แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Jovan แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Jovan แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Review: Jovan - Platinum Musk

Jovan - Platinum Musk

หนึ่งในแบรนด์น้ำหอมที่มีดีและคุ้มค่ากับความย่อมเยาว์ของราคาที่ตอบโจทย์ชัดเจนว่าน้ำหอมที่ดีไม่จำเป็นต้องแพง เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้งานที่ยังไงก็รอดทางกลิ่นและมีเสน่ห์ไปในตัวก็เรียกว่าครบเครื่องได้ และที่สำคัญอยู่ยงคงกระพันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปัจจุบัน โดยยังคง Concept - Down to Earth ได้อย่างครบถ้วน นั่นก็คือ Jovan

และจากหนึ่งในกลิ่นที่อยู่ยั้งยืนยงมาอย่างยาวนานอย่าง Jovan - Musk for Men จากเดิมที่มีลูกหลายแยกย้ายกันไป ไม่ว่าจะเป็น White Musk, Black Musk, Tropical Musk และอื่นๆ ก็ได้เวลาของการมาต่อยอดความเป็น Musk แบบเดิมมาสู่แนวทางใหม่ๆ โดยก็ยังคงความเป็น Concept ของแบรนด์อย่างชัดเจน และกลิ่นนั่นก็คือ Platinum Musk ที่เป็นการต่อยอดตรงๆ จาก Note กลิ่นในสไตล์เดียวกันกับต้นฉบับเพียงแต่ปรับโทนให้มีความ Modern มากขึ้น เนื้อกลิ่นจะเป็นอย่างไร มากันได้ตามนี้

กลิ่นเปิดให้อารมณ์ชัดเจแบบเนื้อกลิ่นสไตล์ที่มีความแมนๆ ติดอวลๆ คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นโทน Bad Boy ก็ได้ หรือจะแมนๆ เท่ห์ๆ ก็ได้จากการผสมผสานระหว่างโทน Citrus ที่น่าจะมาจากเลมอนเป็นหลัก โดยมีลูกเอื้อนของกลิ่นโทนพริกไทยและออกทางเขียวเผ็ดแบบกานพลูที่โปร่งๆ นวลๆ หน่อยๆ ที่เป็นลักษณะของดอกคาร์เนชั่น เสริมด้วยกลิ่นที่รองให้เกิดความอวลอย่างลาเวนเดอร์ผสานกับเครื่องเทศซึ่งน่าจะมีกระวานอยู่ในนั้น + กับโทนกลิ่นที่มีความอบอุ่นแฝงชัดเจนจากแอมเบอร์ เรียกว่าเปิดมาก็นี่แหละน้ำหอมผู้ชายแมนๆ อวลๆ ที่ใช้ง่าย เข้าถึงง่าย และเอาตัวรอดทางด้านกลิ่นได้สบายๆ เพราะเป็นกลิ่นสไตล์มหาชนยินดีต้อนรับชัดเจน

ช่วงกลางยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ ถึงกลิ่นอายแมนๆ อวลๆ ที่ให้ความเย้ายวนก็ได้ ให้ความเท่ห์แมนๆ ก็ดี และให้ความอบอุ่นกำลังดีก็เหมาะ เพราะเนื้อกลิ่นจะมาแบบ 4 เกลอประสานคือ Citrus ลาเวนเดอร์ เครื่องเทศ และแอมเบอร์ที่ทำให้กลิ่นมีความอวลแมนแบบติดเปรี้ยวหอมของเลมอนแกมเย้าอวลของกระวาน ที่มีลาเวนเดอร์มาตัดทอนให้มีความนวลอวลๆ คลอ และมีความอบอุ่นล้อมกรอบเนื้อกลิ่นไว้อย่างชัดเจน ซึ่งตรงไปตรงมามาก กลิ่นแมนๆ อบอุ่นเย้าๆ กำลังดี แต่ความดีของกลิ่นนี้คือ ไม่ได้ไปสายกลิ่น Bad Boy หนักๆ ที่แผ่ไพศาล เพราะนอกจากพื้นฐานเป็น EDC อยู่เดิม ก็ยังมีตัวเอกของแบรนด์อย่าง Musk มากล่อมให้กลิ่นนุ่มขึ้นนั่นเอง

เมื่อ Musk เริ่มเทคโอเวอร์ความชัดเจนของกลิ่นก็จะเริ่มลดทอนความแมนๆ ลงมาเป็นกลิ่นอายนุ่มๆ อบอุ่นมากขึ้น ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายที่เริ่มจะเป็นกลิ่นอาย Musk แกมไม้หอมโปร่งๆ แบบไม้ซีดาร์ กับโทนอบอุ่นของแอมเบอร์ที่ตามมาจากช่วงกลางแบบกำลังดี คลอๆ รุมๆ ผิว ซึ่งแน่นอนว่ายังมีกลิ่นแบบโทนสะอาดนุ่มๆ แบบ Musk ให้จับต้องได้แบบเบาๆ ตีขึ้นมาอ่อนๆ อยู่ให้รู้สึกได้ ทำให้ภาพรวมช่วงท้ายเป็นกลิ่นโทนสะอาดแกมอบอุ่นที่มีความหอมติดไม้หอมแกมหวานเย้าเครื่องเทศเบาๆ ไปตลอด

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศ วัยตั้งแต่เรียน ม.ปลายเป็นต้นไปก็สามารถใช้งานกลิ่นนี้ได้สบายมาก ได้หมดทั้งในทางการหรือทั่วๆ ไป เป็นกลิ่นที่อาจจะไม่ได้ว้าวใจสาย Niche แปลกไม่เหมือนชาวบ้าน แต่เข้าถึงมหาชนได้ง่ายมาก ซึ่งจัดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพียงแต่ถ้าใช้ยามราตรีอาจจะต้องเพิ่มสเปรย์หน่อย และกลิ่นกลิ่นอาจจะไม่ได้ทนจัดจ้านเทียบเท่ากลิ่น EDT แน่นๆ ต่างๆ เท่าไหร่ ก็ EDC น่ะนะ 

