แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 4711 (Maurer & Wirtz) แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 4711 (Maurer & Wirtz) แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567

Review: 4711 - Acqua Colonia Myrrh & Kumquat

4711 - Acqua Colonia Myrrh & Kumquat

ก่อนที่จะใช้ Cologne ของ 4711 ถ้าไม่ใช่สาย Intense ก็มักจะทำใจก่อนเสมอว่าเราเน้นแค่ Refreshing ไม่ได้เน้นว่าความทนจะต้องจัดจ้านในย่านไหน และเน้นสบายๆ ในวันอากาศร้อนๆ อยากเติมเมื่อไหร่ก็เติม แต่ถ้ากลิ่นนั้นดันทนขึ้นมาเกินคาดนั่นคือ ผลพลอยได้ ที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีมากขึ้นในการซื้อหากลิ่นที่ว่ามาใช้งาน

และในครั้งนี้ก็ได้เวลาของการที่มาเจอกับกลิ่นที่ส่วนตัวมองว่าความทนเกินคาดในการเป็น 4711 สายปกติอีกหนึ่งกลิ่น ที่เรียกว่าไม่ธรรมดา ซึ่งนั่นก็คือ Acqua Colonia Myrrh & Kumquat และเนื้อกลิ่นจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นก็ว่ากันได้ตามนี้

จุดเปิดคือการเป็นโทน Citrus ที่มีวูบติดเปรี้ยวหอมที่ใสนิดๆ ชื้นหน่อยๆ ที่พุ่งมาพร้อมกับกลิ่นที่คาบเกี่ยวโทนกึ่งแป้งกึ่งยางไม้ที่มีอารมณ์ติดฝุ่นทึบปร่าหน่อยๆ แต่มีความหวานลึกในเนื้อกลิ่นทีเรียกว่ามาครบกันตั้งแต่แรกในการเป็น Myrrh & Kumquat (ส้มจี๊ด) ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ได้เป็นกลิ่นที่ใสกิ๊งกระจ่าง เพราะเป็นยางไม้ที่เป็นพื้นกลิ่น แต่ก็ยังมีความเป็นสไตล์ Cologne อยู่ เพราะความเป็น Citrus ที่ทำหน้าที่ในการเป็น Part ของตัวเองได้ดี ให้ความสดชื่นแบบที่ Cologne ควรจะเป็นได้ลงตัว

แต่ความเป็น Citrus ของส้มจี๊ดไม่ได้อยู่นานนัก เพราะกลิ่นในช่วงกลางจะกลายเป็นกลิ่นอายแบบที่มีความคุ้นแคยในลักษณะที่มีความเป็นลูกผสมคาบเกี่ยวระหว่างการเป็น Dior Homme รุ่นปี 2011 ที่เด่นด่วยโทนแป้งกึ่งลิปสติกกับกลิ่นของ Dior Homme Eau ที่เป็น Citrus Iris เข้ามาให้จับต้องได้ โดยไม่ได้หมายว่าเป็นการถอดกลิ่นมาแบบทั้งดุ้น อารมณ์โทนกลิ่นใกล้เคียง แต่จะมีตัวเสริมชั้นดีเป็นกลิ่นของยางไม้ที่ให้ความปร่าแกมหวานทึบของ Myrrh เป็นตัวเสริม ทำให้กลิ่นตอนนี้จะเป็นกลิ่นโทน Cologne ที่มีความเป็นโทนแป้งแกมยางไม้กึ่งแอมเบอร์ที่มีความกำลังดี ไม่หนักเกินไป ไม่เบาเกินไป โดยมีลักษณะกลิ่นที่อารมณ์เป็นสไตล์ยางไม้รองพื้นที่ชัดเจน

ช่วงท้ายโทนแป้งจะเป้าลงไปเหลือเพียงเบาบางจนแทบจับต้องไม่ได้ แต่จะให้ลักษณะความเป็นโทนกึ่งยางไม้กึ่งแอมเบอร์ที่ติดผิวอวลอ่อนๆ เบาๆ มีความเป็นโทนไม้หอมหน่อยๆ ที่ยังมีความหวานอวลๆ แกมปร่าบางๆ เป็นตัวปิดท้ายไปเรื่อยๆ แบบไม่ซับซ้อนแต่ให้ความอบอุ่นแบบมีเสน่ห์กำลังดีจนจางไปในที่สุด 

เหมาะสำหรับ - Unisex แบบเต็มขั้น ไม่ว่าจะเพศไหนก็ใช้กลิ่นนี้ได้สบายมากและไม่หนักเกินไปเพราะเป็น Eau de Cologne อาจจะมีวูบแน่นๆ แค่ช่วงฉีดแรกๆ บ้าง แต่เดี๋ยวก็ลดลงเป็นกลิ่นกลางๆ เรื่อยๆ ไม่พีค ซึ่งเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วไป แต่ถ้าจะใส่เพื่อออกกำลังกายแนะนำรอช่วงท้ายๆ จะดีที่สุด ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบชิลล์ๆ หรือโรแมนติคก็ได้ แต่ไม่เหมาะกับการใส่เพื่อเน้นปล่อยเสน่ห์ร้อยแรงม้านัก เพราะก็ Cologne น่ะ มันไม่ได้มาสายซูเปอร์ไซย่ารอบทิศอยู่แล้ว

ความทน - 8 ชม. มีบวกลบราว 2 ชม. ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และประเภทผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง แต่ส่วนตัวยอมรับเลยว่าทนเกินคาดมากจริง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาเป็นปานกลางซักพักราว 30 นาที ที่เหลือก็ออร่ารอบๆ ตัวยาวไป พอเข้าชั่วโมงที่ 5 ก็เริ่มเป็น Skin Scent

สรุป - ไม่ธรรมดา กับการสร้างกลิ่นอาย Cologne ที่มีระดับและทันสมัยในเวลาเดียวกัน โดยเอาความเมโทรในเนื้อกลิ่นมาเสริมให้มีน้ำหนักในกลิ่นของโซนยางไม้อย่าง Myrrh และใส่ความเป็น Citrus เปรี้ยวหอมที่ลงตัวในช่วงต้น และที่สำคัญเด่นในเรื่องความทนที่เกินกว่าการเป็น EDC โดยทั่วไป 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.worten.es/productos/perfume-4711-acqua-colonia-eau-de-cologne-mirrakumquat-170-ml-mrkean-4011700747443

