วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Review: Hanae Mori – H.M. for Men (EDT & EDP)



Hanae Mori – H.M. for Men (EDT & EDP)

หนึ่งใน Designer ชื่อดังของญี่ปุ่นที่โด่งดังมากในเวทีระดับโลกในการประยุกต์ความเป็นตะวันออกเข้ากับการเป็นตะวันตกออกมาได้สวยงามมากเลยทีเดียวในกลุ่มของแฟชั่นผู้หญิง หลังจากก้าวสู่ระดับโลกและได้รับการยอมรับมหาศาลในแวดวงแฟชั่นแล้ว ต้องมีในส่วนของน้ำหอมที่ก่อตั้งขึ้นที่ปารีสเมืองแฟชั่นกันเลยทีเดียว ในส่วนน้ำหอมผู้หญิงผมเองไม่เคยใช้ เช่นนั้นมาที่น้ำหอมผู้ชายตัวเอกและตัวเก่งอย่างรุ่น H.M. for Men เลยว่าจะเป็นอย่างไร

H.M. for Men จะแบ่งออกเป็น EDT และ EDP นะครับ ความแตกต่างมีเพียงแค่ความเข้มข้นและโทนกลิ่นบางตัวที่จะเด่นสลับกัน รวมถึงความทนด้วย โดยกลิ่นส่วนใหญ่ยันยืนพื้นเหมือนกันทุกประการ ซึ่ง

EDT จะเปิดตัวด้วยกลิ่นแน่นๆ ผสานกันของโทนซิตรัสของเลมอนติดโทนเขียวนุ่มมีกลิ่นออกทางผลไม้จางๆ แต่สิ่งที่ได้จะมีกลิ่นโทนวานิลลาซ่อนผลุบโผล่ๆ ตลอดเวลา เป็นเหตุที่ทำให้กลิ่นออกทางแน่นชัดเจน ได้อารมณ์ออกทางขนมตั้งแต่เริ่มเลยทีเดียว แต่ไม่สาวจ๋ามากเกินไป จนไล่เรียงมาเป็นโทนวานิลลาติดกลิ่นเลม่อนมาผสมกับกลิ่นหอมของดอกไม้อย่างมะลิ ไอริส และกุหลาบ ได้อารมณ์แป้งหอมแน่นๆ จนไปจบที่กลิ่นออกทางหวานด้วยความครีมมี่นุ่มนวลออกทางขนมติดกลิ่นชอคโกแลตบางๆ ที่แฝงความแมนกำลังดีด้วยโทนวู้ดดี้ในเนื้อกลิ่นไปจนจบเลยทีเดียว

EDP เปิดตัวกันด้วยกลิ่นที่แน่นขึ้น โดยกลายเป็นชอคโกแลตเป็นตัวรองพื้นแทนที่วานิลลา โดยยังมีกลิ่นของเลม่อนที่เด่นขึ้นมาควบคู่ไปกับกลิ่น Blackcurrant ที่มาตีคู่ไปด้วย กลิ่นเข้มแน่นเชียวแม้จะออกทางสดชื่นด้วยก็ตาม มีความเป็นขนมกันตั้งแต่เริ่มต้นเช่นเดียวกับ EDT ก่อนจะมาที่กลิ่นออกทางโทนชอคโกแลตกลั้วดอกไม้กลิ่นกุหลาบและไอริสทำให้กลิ่นออกทางเป็นแป้งชอคโกแลตที่หอมนุ่มนวลออกทางขรึม จนไปจบที่กลิ่นขนมหวานๆ ครีมมี่นุ่มนม โดยวานิลลาเริ่มเปิดตัวชัดเจนมากลั้วกับชอคโกแลตและถั่วตองก้า กลิ่นโทนอบอุ่นและหวานมีภูมิชัดเจน โดยกลิ่นวู้ดดี้ที่เสริมความแมนจะบางลงไปกลายเป็น Unisex ได้เลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ – ตัว EDT จะเหมาะกับผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไปครับ เพราะกลิ่นค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่หวานๆ ติดหรูหรา กลิ่นแน่นในระดับที่ถ้าใส่สเปรย์ที่เหมาะสมจะเข้ากับอากาศบ้านเรา ให้อารมณ์อบอุ่น น่าเข้าใกล้ และดูมีภูมิมากใช้ได้แทบทุกสถานการณ์เลย ยกเว้นออกกำลังกาย ยิ่งในห้องแอร์ยิ่งเหมาะมาก ส่วน EDP นี่ออกทาง Unisex ที่ใช้ได้ทุกเพศเลยครับ แต่กลิ่นจะแน่นมากกกก ต้องระวังในการสเปรย์ไม่เช่นนั้นแทบจะเป็นน้ำหอมเดินได้เลยทีเดียว ใช้ได้ทุกสถานการณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน และเหมาะกับวันอากาศหนาวๆ เย็นๆ มากสุดๆ ครับ

ความทน – ทั้ง 2 ตัวทนเกิน 8 ชม. ทั้งคู่ EDT อาจจะถึง 12 ชม. ได้สบายๆ แต่ EDP ล่อยาวกว่านั้นแน่ๆ เพราะยาวถึง 15 ชม. กลิ่นยังตีชึ้นเต็มๆ แถมติดเสื้อซักแล้วเวลารีดผ้าจะมีกลิ่นจางๆ ลอยขึ้นให้ได้กลิ่น

การกระจาย – เพราะทั้ง 2 ตัวต่างก็แน่น เช่นนั้นการกระจายจะดีมากแทบทุกช่วง โดยเฉพาะ EDP แต่ EDT ในช่วง Base จะกระจายกลางๆ กำลังดีชวนอบอุ่นครับ

ทิ้งท้าย – เป็นน้ำหอมที่บอกเลยว่าหรูหราใช่เล่นกับการทำกลิ่นเชิงขนมออกมาแต่ได้ความรู้สึกขรึมๆ และอบอุ่น ส่วนตัวผมชอบน้ำหอมกลิ่นโทนแน่นอยู่แล้วเลยชอบทั้ง 2 ตัวเลยครับ เพียงแต่เทใจไปที่ EDP มากกว่าหน่อย เพราะผมชอบกลิ่นชอคโกแลตเด่นเท่านั้นเองครับ ^^

ป.ล. - ในรูป EDT ทางซ้าย และ EDP ทางขวาครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น