ความทน - อยู่ที่ประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง ซึ่งส่วนตัวก็เจอราวๆ นี้เสมอ และบางครั้งยาวไปถึง 12 - 15 ชม. ก็มีบ้าง เพราะกลิ่นค่อนข้างติดเสื้อผ้าที่สวมและรุมๆ ที่ผิวแบบผิวกายหอมติดหวานแกมไม้นุ่มเบาๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนแรก แล้วจะผ่อนไปปานกลางราวๆ 1 - 2 ชั่วโมง แล้วก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปจนถึงราวๆ 4 - 5 ชั่วโมงก็เริ่มเป็น Skin Scent

สรุป - กลิ่นเป็นโทนมหาชนนิยมแบบยาสามัญประจำบ้านที่ได้กลิ่นแล้ว ใช่เลย น้ำหอมผู้ชายอวลๆ เย้าๆ เท่ห์ๆ ที่ทำให้เกิดความคุ้นเคยได้ไม่ยาก ไม่ได้มีลักษณะแบบร่วมสมัยที่แฝงสมุนไพร Vintage อะไร ซึ่งตรงๆ บอกเลยว่านี่คือ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง และเป็นน้ำหอมที่เอาตัวรอดด้านกลิ่นได้สบายในการเป็นกลิ่นอายแบบผู้ชายเท่ห์ๆ อวลๆ แบบไม่ปล่อยพลังเกินกว่าเหตุ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.walmart.com/ip/Jovan-Musk-Duo-Platinum-Musk-Mens-Cologne-Spray-3-oz-and-Black-Musk-Women-s-Cologne-Concentrate-Spray-3-25-oz/287976261

 

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Review: Jovan - White Musk for Men

Jovan - White Musk for Men

ถ้าจะพูดถึงแบรนด์น้ำหอมที่ชูโรงความเป็น Musk ที่โดดเด่น แถมถ้าใบ้ต่อว่ายังมีราคาที่เป็นมิตรอีกด้วย คงหนีไม่พ้น Jovan เพราะแบรนด์นี้ชูโรงความเป็นน้ำหอมเน้นที่ Musk มาตั้งแต่ปี 1968 จนถึงปัจจุบันนี้ แบบที่ครองใจคนที่ชอบน้ำหอมใช้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังเป็นกลิ่นที่ทำให้ได้รับคำชมได้ไม่ยาก ซึ่งแน่นอนว่าผ่านการเล่ากลิ่นแบรนด์นี้มาหลายตัวแล้ว

และในคราวนี้ก็ยังคงคุมโทนการเป็น Musk อยู่เช่นเดิม แต่จะมาเจาะกันที่ความเป็น White Musk ของฝั่งผู้ชายกันบ้าง เพราะเป็นอีกกลิ่นที่ครองใจผู้ใช้และได้รับคำชมมาเยอะเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะมาในลักษณะไหนตามต่อกันได้เลย 

สิ่งแรกที่มีความชัดเจนและเป็นการสปอยกันตั้งแต่ต้นได้แบบคร่าวๆ เลยว่า “White Musk” จะอยู่ในทุกๆ ช่วงของน้ำหอมและเป็นตัวเอกที่เด่นจัดชัดเจนจริงๆ เพียงแต่จะมีโทนกลิ่นสายอื่นมาให้มิติกลิ่นที่สร้างเสน่ห์และเสริมให้กลายเป็นโทนสว่างสไตล์ White Musk สมชื่อรุ่นได้อย่างลงตัว โดยในช่วง Top Notes ความเป็น Musk จะยังเป็นเสมือนตัวรองพื้นกลิ่นก่อน ซึ่งจะมีโทนติดอับกึ่งเขียวตุ่นๆ หน่อยให้จับต้องได้โดยเป็นลักษณะเข้าโทนสมุนไพรที่จะเปิดตัวเป็นผู้เล่นหลักเลยในช่วงต้นคือความปร่าติดเขียวของมินต์ที่ที่มาแบบกลางๆ กำลังดี เคล้ากับกลิ่นติดสดชื่นกึ่งเปรี้ยวอ่อนๆ เคล้าความหวานหอมของเมล่อนที่สอดรับกับกลิ่น Musk ได้ลงตัวพอดีเลยทำให้ช่วงต้นอารมณ์กลิ่นจะได้ความรู้สึกแบบน้ำหอมสายสดชื่นติดสมุนไพรเจือหอมนวลที่มีความหวานนวลที่พอเหมาะพอเจาะมาก

