วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

Review: Guerlain - Shalimar


Guerlain - Shalimar

เรียกได้ว่าคือหนึ่งในตำนานของแบรนด์ Guerlain เลยทีเดียวกับความหอมที่เป็นอมตะไม่มีคำว่าตกยุคและเหนือกาลเวลา เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1925 และออกลูกออกหลานแตก Flanker กันอย่างมากมายจนถึงทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนิยมมาเสมอ เช่นนั้นจะไปไหนเสีย ขอมาบอกเล่ากับตำนานอย่าง Shalimar ตัวนี้เลยดีกว่า 

ที่มาขอน้ำหอมตัวนี้คือเป็นเรื่องราวความรักของจักรพรรดิ์ Shahjahan ที่มีให้มเหสีของตัวเองที่เสียชีวิตไป และได้สร้างอนุสรณ์สถานแห่งความรักอย่างทัช มาฮาลขึ้นมา สุคนธรผู้ปรุงน้ำหอมเลยดึงเอาเรื่องราวนี้มาถ่ายทอดผ่านกลิ่น เช่นนั้นความโรแมนติค ความอ่อนโยน และความสูงศักดิ์หรูหราจะกระจายเต็มไปตลอดในทุกๆ ช่วงของน้ำหอมตัวนี้เต็มๆ โดยเริ่มจากช่วงต้นที่จะเป็นโทนซิตรัสที่สดชื่นแบบแน่นๆ โดยมีกลิ่นไม้ซีดาร์มาทำให้กลิ่นออกทางนิ่งและหรูหราตั้งแต่เริ่มต้น เปรียบเสมือนผู้หญิงที่เห็นแล้วแม้ว่าจะวางตัวนิ่งๆ แต่คนเห็นก็รู้สึกสดชื่นทุกครั้งยามที่ได้เห็นและพบเจอ โรแมนซ์กันตั้งแต่ต้นแบบนี้เลย

จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางก็ถึงเวลาการลงลายเซ็นของ Guerlain อย่างชัดเจนกับความเป็นโทน Powdery ที่ออกทางแป้งหอมดอกไม้ย้อนยุค โดยมีไอริสเป็นตัวชูโรงตีคู่ไปกับมะลิกุหลาบและพิมเสน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผู้หญิงที่มีความอ่อนโยน นุ่มนวล งดงาม และวางตัวได้อย่างน่าชื่นชม โรแมนซ์ตามมาติดๆ ไม่มีปล่อยว่างเลยทีเดียว

และปิดท้ายความลายเซ็นของ Guerlain อีกครั้งในช่วงท้ายด้วยความเป็นวานิลลา กลั้วกับกลิ่นของธูปหอม ซึ่ง 2 กลิ่นนี้จริงๆ จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่ช่วงกลางแล้วเพียงแต่จะรองพื้นด้านหลังก่อนที่จะแสดงความเด่นเท่านั้นเอง โดยมีจะกลิ่นหนัง Musk ชะมดเช็ด ยางไม้โทนหวาน โทน Smoky และไม้จันทน์หอม เข้ามาผสมผสานออกมาทำให้กลายเป็นกลิ่นโทนอบอุ่น แนบแน่น ฝังลึกลงไปในความทรงจำ บอกเล่าถึงผู้หญิงที่เป็นเหมือนเสาหลักของจิตใจ อบอุ่น มีความเป็นแม่ ความน่าหลงใหลตราตรึง และน่าชื่นชม มาครบมาเต็มแน่นเลยทีเดียว โรแมนซ์ปิดท้ายอย่างยาวนานจนกว่าจะหายไปจากผิว

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงวัยทำงานเป็นต้นไปครับ แม้ว่าจริงๆ กลิ่นนี้น้องๆ ผู้หญิงวัยมหาลัยก็ใช้ได้อยู่ในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม ไม่งั้นอาจจะดูเกินวัยไปหน่อยนึงเท่านั้นเอง ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันกับจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม (มากไปไม่ดีเพราะกลิ่นแน่นมาก เดี๋ยวชาวบ้านจะเขม่นเอามากกว่าจะโรแมนติคหรูหราถ้าประโคมเยอะ) หรือใช้กลางคืนโดยเฉพาะการออกงานทางการ ที่กลิ่นจะให้ความรู้สึกสูงศักดิ์และหรูหราโรแมนติคมากจริงๆ ส่วนผู้ชาย บอกตรงๆ ใส่ได้สบายๆ ครับ เพราะกลิ่นนี้จริงๆ มันมีความเป็น Unisex อยู่ในตัวพอสมควร เผลอๆ จะหอมคลาสสิคจนน่าหลงเสียด้วยซ้ำไป

ความทน - มากกกกกก ยาวนานเกิน 10 ชม. ได้สบายๆ

การกระจาย - เพราะว่ากลิ่นแน่น การกระจายจึงจัดเต็มจริงๆ ในทุกๆ ช่วงตัว อาจจะมีลดลงมากระจายกำลังดีในช่วงท้ายๆ แต่ก็ยังคุมโทนให้คนใส่ได้กลิ่นที่ตีขึ้นตลอด

ทิ้งท้าย - แม้ว่ากลิ่นอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนก็ตามเพราะกลิ่นออกทางคลาสสิค แต่นี่คือตำนานและความดีงามในด้านกลิ่นที่เหนือกาลเวลาจริงๆ ที่ถ้าเป็นผู้หญิงพอผ่านช่วงเวลาที่เป็นวัยรุ่นไปแล้วใครๆ ก็อยากได้กลิ่นที่หรูหรา Elegance และ Timeless กันทั้งนั้น เช่นนั้นเป็นอีกตัวที่สาวๆ ต้องได้ลองซักครั้งในชีวิตครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น