แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Baldessarini แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Baldessarini แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Review: Baldessarini - Strictly Private

Baldessarini - Strictly Private 

ห่างมา 4 ปีได้กับการเล่ากลิ่นรุ่นแรกของแบรนด์ Baldessarini ที่เป็นแบรนด์ลูกของ Hugo Boss เน้นทำน้ำหอมมุ่งไปที่ผู้ชายวัยทำงานที่ภูมิฐานและมีระดับเน้นๆ ตามสโลแกนของแบรนด์อย่าง “Separate the men from the boys” กับกลิ่นอายสายยาสูบที่เป็นหนึ่งในกลิ่นยาสูบสดชื่นสายภูมิฐานมีระดับที่ดีมากๆ เลยตัวหนึ่งอย่าง Baldessarini Cologne เช่นนั้น คิดถึงจึงกลับมาหา ก็มาเจอกับกลิ่นอายสายอบอุ่นลุ่มลึกปนเย้ายวนกึ่ง Playboy แบบผู้ชายเต็มตัวและมีระดับมากประสบการณ์กันหน่อยกับรุ่นนี้เลย Strictly Private 

Top Notes เริ่มที่ลูกล่อลูกชนปนไปด้วยกันอย่างลงตัวระหว่างโทน Spicy ที่จะมีความปร่านวลอวลอ่อนๆ ของโหระพาและมีโทนปร่านวลติดฝาดกึ่งกุหลาบหน่อยๆ ที่เป็นลักษณะของพริกไทยสีชมพู ตีคู่กับโทนอะโรม่าของจูนิเปอร์เบอร์รี่ที่ให้ความปร่าหอมกึ่งเหล้าจินที่มีกลิ่นติดสดชื่นปนขมของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) แต่กลิ่นจะไม่ได้ไปสายค็อกเทลหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปร่าๆ นัก เพราะเนื้อกลิ่นจะมีโทนกุหลาบเจือวานิลลาอ่อนๆ ที่เนียนเป็นฉากหลังให้จับต้องได้ และ 2 กลิ่นนี้แหละ ที่จะเป็นตัวเอกในช่วงถัดๆ ไป 

Middle Notes การยกพลลงมาจากช่วงต้น จะมีกลิ่นโทนมะกรูดฝรั่งที่บอกลาไปก่อน แต่จะเหลือกลิ่นอายปร่านวลติดเหล้าจินจากจูนิเปอร์มาผสมผสานกับกลิ่นโทนออกทางยางสนปร่าติดเขียวแบบสน Balsam Fir ที่สร้างลักษณะของการเป็นกลิ่นโทนกึ่งเหล้าใสๆ ปนไม้หอมเจือเขียวโปร่ง แต่ยังไม่จบแค่นี้ สิ่งที่เด่นขึ้นมาอีกโทนเลย คือ กุหลาบ แต่จะไม่ได้มาแบบกุหลาบจ๋าๆ สีแดง สีชมพูอะไรเลย ออกแนวมาแบบกุหลาบติดฝาดนวลปนกลิ่นติด Smoky อ่อนๆ ปนไม้หอมแห้งของหญ้าแฝก เลยทำให้กลิ่นเป็นลูกผสมที่ให้ความปร่านวลไม้หอมเจือกุหลาบหอมติดเท่ห์ก็จริง แต่เนื้อกลิ่นก็ยังมีโทนวานิลลาเป็นฉากหลังแบบเจือไม้หอมอยู่ ความอบอุ่นปนนวลเลยเป็นตัวเสริมโทนให้กลิ่นไม้หอมเจือกุหลาบมีความอบอุ่นลุ่มลึกและเย้ายวนติดปร่ากำลังดี สร้างอารมณ์เซ็กซี่มีระดับกำลังงาม แล้วจะค่อยๆ ปูทางไปสู่ 

