แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Lacoste แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Lacoste แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560

Review: Lacoste - Style in Play

Lacoste - Style in Play 

ส่วนใหญ่เรามักจะได้เจอน้ำหอมที่เป็นโทน Sport เสมอจาก Lacoste ซึ่งแม้จะมีน้ำหอมโทนแน่นๆ หรูๆ บ้าง แต่ก็โดนแย่งซีนเสมอ ในเมื่อเขามีความเป็น Sport ที่้พร้อมกว่า ลูกเล่นทางด้าน Sport ก็สามารถทำให้มีอารมณ์อื่นๆ
 ผสมผสานได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็มีรุ่น Style in Play ที่ทำออกมาได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะ 

โทนกลิ่นแม้จะไม่ได้มาแบบลั่นล้าจัดจ้านออกแนวผลไม้จ๋าๆ แต่ถือว่าเป็นการบิดโทนผลไม้สดใสกับโทนเขียวๆ สดชื่นให้ได้อารมณ์ของการเป็นโทนสีแดงได้ดีมากกับการเปิด Top Notes ด้วยกลิ่นออกทางเปรี้ยวสดชื่นของผลไม้โทนแอปเปิ้ลเขียวที่จะเด่นเป็นสง่าชัดเจนมาก โดยจะมีกลิ่นอาย Citrus กลั้วความเขียวสดชื่นติดไม้หอมจางๆ กลิ่นจะพุ่งพอสมควรแต่ไม่ได้ถึงกับคมจัดพุ่งทะลุบ้านอะไรนักเพราะต้องให้เครดิตแก่แอปเปิ้ลเขียวที่กลิ่นคุมโทนได้ดีไม่คมจัดแต่ยังคงสดชื่นแฝงด้วยความกรุ้มกริ่มได้ลงตัว ส่งต่อไปยัง Middle Notes ที่กลิ่นจะเริ่มลดโทนความเปรี้ยวหอมติดผลไม้ลงมาหน่อยเพราะกลิ่นของมะลิจะเป็นตัวเสริมให้มีความนวลๆ สบายมากขึ้น โดยที่เนื้อกลิ่นยังมีกลิ่นโทนเขียวๆ สดชื่นติดสะอาดอยู่และมีความเป็นไม้หอมที่ชัดขึ้นมามาก ทำให้โทนสดใสติดเขียวแต่ให้อารมณ์สีแดง ในตอนแรกจะเป็นลักษณะที่เฉดอ่อนลง ยืนพื้นที่ความสดชื่นอยู่ มีความสปอร์ตเจือจางๆ แต่ความเท่ห์สบายๆ เริ่มมีความขึ้นตามลำดับ นำไปสู่ Base Notes ที่ความสดชื่นยังคงตามมาอยู่จากโทนผลไม้ แต่กลิ่นจะลดทอนลงมาเบาๆ ได้ความนุ่มของ Musk ที่เป็นตัวรองพื้นในช่วงนี้ช่วยให้กลิ่นมีความสดชื่นติดสะอาดลงตัว โดยมีกลิ่นไม้หอมแห้งๆ อ่อนๆ สบายๆ กับกลิ่นโทนนวลๆ ของพิมเสนที่ทำให้กลิ่นมีเสน่ห์ขึ้นมา ภาพรวมจึงเป็นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกกระชุ่มกระชวยสดชื่นแบบไม่ได้มาสายจัดชื่นเข้าไป แต่ได้ความกรุ้มกริ่ม เปลี่ยนความรู้สึกที่ควรจะเป็นจากเขียวเป็นโทนสีแดงลั่นล้าติดเท่ห์คูลได้ดี มีความเยาว์วัยและมีความสปอร์ตจางๆ ให้ไม่ออกทางเจ้าเสน่ห์ลั่นล้าเกินกว่าเหตุนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - กระทาชายทุกเพศ ตั้งแต่วัยเรียนม.ปลาย ขึ้นไปก็สามารถจัดตัวนี้ได้แล้ว เพราะกลิ่นใช้ง่าย เข้าถึงได้ง่าย อาจจะไม่ได้มาสายสดชื่นจัดๆ แบบที่มักจะเห็นจากแบรนด์นี้ แต่ก็มีความแตกต่างออกมาไม่เหมือนใครได้ดีเลย ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน โดยเฉพาะใส่แบบทั่วๆ ไป ไม่ใช่แนวทางการจัดๆ ที่ต้องรับแขกบ้านแขกเมือง เพราะกลิ่นอาจจะทำให้รู้สึกว่าลั่นล้าเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนถ้าใส่แบบทั่วๆ ไป Party แบบ Outdoor หรือเดินชิลล์ๆ ตามห้าง กลิ่นถือว่าดีงาม แต่ถ้าใส่ไปหาเหยื่อตามสถานที่ท่องราตรี ตัวนี้อาจจะต้องอัดเสปรย์กันน่าดูชม เพราะโดนกลบจากโทนหวานๆ เอาได้ 