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะเริ่มมีชัดเจนมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ Middle Notes เพราะลักษณะกลิ่น Musk เริ่มมีความชัดเจนในการเป็นกลิ่นโทนนุ่มนวลปนหวานกึ่งผลไม้ปลายกลิ่นติดโทนแป้งหน่อยๆ ซึ่งเป็นลักษณะของความเป็น White Musk ชัดเจน แต่ความปร่าหอมสดชื่นในช่วงต้นรวมถึงกลิ่นโทนเมล่อนกึ่งสดชื่นติด Citrus ที่ยังตามมาอยู่ แต่จะเบาลงเนียนกับเนื้อกลิ่น ซึ่งแน่นอนว่าแม้ White Musk จะโดดเด่น แต่ก็ยังมีลูกผสมของการเป็นกลิ่นอายสายเครื่องเทศเผ็ดโปร่งให้ความเป็นสมุนไพรคลอไปอยู่ตลอดทั้งมินต์จากช่วงต้นที่ให้ความซ่ากึ่งเมนทอลปลายกลิ่น ไล่ลงมาเลเยอร์กลางๆ ที่กานพลูที่ให้ความปร่าแบบสมดุลย์กำลังดีเคล้ากับกลิ่นเขียวสมุนไพรที่ไม่ได้แย่งซีนกลิ่นโทน Musky ในบางวูบจะได้อารมณ์เขียวกึ่งกุหลาบอ่อนๆ ที่คลอไปอย่างลงตัวเสียด้วย ทำให้ช่วงกลางจะได้ความรู้สึกเป็นกลิ่นแนว Herbal Musky ที่ให้ความเป็นน้ำหอมกลิ่นนุ่มปร่ากำลังดีไปเรื่อยๆ จนเมื่อกลิ่นโทนสมุนไพรเริ่มค่อยๆ จางไป การเข้าสู่ Base Notes ของน้ำหอมก็จะมีความมินิมัลกันอย่างชัดเจนพอสมควรกับการเป็นกลิ่น White Musk ที่ให้อารมณ์แป้งหอมนวลละมุน ในเนื้อกลิ่นจะยังมีโทนสมุนไพรอ่อนๆ สนับสนุนให้รู้สึกได้ กลิ่นจะให้ความนุ่มนวลอวลกำลังดีแอบอบอุ่นเสียด้วย รวมถึงมีความสะอาดสะอ้านนุ่มจมูกแบบที่ยังไงก็รอดสูงมาก โดยไม่ได้มีกลิ่นติด Animalic สาบ Musk ที่เข้มข้นแต่อย่างใด ให้ความหอมเจือนวลแกมหวานมีเสน่ห์แบบเรียบง่ายแต่เอาอยู่แบบที่พึงใจได้กันยาวๆ ประมาณนั้นเลย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานได้สบายมาก กลิ่นจะไม่ได้มาสาย Citrus สดชื่นจ๋าๆ แต่ยังไงก็รอดในการเป็นกลิ่นนุ่มหอมติดหวานนวลสบายๆ โดยมีพื้นฐานที่ควมสะอาดและสว่างขาวเป็นที่ตั้ง กลิ่นเลยเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป หรือจะใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งก็สามารถ แต่ถ้าใส่ออกกำลังกายแนะนำรอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่สบายๆ ชิลล์ๆ โรแมนติค หรือจะใส่ออกงานก็ได้ เพราะกลิ่นมาสายปลอดภัยและยังไงก็รอดสูงมาก แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรี ก็โดนกลบไปเลยจ้า

ความทน - เป็น Eau de Cologne ที่มีความทนมากเกินคาด เพราะสิ่งที่เจอ 12 ชม. กลิ่นยังคงอยู่และไปต่อถึง 15 ชม. ก็เจอมาแล้ว ซึ่งถ้าตีที่ค่าเฉลี่ยกับสภาพผิวก็อยู่ที่ราวๆ 6 - 8 ชม. ได้สบายมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น ก่อนที่จะลดลงมาปานกลาง แล้วค่อยๆ เป็นออร่าหอมนุ่มนวลมีเสน่ห์แบบเรียบง่ายแต่เอาอยู่และเรียกแขกได้ไม่ยาก โดยพอผ่านไปซัก 6 - 8 ชม. ตามสภาพอากาศ กลิ่นก็จะค่อยๆ ลงมาติดผิว และยาวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปตามแต่ละผู้ใช้ 

สรุป - #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ในการเป็นน้ำหอมกลิ่นอายโทนนุ่มนวลหอมละมุนที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ แบบที่จับเข้าทีมเดียวกับสาย CK Be หรือ The Body Shop - White Musk for Men ได้เลย แต่สิ่งที่ประทับใจกว่าก็คือ กลิ่นนี้ให้ความภูมิฐานและเป็นโทนผู้ชายสายอบอุ่นสว่างและ Nice แบบที่ยังไงก็ได้รับคำชมและรอดสูงมากจริงๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นโทน Musk ที่ทำออกมาได้ดีมีคุณภาพเกินราคา (แบบตีเป็นเงินไทยไม่ถึงพัน) ได้อย่างงามๆ เลยทีเดียว

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.amazon.com/White-Musk-Jovan-Cologne-Spray/dp/B00A3T9SYW

 

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Review: Jovan - Silky Rose

Jovan - Silky Rose

เมื่อได้ผ่านการเล่ากลิ่น 2 ใน 3 ของฝั่งไลน์ Limited ของแบรนด์ราคาย่อมเยาว์และคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างJovan มาก่อนหน้านี้แล้วไม่ว่าจะเป็น Secret Amber และ Intense Oud ก็เหลือรุ่นสุดท้ายของไลน์นี้กับการนำเสนอด้วยชื่อรุ่นที่บอกเล่าถึงกุหลาบที่นุ่มนวลอย่าง Silky Rose เช่นนั้นมาถึงขนาดนี้แล้วก็ต้องเอาให้ครบทั้ง 3 ตัว เช่นนั้นก็ว่ากันที่กลิ่นนี้เลยว่าจะนำเสนอความนุ่มนวล
ออกมาในรูปแบบไหน 