Base Notes ที่คราวนี้วานิลลาจะเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่น ซึ่งจะได้กลิ่นติดโทนขนมหอมหวานแนวๆ เครมบูเล่อ่อนๆ เข้ามาด้วยที่สร้างออร่าความหวานก็จริง แต่เพราะเริ่มจับได้ถึงกลิ่นอายนวลติดเค็มอ่อนๆ แบบผิวกายนวลเนียน ที่เป็นลักษณะกลิ่นโทนแบบ Ambergris แต่ไม่ได้นวลเนียนนุ่มขนาดนั้นเพราะน่าจะเป็นสารหอมที่ให้คุณลักษณะใกล้เคียงติดไปทางโทนไม้กึ่ง Amber และยังมีกลิ่นโทนไม้ซีดาร์ที่มาให้ความเป็นไม้หอมติดโปร่งๆ กำลังดี โดยที่มีกลิ่นปร่าเหล้าจินปนกุหลาบอ่อนๆ เข้ามาร่วมด้วย เลยตัดทอนกันไม่ให้กลิ่นเป็นสายหวานเยิ้มแต่อย่างใด ให้ความอบอุ่นนวลเนียนปนปร่าหอมแบบมีระดับแทน ซึ่งกลิ่นจะสร้างอารมณ์เจ้าสำราญแบบนิ่งๆ และเย้ายวนอบอุ่นกำลังดีแบบเรื่อยๆ ระเรื่อๆ ออกแนวไม่ให้กลิ่นเทคโอเวอร์ แต่ให้กลิ่นเป็นตัวสนับสนุนชั้นดีในการสร้างบุคลิกอบอุ่นเย้ายวนที่มีระดับไปเรื่อยๆ นี่แหละ ออร่าความเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์แบบที่ไม่ได้ดูพยายามแต่อย่างใด 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปสามารถใช้จัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นมาสายสุภาพบุรุษที่อบอุ่นและเย้ายวนคลอตีคู่กันไปตลอด และมีระดับที่ลงตัว ไม่ได้ดูเล่นใหญ่แต่อย่างใด ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม ซึ่งได้หมดทั้งทางการที่จะติดเซ็กซี่เนียนๆ ได้อยู่ และทั่วๆ ไปที่ดูอบอุ่นเท่ห์เย้าๆ ก็สามารถ จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายที่ข้ามไปจะดีที่สุด เพราะไม่เข้าทางเท่าไหร่ ส่วนกลางคืนอัดสเปรย์เพิ่มขึ้นไปงานปาร์ตี้มีระดับได้เลย หรือว่าจะไปท่องราตรีแบบติดหรูก็สามารถ

ความทน - ราวๆ 6-8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวแตะที่ราวๆ 8 ชม. ได้อยู่กับการใช้ที่ 6 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาเรื่อย ออกแนวกลางๆ ซักพักหนึ่ง แล้วจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบมีเสน่ห์กำลังดี พอพ้นซัก 6 ชม. ก็ Skin Scent ต่อเนื่องไปจนค่อยๆ จางไปในที่สุด 

สรุป - ถ้าว่ากันตามสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ กลิ่นนี้ก็เป็น Playboy ที่มีชั้นเชิงมากขึ้นในลักษณะที่มีประสบการณ์แบบผู้ใหญ่แล้ว ไม่ได้ดูพยายามหรือตะบี้ตะบันอะไร ออกแนวกลิ่นเสริมบุคลิกสร้างออร่าอบอุ่นเย้ายวนเสียมากกว่า ถือว่าทำออกมาได้ดีและมีระดับเลยล่ะ 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://www.parfumo.de/Parfums/Baldessarini/Strictly_Private_Eau_de_Toilette

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

Review: Baldessarini Cologne & Cologne Concentree


Baldessarini Cologne & Cologne Concentree 

Baldessarini เป็นแบรนด์ที่แตกไลน์ออกมาจาก Hugo Boss ที่เน้นทำน้ำหอมด้วยสโลแกนนี้เลย “SEPARATES THE MEN FROM THE BOYS” เก๋ไหมล่ะ คือ ไม่มีคำว่าหน่อมแน้ม ไม่มีคำว่าวัยกระเตาะ มีแต่คำว่าผู้ชายที่เติบใหญ่ ภูมิฐาน และมีระดับเท่านั้น เช่นนั้น น้ำหอมเลยต้องพร้อมเสิร์ฟกับรุ่นแรกตัวนี้เลยครับ Baldessarini Cologne ที่มีการแยกออกมาทั้งแบบ Cologne ปกติและ Cologne Concentree ที่เข้มข้นขึ้นนั่นเอง โดยพื้นฐานกลิ่นไม่ได้แตกต่างกัน