ความทน - น่าสนใจกับที่ราวๆ 6 ชม. มีบวกลบบ้างประมาณ 2 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ซึ่งส่วนตัวจัดไป 6 สเปรย์ยามอากาศร้อนๆ ไม่ได้อยู่ห้องแอร์ กลิ่นลากไปที่ประมาณ 8 ชม. ได้อยู่ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลาง และเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายจนกว่าจะหายไปจากผิว 

ทิ้งท้าย - กลิ่นได้อารมณ์ของความเป็น Summer ติดกรุ้มกริ่มมาก โดยที่ไม่ได้มาสาย Sport จ๋าๆ ซึ่งถือว่าใช้ง่ายแบบที่มีความเป็นตัวเอง ไม่ต้องเหมือนใครมากแถมดูวัยรุ่นซะด้วย ^^

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Credit ภาพ - http://cdn.fragranceexpert.com/media/catalog/product/cache/1/image/9df78eab33525d08d6e5fb8d27136e95/l/a/lac00166_1.jpg



วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Review: Lacoste - Eau de Lacoste L.12.12 Yellow (Jaune)

Lacoste - Eau de Lacoste L.12.12 Yellow (Jaune)

ผ่านการบอกเล่าเรื่องกลิ่นของ Lacoste มาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในโซนไลน์ L.12.12 ทั้งสีขาวและดำมาแล้ว ก็ได้เวลาของสีเหลืองกันบ้าง นอกจากขวดที่สีสวยสะดุดตาแล้ว ที่มาก็อิงกับเสื้อโปโลของ Lacoste สีเหลืองเสียด้วย ซึ่งกลิ่นจะมาในลักษณะโทนสปอร์ตและสบายสดชื่นแบบไหน ก็ต้องพิสูจน์ ซึ่งผลออกมาก็คือ 