เปิดตัวได้อึ้งพอสมควร เพราะพอดมกลิ่นแล้วขั้นไปมองชื่อรุ่นทันที เพราะว่ากลิ่นที่ฟุ้งกระจายออกมาเป็นโทนเบอร์รี่สีแดงออกทางไซรัปติดเปรี้ยวเจือหวานปลายอย่างเรดเคอแรนท์ เจือกับความเป็นกุหลาบที่ติดโทนเครื่องเทศปร่านวลอ่อนๆ และมีกลิ่นพิมเสนเย้าเสริมให้กลิ่นมีความอวลขึ้น กลิ่นจะผสมผสานกันได้ความรู้สึกในลักษณะคล้ายไซรัปหรือลูกอมเบอร์รี่เจือกุหลาบเปรี้ยวๆ แหลมๆ เม็ดสีแดงเด่นมาเลย ซึ่งความนุ่มนวลยังไม่ได้โผล่ออกมาแต่อย่างใด แต่ก็ให้ความเปรี้ยวหอมอวลแบบมั่นใจที่ไม่ได้ออกทางลั่นล้าเบอร์รี่วัยรุ่นจ๋าอะไรนัก แล้วกลิ่นจะเริ่มมีความหอมโทนดอกไม้ขาวเสริมเข้ามามากขึ้นตามลำดับจนนำเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นกุหลาบจะเริ่มชัดขึ้น เพียงแต่จะออกแนวเป็นตัวสนับสนุนเสียมาก ไม่ได้กลิ่นโดดเด่นออกมากลบชาวบ้านแต่ประการใด ให้ความเป็นกุหลาบนวลติดสะอาดมีความหวานกำลังดีเสียมาก แต่สิ่งที่เด่นขึ้นมาเป็นตัวเอกในช่วงกลางตีคู่กับโทนเบอร์รี่และพิมเสนที่ตามมาจากช่วงต้นเต็มๆ คือ ดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลาย (Orange Blossom) ซึ่งกลิ่นจะให้ความนวลสะอาด ทำให้กลิ่นในช่วงนี้จะได้ความเป็นไซรัปเบอร์รี่ที่ผ่อนตัวลงมาผสมผสานกับกลิ่นดอกส้มนวลทำให้ได้ความเปรี้ยวปนสะอาดนวลๆ อวลพิมเสนอ่อนๆ แฝงกลิ่นกุหลาบที่เนียนให้ความรู้สึกออกทางสีแดงอมชมพูไปเรื่อยๆ ซึ่งช่วงนี้เริ่มจะเข้าทางตามชื่อรุ่นแล้วว่าเป็น Silky Rose เพียงแต่เพราะยังมีโทนกลิ่นออกทางเปรี้ยวเบอร์เจือดอกส้มอยู่เลยจะยังไม่ได้สุดมากนัก 

เมื่อผ่านไปพอสมควร ความเป็นลายเซ็นของ Jovan เริ่มชัดขึ้นตามลำดับกับการเป็นกลิ่นโทน Musky ที่เริ่มให้ความนวลสะอาดปนอบอุ่น ก็เป็นการนำเข้าสู่ช่วงท้ายที่เป็นลักษณะกลิ่นอายแบบ Jovan สาย Musk เลย เพียงแต่จะมีกลิ่นของดอกส้ม พิมเสน และกุหลาบที่ยังคงตามมาผสมผสานในช่วงนี้ โดยที่กลิ่นโทนเบอร์รี่จะเบาลงไปเหลือเพียงบางๆ ให้พอรู้สึกถึงโทนกลิ่นที่เป็นโทนออกทางสีแดงอยู่ ความเปรี้ยวจางไป ให้เป็นกลิ่นอายสะอาดๆ เรื่อๆ ปนอบอุ่น โดยมีความเป็นโทนสมุนไพรหน่อยๆ เคล้ากุหลาบอ่อนๆ สะอาดๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายไปจากผิว ซึ่งตอนนี้แหละที่ได้ความรู้สึกสมชื่อรุ่นได้ชัดเจนมากขึ้นเพราะกลิ่นมีความนุ่มนวลเจือกุหลาบกำลังดีเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - แบรนด์ลงกลิ่นนี้ไว้ว่า Unisex ซึ่งได้อยู่ แต่จะค่อนไปทางฝ่ายผู้หญิงมากกว่าราวๆ 65-70% ได้ แต่ยังไงผู้ชายก็ยังใส่ได้อยู่ถ้าไม่ใส่ใจกลิ่นโทนเบอร์รี่ตอนต้นที่ดูออกแนวแหลมๆ เปรี้ยวๆ อวลๆ ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทั่วไปหรือใส่ทำงาน เพียงแต่กลิ่นอาจจะไม่ได้เข้าทางโซนทางการมากเท่าไหร่ และไม่เข้ากับการใส่เพื่อออกกำลังกายแต่อย่างใด ส่วนยามค่ำคืนเอาจริงๆ กลิ่นนี้ใส่ไปท่องราตรีได้เลย เพียงแต่ไม่ได้ไปสายลั่นล้ามากนัก ให้ความเป็นเบอร์รี่ที่เปรี้ยวมั่นเสียมากกว่า 

ความทน - ราวๆ 6 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบบ้างราวๆ 1 - 2 ชม. แต่ก็ถือว่าดีงามมากเลยกับการ EDC ที่ทนไม่น้อยเลย เพราะส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. สบายๆ กับการใช้ที่ 6 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ซึ่งจะช่วงแรกจะเปรี้ยวแหลมปลายหวานไม่ได้ธรรมชาติแบบโทนเบอร์รี่แท้ๆ นักออกทางไซรัปเสียมากก็จริง แต่จะลดการกระจายมาเป็นปานกลาง แล้วค่อยมาเป็นออร่ารอบๆตัวเบาๆ ในช่วงท้าย พ้นซัก 5 - 6 ชม. ไปแล้วจะเป็น Skin Scent 

ทิ้งท้าย - ถ้าถามหาความเป็นธรรมชาติของกลิ่นบอกได้เลยว่าไม่มี แต่ถ้าถามถึงความหอมอันนี้มีแน่นอน และช่วงท้ายกลิ่นให้ความสบายๆ เจือกุหลาบได้ดีจริงๆ ซึ่งเอาจริงๆ กลิ่นที่ออกมาดีและทนน่าสนใจขนาดนี้ คำว่าคุ้มอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องบอกว่า คุ้มมากสิ ถึงจะเข้าทาง

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ” 

Photo Credithttp://shopping.rediff.com/product/jovan-silky-rose-cologne-spray-3-0-oz-88-ml-by-coty/12464476



วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Review: Jovan - Tropical Musk for Men