 

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Review: 4711 - Acqua Colonia Intense: Sunny Seaside of Zanzibar

4711 - Acqua Colonia Intense: Sunny Seaside of Zanzibar

เมื่อผ่านการได้ลองกลิ่นอายสาย Cologne Intense ของ 4711 ไปก่อนหน้านี้ 1 รุ่นที่เอาสถานที่สวยงามต่างๆ บนโลกมาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์กลิ่นอย่าง Floral Fields of Ireland ที่สัมผัสได้ชัดเจนถึงความทนที่มีมากขึ้นและเนื้อกลิ่นเองก็ได้อารมณ์ Cologne ที่ให้ความสดชื่นและรื่นรมย์ในเวลาเดียวกัน โดยให้ความเป็นโทนสีชมพูอ่อนของดอกไม้ที่ลงตัวมากๆ ในสไตล์มินิมัล เช่นนั้น มีหรือที่จะไม่ขวนขวายหากลิ่นอื่นๆ ในโซนนี้มาลอง

และก็ได้โอกาสในการคว้าตัวที่ 2 อย่างรุ่น Sunny Seaside of Zanzibar ที่คราวนี้ 4711 จะพาเราไปเที่ยวที่เกาะ Zanzibar ของแทนซาเนียที่มีเมืองเก่าอันสวยงาม (แนวๆ ปีนัง) + ทะเลที่งดงามมากๆ อีกแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งกลิ่นอายสายลม แสงแดด และทะเลแสนงามฟ้าสีครามสดใสจะเป็นอย่างไร กลิ่นก็บอกออกมาแบบนี้เลย

เปิดตัวออกมามีความชัดเจนเลยว่าพื้นฐานกลิ่นมาจะมาสายแนวซันแทนโลชั่นหรือกลิ่นอายแบบโลชั่นที่มีมะพร้าวและวานิลลาเป็นองค์ประกอบหลัก เพราะจับต้องได้ถึงความครีมมี่อวลๆ ในเนื้อกลิ่นได้ตั้งแต่ต้นเลย แต่กลิ่นกับไม่ได้ไปสายข้นคลั่กแต่อย่างใด เพราะว่าเนื้อกลิ่นมีโทนออกทาง Aquatic กึ่งหวานผลไม้ที่มีความฉ่ำๆหน่อย ซึ่งก็ชัดเจนเลยว่าแตงโมมาเต็มๆ แต่กลิ่นไม่ได้ใสฉ่ำแบบน้ำแตงโมขนาดนั้น เพราะมีกลิ่นอายเครื่องเทศติดหวานหอมเสริมเข้ามาด้วยอย่างโป๊ยกั๊ก ซึ่งบางวูบจะได้อารมณ์กลิ่นแนวๆ คล้ายอยู่ริมสระว่ายน้ำและมีกลิ่นกึ่ง Sea Breeze อ่อนๆ เข้ามาร่วมด้วย ทั้งหมดจะซ้อนทับกลิ่นโทนครีมมี่มะพร้าวและวานิลลาไปเยอะเลยกลายเป็นข้อดีเลยที่ไม่ได้เป็นกลิ่นแนวซันแทนโลชั่นหนักๆ แต่ให้บรรยากาศแนวๆ ใกล้ทะเลที่มีความสดชื่นแกมหวานโปร่งที่มีกลิ่นอายครีมมี่อ่อนๆ ซ้อนอยู่ข้างในด้วย เรียกว่าเปิดมาก็ประทับใจไม่น้อยเลยว่าสามารถทำให้กลิ่นที่น่าจะหนักเป็นเบาลงได้ และมีความ Summer Scent ที่ชัดเจนได้เลยในมุมการรับกลิ่นสไตล์เที่ยวทะเลแบบชาวตะวันตก

เมื่อกลิ่นในช่วงต้นเริ่มเฟดตัวเองลงไปในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้กลิ่นขยับสเต็ปขึ้นมาเป็นโทนข้นมากขึ้นเท่าไหร่ แม้เนื้อกลิ่นจะหนามากขึ้นมาอีกสเต็ปก็จริงในช่วงกลาง แต่สิ่งที่ได้คือกลิ่นโทนครีมมี่ติดหวานอวลนวลรองพื้นที่มีโทนบรรยากาศล้อมกลิ่นแบบกำลังดีแทนมากกว่า ซึ่งแน่นอนความเป็นโทนออกทางซันแทนกึ่งมะพร้าวกึ่งวานิลลามีความชัดเจน แต่สิ่งที่เด่นขึ้นมาเลยคือโทนกลิ่นหอมเย็นระเรื่อของลีลาวดี ที่ได้ความปร่าซ่าในกลิ่นอ่อนๆ แกมกลิ่นหวานดอกไม้ขาวที่ได้ลักษณะค่อนไปทางบรรยากาศ Tropical เกาะเขตร้อนที่กลิ่นกลางๆ กำลังดี ซึ่งนี่แหละที่มาแท็คทีมตัดทอนให้เนื้อกลิ่นไม่ได้หนักข้นท่วมๆ แม้ว่าจะมีพื้นฐานกลิ่นนวลสะอาดของ Musk ที่ค่อนไปทางแป้งนวลด้วยที่รองพื้นเป็นฐานกลิ่นอยู่ด้วยก็ตาม แต่กลิ่นจะมีเลเยอร์ที่มาจากกลิ่นครีมมี่ที่มีบรรยากาศมาแทรกอยู่ตลอดแบ่งกันแบบครึ่งๆ  และที่สำคัญต้องยกให้คนปรุงเลยทีคือการคุมโทนที่ยังได้อารมณ์สไตล์ Cologne นี่แหละ ที่ทำให้กลิ่นไม่หนักเกินไป สามารถใช้กับฤดูร้อนที่เสริมความนวลหวานปร่าไล่โทนไปโปร่งได้ดีอีกด้วย

ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงท้ายสิ่งที่จะเริ่มจับต้องได้เลยก็คือเนื้อกลิ่นเริ่มมีโทนไม้หอมติดแห้งอวลหน่อยๆ แกมอบอุ่นเข้ามาและมีความเป็นกลิ่นไม้โปร่งๆ เข้ามาร่วมด้วย ทำให้โทนออกทางโลชั่นซันแทนติดปร่าหอมหวานระเรื่อในช่วงกลางก็เริ่มเบาลงแต่ไม่ได้หายไปไหนแต่กลิ่นออกทาง Aquatic ของแตงโมนั้นไปหมดเรียบร้อย เลยจะได้โทนติดแป้งหอมแกมอบอุ่นของวานิลลาเจือมะพร้าวแทน โดยที่มีกลิ่นไม้หอมติดโปร่งๆ แนวไม้ซีดาร์และมีความเป็นไม้แห้งอวลเล็กๆ ที่ให้กลิ่นเป็นโทนสีออกทางนวลผืนทรายแกมแสงแดด ซึ่งก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายที่เนื้อกลิ่นจะเป็นอารมณ์แนวแป้งนวลแกมกลิ่นซันแทนโลชั่นติดกายที่ให้ความหวานอ่อนๆ มีความหนาในเนื้อกลิ่นที่กลางๆ กำลังดี ได้ความหอมนวลละมุนๆ โดยมีโทนไม้หอมมาสร้างให้เนื้อกลิ่นมีมิติที่ไม่ได้เอะอะก็แป้ง เอะเอะก็โลชั่นมากไป สร้างความรื่นรมย์กลางๆ กำลังดีแบบไม่หนักไป ไม่เบาไป มีความผ่อนคลายแนวเที่ยวทะเล ผืนทราย แสงแดด ชิลล์ๆ พักผ่อนกับกลิ่นบรรยากาศนวลๆ แบบหรูๆ มีระดับปิดท้ายได้อย่างลงตัวมากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่กลางพอดีเลย อาจจะมีความรู้สึกค่อนไปทางผู้หญิงบ้าง เพราะเนื้อกลิ่นมาสายครีมมี่โลชั่นซันแทน แต่ยังไงผู้ชายก็ใช้งานได้สบายมาก เนื้อกลิ่นมีความกลางๆ คุมโทน Cologne กึ่งอวลนวลได้ดี เลยเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบแทบจะกวาดหมด มีเพียงการใส่เพื่อไปออกกำลังกายที่ควรตัดออกไปได้เลย เพราะเนื้อกลิ่นไม่ได้มาสายสดชื่นเท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ชิลล์ๆ ท่องราตรี หรือเดินเล่นริมทะเลถือว่าลงตัวที่สุด แต่เอาจริงๆ เนื้อกลิ่นก็สามารถใส่ท่องราตรีแบบเบาๆ ได้อยู่กับสภาพอากาศแบบบ้านเรา   

ความทน - แน่นอนว่า Cologne Intense ความทนดีงามเลยทีเดียวกับพื้นฐานที่ 8 ชม. อาจจะมีบวกลบบ้างตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ ซึ่งส่วนตัวเจอกับกลิ่นนี้ที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติเลย ถือว่าคุ้มค่ามากจริงๆ ในเรื่องความทนนี้

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากลางๆ ซักราว 3 ชม. ก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวอวลๆ ที่ตีขึ้นให้รู้สึกมุ้งมิ้งกับตัวเองไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปซัก 7 ชม. ก็จะเป็น Skin Scent แล้ว

สรุป - ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นอายสไตล์ Cologne สายอวลครีมมี่ที่คุมโทนกำลังดีมีความเป็น Summer Scent ที่แตกต่าง ไม่ได้พยายามยัดเยียดความเป็นทะเลมากไป แต่ให้โทรกลิ่นอายยามพักร้อนแบบรีสอร์ทริมทะเลในแบบวิถีของชาวตะวันตกมากกว่า แบบที่คนไทยเองอาจจะไม่ได้ชินกับกลิ่นแนว Summer แบบนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเอามาประยุกต์ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นกลิ่นที่คุมโทนการเป็นสไตล์ Cologne ที่จะไม่หนักมากได้ดี ทำให้สามารถใช้ได้กับอากาศบ้านเราได้ทุกฤดูเสียด้วย 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.4711.com/en/4711-acqua-colonia-intense-sunny-seaside-of-zanzibar-67

 

วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2564

Review: 4711 - Acqua Colonia Lychee & White Mint

4711 - Acqua Colonia Lychee & White Mint

เมื่ออยู่กับกลิ่นน้ำหอมสายแน่นๆ ดาร์กๆ บ่อยครั้งเข้า การหันมาใช้กลิ่นอาย Cologne ที่สบายๆ สดชื่น ผ่อนคลายมักเป็นทางเลือกที่ดีเสมอที่ให้จมูกเองก็ได้พักผ่อน และหลายๆ ครั้งผู้เขียนเองก็จะกลับมาที่ 4711 เพราะเรียกว่ายังไงก็รอดเสมอในการใช้งาน ยิ่งอากาศบ้านนี้เมืองสารขัณฑ์นี้ช่างร้อนสุดๆ ขนาด ซึ่งเมื่อกลับไปชะม้อยชะม้ายชายตามักจะไปเจอตัวออกใหม่ที่น่าสนใจทุกที และเมื่อต้นปี 2020 ก็จัดตัวที่ออกมาล่าสุดในตอนนั้นขึ้นมาซะเลย เพราะรู้สึกได้ว่าจะต้องถูกโฉลก

ซึ่งนั่นก็คือรุ่นที่กำลังจะเล่ากลิ่นในครั้งนี้อย่าง Acqua Colonia Lychee & White Mint นั่นเอง ซึ่งกลิ่นพอได้พินิจพิเคราะห์คลอผิวแล้ว ก็เล่าต่อได้เลยแบบนี้ว่า

เป็นการจับคู่ที่ลงตัวและให้อารมณ์กลิ่นที่สดใสก็ได้ น่ารักก็ดี เรียบหรูในโทนผลไม้ติดฉ่ำหวานอมเปรี้ยวก็สามารถ เพราะเปิดต้นกลิ่นมาพร้อมกับความรู้สึกเย็นผิวจากโทนเมนทอล Icy ที่เป็นอยู่ Cologne ออกมาก่อนพร้อมกับกลิ่นเปรี้ยวอมหวานฉ่ำเฉพาะตัวของลิ้นจี่ ที่มีกลิ่นเขียวสดชื่นอ่อนๆ รองพื้นคลออยู่ เนื้อกลิ่นจะไม่ได้มาแบบลิ้นจี๋แบบจ๋าๆ แบบน้ำหอมผู้หญิงที่เรามักจะเจอ แต่จะได้อารมณ์แบบน้ำลิ้นจี่ใสๆ หอมเปรี้ยวเจือฉ่ำปนน้ำแข็งเย็นๆ อะไรประมาณนั้น ซึ่งเป็นการเปิดต้นกลิ่นที่น่ารัก เรียบง่าย และสดใสมากเลยทีเดียว