Eau de Lacoste L.12.12 Yellow ได้อารมณ์แบบกลิ่นซาบซ่าสว่างไสวแบบน้ำอัดลมแนวเดียวกั7 อัพหรือสไปรต์เลย เพราะ Top Notes เปิดตัวแบบ Sparkling ซ่าๆ มาสไตล์แบบ Tonic Water ที่จะมีกลิ่นอายสดชื่นติดเปรี้ยวเจือหวานปลายของเลมอน ที่สำคัญกลิ่นจะมีความเป็นเครื่องเทศติดหวานสดชื่นเจือพอให้รู้สึกได้ ซึ่งเพียงไม่นานจะเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นที่ความซ่าจะยังมีอยู่แต่จะลดทอนลงมาบ้าง โดยจะมีหวานมากขึ้นหน่อยเพราะมีกลิ่นติดแอปเปิ้ลแดงแทรกเข้ามา เพียงแต่ว่าความเป็นลักษณะแบบสไปรต์ยังคงอยู่ให้อารมณ์สดชื่นสว่างเจือหวานสบายๆ ออกแนวเหมือนน้ำอัดลมที่ลดความซ่ามาเป็นหวานสดชื่นประมาณนั้นเลย ซึ่งในช่วงนี้จะเริ่มมีกลิ่นอายแบบโทนไม้หอมแห้งๆ สะอาดๆ เสริมเข้ามาเรื่อยๆ จนนำเข้าสู่ Base Notes ที่ความซ่าจะเหลือจางๆ ให้กลิ่นไม้หอมกลายเป็นตัวเด่นให้ความแห้งสะอาด อบอุ่นเบาๆ เจือความหวานบางๆ กลิ่นจะได้ความรู้สึกสะอาดๆ แห้งๆ สบายๆ แบบยาวไป ซึ่งภาพรวมได้อารมณ์กลิ่นอายแบบซ่าๆ ไล่เรียงเปลี่ยนโทนกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แบบลดโทนลงมาเรื่อยๆ คุมโทนที่ความเป็น Sport และสบายสดชื่นไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิวนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนประถามขึ้นไปก็ใส่ได้แล้ว คือ กลิ่นเข้าถึงง่ายมาก เอาจริงๆ มีความเป็น Unisex มากมายเสียด้วยเพราะกลิ่นอายสดชื่นแบบน้ำอัดลม 7 อัพหรือสไปรต์ มันกลางๆ ที่เข้าถึงได้ทุกเพศอยู่แล้ว สาวๆ ที่ชอบกลิ่นสดชื่นซาบซ่าก็มาใช้ได้สบายๆ ซึ่งกวาดหมดและครอบจักรวาลมากในการใช้งานยามกลางวัน ได้หมดทั้งทางการและทั่วๆ ไป เพราะว่ากลิ่นไม่ได้รบกวนใครมากด้วย แถมเข้าถึงได้ง่ายสดชื่นอมหวานนั่นเอง ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ เลย ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบสดชื่นๆ อากาศร้อนๆ เดินเล่น หรือสบายๆ ดีกว่า ถ้าใส่ไปท่องราตรี กลิ่นโดนกลบแน่นอน เบาไป 

ความทน - ประมาณ 6 ชม. จะมากหรือน้อยกว่านี้ อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ราวๆ เกือบ 8 ชม. ได้อยู่กับจำนวนสเปรย์ 7 สเปรย์ โดยมาสายกลิ่นติดผิวเสียมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายกำลังดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาแบบออร่ารอบๆ ตัวในช่วงกลาง ปิดท้ายด้วย Skin Scent ตีขึ้นยามขยับเนื้อตัวร่างกายทำความร้อน

ทิ้งท้าย - สดชื่นและกลิ่นสบายจมูกมาก อากาศร้อนๆ ตัวนี้ทำให้ผ่อนคลายสบายๆ เลยทีเดียว กลิ่นสว่างมากด้วยเข้าทางสไตล์แบบน้ำอัดลม เช่นนั้นเอาไปเลยดีกว่าตำแหน่งนี้ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Photo Credit by http://static1.lacoste.com/aaqm_prd/on/demandware.static/Sites-GB-Site/Sites-master/en/dw2a992a4c/mod-l1212-fragrance-big-3.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Review: Lacoste – L.12.12 Noir

Lacoste – L.12.12 Noir

จากที่เคยบอกเล่ารุ่นสีขาวอย่าง Blanc ไปแล้ว ต้องมีอะไรมาสร้างความหยินหยางกันบ้างด้วยโทนสีดำของ Lacoste ที่จะมาบอกเล่าถึงความนัวร์และดาร์กกันบ้าง ซึ่งก็ชักอยากจะรู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะแบรนด์นี้เขาเน้นกลิ่นอายทาง Casual ติดสปอร์ต เช่นนั้นมาเจอกันหน่อยดีกว่ากับรุ่นนี้เลย L.12.12 Noir

