Review: Penhaligon's – Lavandula

Penhaligon's – Lavandula 

เพ็ญอา ลีกรส์: Penhaligon's เป็นหนี่งในแบรนด์ Niche สุดหรูที่กลิ่นแต่ละกลิ่นหรูหรา เนี้ยบ และมีระดับมากมายก่ายกอง ซึ่งจุดเริ่มต้นคือการเป็นร้านตัดผมก่อน จึงพัฒนาเป็นน้ำหอม Niche ชื่อก้องของเกาะอังกฤษ ที่สำคัญน้ำหอมหลายๆ ตัว ชาววังอังกฤษเข้าใช้กันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเลยทีเดียว เรียกว่าของหรูหราและมีระดับขาดใจกันอย่างมาก เช่นนั้น ผมได้มีโอกาสแตะของหรูกับเขาบ้าง เลยขอมาบอกเล่ากันหน่อยกับรุ่นนี้ครับ “ลาวัลย์ ดูลา: Lavandula”

เรียกว่าเป็นหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่หอมธรรมชาติมากตัวนึงเลยทีเดียวครับ เพราะเพียงแค่ช่วงต้นกลิ่นลาเวนเดอร์ก็โชยขึ้นมาเข้าจมูกกันเต็มๆ ในแบบลาเวนเดอร์ที่คาต้นมีกลิ่นเขียวๆ ติดอยู่ โดยจะมีกลิ่นโทนสมุนไพรของโหระพาและพริกไทยให้รู้สึกได้แต่กลิ่นช่วงนี้จะมีโทนหวานนุ่มจางๆ ติดสดชื่นแบบธรรมชาติไปตลอด ไม่มีกลิ่นไหนแหลมขึ้นมาเลย คุมโทนความเป็นลาเวนเดอร์คาต้นได้ดีมากจริงๆ จนเมื่อเข้าช่วงกลาง กลิ่นลาเวนเดอร์เริ่มปรับจากโทนติดเขียวมาเป็น โทนหอมนุ่มสะอาดและผ่อนคลาย โดยมีกลิ่นของสมุนไพรเขียวนุ่มๆ ของเซจมาช่วยดัน โดยมีกลิ่นอายเย็นๆ นิ่งๆ หรูหราเนี้ยบนิ่งไปตลอด เรียกว่าเป็นเปลี่ยนโทนของลาเวนเดอร์ได้อย่างมีมิติและเป็นลำดับได้ดีมาก จนส่งต่อให้กลิ่นของ Musk ที่จะดันขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลาง มาเด่นในช่วงท้าย โดยจะมีกลิ่นแป้งหอมอ่อนๆ ติดครีมมี่กลิ่นอายบางๆ ของลาเวนเดอร์ กับโทนวู้ดดี้จางๆ ให้พอรู้สึกได้ ซึ่งคุมโทนความนุ่มจมูก มีระดับหรูหราได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และมีความเป็นลาเวนเดอร์แบบนุ่มนวลต่างสถานะอิงความเป็นธรรมชาติกันในทุกช่วงเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – กลิ่นนี้ Unisex ชัดเจนกัน ใช้ได้ทั้งหญิงและชายวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็ได้แล้ว ซึ่งกลิ่นจะนิ่งแต่หรูหรามีระดับเลยล่ะครับ กลิ่นค่อนข้างเปลี่ยนถ่ายรับช่วงกันแบบนิ่งๆ ไม่โจ่งแจ้ง ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย เพราะกลิ่น Safe ไม่รบกวนใคร มีกลิ่นอายนิ่งๆ ออกแนววางตัวดีเลยล่ะครับ ส่วนกลางคืนกลิ่นไม่ค่อยเข้าทางเท่าไหร่ ยกเว้นอากาศร้อนๆ บ้านเราที่ใส่ได้สบายๆ แต่ไม่เหมาะกับใส่เที่ยวกลางคืนแน่นอน

ความทน – เนื่องจากเป็นหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นอ่อนแบบธรรมชาติ กลิ่นจะอยู่ได้ที่ 6 ชั่วโมง จะถึง 8 หรือไม่อยู่ที่การอัดสเปรย์เพิ่มมากขึ้นเป็นสำคัญครับ (ซึ่งเปลืองนะนั่น 55555)

การกระจาย – กลิ่นกระจายกลางๆ และเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปตลอด แบบหอมอ่อนๆ อย่างมีระดับ เป็น Safe Scent ที่หรูกันตั้งแต่ต้นจนท้ายๆ ของช่วงกลาง ก่อนจะเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – กลิ่นนุ่มมากจริงๆ ครับ ใครชอบกลิ่นลาเวนเดอร์ ตัวนี้จะให้ความนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติและไม่ดิบแปร่งจนเกินไปเลย แต่ปัญหาคือ ราคานี่สิ จะเป็นลม -__-"