วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Review: Zoologist – Beaver

Zoologist – Beaver

ได้เวลาของความน่ารักในอีกมุมจากการสื่อถึงกลิ่นอายของสัตว์มาทำเป็นน้ำหอมอีกแล้วหลังจากผ่านความหนักหน่วงของแรด และความโปร่งสบายของแพนด้า นี้มากันที่นักทำงานตัวป้อมๆ ที่เก่งมากมายในการสร้างเขื่อนตามธรรมชาติอย่าง Beaver บ้างแล้ว ซึ่ง Zoologist จะทำออกมาอย่างไรบ้าง ต้องดมกันหน่อยแล้ว

เรียกว่าเปิดมาได้อารมณ์ของความเป็นบีเวอร์กันเลยทีเดียว เพราะกลิ่นอายแบบสัตว์มีขนเปียกน้ำกลิ่นตุ่ยๆ จะมาก่อนเลย เพราะกลิ่นของ Musk ที่ผสมผสานกับ Castoreum (กลิ่นต่อมเพศของบีเวอร์) จะมาแบบชัดมากจนออกแนวอย่างกับกำลังอุ้มบีเวอร์ที่เปียกน้ำอยู่ ซึ่งแม้จะมีกลิ่นสาปตุ่ยๆ ติด Smoky อวลๆ เปียกๆ แต่จะมีกลิ่นอายสดชื่นมาผสมผสานไปด้วยจากโทนซิตรัสและมีกลิ่นอมหวานจางๆ แบบอากาศดีๆ ยามเช้า ซึ่งจะทำให้รู้สึกได้ว่าเรากำลังเลี้ยงบีเวอร์อยู่หรืออาจจะเป็นบีเวอร์ซะเองที่กำลังทำงานหาไม้มาสร้างเขื่อนที่เป็นบ้านอยู่ โดยในช่วงต้นนี้จะเริ่มมีกลิ่นอายติดไม้ซีดาร์จาก ISO E Super แทรกอยู่ และจะค่อยๆ เด่นขึ้นมาทีละนิดอยู่ไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอมเลยทีเดียว ซึ่งช่วงกลางจะเป็นเวลาของกลิ่นสาปบีเวอร์ที่เต็มขึ้นมา ความ Smoky แบบติดหนังสาปไหม้ยังมีอยู่ชัดเจน แต่จะมีกลิ่นติดแป้งจากไอริสมาทำให้กลิ่นออกทางอับๆ โดยมีกลิ่นดินชื้นๆ ที่ออกทางอุ่นๆ หน่อยๆ ความสดชื่นเริ่มจางหายไป เหมือนบีเวอร์ตัวใกล้แห้งแล้วแต่มีกลิ่นตุ่ยๆ ตามธรรมชาติกับกลิ่นไม้และกลิ่นดินอับๆ ติดโคลนรอบๆ เขื่อน ซึ่งกลิ่นโทนไม้หอมอย่างซีดาร์และ ISO E Super จะเริ่มเด่นขึ้นมามากขึ้นตามลำดับ จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายกลิ่นอายตุ่ยๆ ติดสาปจะเบาบางลงไปเหมือนบีเวอร์ตัวแห้งแล้ว โดยจะมีกลิ่นอบอุ่นนวลๆ กลั้วไม้หอมเหมือนบีเวอร์กลับเข้ามาในรังขอนไม้ซีดาร์ที่อบอุ่นกำลังดี กลิ่นอายสาป Smoky จะมาแบบอ้อยอิ่งกลั้วกับกลิ่นของเถ้าไม้นวลๆ ไปตลอด แล้วนอนกลิ้งเล่นหลังจากทำงานสร้างเขื่อนมาทั้งวันนั่นเอง ซึ่งภาพรวมมันหอมแบบมีชั้นเชิงให้นึกถึงความเป็นธรรมชาติของสัตว์น้อยนักสร้างเขื่อนตัวนี้ชัดๆ แต่อีกมุมก็เป็นกลิ่นอายที่แอบบอกถึงความเท่ห์และมีพลังที่ได้ทั้งความน่าเชื่อถือในกลิ่นที่ดูเหมือนหนักแน่นแต่ใกล้ธรรมชาติแบบสดชื่นมากพอที่ทำให้รู้สึกไม่หนักหน่วง ความปลุกเร้าแบบโทน Animalic ที่แอบเซ็กซี่ และปิดท้ายความอบอุ่นติดนวลๆ มีเสน่ห์ หอมแบบมีชั้นเชิงไม่น้อยเช่นกัน

เหมาะสำหรับ – Unisex ได้เลย ซึ่งกลิ่นอายอาจจะออกทาง Animalic ตุ่ยๆ กันหน่อยที่ทำให้รู้สึกเหวอๆ นิดๆ แต่พอเริ่มชินกลิ่นแล้วมันจะมีเสน่ห์แบบที่ไม่เหมือนใครนอกจากบีเวอร์ เช่นนั้นถือว่าแตะได้ทั้ง 2 เพศสบายๆ แม้อาจจะเข้าทางหนุ่มๆ กว่านิดหน่อยก็ตาม ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ได้หมดทั้งงานทางการและทั่วๆ ไปแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับกลางแจ้งแดดร้อนๆ และการออกกำลังกายนัก นอกจากรอช่วงท้ายๆ พอไปได้สบายๆ ส่วนยามค่ำคืน สามารถใส่ไปท่องราตรีก็ได้ ออกงานก็สามารถ

ความทน มากกกกกกกก 12 ชม. กลิ่นยังคงตีขึ้นอยู่สบายๆ แถมข้ามคืนกลิ่นก็ยังติดอยู่เพราะความเข้มข้นน้ำหอมสูงไม่น้อยเลยทีเดียว

การกระจาย
กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะดลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ แล้วลดหลั่นลงไปตามกาลเวลาเป็นกลางๆ ออร่ารอบๆ ตัวตามลำดับ

ทิ้งท้าย
เรียกว่าเป็นกลิ่นที่ถ้ารับช่วงต้นได้ที่เหลือใช้ง่ายกว่าที่คิดในแง่ของน้ำหอมที่กลิ่นแนวๆ และแปลก ที่สำคัญใช้ง่ายกว่าแรดและแพนด้ามากเลยทีเดียว และตอนนี้ Beaver ประกาศปรับสูตรเรียบร้อยแล้ว กลิ่นเวอร์ชั่นที่ผม Review นี้จะหาได้ยากแล้วล่ะครับ

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น