ความรู้สึกแรกที่ได้กลิ่นและได้ใช้มันบอกถึงความ Sport ของผู้ชายที่ใส่เสื้อโปโลสีดำชัดเจนมาก คือ มันไม่ได้นัวร์แบบที่จะลึกลับซับซ้อนอะไรตรงไหน ออกแนวตรงไปตรงมาสบายๆ สดชื่นกว่าที่คิดเสื้อด้วยซ้ำ เพราะว่า Top Notes กลิ่นอายมาเต็มมากับแตงโมที่จะมีกลิ่นเขียวๆ ติดซิตรัสของใบเวอร์บีน่าที่กลิ่นคล้ายมะนาวมาช่วยดันให้กลิ่นออกทางสดชื่นติด Aquatic เพียงแต่แตงโมที่ได้กลิ่นจะไม่ได้มาแบบฉ่ำน้ำหวานอะไรตรงไหน แต่มาออกแนว Sport ค่อนได้ทางกลิ่นอายเปลือกแตงโมเสียมาก โดยกลิ่นเขียวๆ ที่มาช่วยดันจะเริ่มชัดขึ้นและดึงเข้าสู่ Middle Notes กันเต็มตัว และเปิดตัวออกมาคือกลิ่นของโหระพาที่จะมาแบบติด Spicy กลั้วนุ่มๆ โดยจะมีกลิ่นหวานติดขมหน่อยๆ ให้พอรับรู้ได้ แต่ไม่แน่นเกินไปนักมาเสริมให้กลิ่นแตงโมติดซิตรัสนั้นเข้มขึ้นและมาทางแมนๆ ติด Sport ชัดเจน และจะมีกลิ่นอายของลาเวนเดอร์ที่มาแบบนุ่มโทนสะอาดเสริมเข้ามาก็จริงแต่จะมาแบบเบาๆ เพราะกลิ่นหวานแบบติดขมเริ่มปล่อยของทีละนิดๆ จนเข้าสู่ช่วง Base Notes เปิดผ่างกันออกมานั่นคือ ชอคโกแลต ที่กลิ่นจะมาแบบหวานปนขมแบบไม่หนัก เพราะมีกลิ่นไม้หอมกลั้ว Musk ที่เสริมเข้ามาพร้อมเอาพิมเสนมาด้วย แถมมีความครีมมี่จางๆ มาเสริมเลยออกทางกลางๆ ไม่ขนม ไม่ครีม ไม่สปอร์ตจนเกินไป กลิ่นออกทางสีดำก็จริงแต่มีความเข้าถึงได้ง่ายตามที่บอกไปตอนแรกว่าเหมือนผู้ชายเสื้อโปโลสีดำไม่มีผิดเพี้ยนเลย

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลายก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นใช้ง่ายกว่าที่คิด ซึ่งกลิ่นนี้จัดได้ไม่ว่าจะเป็นทั้งช่วงทางการหรือไม่ทางการเหมาหมด โดยยามกลางวันสบายเลย เพราะเข้าถึงง่าย ออกกำลังกายยังได้เลย เพียงแต่คงไม่ใช่แนวๆ แมนๆ เตะบอลกันขนาดนั้น ส่วนยามค่ำคืนอัดสเปรย์หน่อยก็สามารถ เป็นอีกหนึ่งในน้ำหอมที่ครอบจักรวาลในการใช้งานเลยทีเดียว

ความทน อยู่ที่ 6 -8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวที่เจอ 10 ชม. เพราะจัดไป 8 สเปรย์ (แอบกลัวชาวบ้านเขามองหน้าอยู่นะ 555)

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกความสดชื่นได้เลย ก่อนที่จะลดลงมากระจายกลางๆ ไปเรื่อยๆ และเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย แล้วจางลงตามเวลาที่ผ่านไป