Jovan - Tropical Musk for Men 

บางครั้งก็นึกในใจมาเสมอว่าตั้งแต่ความเป็น Creed Aventus นั้นฟีเว่อร์ไปทั่วโลก ทำให้ Note กลิ่นสับปะรดที่เด่นๆ ในนั้น กลายเป็นกลิ่นอายที่หลายๆ แบรนด์ต้องเอามานำเสนอ ทั้งจะเหมือนแบบ Copy & Develop หรือว่า Reserch & Develop ก็ว่าไป จนเมื่อมาเห็นว่า Jovan เองก็มีกลิ่นอายที่เอาความเป็นสับปะรดมาแจมกับเขาด้วยกับน้ำหอมรุ่นใหม่ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2017 ก็อยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าจะทำออกมาในลักษณะไหน และคง Concept เดิมคือ ของถูกแต่ดี คุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายหรือไม่ เช่นนั้นได้เวลาเล่ากลิ่นนี้กันซักหน่อยแล้ว 

Tropical Musk for Men เปิดตัวมาแบบที่มีลายเซ็นของความเป็น Jovan กันอย่างชัดเจน กับกลิ่นอายที่รองพื้นด้วยความเป็นโทน Musky ผสมผสานกับความเป็นโทนติดสมุนไพรสายเผ็ดปร่าๆ กลิ่นโปร่งๆ ซึ่ง Musk เป็นกลิ่นที่อยู่ยาวไปตั่้งแต่ต้นยันจบเพียงแต่ว่าจะไม่ได้ถึงกับเด่นเด้งออกมามากนัก ออกแนวเป็นกลิ่นสายสนับสนุนดีเด่นแบบยาวไปให้ความเป็น Jovan ได้ดีในแต่ละช่วงโทนกลิ่นชัดเจนมาก โดยเริ่มที่ Top Notes กับการเอาสับปะรดเคล้าความเป็นสมุนไพรของกลิ่นโสมที่ได้อารมณ์แบบกลิ่นปร่าหอมออกทางยาสมุนไพรแห้งแบบแมนๆ ที่วูบเข้ามา แต่จะไม่ได้มาแบบใสๆ สดชื่นลั่นล้าเลย เพราะเนื้อกลิ่นมีความอุ่นชัดเจนมากมีความครีมมี่นวลๆ ของกลิ่น Tonka Bean ที่เปิดตัวแบบสายดันมาแบบรองพื้นตีคู่กับ Musk กลิ่นเลยจะมีความรู้สึกในบางวูบแบบที่มาในแนวๆ เวลาเราได้กลิ่นสเปรย์ดับกลิ่นกายผู้ชายในท้องตลาดที่กลิ่นออกทางนวลแน่นๆ แมนๆ หรืออาจจะรู้สึกถึงความแมนอุ่นนวล คล้ายๆ ความเป็นสาย Armani Code เจือความเป็นผลไม้แนวๆ Code ผสมกับ Code Profumo ก็ย่อมได้ ซึ่งจะอิงตามประสบการณ์ของคนใช้ด้วยส่วนหนึ่ง จนเมื่อเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นจะเริ่มชัดเจนกับการเป็นกลิ่นอายหลักของแบรนด์นั่นคือ Musk จะเด่นออกมาแบบบอบอุ่นปนหวานครีมมี่ของ Tonka Bean ที่มีสมุนไพรปร่าเผ็ดแห้งปนความเป็นเผ็ดนุ่มแมนๆ ของโสมและเซจ เจือความเป็นผลไม้จางๆ ในเนื้อกลิ่นของสับปะรดให้จับต้องได้ เรียกว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวเป็นกลิ่นโทนอบอุ่นที่มีมิติของความนวล ความแมน ความหวาน และความเย้ายวนกำลังดี ซึ่งกลิ่นจะเดินทางเป็นโทนนี้ยาวไปจนเมื่อเริ่มจับต้องได้ถึงความเป็นไม้หอมนวลๆ ที่เสริมเข้ามาเรื่อยๆ โทนกลิ่นเริ่มอุ่นนวลมากขึ้น ก็เป็นการเข้าสู่ Base Notes กันอย่างชัดเจน โดยกลิ่นจะให้ความอุ่นครีมมี่เคล้ากลิ่นไม้หอมนวลๆ เจือหวานกำลังดี ซึ่งความเป็น Tonka Bean แบบที่เจือไม้หอมจะชัดเจน กลิ่นโทนผลไม้จะหายไป โดยที่กลิ่นก็มีความนุ่มอยู่ให้พอรู้สึกได้จากโทน Musky ที่ตามมาจากช่วงกลางคงความเป็นกลิ่นอายแนว Jovan อยู่ ภาพรวมในช่วงท้าย กลิ่นจะมีความแมนอบอุ่นแบบเข้าถึงได้ไม่ยาก และไม่อบอวลจัดๆ เกินไป ได้ความรู้สึกยังไงก็รอดทางด้านกลิ่นในโทนอบอุ่นแมนๆ นั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็ใส่ได้แล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้มาสายสดชื่นเป็นหลัก เพราะกลิ่นมาสายอบอุ่น ซึ่งถ้าใครชอบกลิ่นแนวแมนอุ่นๆ ไพล่ไปทาง Bad Boy นัวๆ อวลๆ น่าจะใช้ตัวนี้ได้สบายเลย และตัวนี้ไม่หนักหน่วงเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือว่าทั่วๆ ไป อาจจะข้ามเรื่องการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งแบบหนักๆ หรือว่าออกกำลังกายจะดีกว่า เดี๋ยวอึดอัดเพราะกลิ่นอบอุ่นไปไม่ได้กับการออกกำลังกายที่ร่างกายต้องการออกซิเจนด้วย เดี๋ยวอึดอัดตาย ส่วนยามค่ำคืนเรียกว่าใส่ไปเถอะรอดด้านกลิ่นได้สบายมาก เพียงแต่อาจจะเน้นไม่ได้ไปเพื่อเย้ายวนใคร เน้นให้เรามีกลิ่นนัวๆ อวลๆ เบาๆ เอาตัวรอดได้ก็ถือว่าลงตัวได้ไม่น้อย 