เพียงไม่นานจากวูบสดใสและสดชื่นของกลิ่นน้ำลิ้นจี่ ก็จะเริ่มจับได้ถึงกลิ่นเขียวอ่อนๆ สุภาพติดปร่ากำลังดี มี Effect ของกลิ่นที่เย็นๆ รับช่วงต่อจากเมนทอลในช่วงต้นที่ให้ความปร่าเขียวอ่อนเย็นๆ เข้ามาเพิ่ม ซึ่งก็คือ White Mint ที่เกลากลิ่นมินต์ปกติให้มีความ Icy เย็นๆ ผลึกๆ อะไรประมาณนี้เข้ามาเสริม แต่ก็ไม่ได้มาแย่งซีนกลิ่นลิ้นจี่แต่อย่างใด เพราะมาเป็นตัวเสริมให้มีโทนเขียวปร่าอ่อนๆ ในเนื้อกลิ่น และทำให้กลิ่นลิ้นจี่มีอะไรมากกว่าความเป็นโทนน้ำผลไม้ทั่วๆ ไปได้ดีมากด้วย ที่สำตัญแอบจับได้ถึงกลิ่นอายคล้ายๆ กุหลาบนวลบางๆ ในเนื้อกลิ่นอยู่ด้วย เลยทำให้อารมณ์กลิ่นได้โทนออกทางสีชมพูเปลือกลิ้นจี่แกมเขียวอ่อนปนขาวสว่างและมีความสดใสได้พอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะดำเนินไปยาวพอสมควร จนโทนลิ้นจี่เริ่มที่จะจางลงไป เหลือเพียงปลายกลิ่นที่อารมณ์ติดหวานกึ่งลิ้นจี่กึ่งกุหลาบบางๆ และมีอะไรซักอย่างที่ให้ความเบาๆ สะอาดๆ แนวสไตล์สารหอมบางอย่างที่คล้ายโทน Musky ให้รู้สึกอยู่หน่อยๆ และผลุบๆ โผล่ๆ จนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นนัยยะสำคัญอะไร เพราะน่าจะเป็นสารหอมตรึงกลิ่นบางอย่าง แต่มาสนที่ความเด่นของโทนออกทางเย็นๆ แกมมินต์แทน เพราะช่วงนี้จะได้ความรู้สึกหอมเย็นๆ Icy บางๆ เจือเขียวอ่อนๆ เด่นเสียมากกว่า ที่จะเป็นตัวคุมโทนที่จะคลอผิวไปเรื่อยๆ แบบมีปลายหวานลิ้นจี่ไปตลอด ซึ่งแน่นอนกลิ่นให้ความเรียบง่ายและสดใสที่ให้โทนสีสีเนื้อลิ้นจี่ขาวแกมนวลอ่อนๆ แถมยังพกเอาความเรียบหรูมีระดับแบบสไตล์มินิมัลที่ไม่ต้องเยอะสิ่งได้ลงตัวและ Nice มากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่อาจจะค่อนไปทางผู้หญิงนิดหน่อย แต่ถ้าไม่มายด์ผู้ชายก็ใส่ไปเถอะ เพราะมันสดชื่นหอมมีความสุขแบบกลิ่นเปรี้ยวอมหวานลิ้นจี่เจือปร่ามินต์เย็นๆ ได้ดีมาก ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบกวาดหมดเกลี้ยงใส่ได้เลยยังไงก็รอด (แบบกลิ่นโทนผลไม้นิดนึงนะ) แต่จะมีก็ช่วงกลางคืนที่เหมาะสำหรับใส่แบบสบายๆ เน้นสดชื่นผ่อนคลายน่ารักอะไรแบบนี้เสียมากกว่า เพราะถ้าใส่ไปท่องราตรี บอกเลย โดนกลบมิด

ความทน - อันนี้คือเกินคาดมาก เพราะส่วนตัวเจอไปที่ 10 ชม. แบบที่ถึงกับอึ้งว่า Eau de Cologne ของ 4711 ก็ทำได้กับการใช้งานที่ 7 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อที่สวมด้านหน้าด้วย ซึ่งถ้าตีค่าเฉลี่ยก็ 6 ชม. ได้สบายมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไวพอสมควร แต่ก็คงตัวกันยาวๆ ไปนะ จนเมื่อผ่านไปซัก 4 - 6 ชม. (ตามสภาพผิวผู้ใช้) กลิ่นก็จะเริ่มเป็น Skin Scent แล้วจางไปตามเวลาและตามเคมีของแต่ละผู้ใช้

สรุป - เป็นตัวที่เซอร์ไพร์สสุดๆ ไปเลย เพราะกลิ่นหอมสร้างความอะโรม่าและเป็นธรรมชาติได้ดีจริงๆ แบบได้อารมณ์น้ำลิ้นจี่เย็นๆ มีน้ำแข็งใสๆ อะไรประมาณนี้เลย ซึ่งเข้าทางจริงๆ กับฤดูร้อนที่ต้องการกลิ่นอะไรที่สดชื่น แต่แตกต่างจากคนอื่นแบบที่ได้ความสดใสก็ได้ สร้างความรื่นรมย์ก็ดี นี่แหละ Lychee & White Mint ล่ะ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/4711-Acqua-Colonia-Lychee-White-Mint-13254.html

 

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564

Review: 4711 - Acqua Colonia Intense: Floral Fields of Ireland

4711 - Acqua Colonia Intense: Floral Fields of Ireland

สิ่งนึงที่เป็นความรู้สึกที่อยากให้เกิดขึ้นเสมอยามเมื่อใช้ Cologne ของ 4711 คือ เมื่อไหร่จะมีความเข้มข้นที่มากขึ้นและมีความทนมากขึ้น เพราะกลิ่นอายสไตล์สดชื่นของ Cologne ถ้าต่อยอดได้มันจะเจ๋งมาก แม้ของเดิมที่ดำเนินมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันในเรื่องกลิ่นมีความดีงามเสมอต้นเสมอปลายและใช้ง่ายสร้างความรื่นรมย์มาเสมอ รวมบางกลิ่นอาจจะความทนดีงามอยู่บ้าง แต่ก็อยากให้มีอะไรที่มันมากขึ้นอยู่ดี

