้หญิงนิดๆ แต่ไม่มากจนเหมือนกับ Dior Homme เพราะมีกลิ่นอายของจันทน์เทศกับกลิ่นในช่วงต้นมาทำให้กลิ่นออกทางเย็นๆ ติดทางสดชื่นอยู่ ที่สำคัญวานิลลายังคงอยู่ ให้ความรู้สึกหวานอบอุ่นกลั้วไปด้วยตลอด ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะหอมละมุนมากเลยทีเดียว และจะปิดท้ายที่ไฮไลท์กันเลยกับช่วงท้ายที่กลิ่นของวานิลลาจะฉายแสงมากขึ้น แต่กลายเป็นกลิ่นแป้งหอมหวานนุ่มนวล ไม่ได้ออกทางขนมและคมจนเวียนหัวเลย เพราะอิทธิพลของโทนแป้งช่วงกลางอย่างดอกไอริสยังคงมาร่วมด้วยอยู่ โดยมีกลิ่นโทนครีมมี่และวู้ดดี้มาผสมผสาน ทำให้กลิ่นออกมาเป็นกลิ่นสุภาพบุรุษที่อบอุ่น มีภูมิ น่าไว้วางใจ และชวนเข้าไปอยู่ใกล้ๆ มาก บอกเลย! ว่าผมเองก็เสียดายมากกกกก ที่ทำไมเลิกผลิตจ้ะ ไม่เข้าใจ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นให้ความรู้สึกคาบเกี่ยวได้ทั้งความเป็นทางการและไม่ทางการแบบผู้ชายอบอุ่นได้อย่างลงตัว ยิ่งใส่ออกทางงานการจะดูเป็นคน Modern ที่น่าเชื่อถือมาก ใส่ชิลล์ๆ ก็น่าซบน่าเข้าใกล้ ขอข้ามการใส่ออกกำลังกายเลย เพราะโทนแป้งแบบนี้ไม่เข้าขากับเหงื่อนัก ส่วนยามกลางคืนจะเหมาะกับการ Dinner ออกทางโรแมนติคมากกว่าจะใส่ไปเมาครับ กลิ่นโรแมนติคไม่น้อยด้วยแหละ

ความทน – 8 ชั่วโมงขึ้นไปได้สบายๆ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และคงความดีงามนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายที่จะลดลงมาหน่อย ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัว เรียกว่ากระจายดีสม่ำเสมอเลยก็ว่าได้ครับ

ทิ้งท้าย – มันคือ Masterpiece ของ Lanvin เลยล่ะครับ เสียอย่างเดียวก็คือ “เลิกผลิต” รมณ์เสีย! 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น