วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Review: Rancé 1795 - Le Roi Empereur


Rancé 1795 - Le Roi Empereur

กลิ่นอายหรูหรามีระดับกับความเป็นฝรั่งเศสกลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ Rancé 1795 ที่ทำน้ำหอม Tribute ให้ประเทศฝรั่งเศสในแง่มุมต่างๆ ขาดไม่ได้ต้องมีน้ำหอมที่บอกถึงจักรพรรดิคนสำคัญของโลกอย่างนโปเลียน โบนาปาร์ต และหนึ่งในนั้นคือรุ่น Le Roi Empereur ที่บ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความเกรียงไกรที่ได้จารึกในประวัติศาสตร์ในการครองยุโรป เช่นนั้นกลิ่นจะเป็นอย่างไรบ้าง มาดมกันดีกว่า 

ในความคิดครั้งแรกแบบยังไม่ได้ลองมาก่อนใดๆ จะคิดว่าน้ำหอมตัวนี้ต้องมาแนวเล่นใหญ่และหนักแน่นแน่นอน แต่ปรากฏว่า ไม่ใช่ เงิบกันไปนิดนึง เพราะดันมาในโทนสดชื่นพื้นฐานของความนุ่มจมูกของกลิ่นที่มาจากลาเวนเดอร์เป็นตัวเด่นนำตีคู่กับดอกส้มที่จะมาให้ความสดชื่นติดโทนดอกไม้ขาว และมีกลิ่นอายของโทนเครื่องเทศหอมหวานโปร่งๆ อย่างเม็ดเทียนสัตตบุษย์เป็นตัวให้ความหวาน ทำให้กลิ้นเปิดจะดูเป็นช่วงหอมติดหวานสดชื่นเด่นนำ แล้วกลิ่นในช่วงนี้จะตามติดไปเด่นช่วงกลางที่จะยังให้ความสดชื่นติดหวานนุ่ม โดยจะมากลั้วกับกลิ่นอายดอกไม้นวลๆ ของกุหลาบติดเครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานที่จะหวานกำลังดีและมีความเป็นแป้งหอมอ่อนๆ บางเบา กลิ่นจะมาแบบดอกไม้เป็นตัวเด่นยามตีขึ้น โดยมีกลิ่นหวานติดอบอุ่นรองพื้นด้านหลังลากยาวไปเรื่อยๆ จนเข้าช่วงท้ายที่กลิ่นจะผันเป็นโทนไม้หอมอบอุ่นสว่างๆ มีอบเชยรับช่วงต่อความหวาน มีความนุ่มสะอาดกลั้วไม้หอมโทนโปร่ง และมีความแมนจากกลิ่นหนังที่มาแบบปานกลางกำลังดี ภาพรวมของกลิ่นไล่โทนกันมาจากกลิ่นสดชื่น หอมนวล และปิดท้ายกับความแมนอบอุ่น โดยที่กลิ่นไม่ได้มาหนักหน่วงเล่นใหญ่ แต่มาแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ มีความเป็นเพศชายที่ไม่ได้ดูเถื่อนแต่กลิ่นมีความภูมิฐานและดูมีพลังนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นค่อนข้างให้ความเป็นผู้ใหญ่และความน่าเชื่อถือมีภูมิในเนื้อกลิ่นสูง แม้จะนำด้วยความสดชื่นก็ตาม ซึ่งสามารถใช้ได้กับงานทางการทุกประเภทเลย รวมถึงการที่จะต้องพบปะผู้คนต่างๆ ทางธุรกิจ นอกนั้นการใส่แบบทั่วๆ ไปก็จัดได้ แบบให้มีภูมิ กลิ่นไม่ได้ใช้ยากแต่ประการใด แต่ออกกำลังกายจะไม่ค่อยเข้าทางนักก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญยามค่ำคืนถ้าเป็นออกงานจัดได้สบายมาก แต่ถ้าจะเน้นไปท่องราตรีข้ามเถอะ กลิ่นจะสู้เขาไม่ได้เพราะความแรงไม่ได้หนักนัก

ความทน ค่อนข้างแกว่งพอสมควรซึ่งอิงกับสภาพอากาศด้วยในหลายๆ ครั้งที่ได้ลองใช้ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6 ชม. เป็นสำคัญ แต่จะมีไปที่ 8 ชม. บ้าง ถ้าอยู่ในห้องแอร์ตลอดไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งก็ยังคงอิงถึงจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดอยู่เช่นเดิม 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น อาจจะดูสดชื่นนวลๆ นัวๆ กันก่อน แล้วจะเริ่มลงตัวในไม่ช้า แล้วลดลงมากระจายแบบปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ ตัวในช่วงกลาง และติด Skin Scent ในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย โอเค ผมเงิบ 555555 แต่ก็ยังรู้สึกว่ากลิ่นแม้จะดูไม่ได้มาหนักหน่วง แต่แอบมีพลังแบบแมนติดหรูแทรกซึมไปตลอด ซึ่งถือว่าซ่อนรูปแล้วค่อยๆ ปล่อยได้น่าสนใจมากเลยล่ะครับ 

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://www.fragrancex.com/images/products/parent/medium/70027W.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น