ความทน - เป็น Eau de Cologne หรือ EDC ก็จริง แต่ความทนเทียบเท่า EDT เพราะทำได้ดีในเรื่องนี้มากจริงๆ กับราวๆ 8 ชม. ที่กลิ่นทำหน้าที่ได้ดีอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีบวกลบบ้าง แต่ก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มในด้านความทนอยู่ดี 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงแรก เรียกว่าอาจจะอึ้งกันหน่อย แต่พอเข้าช่วงกลางจะลดลงไปเป็นกระจายปานกลางซักระยะ และจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว พอผ่านไปซัก 6 ชม. Skin Scent ก็จะมาแทนที่แบบยาวไป

ทิ้งท้าย - ยังคงคุมโทนของถูกแต่ราคาไม่เกินเอื้อม แถมคุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายได้ไม่มีผิดเพี้ยน ที่สำคัญกลิ่นแม้จะมีลูกผสมที่อาจจะไพล่ไปทางแนวๆ สเปรย์ดับกลิ่นอายโทนอุ่น หรือไปที่โทนใกล้เคียงสาย Armani Code อยู่บ้าง แต่ยังมีลายเซ็นที่ชัดเจนของแบรนด์เสมอ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - FragranceX 
--> https://img.fragrancex.com/images/products/parent/medium/75641m.jpg

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

Review: Jovan - Ginseng N.R.G

Jovan - Ginseng N.R.G 

ของถูกแต่ดีในโลกน้ำหอมน่ะมีจริง และยืนยงมาจนทุกวันนี้มาเสมอเสียด้วยแบบไม่ต้องโฉ่งฉ่างแต่ก็สร้างเซอร์ไพร์สได้เลยทีเดียวกับ Jovan แบรนด์ที่น้ำหอมราคาไม่แพงเลย แต่กลิ่นทำออกมาได้เกินราคาและคุ้มค่ามากเลยทีเดียว แต่แปลกมีอยู่รุ่นหนึ่งที่ราคาแอบโดดไปหน่อย ถ้าเทียบกับรุ่นโซน Musk หรือสาย Arabian แถมมากับขนาดเดียวเสียด้วยนั่นคือ 30 ml เช่นนั้นไหนๆ อยากรู้ว่ากลิ่นนี
้เป็นยังไง จัดมาเลยซึ่งก็ทำให้รู้ว่า 

Ginseng N.R.G ทำกลิ่นออกมาได้ลงตัวมากในแง่ของการเป็นกลิ่นอายสะอาดๆ มีกลิ่น Spicy สมุนไพร โดยเป็นการผสมผสานกันได้ดีมากระหว่างความเป็นชากับขิงที่ให้ความขมปน Spicy ติดหวานสะอาด กลิ่นออกทาง Ginseng หรือโสมได้ในวูบแรกๆ เลยทีเดียว และมีกลิ่นอายติดเขียวค่อนทางสมุนไพรให้อารมณ์แบบน้ำหอมยุค 90 ที่เริ่มเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างโทนสดชื่น Citrus คลาสสิคสมุนไพรกับโทนสดชื่นติดนุ่มแบบร่วมสมัยได้พอดีมาก เพียงแต่อาจจะไม่ได้ถึงกับกลิ่นอายธรรมชาติจ๋า แต่ก็ทำให้นึกถึงบรรยากาศที่มีกลิ่นโสมกับความสะอาดโปร่งปร่าๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งกลิ่นนี้จะไปผสมผสานกับช่วงกลางที่จะมีกลิ่นดอกไม้อย่างมะลิเบาๆ และมีกลิ่นของเจอราเนียมที่ให้ความรู้สึกแบบกุหลาบติดค่อนไปทางสดชื่นติดเขียวมินต์หน่อยๆ และมีความนุ่มนวลๆ แห้งๆ ของ Musk ที่เริ่มเป็นลายเซ็นของแบรนด์เข้ามา และมีความครีมมี่แห้งๆ ของถั่วตองก้าให้รู้สึกได้นวลๆ ในความเป็นกลิ่นอายติดปร่าสมุนไพรของความเป็นชาที่ติดกลิ่นโสมให้รู้สึกถึงกลิ่นสุภาพบุรุษสะอาดๆ ไม่ได้ประดิษฐ์มาก มีความร่วมสมัยได้ดีเลยทีเดียว และ Musk นี่แหละที่จะกลายเป็นตัวเอกหลักในช่วงท้ายกับการเป็นกลิ่นอายนุ่มนวลสะอาดไปตลอด โดยมีกลิ่นไม้หอมสว่างๆ นวลๆ กับกลิ่นอายสมุนไพรที่ลดระดับตัวเองให้เหลือเบาบาง เนื้อกลิ่นมีความอบอุ่นนวลๆ กำลังดีจากแอมเบอร์นิดๆ ให้จับต้องได้ กลิ่นเลยจะยังคงอารมณ์แบบผู้ชายสะอาดสะอ้านนุ่มๆ ติดปร่าๆ นวลออกทางสบายๆ ก็จริง แต่ก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ในกลิ่นในทีไปตลอด เรียกว่าทำออกมาได้น่าสนใจและเกินคาดมากอีกแล้วกับ Jovan 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปที่ต้องการสร้างออร่าร่วมสมัยอยู่ระหว่างความเป็นสุภาพบุรุษคลาสสิคและสุภาพบุรุษสะอาดนุ่มๆ แบบยุคปัจจุบัน กลิ่นลงตัวมากในลักษณะนี้ และเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ออกกำลังกายก็สามารถ มันครอบจักรวาลการใช้งานสุดๆ เพราะมีความสะอาดเป็นที่ตั้ง ส่วนยามค่ำคืนจะใส่แบบทั่วๆ ไปก็สามารถ ออกงานก็ยังได้ เพียงแต่อาจจะไม่เน้นปล่อยพลัง และไม่เน้นสู้กับใครให้มากความก็เท่านั้นเอง เช่นนั้น ง่ายๆ ไม่ควรใส่ไปท่องราตรีนั่นแล 