ทิ้งท้าย สมกับการเป็นน้ำหอมที่บ่งบอกถึงความเป็น Sport ในสไตล์ของ Lacoste เลยล่ะครับ และยิ่งคนที่ต้องการใช้น้ำหอมโทนสปอร์ตที่ฉีกออกมามีกลิ่นโทนหวานแบบไม่หนักหน่วง และต้องการใช้น้ำหอมที่จะเริ่มฉีกไปในทิศทางอื่นบ้างแต่ยังคงโทนสปอร์ตไว้ ตัวนี้เป็นตัวที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ


วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Review: Lacoste – Eau de Lacoste L.12.12 White


Lacoste – Eau de Lacoste L.12.12 White 

เป็นหนึ่งในไลน์ L.12.12 ที่ออกมาตอบโจทย์น้ำหอมด้านSport แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะยามออกกำลังกายก็ได้ ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้อิงมาจากเสื้อโปโลของ Lacoste สีขาวเลย ซึ่งเป็นอย่างไร มาลองดมผ่านตัวหนังสือกันอย่าง Eau de Lacoste L.12.12 White 

Top Notes เปิดขึ้นมาได้หอมสดชื่นติดนวลๆ มาก กลิ่นเกรฟฟรุตจะมาแบบซิตรัสก็จริงแต่จะมีกลิ่นอายของเครื่องเทศติดหวานของเม็ดกระวานดันมาด้วย เลยทำให้ซิตรัสออกทางนวลสว่างสดชื่นก็”ด้หวานหน่อยๆ ก็มี แอบมีกลิ่นเขียวๆ สมุนไพรให้รู้สึกได้จางๆ จนเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes งวานดอกไม้ต้องมา ซึ่งผมทึ่งเล็กน้อยเพราะกลิ่นดอกกระดังงาจะมากลั้วกบโทนซิตรัสติดหวานนุ่มที่ตามมาในตอนต้น โดยมีความครีมมี่ออกโทนขาวสว่างนวลของดอกซ่อนกลิ่นแซมไปตลอด เรียกว่าช่วงนี้เป็นโทนดอกไม้ที่แมนแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งแอบจับได้ถึงกลิ่นหนังติดโทนไม้หอมที่รองพื้นด้านหลัง เรียกว่าเบลนด์กลิ่นออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวกับการเอาดอกไม้ 2 ตัวนี้มาเด่นในน้ำหอมชาย และปิดท้ายที่กลิ่นอายดอกไม้สว่างๆ ครีมมี่นุ่มๆ ติดหวานสดชื่นจะเบาลงไปบ้าง ให้กลิ่นโทนไม้หอมผสมกับหนังที่เคยหลบๆ ซ่อนๆ นั้นได้เด่นขึ้นมา กลิ่นอายจะออกทางสะอาดๆ ติดแมนนุ่มๆ กลิ่นหนังไม่มีโทนสาปมารบกวนเลย มีแต่กลิ่นออกหนังนุ่มขาวคล้ายผิวกายหอมสะอาดติดนุ่ม มีความอบอุ่นกำลังดี หอมแบบนวลๆ ไปตลอด ซึ่งเรียกว่าผสมผสานกลิ่นออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยยังคงเป็นผู้ชายแบบสุภาพสะอาด อบอุ่น ออกโทนสว่างขาวอย่างชัดเจนไม่มีผิดเพี้ยนเลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัย ม.ปลาย ขึ้นไปก็มช้งานตัวนี้ได้แล้วครับ กลิ่นเรียกว่าอยู่ในโซนใช้ง่าย เข้าถึงง่าย และหอมสดชื่นติดนุ่มนวลได้ลงตัว สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและไม่ทางการ ส่วนยามค่ำคืนก็ใส่ได้แบบทั่วๆ ไป แต่ถ้าไปเที่ยวแล้วยั่ว ไม่เข้าทางเลยจ้าบอกเลย

ความทน – อยู่ระหว่าง 6 – 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นหลัก