และความคิดนี้ก็ได้รับการเติมเต็ม เพราะว่า 4711 ได้ออก Collection - Cologne Intense ออกมาซะที ซึ่งแน่นอนว่าชูโรงที่จุดเด่น คือ ความทน และก็เอา Concept การสร้างสรรค์กลิ่นของสถานที่สวยงามต่างๆ บนโลกมาเป็นกลิ่นที่จะสร้างความรื่นรมย์ในการใช้งาน เช่นนั้น มาพิสูจน์กันหน่อยว่ากลิ่นจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง กับรุ่นแรกของ Collection นี้ที่มีโอกาสได้ลอง นั่นคือ Floral Fields of Ireland

เปิดต้นกลิ่นมาก็เรียกว่าสร้างกลิ่นอายหวานหอมดอกไม้ท่ามกลางสดชื่นมาเลย ซึ่งจะจับได้เต็มๆ ถึงกลิ่นดอกไม้ที่ให้ความหอมหวานกึ่งโทน Fruity ที่ให้ความเย้าอ่อนๆ และมีความรุ่มรวยรื่นรมย์อย่างดอกหอมหมื่นลี้ที่จะไม่ได้มาแบบติดโทนข้นกึ่งนมแบบน้ำหอมหลายๆ รุ่น แต่จะมาแบบใสๆ กลิ่นอายสดชื่นสไตล์ Cologne ที่มี Citrus เย็นๆ สร้างบรรยากาศอย่างส้มที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานและมีความสแปลชอ่อนๆ ที่สดชื่นของเลมอนเคล้ากับโทนเย็นๆ ผิวออกทางเมนทอล ซึ่งต้องชมเลยเลยเนื้อกลิ่นแม้จะจับต้อง Note กลิ่นต่างๆ ที่บอกไปมันไม่น่าจะไปในอารมณ์กลิ่นที่สร้างเฉดสีชมพูได้ แต่กลับทำได้ ทำให้เปิดมาก็ได้อารมณ์สีชมพูอ่อนหอมหวานสดชื่นกันแบบเต็มๆ แบบที่ออร่าชมพูหวานใสฟุ้งออกมารอบตัวกันเลยทีเดียว

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มลดทอนกลิ่นโทน Citrus ลงมาพอประมาณ เพราะเริ่มมีโทนดอกไม้ต่างๆ เข้ามาเสริมมากขึ้น ก็จะเป็นการเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางเต็มตัว ที่แน่นอนยังมีความสดชื่นอยู่ปลายกลิ่น แต่หังวใจหลักเลยคือกลิ่นดอกไม่นานาพันธุ์ที่ยืนพื้นกับการเป็นโทนหวาน ซึ่งแน่นอนว่าหอมหมื่นลี้ยังตามมาในช่วงนี้ให้ความหวานหอมติดกลิ่นแอปริคอตแบบใสๆ แต่จะเสริมด้วยกลิ่นออกทางหวานหอมติดเขียวปนแห้งนวลหน่อยๆ ของดอกกะถินเทศหรือ Mimosa ที่สอดรับพอดีกับกลิ่นดอกส้มที่ให้กลิ่นนวลเปรี้ยวอมหวานสะอาดๆ และมีกลิ่นมะลิที่ให้ความหวานปนนวลแป้งหน่อยๆ เรียกว่ามารวมตัวกันจนกลายเป็นกลิ่นดอกไม้รวมที่ยืนพื้นที่ความหวาน และไม่ได้มีเฉดสีในเนื้อกลิ่นที่เป็นแค่โทนสีชมพูแล้ว แต่มีความหลายหลานยืนพื้นที่โทนหวานหอมดอกไม้ติดแป้งนวลกำลังดี และมีความสดชื่นปลายกลิ่นที่ลงตัว คุมโทนได้ดีทั้งความเป็นสไตล์ Cologne และการเป็นโทนแป้งนวลหอมดอกไม้ที่ตีคู่ไปอย่างงามๆ ได้ทั้งสีชมพูอ่อน สีเหลือง สีขาวนวล ตอบโจทย์การเป็น Floral Fields ได้เหมาะเลย ซึ่งเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควรจนกลิ่นเริ่มลดทอนความหวานลงมาอีกสเต็ป และเริ่มมีมิติกลิ่นอายไม้หอมเข้ามาสอดรับแบบเบาๆ ไม่ได้เข้มข้นหนักหน่วง ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่ตอนนี้จะเป็นกลิ่นคลอผิวที่ให้ความหวานอ่อนๆ ละมุนๆ เจือกลิ่นไม้อบอุ่นเบาๆ และมีความสะอาดนวลกรุ่นๆ ซึ่งจะได้กลิ่นอายไม้โปร่งๆ เจืออวลบางๆ ที่ซ้อนไปกับกลิ่นดอกไม้เจือแป้งที่ตามมาจากช่วงกลาง เลยจะได้อารมณ์คล้ายๆ กลิ่นดอกไม้กับไม้หอมโปร่งๆ ติดผิวกาย อารมณ์แบบกลิ่นโลชั่นดอกไม้รวมกลิ่นธรรมชาติติดผิวให้ความหอมน่ารัก อ่อนโยน และละมุนกำลังดีไปเรื่อยๆ ปิดท้ายแบบสไตล์มินิมัลที่เรียบหรูและรื่นรมย์แบบที่ไม่ต้องเยอะสิ่ง

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยตั้งแต่ม.ต้นขึ้นไปก็ใส่ได้แล้ว กลิ่นมีความหอมหวานสดใสได้ความเป็นสีชมพูอ่อนที่มีความหวานแบบลงตัวมาก และให้ความรื่นรมย์แบบที่ใช้ง่ายแต่มีระดับอีกด้วย จึงเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ใส่ไปเถอะยังไงก็รอดสูงมาก แถมยังสามารถใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งแบบที่ไม่ได้เป็นสายบู๊ก็ได้ด้วย แต่ถ้าจะใส่ไปออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่าเพราะกลิ่นจะไม่ได้ดูดอกไม้จ๋าๆ เกินไปแล้ว ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่เพื่อได้ความหวานดอกไม้สดชื่น น่ารัก และอ่อนหวาน หรือใส่ออกงานจะดีกว่า แต่ให้ตัดการใส่เพื่อไปท่องราตรีได้เลย กลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลัง โดนกลบมิดแน่นอน

