วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

Review: Hermes - Eau de Narcisse Bleu


Hermes - Eau de Narcisse Bleu 

Cologne Collection ของ Hermes ยังไม่จบนะจ้ะ เห็นมีทั้งหมด 5 ตัว แน่นอนว่าต้องจัดมารีวิวทั้งหมดแน่ๆ ซึ่งคราวนี้เลยขอมาที่ตัวที่ 4 ของไลน์นี้ต่อครับ กับรุ่น Eau de Narcisse Bleu 

ต้องบอกกันตรงๆ ว่านี่เป็นอีกตัวที่เรียกว่าดีงามมากเลยในด้านกลิ่นของไลน์นี้ แถมความทนก็จัดว่าเทียบเท่า EDT รองลงมาจากตัว Eau de Gentiane เลยล่ะครับ เพราะกลิ่นอายจะมาแบบเขียวในรูปแบบที่เป็น Signature ของ Hermes พ่วงด้วยความเป็นกลิ่นอายแบบดอกไม้สีสวยที่กลิ่นออกทางตุ่ยๆ เบื่อเมา แต่กลิ่นหอมแบบน่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งมาจากกลิ่นหลักของน้ำหอมตัวนี้อย่างดอกนาร์ซิซัส โดยกลิ่นเปิดจะมาแบบ Raw เลยล่ะครับ กลิ่นแบบตุ่ยๆ ผสมความสดชื่น และมีความเขียวแบบยางไม้กลั้ว ซึ่งกลิ่นอายแบบตุ่ยๆ ติดเขียวนี้จะตามไปทุกช่วงเลยทีเดียวสื่อตรงตัวถึงการเป็นดอกนาร์ซิซัสชัดเจนมากไปตลอด จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางจะเริ่มมีกลิ่นอายโทนดอกไม้นวลๆ ของดอกส้มเข้ามาแทรก แต่ไม่ได้มาในโทนซิตรัสหน่อยๆ เลย แถมมีกลิ่นอายติดเครื่องเทศสดชื่นจางๆ กลั้วไปตลอด ทำให้ช่วงกลางนี้จะเป็นกลิ่นอายสะอาดกลั้วกับความเป็นแป้งหอมดอกไม้แบบไม่มีกลิ่นโทนนุ่มแบบพวก Musk เลย เลยมีแต่กลิ่นอายเขียวๆ แทน ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้มีเสน่ห์มากจริงๆ กับการเบลนด์กลิ่นแบบดอกไม้ตุ่ยๆ ให้ออกมานวลๆ แบบผงแป้งจากดอกไม้ตรงๆ ไม่มีผสมอย่างอื่น ส่งท้ายที่กลิ่นอายวู้ดดี้อ่อนๆ ที่แอบจับได้ถึงไม้ซีดาร์และไม้จันทน์หอมจางๆ โดยยังมีกลิ่นอายเขียวตุ่ยๆ นวลๆ ตามมาเบาๆ ทำให้กลิ่นออกทางสะอาดนวลๆ อบอุ่นเบาๆ กำลังดีไปจนกว่าจะหายไปจากผิวเลยครับ

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศครับ เพราะ Unisex มากกับกลิ่นโทนแบบนี้ แต่อาจจะไม่ได้เข้าถึงทุกคนได้ง่ายเพราะว่ากลิ่นออกทางเขียวตุ่ยๆ เบื่อเมาที่เปิดตัวขึ้นมาค่อนข้างเด่น โดยสามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เหมาหมดทั้งทางการและไม่ทางการ ส่วนยามกลางคืนถ้าทั่วๆ ไปก็ได้อยู่ แต่ไม่เหมาะใส่ไปเต้นแร้งเต้นกาเมาปลิ้นแต่ประการใด เพราะเหล้ากลบหมดเอาได้ตามประสา EDC

ความทน - เป็น EDC ที่ทนเทียบเท่า EDT เลยล่ะครับ อยู่ที่ประมาณ 4-6 ชม. โดยประมาณ จะมากกว่านี้ยังได้เลยถ้าเพิ่มสเปรย์และฉีดเสื้อที่สวมเข้าไปด้วย เพราะส่วนตัวผมเจอที่ 8 ชม. กับ 6 สเปรย์กดเต็ม กลิ่นคงอยู่ให้รู้สึกได้ตลอ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้นแบบเขียวตุ่ยๆ แบบเวลาที่เราดมดอกไม้สีสวยๆ ตามสวนแต่กลิ่นมันจะตุ่ยๆ เขียวๆ เลยล่ะ ก่อนที่จะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว และเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - ผมประทับใจเลยก็ว่าได้กับกลิ่นของรุ่นนี้ ที่เอาความเป็นธรรมชาติของเนื้อกลิ่นที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ความเข้าถึงได้ง่ายมาทำให้กลายเป็นกลิ่นหอมแบบมีเสน่ห์และคงความเป็น Hermes ได้ครบถ้วนเลยล่ะครับ

Credit ภาพhttp://media.hermes.com/media/wysiwyg/visuel-gamme-ENB.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น