ความทน - เป็น Eau de Cologne ที่ทนเกินคาดมากกว่าที่คิดเลย กับราวๆ 6 - 8 ชม. ซึ่งจะอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วย รวมถึงเคมีบางส่วนด้วย ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังติดผิวอ่อนๆ อยู่เลย เยี่ยมจริงๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนแรก แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวแล้วเป็น Skin Scent ในเวลาต่อมา เข้าทางการเป็น Safe Scent ชัดเจน 

ทิ้งท้าย - กลิ่นชากับขิงผสมผสานกันได้จนกลิ่นอายคล้ายโสมนี่ยังไม่พอ กลิ่นนี้สร้างอารมณ์ให้นึกถึงร้านขายยาที่โปร่งๆ สะอาดๆ บางมุมก็ไพล่ไปกลิ่นโรงพยาบาลสะอาดๆ แบบที่ปลื้มกลิ่นแบบนี้เป็นการส่วนตัวมากเลย เช่นนั้น กดเลิฟกลิ่นนี้ทันทีไม่มีข้อแม้ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit by https://ssli.ebayimg.com/.../g/8EQAAOSwImRYQOcL/s-l640.jpg

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Review: Jovan – Sex Appeal

Jovan – Sex Appeal

พูดถึงน้ำหอมถูกแต่ดี Jovan หรือเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ เลยที่เรียกว่าคุ้มค่าเกินราคาไปมากกับน้ำหอมที่ทำออกมาได้ดีไม่ว่าจะกลิ่นอายแนวผู้ใหญ่หรือร่วมสมัย แถมไพล่ไปกลิ่นอายทางอาหรับยังทำออกมาได้เกินคาดมาก ในเมื่อผ่านกลิ่นอายร่วมสมัยและตะวันออกกลางมาหลายตัวแล้ว ก็ขอมาแตะกลิ่นแนว Classic ที่ยังไงก็รอดและยังไงก็เหนือกาลเวลาที่แบรนด์นี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร กับรุ่นนี้เลSex Appeal

เปิดตัวกับแรกฉีดด้วยกลิ่นอายเรียกว่า Green Spicy Bomb กันเลยทีเดียว เพราะกลิ่นในช่วงต้นนี้จะเป็นโทน Citrus แบบแห้งๆ ผสมผสานกับกลิ่นแนวเผ็ดปร่าสดชื่นกันเต็มๆ เนื้อกลิ่นมีความเป็นโทนน้ำหอมผู้ชาย Classic กันที่มีความเป็นกลิ่นอายแบบติดโทนดอกไม้ที่มีความเผ็ดซ่าๆ ของคาร์เนชั่นกลั้วกับความสะอาดนวลของลาเวนเดอร์ให้รู้สึกได้ สิ่งที่จับได้กันตั้งแต่ตอนนี้เลยคือกลิ่นอายของพิมเสนกับ Oak Moss ที่จะค่อยๆ เริ่มเด่นขึ้นมาทีละนิด เพียงไม่นานกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนโทนเข้าสู่ช่วงกลางที่เริ่มมีความนุ่มมากขึ้น ไม่เป็น Bomb ขนาดช่วงต้นแล้ว โดยที่พิมเสนจะเด่นออกมาตีคู่กับกลิ่นโทนดอกไม้ที่เป็นสายนวลติดเผ็ดหน่อยๆ แต่มีความเป็นโทนไม้หอมแห้งๆ รองพื้นไว้อยู่ให้รู้สึกได้ ซึ่งกลิ่นจะผสมผสานกันได้ความรู้สึกแบบดึงดูดแบบรื่นจมูกแนวพิมเสนแต่ออกทางย้อนยุค มีความแมนจากไม้หอม และนุ่มนวลติดปร่าแบบหอมสบายจมูกจากโทนดอกไม้นวลเผ็ด กลิ่นจะได้ความรู้สึกของผู้ชายแมนๆ ดึงดูดกำลังดีสไตล์น้ำหอมแบบสุภาพบุรุษคลาสสิค บางวูบจะไพล่เป็นกลิ่นหอมที่คล้ายน้ำอบไทยบางๆ เสียด้วย และกลิ่นของพิมเสนและโทนไม้หอมจะไปผสมผสานกับความอบอุ่นของแอมเบอร์ทำให้ได้กลิ่นอายไม้จันทน์หอมที่ติดอบอุ่นนวลๆ จะไปเด่นสุดในช่วงท้าย เคล้ากับกลิ่นติด Animalic นิดๆ แต่มีความนุ่มสะอาดของ Musk ที่แน่ๆ กลิ่นอายแบบ Oak Moss ที่ให้ความเขียวติดสากดิบจะแทรกเข้ามาในช่วงนี้ด้วยประมาณหนึ่ง กลิ่นเลยได้อารมณ์แบบสุภาพบุรุษ Classic ที่หอมเท่ห์ติดสากแมนเคล้าอบอุ่นกำลังดีไปตลอดนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะมาสายย้อนยุคหริือติดผู้ใหญ่ ไม่ได้ชูโรงที่ความเป็น Modern แต่ก็มีอยู่ในระดับหนึ่ง แต่อย่างน้อยความที่มันเป็นโทนผู้ชายติด Classic แบบนี้ยังไงก็รอดได้อยู่กับในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่าถ้าจะใส่เพื่อออกกำลังกายแนะนำให้รอช่วงท้ายๆ ดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นนี้ได้อารมณ์ผู้ชายที่แมนสมชายและเป็นสุภาพบุรุษสะอาดสะอ้านและอบอุ่นน่าอยู่ใกล้ไม่น้อย ที่สำคัญใส่ออกงานทางการยามกลางคืนหรือจิบทั่วๆ ไปก็ได้ด้วย เพียงแต่อาจจะไม่ได้มาสายเรียกแขกจ๋าๆ ปล่อยพลังอะไรก็เท่านั้นเอง 
ความทน - แม้จะลงเอาไว้ว่าเป็น Cologne แต่ความทนเรียกว่าเกินคาด เพราะอยู่ที่ 6 - 8 ชม. เป็นสำคัญ ที่สำคัญถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสมกลิ่นทนเกิน 8 ชม. ได้สบายๆ เพราะส่วนตัวเจอที่ 10 ชม. กับจำนวนสเปรย์ที่ 6 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อที่ด้านหน้าด้วย 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นเลย แล้วถึงค่อยลดลงมากระจายกลางๆ ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในต้นช่วงท้าย แล้วจะเป็น Skin Scent ชัดเจนแบบยาวไป 