ความทน - อันนี้แหละที่เป็นข้อดีที่เติมเต็มจริงๆ เพราะเจอที่ 8 ชม. สบายมาก และไปต่อได้อีกถึง 12 ชม. ก็เจอมาแล้ว ก็ต้องยอมให้เขาเลยว่าทำ Intense ออกมาแล้วไม่ผิดหวังเรื่องนี้ แต่ถ้าตีค่าเฉลี่ยสภาพผิวจริงๆ ก็ขอวางไว้ที่ 6 - 8 ชม. ไว้ก่อน เพราะถ้าผิวแห้งอาจจะไม่ได้ลากถึง 8 ชม. ได้ง่ายๆ  

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ได้อารมณ์ Cologne ดอกไม้กันอย่างชัดเจน แล้วจะลดลงมาปานกลางซักราวๆ 2 ชม. ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป จนเมื่อเข้าช่วงท้ายหรือราวๆ 5 ชม. ก็จะเป็น Skin Scent คลอผิว

สรุป - เป็นกลิ่นดอกไม้สดชื่นที่ให้ง่าย มินิมัล และเรียบหรูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่คิดมาก และที่สำคัญการชูโรงเรื่องความทน ถือว่าตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ได้ดี โดยที่คุมความเป็น Cologne ได้งามเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งใช้ในช่วงกลางวันยังไงก็รอดและกลิ่นหอมแบบสวยๆ กันเลยล่ะ คนชอบโทนดอกไม้ใสๆ หอมอ่อนหวานแกมสดชื่น โดนตกกันได้ง่ายๆ เลยล่ะ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://4711online.com/products/cologne-intense-floral-fields-of-ireland

 

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Review: 4711 - Floral Collection: Lilac

4711 - Floral Collection: Lilac

เมื่อจุดเริ่มต้นคือการค้นหาน้ำหอมกลิ่นดอกไลแลคที่น่าสนใจมาเล่ากลิ่น โดยทยอยๆ ทดลองไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเจอการชูโรงดอกไม้ประเภทนี้กับน้ำหอมผู้หญิงส่วนใหญ่ ซึ่งก็กลิ่นหวานหอมติดน้ำผึ้งที่เข้าผู้หญิงนี่เนาะ และก็ยังคงพยายามค้นหาต่อไปว่าจะมีกลิ่นไลแลคที่ผู้ชายใช้ได้แบบที่ไม่เคอะเขินไหม

และก็เจอจนได้กับแบรนด์ที่คุ้นเคยในการเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เอาดีทาง Eau de Cologne เป็นหลักอย่าง 4711 ที่ได้มีการชูโรงกลิ่นอาย Cologne โทนดอกไม้ อย่าง Floral Collection ที่มีไลแลคเป็นหนึ่งในนั้นโดยระบุชัดเจนว่าเป็น Unisex เช่นนั้นจัดไปอย่าได้เสีย เราต้องลองให้ได้ และเมื่อใช้งานจริงจนได้ที่ก็ตกผลึกกลิ่นออกมาได้แบบนี้เลย

เปิดขึ้นมาอารมณ์กลิ่นจะได้ความเขียวกึ่งพริกไทยที่มีความนวลปร่าแบบกำลังดี ซึ่งได้วูบลักษณะกึ่งโทนสบู่ที่มีกลิ่นสดชื่น on Top ความปร่านวล แกมกลิ่นพีชบางๆ ที่ให้อารมณ์หวานหอมอ่อนๆ ติดผลไม้ ซึ่งขะมีอารมณ์สดชื่นแบบโคโลญจน์ที่มีโทนติดฉ่ำหน่อยๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะวูบถัดมาจะเริ่มมีกลิ่นหอมนวลกึ่งเขียวนวลสดชื่นเจือน้ำผึ้งหน่อยๆ ของไลแลคค่อยๆ เปิดตัวออกมาคลอและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนโทนกลิ่นแบบชัดเจนมากขึ้นในการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะชูโรงความเป็นโทนดอกไม้ที่มีความนวลหวานติดปลอดโปร่งเนียนๆ กันอย่างมินิมัลและน่าสนใจมาก กับการชูโรงความเป็นไลแลคที่ติดสดชื่นเจือเขียวปนน้ำผึ้งนวลๆ ได้อย่างเรียบง่ายและมีความชื้นฉ่ำกำลังดีที่ทำให้ได้อารมณ์แบบยืนรับกลิ่นใต้ต้นไลแลคบานกับอากาศชื้นเย็นที่ไม่หนักจนหวานเอียน แต่ให้ความสดชื่นในความหวานหอมนวลได้อย่างลงตัวและเข้าทางการเป็นโคโลญจน์จริงๆ

ในช่วงกลางถ้าไม่พินิจพิเคราะห์อะไรมากอารมณ์กลิ่นจะตรงไปตรงมาในการเป็นไลแลคหวานนวลแกมเขียวสดชื่น แต่ถ้าจับต้องเนื้อกลิ่นแบบดมใกล้ผิว กผ้จะจับกลิ่นมะลิได้หน่อยๆ เพราะกลิ่นนวลดอกไม้ขาวบางติดหวานเจือใสแกมนวลหวานอ่อนๆ มีเสน่ห์คล้ายกุหลาบที่ติดโทนสะอาด เคล้าโทนสบู่ติดปร่าอ่อนๆ ที่ตามมาจากช่วงต้น ในการเป็นตัวเสริมให้กลิ่นมีความเป็นสายดอกไม้แบบเต็มๆ และเสริมให้ไลแลคมีความชัดเจนมากขึ้นเสียด้วย ซึ่งจะดำเนินกันอย่างตรงไปตรงมาจนเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะเริ่มมีความนุ่มนวลทางกลิ่นมากขึ้นจากผู้สนับสนุนรองใจดีอย่าง Musk ที่จะมาลดทอนโทนสดชื่นเป็นโทนนุ่มนวลหอมละมุนเจือกลิ่นไม้จันทน์หอมที่ให้ความครีมนวลหอมไม้โทนสีครีมสว่าง โดยที่ไลแลคจะเนียนไปกลับกลิ่นโทนนวลสะอาด อารมณ์กลิ่นจะคล้ายแป้งหอมไลแลคหวานเบาๆ เจือนวล Musk ที่ไม่หวือหวาแต่ให้ความรื่นรมย์ระเรื่อเรื่อยๆ สบายๆ มีความอ่อนโยนกำลังดีและผ่อนคลายจมูกกำลังเหมาะ ปิดท้ายการเป็น Lilac ของ 4711 ได้อย่างเรียบง่ายและลงตัว

เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่า Unisex แต่ก็ไพล่ไปทางผู้หญิงราวๆ 75% ซึ่งผู้ชายใช้ได้แหละ เพราะกลิ่นไม่ได้เน้นสายปล่อยพลัง เลยพอจะให้อารมณ์คุณชายติดหวานนวลสะอาดได้ไม่ยาก ซึ่งกลิ่นเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ได้หมดทั้งทางการและทั่วไป ใส่ออกกลางแจ้งก็ได้สบายมาก แต่ออกกำลังกายไม่เข้าท่าเท่าไหร่ พอช่วงท้ายๆ พอได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีกว่า เพราะกลิ่นเน้นผ่อนคลายสบายๆ ไม่ได้เย้ายวนเซ็กซี่เลย ให้ความอ่อนโยนแกมหวานเป็นหลักเน้นๆ 

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 4 ชม. เป็นพื้นฐาน ซึ่งก็เป็นสไตล์โคโลญจน์ EDC แหละ แต่กลิ่นนี้ถ้าลงสเปรย์ดีๆ สามารถไปต่อได้อีก เพราะส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. ได้เลยกับการใช้งานที่ 7 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อที่สวมด้วย

การกระจาย - ปานกลางในตอนต้น ไม่หนัก ไม่ถึงกับพุ่งมาก แล้วจะผ่อนลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ เมื่อเข้าช่วงท้ายจะเน้นติดผิวเป็นหลัก ตีขึ้นยามร่างกายขยับเนื้อตัว ซึ่งใช่เลยมาสายไม่รบกวนใคร เน้นมุ้งมิ้งกับตัวเอง และคนมาอยู่ใกล้ๆ เป็นสำคัญ

สรุป - เป็นกลิ่นไลแลคที่หวานหอมนวลสบายๆ และใช้ง่ายมาก โดยที่ Signature แบบสายใสๆ เย็นสดชื่นของ 4711 จะมาเป็นแนวโฆษณาแฝงที่ให้ความสดชื่นเนียนๆ ในเนื้อกลิ่นมากกว่า ถือเป็นอีก 1 กลิ่นที่มีความดีงามในความเรียบง่ายที่มีความรื่นรมย์เป็นที่ตั้งได้ดีจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/eveandboy/photos/a.370071743062874/4535276683209005/?type=3&comment_id=4538713786198628

 

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561

Review: Maurer & Wirtz - 4711: Acqua Colonia Lavender & Thyme

Maurer & Wirtz - 4711: Acqua Colonia Lavender & Thyme

หลังจากที่ใช้ 4711 Ice Cologne มานาน เพราะว่าสามารถสาดได้ไม่ยั้ง และยังให้ความเย็นวาบช่วยในยามอากาศร้อนวายป่วงได้ดีไม่พอ ยังทำให้จมูกโล่งได้มากกับยามที่มีอากาศเป็นหวัดคัดจมูกเสียอีก เพราะกลิ่นมินต์ที่อยู่ในนั้น คราวนี้ก็เริ่มสนใจ Cologne ตัวอื่นๆ บ้างว่ากลิ่นจะเป็นยังไง และอยากรู้ว่า Maurer & Wirtz หรือที่เราๆ มักเรียกกันว่า 4711 นั้นจะนำเอากลิ่นอายอื่นๆ มาทำเป็น Cologne ได้น่าสนใจขนาดไหน ขอมาลองกันเลยด้วยการเลือกรุ่นนี้มาบอกต่อนั่นคือ Acqua Colonia Lavender & Thyme 

ใครที่ชอบกลิ่นลาเวนเดอร์สดชื่น มีความใสกระจ่าง และเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ยาวไป ให้โทนเดียวไม่ต้องมาลุ้นการเปลี่ยนโทนอะไรให้มากความ สามารถชอบตัวนี้ได้เลยเมื่อยามได้กลิ่น เพราะเปิดตัวกลิ่นกลิ่นอายสดชื่นแบบใสสะอาดในลักษณะที่เป็นเหมือน Signature ของแบรนด์นี้ ด้วยกลิ่นอาย Citrus ใสๆ เบาๆ และมีเมนทอลที่ทำให้เย็นผิวเคล้าความเป็นกลิ่นอายแบบน้ำลาเวนเดอร์ที่ใสกระจ่างหอมแบบกำลังดี ไม่ได้เป็นลาเวนเดอร์คาต้นที่มีกลิ่นเขียวติดเมทัลลิคหรือเป็นลาเวนเดอร์ที่นุ่มสะอาดอะไรแบบนั้น ได้ความรู้สึกสดชิื่นแนวๆ อาบน้ำแล้วฟอกสบู่สบู่ลาเวนเดอร์ที่เป็นกลีเซอรีนใสๆ แล้วกลิ่นสดชื่นหอมฟุ้งขึ้นมา ซึ่งกลิ่นจะเป็นโทนนี้เด่นแบบยาวไปเลย เพียงแต่จะเริ่มลดความใสกระจ่างแบบน้ำเย็นๆ สดชื่นลงมาเป็นกลิ่นอายออกทางสบู่ลาเวนเดอร์ที่ยังออกทางใสๆ อยู่ติดสมุนไพรบางๆ ที่หอมติดผิวกายนวลๆ สะอาดๆ สดชื่นแบบเบาๆ มีความเป็น Musk นวลบางๆ ไม้หอมอ่อนๆ ที่ให้ความสะอาด โดยที่ความเป็นลาเวนเดอร์และสมุนไพรบางๆ ยังคงอยู่เหมือนกลิ่นสบู่ใสๆ ติดผิวนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศเลย กลิ่นใช้ง่ายมากกกกก เรียกว่าเอามาสาดตัวเลยก็ย่อมได้ถ้ามีตังค์ซื้อรัวๆ กลิ่นมีความสะอาดใสสดชื่นแบบที่เข้าถึงได้ง่ายมาก และลาเวนเดอร์ไม่ได้หนักหน่วงแต่ประการใด ซึ่งสามารถใส่ได้หมด กวาดเรียบในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและทั่วไป จะในร่มหรือกลางแจ้งรวมถึงการออกกำลังกายก็ได้หมด เรียกว่าสาดไปเถอะ เอาตัวรอดได้สบายมาก ส่วนยามค่ำคืนสาดอยู่บ้านเถอะ ไม่ต้องสาดไปท่องราตรีหรอก โดนกลบมิดแน่นอน 