การกระจาย – กลิ่นกระจายกำลังดีในช่วงต้น แล้วคงตัวกระจายกลางๆ ไปตลอด จนช่วงท้ายจะเป็นออร่ากึ่ง Skin Scent ครับ

ทิ้งท้าย – ครั้งแรกที่ผมได้กลิ่นจากคนที่ใส่น้ำหอมกลิ่นนี้สวนกับผม บอกเลยว่าหันขวับ แล้วเดินตามไปถามเลยว่าใส่น้ำหอมกลิ่นอะไรหอมนวลๆ มาก เจอมองด้วยสายตาที่งงๆ แต่ก็ได้รับคำตอบมา และก็หามาครอบครองจนได้ เป็นกลิ่นแรกประทับใจของผมเลยล่ะครับ

Credit ภาพhttps://www.aromas.es/delegate/fotoProducto?tipo=G&codProducto=965250

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

Review: Lacoste – Essential


Lacoste – Essential

นี่คือน้ำหอมที่เรียกได้ว่าฮิตสุดๆ ของ Lacoste เลยก็ว่าได้ เพราะมันเข้ากับอากาศบ้านเราที่ร้อนจนถึงร้อนโคตรได้หมด สร้างความสดชื่นตลอดเวลากันเลย ซึ่งรุ่นที่ว่านี้คือ Essential น้ำหอมสีเขียวตัวนี้นี่เองงงงง 

เปิด Top Notes กันได้แบบเขียว สดใส สดชื่น เริงร่ากันเลย เพราะว่ากลิ่นของใบไม้เขียวๆ ของใบมะเขือเทศจะมาตีคู่กับโทนซิตรัสเปรี้ยวๆ ติดโทนฟรุตตี้ของส้มเขียวหวานหอมสดชื่นกันได้เลย และสามารถทำให้ประสาทสัมผัสตื่นได้ทันที ถ้าฉีดยามเช้า ซึ่งโทนสดชื่นเขียวติดซิตรัสนี้จะตามไปอยู่ในทุกช่วงแบบให้พอรู้สึกได้ โดยเริ่มที่ไปผสานกับ Middle Notes จนเป็นกลิ่นโทนสะอาดกับกลิ่นกุหลาบจางๆ และพริกไทยที่ยังคงสร้างความสดชื่นอยู่ไม่ไปไหน และท้ายสุดกับ Base Notes ที่จะมีกลิ่นอายของโทนวู้ดดี้ที่ไม่ได้มาในโทนอบอุ่นเลย มาในโทนโปร่งๆ เน้นกลิ่นสะอาดๆ คล้ายสบู่ โดยมีกลิ่นพิมเสนลอยละล่องเบาๆ ซึ่งมีโทนเขียวสดชื่นมาอยู่แบบผลุบๆ โผล่ๆ ซึ่งสรุปภาพรวมได้เลยว่า เป็นน้ำหอมที่ใช้ง่าย บ่งบอกถึงความสบายๆ กับผู้ชายชิลล์ๆ สดชื่น และยิ้มง่าย กลิ่นหอมถูกใจมหาชนเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศทุกวัย เป็นน้ำหอมที่ใช้ง่ายมากกกกกกก สดชื่นมากกกกกก ใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะแก้ผ้าเดินเล่นรอบบ้าน จนถึงงานทางการก็ยังพอไหวที่จะใส่ได้อยู่กับอากาศบ้านเรา แต่เที่ยวกลางคืนไม่ค่อยเข้าทีเท่าไหร่ อาจจะดับรัศมีไปเยอะ เรียกแขกยากหน่อยก็เท่านั้นเอง

ความทน – อยู่ที่ 6 – 8 ชั่วโมงตามจำนวนสเปรย์ว่าอัดมากหรือน้อย และพาดพิงถึงเรื่องเคมีด้วยส่วนหนึ่งที่จะทำให้กลิ่นนี้ทนหรือไม่ทน

