Review: Tros - Dark Blue

Tros - Dark Blue 

เรียกว่าตอนที่เห็นน้ำหอมแบรนด์นี้ใน 7-11 ถึงกับรีบหยิบมาดู เพราะเคยได้ยินคำบอกเล่ามาบ้างแล้วจากหลายๆ คนว่าน้ำหอมของ Tros กลิ่นโอเคไม่น้อย แถมเป็น Eau de Perfume หรือ EDP เลยนะจะบอกให้ เช่นนั้นจัดไปตามประสาคนอยากลองและต้องการทดสอบด้วยว่าจะออกมาแบบไหนกับรุ่นนี้เลย Dark Blue 

เปิดกลิ่นกันด้วยความคุ้นชินแบบที่ผู้ชายที่ใช้สเปรย์ดับกลิ่นกายกันเลย กลิ่นมาแบบชัดเจนและแรงคมไม่น้อย โดยมีโทนซิตรัสติดเขียวเด่นขึ้นมา โดยมีโทนหวานจางๆ แทรกไปตลอด เรียกว่า กลิ่นตอนนี้มันคือสเปรย์ดับกลิ่นเต่าเลยแหละครับ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบจะพอแล้วหยุด เพราะอาจจะเวียนหัวกับกลิ่นคมๆ บาดๆ นัวๆ แมนจัดเว่อร์ๆ แบบนี้ แต่พอผ่านไปไม่นาน กลิ่นจะเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางที่เริ่มมีโทนหวานมากขึ้น แต่ยังยืนพื้นที่กลิ่นโทนซิตรัสติดเขียว ซึ่งกลิ่นโทนหวานแบบนี้มันเริ่มคุ้นจมูกไม่น้อยราวกับว่าเราเคยเจอกลิ่นแบบนี้มาจากที่ไหน เพราะหวานเด่นที่โทนโป๊ยกั๊กหน่อยๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลิ่นพัฒนามาในทางที่หอมมากขึ้นและไม่บาดจมูก มีกลิ่นอายของโทนวู้ดดี้เบาๆ กำลังดีติดโทนนุ่มๆ รองพื้นอยู่เสียด้วย และเพียงไม่นานกลิ่นโทนหนังนุ่มๆ และยาสูบเย้าๆ ติดครีมมี่หน่อยๆ ก็ดันขึ้นมา เข้าสู่ช่วงท้ายที่ถึงบ้างอ้อเลยว่า "Armani Code นี่หว่าาาาา" ใช่เลยครับ กลิ่นช่วงนี้จะหอมละมุนนุ่มๆ ของโทนหนังกลั้วยาสูบและมีความครีมมี่นวลๆ โดยยังมีโทนหวานตามมา มันคือลักษณะกลิ่นที่ใกล้เคียงกับ Armani Code เลย เพียงแต่ความแรงไม่ได้มาเต็มมาก เรียกว่าถ้า Code มา 100% ตัว Dark Blue จะมาที่ประมาณ 60% ของความแรงทั้งหมดนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ต้น ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว เพราะเรียกว่าเป็นกลิ่นที่คุ้นชินมากในแง่ของการเลือกซื้อโรลออนหรือสเปรย์ดับกลิ่นกายที่ต้องเจอแบบนี้กันแน่ๆ สามารถใช้ได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบทั่วๆ ไป ใส่ทำงานได้สบายๆ แต่ถ้างานทางการจัดๆ อาจจะไม่ค่อยเหมาะนัก และออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนก็จัดได้อยู่ครับกลิ่นแบบเข้าทางเลยล่ะ ซึ่งถ้าเที่ยวกลางคืนอาจจะจะโดนจัดไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับคนใส่ Armani Code ก็เท่านั้นเองครับ

ความทน - เรียกว่าบนผิวผมถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเลยนะครับกับ 6 ชม. กับ 7 สเปรย์กดเต็มรวมถึงฉีดเสื้อด้านหน้าด้วย ซึ่งก็ลดหลั่นกันไปตามแต่ละประเภทผิวและการฉีด

การกระจาย - ช่วงแรกแรงมากตามประสากลิ่นแนวๆ สเปรย์ดับกลิ่นกายก่อน แล้วจึงลดระดับมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ปิดท้ายที่ Skin Scent ตีขึ้นยามร่างกายทำความร้อน

ทิ้งท้าย - ในราคา 85 บาทแล้วกลิ่นใกล้กับ Armani Code ขนาดนี้ คุ้มนะครับ เรียกว่าเข้าถึงผู้ซื้อได้ง่ายด้วยแหละสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้เล่นน้ำหอม ซึ่งถ้าไม่ได้มองกันที่ว่ากลิ่นมันคล้ายตัวดัง เพียงแค่ผ่านช่วงแรกของน้ำหอมไปได้ กลิ่นก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่ประการใด

Credit ภาพ - ผมถ่ายเองครับ ^^