ความทน - เป็น Eau de Cologne ที่ความทนถือว่าดีเลยทีเดียว กับราวๆ 4 - 6 ชม. หรืออาจจะน้อยกว่านี้ก็อยู่ที่ผิวกายคนนั้นๆ ด้วยส่วนหนึ่ง แต่ก็คือว่าดีกว่า Cologne หลายๆ ตัวไม่น้อย 

การกระจาย - แทบไม่ต้องสนใจในเรื่องนี้ เพราะมีกระจายออกมาแบบออร่ารอบๆ ตัวในช่วงต้น ที่เหลือ Skin Scent โลดดดดดดด มาสาย Safe Scent กันอย่างชัดเจน 

ทิ้งท้าย - ส่วนตัวชอบกลิ่นอายน้ำลาเวนเดอร์ใสๆ แบบนี้มาก เพราะมันสดชิื่นและมีเสน่ห์จริงๆ ได้อารมณ์สบู่ใสหอมๆ ติดผิว เรียกว่าพกไปเติมระหว่างวันสบายตัวหอมสดชืิ่นไม่รบกวนใครแต่คนรอบตัวอาจจะได้ความรู้สึกสะอาดๆ บางๆ จากเราได้อยู่บ้าง ซึ่งกลิ่นนี้มีเพียงแค่ความทนและการกระจายเท่านั้นที่ไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบน้ำหอมทนๆ หรือต้องกระจายดีก็เท่านั้นเอง ที่เหลือกลิ่นมาสาย #ของดีเทคนิคไม่ต้อง อย่างชัดเจน

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit --> https://www.jewlzie.com/4711-acqua-colonia-lavender-thyme-eau-de-cologne-spray-170ml-57oz

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

Review: Maurer & Wirtz – 4711: Ice Eau de Cologne


Maurer & Wirtz – 4711 Ice Eau de Cologne 

ใครที่เล่นน้ำหอมกันต่างต้องเคยได้ยินกันมาอย่างแน่แท้ถึง Cologne ของ 4711 ที่กลิ่นจะหอมสดชื่นเหมาะกับอากาศร้อนๆ มากมาย ถือว่าเป็นน้ำหอมที่แม้ว่าจะไม่ได้ทน แต่เรียกความสดชื่นและหอมสะอาดได้ดีมากมาย เอาเข้าจริงเดิมทีไลน์ 4711 เป็นของแบรนด์ Muelhens มาก่อนนะครับ แต่ว่าถูกซื้อกิจการโดย Maurer & Wirtz เลยทำให้ไลน์ชื่อดังนี้มาอยู่ภายใต้แบรนด์ใหม่ในปี 2006 โดยยังเป็น 4711 เช่นเดิม ซึ่งในเมื่อได้ยินมาบ่อยก็อยากลอง เลยจัดมาซะเลยกับรุ่นนี้ครับ Ice Eau de Cologne

เปิดตัวแบบกลิ่นหอมสะอาดติดเขียวของโทนซิตรัสจากมะกรูดกันเลยล่ะครับ โดยจะมีกลิ่นของมิ้นท์และเมนทอลที่เย็นวาบเลยล่ะครับ กลิ่นจะปลุกโสตประสาทให้ตื่นและสดชื่นกันได้เลยทีเดียในช่วงนี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่จะรู้สึกได้ยามที่ Cologne อยู่บนผิวแล้ว คือความเย็นที่ราวกับทาแป้งเย็นแบบฉ่ำๆ อยู่ช่วงระยะนึงเลยทีเดียว ก่อนที่จะเริ่มเป็นกลิ่นโทนเขียวเบาๆ ของใบไวโอเล็ต มีโทนแป้งเบาๆ หน่อยๆ แต่จะยังคงความติดเขียวไปตลอดเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายๆ ที่จะเป็นกลิ่นอายแบบผิวสะอาดที่ไม่ได้ออกทางนุ่มแต่จะเป็นผิวอายแบบที่โดนน้ำเย็นแล้วกลิ่นใสๆ สดชื่นเบาๆ ไปตลอดนั่นเอง

เหมาะสำหรับ – ทุกเพศเลยครับ กลิ่นใช้ง่ายขั้นสุด เข้าถึงได้ง่าย หอมสดชื่นแบบสะอาดติดเขียวเย็นวาบไปตลอด สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ได้หมดทั้งทางการและไม่ทางการ ยิ่งก่อนออกกำลังกาย ฉีดตัวนี้ซักหน่อยช่วยเรื่องความสดชื่นได้ดีมาก ยามกลางคืนถ้าร้อนๆ แบบบ้านเราก็จัดไป แต่ถ้าจะเอาไปเมา จงหยุด เพราะกลิ่นเบามากเกินไป สู้เหล้าและชาวบ้านที่จัดเต็มไม่ได้แน่นอน

ความทน – อย่าได้คาดหวัง 555555 เพราะความทนเอาเข้าจริง ไม่เกิน 2 ชม. ก็หายไปแล้วล่ะครับ ควรพกไปฉีดระหว่างวันเพื่อเพิ่มความสดชื่นจะดีที่สุด

การกระจาย – กลิ่นกระจายกำลังดีในตอนต้น มีความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นแบบ 4711 ได้ดีมากเลยทีเดียว ก่อนจะลดลงมาเป็น Skin Scent ลากยาวไปจนกว่าจะหายไปจากผิ

ทิ้งท้าย – ถ้าชอบความเป็นธรรมชาติและเบาๆ ตัวนี้เข้าทีครับ หอมสดชื่นจริงอะไรจริงแถมเย็นวาบที่ผิวแบบเหมือนโดนน้ำเย็นแตะเฉพาะจุดได้เลย แต่ถ้าเน้นความทน ข้ามไปเถอะครับ ไม่ได้ตอบโจทย์ตรงนี้อยู่แล้วล่ะ

Credit ภาพ: http://guideimg.alibaba.com/images/shop/76/09/05/2/4711-ice-by-maurer-and-wirtz-eau-de-cologne-5-oz-150-ml_4280202.jpg