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากเลยทีเดียวในช่วงต้นและจะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงการเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – สำหรับตัวนี้แนะนำว่าซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้หรือตามเคาน์เตอร์จะดีที่สุดนะครับ ของปลอมมาให้ตรึมพอๆ กับ CK One และ Polo Sport เลยทีเดียว 

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Lacoste – Elegance



Lacoste – Elegance

เป็นน้ำหอมที่ผมเห็นว่ามันฉีกไปจากความเป็นน้ำหอมสบายๆใส่เสื้อ Polo วันเบาๆ ชิลล์ๆ แบบที่แบรนด์นี้นำเสนอเป็นหลัก มาเป็นน้ำหอมที่สุขุมนุ่มลึกเต็มไปด้วยความสดชื่นแกล้มอบอุ่นได้ลงตัวมาก แบบว่าเป็น Office Scent หรือใส่ออกงานหรูได้สบายๆ เลย เพราะว่า 

Top Notes จะให้อารมณ์ในแบบสมุนไพรติดเขียว มีกลิ่นออกทางเครื่องเทศกลั้วไปกับกลิ่นของเปปเปอร์มินท์และกลิ่นซิตรัสบางๆ ให้อารมณ์ออกทางแป้งหน่อยๆ เพราะมีกลิ่นชอคโกแลตรองเป็นพื้นหลังเลยทำให้กลิ่นในช่วงนี้จะแปลกไม่เหมือนใครจริงๆ ได้ทั้งอารมณ์แบบชอคโกแลตสมุนไพรแต่สดชื่น มัน Contrast กันแบบเก๋ๆ ดี แต่ถ้าคนไม่ชอบกลิ่นในช่วงนี้อาจจะขอบายได้เพราะมันแอบแน่นพอสมควร จนเมื่อเข้าช่วง Middle Notes คราวนี้เครื่องเทศขนมากันเลยไม่ว่าจะเป็นอบเชย พริกไทย และยี่หร่าที่จะจับกลิ่นได้ชัดมากแต่จะไม่ได้ออกทางหวานแน่นจัดๆ แต่ออกทางโปร่งๆ เพราะมีกลิ่นของจันทน์เทศมาตัดให้ซอฟต์ลง แถมมีกลิ่นโทนผลไม้เบาๆ กลั้วกับชอคโกแลตรองพื้นหลังเช่นเคย เลยทำให้ช่วงนี้จะออกทางหวานอบอุ่นแบบสบายๆ ไม่หนักแน่นจนชวนเวียนหัว และเมื่อ Base Notes ทำงาน ชอคโกแลตจะปล่อยของเต็มที่กลั้วไปกับโทนวู้ดดี้อุ่นๆ โดยมี Musk มาตัดให้ออกทางสะอาดๆ นุ่มๆ กลิ่นจะนุ่มนวลและสร้างภาพลักษณ์ที่อบอุ่นและออร่าที่ดูภูมิฐานไม่น้อยเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ยิ่งถ้าอยู่ในห้องแอร์กลิ่นจะเข้าทีมาก นอกจากใส่ทำงานได้แล้ว ยังสามารถใส่ไปเที่ยว พักผ่อนชิลล์ๆ ได้สบายๆ เพราะกลิ่นไม่หนักเกินไปพอรับไหวกับอากาศบ้านเรา แต่ออกกำลังกายคงต้องจำกัดจำนวนสเปรย์ ไม่งั้นอาจจะทำให้ชาวบ้านเบะปากใส่ได้ ส่วนเที่ยวกลางคืนจัดได้เลยครับ เข้าทางไม่น้อยเลย แต่อาจจะไม่ยั่วยวนมากเท่าไหร่ เน้นออกทางอบอุ่นน่าเข้าใกล้มากกว่า

