วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Marc Jacobs - Men



Marc Jacobs - Men

Marc Jacobs ชื่อนี้คนที่ติดตามแฟชั่นต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอนว่าเป็น Fashion Designer ที่ดังและแรงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเสื้อผ้าต่างๆ ที่ถือว่าเป็นมือดีสุดๆ ในวงการแฟชั่นจริงๆ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่าว่าเขาเป็นเกย์ที่เก่งสุดๆ น่ะครับ แหะแหะ เช่นนั้นเราจบเรื่องแฟชั่นอะไรก็ตามมาเข้าเรื่องน้ำหอมของแบรนด์นี้ดีกว่ากับน้ำหอมผู้ชายตัวแรกของแบรนด์นี้ ที่แม้อาจจะไม่ดังเท่ารุ่น Bang หรือ Bang Bang หรืออาจจะสู้รุ่นผู้หญิงอื่นๆ อย่าง Daisy หรือ Honey อะไรก็ตาม แต่ความดีงามของตัวนี้ถือว่าเด็ดดวงสมกับเป็นน้ำหอมผู้ชายตัวแรกที่ยังผลิตมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ Marc Jacobs Men ครับ

สารภาพก่อนเลยว่าตอนได้น้ำหอมตัวนี้มาครั้งแรกแบบไม่เคยได้ลองมาก่อน เดาเลยว่ามันต้องกลิ่นเกย์แน่ๆ แต่กลับกลายเป็นไม่ใช่ เงิบไปเลยทีเดียว เพราะ Marc Jacobs Men กลิ่นจะออกโทนเขียว สมุนไพร และแมนจัดๆแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก เพราะ Top Notes เปิดมากับกลิ่นที่ทำเอาเหวอไปเลยกับกลิ่นมะพร้าว ซึ่งไม่ใช่น้ำมะพร้าวน้ำหอม กะทิ หรือจาวมะพร้าวหอมๆ ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นกลิ่นเปลือกมะพร้าวขณะเรากำลังเฉาะเปลือกมันเพื่อเจาะกินน้ำในลูก เพราะมันจะให้อารมณ์มะพร้าวเขียวๆ ชัดเจนแบบฟุ้งกระจาย ซึ่งในช่วง Top นี้ถ้าใครไม่ชอบ ไม่สามารถรอไปเจอช่วงอื่นได้ มีแนวโน้มขอบายสูงเลยทีเดียว แต่พอจะเริ่มเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นเปลือกมะพร้าวเขียวๆ ขาวๆ นั่นจะเริ่มมีกลิ่นเชิง ครีมมี่นิดๆ มาผสมกันทำให้ออกแนวเปลือกมะพร้าวราดนม และจะค่อยๆ จางตามเข้าช่วง Middle เต็มๆ โดยมีโทนเขียวของใบมะเดื่อ กับกุหลาบเข้ามาทำให้กลิ่นเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในเชิงที่ใสมากขึ้น ออกแนวน้ำใสๆ ติดกลิ่นเขียวแบบสมุนไพร โดยกลิ่นมะพร้าวขาวๆ ดิบๆ นั้นจะเป็นฉากหลังรองพื้นให้จับต้องได้อยู่ เมื่อ Base Notes เริ่มเข้ามาแทนที่ตอนนี้กลิ่นถือว่าเปลี่ยนถ่ายมาเป็นแนววู้ดดี้กลั้วกลิ่นโทนเขียวๆ สะอาดๆ แมนๆ ชัดเจน โดยมีความนุ่มนวลครีมมี่ของ Tonga Bean เด่นขึ้นมากลั้วกับไอเย็นของพิมเสน กลิ่นเปลี่ยนถ่ายกันได้อย่างมีมิติมากมายและแตกต่างกันไปเรื่อยๆ ให้จับต้องได้ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหอมที่ยอดเยี่ยมตัวนึงเลยของแบรนด์นี

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศ วัยทำงานขึ้นไปครับ กลิ่นนี้จะว่าใช้ยากก็ยากจะใช่ จะว่าใช้ง่ายก็ใช่เหมือนกัน อยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลกันเน้นๆ ซึ่งกลิ่นบอกได้ทั้งอารมณ์ธรรมชาติ อารมณ์นิ่งขรึมแบบผู้ชาย อารมณ์มีภูมิมีมาด สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ทั้งยามกลางวันและกลางคืน เข้ากับอากาศร้อนๆ บ้านเรามาก จะใส่ทำงานก็ได้ หรือใส่ไปเที่ยวก็ดี แต่ถ้าจะออกกำลังกายรอช่วงเบสนิดนึง ส่วนเที่ยวกลางคืนสู้เขาได้สบายๆ เพียงแต่จะออกโทนสดชื่นมากกว่าจะเย้ายวนนะครับ

ความทน – เกิน 8 ชม. ขึ้นไป ส่วนตัวผมเจอมา 12 ชม. มาแล้วหลายครั้งเลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีสุดๆ ในช่วง Top คุณจะกลายเป็นลูกมะพร้าวราดนมเดินได้ไปเลย ซึ่งถ้าชอบจะฟินมาก (เหมือนที่ผมฟิน) พอเข้าสู่ Middle กับ Base กลิ่นจะกระจายกำลังดี คนยืนอยู่ใกล้ๆ หรือเดินสวนกันจะได้กลิ่น ซึ่งแตกต่างกันไปตาม Sense ของแต่ละตัวบุคคลด้วยครับ ของมันเก๋ตรงนี้

ทิ้งท้าย – เรียกได้ว่ากลิ่นมีความซับซ้อนให้เกิดความรู้สึกว่า น้ำหอมตัวนี้เปลี่ยนโทนในแต่ละช่วงราวกับไม่ใช่น้ำหอมตัวเดียวกันเลย เป็นตัวที่มีผมสนุกมากกับการจับกลิ่นในแต่ละช่วงว่าจะเป็นอย่างไร ออกโทนไหน จะรับกลิ่นได้หรือไหม ยกนิ้วให้สุคนธกรผู้ปรุงกลิ่นนี้เลยครับ เก่งจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น