กลิ่นเปิดจะมาในโทนสดชื่นด้วยความเป็นส้มผสานกับมิ้นท์ ซึ่งแม้จะมาแบบสดชื่น แต่ไม่ได้คมจัดเกินไป มีความนุ่มและนิ่งเนี้ยบในเนื้อกลิ่นเป็นอย่างดี แอบจับได้ถึงกลิ่นใบยาสูบและกานพลูที่มาแบบเบาบางหน่อยๆ ตั้งแต่ช่วงต้น เลยทำให้กลิ่นในช่วงนี้สดชื่นแบบมีระดับและมีความภูมิฐานในตัว จนเมื่อเข้าช่วงกลางกลิ่นของกานพลูแซมไปด้วยกลิ่นของเม็ดเทียนขาวที่ให้อารมณ์ขมหน่อยๆ ตามด้วยกลิ่นส้มที่ยังตามมาอยู่ให้รู้สึกได้เข้ามาเสริม แอบมีใบยาสูบและพิมเสนอยู่เบาๆ ซึ่งทั้งหมดจะปล่อยของในรูปแบบที่บ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษ กลิ่นช่วงนี้จะภูมิฐานมากเลยทีเดียว ไม่ได้ออกทางคมเลย ออกทางนิ่ง เนี้ยบ ขรึม และมีความหวานจางๆ ที่ไม่ได้ทำให้กลิ่นช่วงนี้ออกทางแมนแน่นเกินไป และปิดท้ายด้วยกลิ่นของใบยาสูบที่ซ่อนตัวมานานก็ได้เวลาเปิดตัวเต็มๆ พิมเสนก็เอากับเขาด้วย โดยมาผสานกับโทนวู้ดดี้และ Musk ทำให้กลิ่นจะออกทางนุ่มสะอาด อบอุ่น หวานกำลังดี บอกถึงความเป็นผู้ใหญ่และผู้นำที่ออกทาง Modern ไม่ได้ออกทาง Old School แต่ประการใด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลไล่เรียงกันมาได้เป๊ะมากตั้งแต่สดชื่น นิ่งขรึมมีของ และมีคลาส โดยยื่นพื้นที่คำว่า “#ภูมิฐาน” อย่างมีระดับจริงๆ ครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป และอย่างน้อยถ้าอายุ 30 อัพ จะเข้าทางมากครับ เพราะกลิ่นมันบ่งบอกถึงความภูมิฐาน และความเป็นผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ เช่น ทำงาน โดยเฉพาะออกงานทางการนี่จะเหมาะมาก ส่วนกิจกรรมทั่วๆ ไปก็ใส่ได้ครับ ส่วนยามกลางคืนก็ได้อยู่สำหรับการพบปะสังสรรค์ทั่วไป คุยเรื่องหน้าที่การงาน เรื่องธุรกิจ หรืออกงานหรูก็ได้เลย ส่วนใส่ไปเมาอย่าเลย ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ครับ กลิ่นมันภูมิฐานมาก เสียลุคกันพอดี

ความทน – รุ่น Cologne ความทนจะอยู่ที่ 6 ชั่วโมง กลิ่นจะกลายเป็น Skin Scent ติดผิวแล้วจางไปในที่สุด แต่ถ้าเคมีได้อัดสเปรย์หน่อย กลิ่นสามารถไปได้ที่ 8 ชั่วโมงก็เกิดขึ้นได้ครับ ส่วนรุ่น Concentree นี่ 8 ชั่วโมงขึ้นไปสบายๆ

การกระจาย – กลิ่นกระจายกำลังดีไม่มากไม่มายไปตั้งแต่ต้น จนปลายของช่วงกลางเลย และจะเป็นออร่าอบอุ่นรอบๆ ตัวจนกลายเป็น Skin Scent ในที่สุด

ทิ้งท้าย - ทั้ง 2 รุ่น คง Concept ความภูมิฐานชัดเจนตั้งแต่ต้นยันจบทั้งคู่ เพียงแค่แตกต่างกันตรงที่รุ่นปกติ กลิ่นจะออกทางนุ่มใส แต่รุ่น Concentree กลิ่นแต่ละช่วงจะเด่นชัดขึ้น เพราะความเข้มข้นของน้ำหอม ซึ่งจะสัมผัสได้มากขึ้นถึงความเก๋าของกลิ่นที่จะสร้างความภูมิฐานในความเป็นผู้ใหญ่ได้ชัดเจนครับ