ความทน – 8 ชม. ขึ้นไป ส่วนตัวผมใส่ทำงานในห้องแอร์ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นเบาๆ อยู่เลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top และ Middle และจะลดระดับมากำลังดีที่ Base โดยกลิ่นตีขึ้นให้คนใส่รับรู้ได้เรื่อยๆ ครับ

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review: Lacoste - Booster



Lacoste - Booster 

นี่คือน้ำหอมตัวที่ Unique มากในแง่ของกลิ่นที่ไม่มีตัวไหนเหมือน เป็นอีกตัวนึงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในความเก๋าของ Lacoste ที่ทำน้ำหอมกลิ่นนี้ออกมา ตอบโจทย์กระทาชายที่ชอบความสดชื่นและแมนๆ แบบกลิ่นคุ้นเคยใกล้ตัวมาก เพราะกลิ่นภาพรวมของน้ำหอมตัวนี้ คือ

"ยาสีฟัน" 

จริงๆ เลยครับ เพราะกลิ่นนี้ให้อารมณ์กลิ่นยาสีฟันเวลาเราแปรงฟันตอนเช้าๆ หรือหลังอาหารกลางวันในห้องน้ำที่ีทำงาน เริ่มก็เปิดกลิ่นกันด้วยความเย็นของมินต์ เมนทอล และยูคาลิปตัสกันเลย กลิ่นคมออกซิตรัสสดชื่นมาก ยาสีฟันกันชัดๆ เลยทีเดียว แถมให้อารมณ์เย็นๆ ซ่าๆ แบบว่า "เฮ้ย! ตูเอายาสีฟันมาป้ายตัวแทนน้ำหอมใช่ไหม" และไอ้ความเป็นยาสีฟันเย็นๆก็ยังคงอยู่กลั้วซิตรัสสดชื่นไปตลอดจนถึงเบสที่ออกแนววู้ดดี้สะอาดๆ เหมือนอารมณ์หลังแปรงฟันเสร็จแล้วมันสดชื่นปาก มีอารมณ์ยาสีฟันคงค้างในปากจางๆ นั่นแล อารมณ์นั้นเลย ครบทุกอย่างจริงๆ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว Booster สมกับชื่อรุ่นที่ Lacoste ตั้งมาเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศทุกวัย ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เพราะเป็นกลิ่นที่ใช้ง่าย ใครได้กลิ่นก็ชอบและรู้สึกสดชื่น และเป็น Safe Scent เสียด้วย ก็กลิ่นมันใกล้ตัวเป็นยาสีฟันซะขนาดนั้นคนจะไม่คุ้นได้อย่างไร อ้อ ถ้ายิ่งใส่ออกกำลังกายยิ่งดีเลย กลิ่นจะสดชื่นปลุกให้ตื่นตัวมากเลยทีเดียว แถมเข้ากับกลิ่นเหงื่อได้ดีเสียด้วย

ความทน - 6 ชม. อัพ แต่ไม่เกิน 8 ชม. ก็จะจางแล้ว แต่อาจจะมีตีเป็นวูบๆ เวลาร่างกายฮีทๆ หรือออกกำลังกายได้

การกระจาย - กระจายกำลังดีครับ ไม่ได้หอมเป็นหอมหมื่นลี้รอบทิศ แต่จะสร้างออร่ารอบตัวเป็นกลิ่นสดชื่นแบบเย็นๆ ไปตลอดทั้งวัน ประมาณว่ายืินใกล้ๆ หรือเดินสวนจะได้กลิ่น แต่กลิ่นตีขึ้นเป็นระยะอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ทิ้งท้าย - เห็นขวดแบบนี้ หลายๆ คนเห็นหัวฉีดแล้วคงคิดว่าพ่นออกมาทีคงกระจายทั้งตัวเป็นแน้แท้ แต่จริงๆ ก็ไม่ขนาดนั้นครับ แต่เป็นหัวฉีดที่ดีมากๆ เลยทีเดียว เพราะละอองน้ำหอมกระจายเป็นวงกว้างดีแท้