ทิ้งท้าย - เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในความเหนือกาลเวลาที่ใช้ง่าย มีมาด สะอาดสะอ้าน และมีความภูมิฐานกำลังดีแบบที่ไม่จ๋าจัดจ้านมากเกินไปจนเอื้อมไม่ถึง สุดท้ายราคาถูกมากกกกก คุ้มค่าเงินที่เสียไปมากมาย

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Photo Credit by https://images-na.ssl-images-amazon.com/images/I/71oo-xBh86L._SL1300_.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Review: Jovan - Intense Oud

Jovan - Intense Oud 

ในกรณีที่ถ้ายังไม่ได้รู้จักน้ำหอมแนวตะวันออกกลางกันมาก่อน ส่วนใหญ่ที่เราจะได้เจอน้ำหอมกลิ่นแนว Oud หรือกฤษณามักจะเจอตามแบรนด์ Niche หรือ Designer Brand ปกติที่ขายตามเคาน์เตอร์ในราคาที่สูงกันเสียส่วนมาก แต่คราวนี้ Jovan แบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ราคาไม่แรงแต่ทำน้ำหอมออกมาได้น่าสนใจมากหันมาจับตลาดของกลิ่นนี้จะเป็นยังไง ต้องมาลองดมกันหน่อยแล้ว ผลออกมาคือ 

เป็นอีกหนึ่งกลิ่น Oud ที่ทำออกมาได้ลงตัวและน่าสนใจมาก กับการดึงเอาจุดเด่นของ Oud กุหลาบ และหญ้าฝรั่นออกมาผสมผสานกันได้คงคอนเซปท์ของการเป็นน้ำหอมที่มีความเป็นตะวันออกกลางผสมผสาน Modern กำลังดีเลยทีเดียว โดยเริ่อมจาก Top Notes ที่จะเป็นการเชิญชวนกันตั้งแต่แรกถึงกลิ่นหญ้าฝรั่นกลั้ว Oud โดยที่จะมีกลิ่นอายของกุหลาบมาเสริมแบบกำลังดีก่อน ล้อมกลิ่นกลิ่นที่ออกโทน Citrus แบบติดเปรี้ยวซึ่งมาจากกลิ่นตะไคร้ที่ไม่ได้โดดออกมาชัดเจนนัก ออกแนวเป็นตัวเสริมที่ดีให้กลิ่นช่วงนี้มีความอวลอย่างลงตัว ซึ่งกลิ่น Oud จะเป็นเหมือนตัวหลักที่จับต้องได้ตั้งแต่ตอนต้น จนถึงตอนท้ายๆ เลย เพียงแต่อาจจะไม่ได้มาแบบหนักหน่วงหรืออวลมากตามสไตล์ Oud แท้ๆ ที่ควรจะเป็นเพื่อไม่ให้ออกทางแขกจัดชัดเจนอะไรขนาดนั้น ซึ่งพอเข้า Middle Notes ก็ได้เวลาของกุหลาบที่จะกลายเป็นโต้โผใหญ่ในการเป็นตัวเด่นกลิ่นกุหลาบจะมาแบบติดแห้งนัวเพราะมี Oud เป็นตัวเสริมคู่กักบกลิ่นโทนคล้ายหนังอบอุ่น แถมด้วยหญ้าฝรั่นในตอนต้นก็ยังคงตามมาให้ความเข้มข้นของกลิ่นด้วยอยู่ ความเป็นกุหลาบนัวร์หอมอวลจะลดลงระดับลงให้ Oud และไม้จันทน์หอมเด่นขึ้นทำหน้าที่แทนใน Base Notes โดยที่ Oud จะยังคงความไม่อบอวลจัดจ้านเกินไปนัก เพราะมีความนุ่มของไม้จันทน์หอมมาเสริมให้กลิ่นมาในลักษณะนวลติดอวลกำลังดี มีกลิ่นพิมเสนจางๆ ให้พอรู้สึกได้ กลิ่นยังมีความอบอุ่นชัดเจนแบบเป็นออร่าออกมาเลย แบบที่ให้ความเป็นตะวันออกกลางแบบที่ตะวันตกหรือเอเชียอย่างเราๆ ก็เข้าถึงได้ไม่ยากนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นแนว Oud กุหลาบ เป็นอะไรที่กลางๆ มากพออยู่แล้วในการใช้งานของทุกเพศ ซึ่งจะเหมาะกับคนที่กำลังจะเรียนรู้น้ำหอมแนว Oud รวมถึงคนที่ผ่านน้ำหอมมาในระดับหนึ่งวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะงานทางการหรือทั่วๆ ไป แม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้มาสายอบอวลแน่นจัดจ้านมากนัก แต่ก็ยังไม่ควรที่จะใส่เพื่อออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งกลางแดดอะไรมากนัก เพราะมันจะทำให้ตีขึ้นจนจุกเอาได้กับสภาพอากาศบ้านเรา แถมชาวบ้านจะมองด้วยว่าเราเป็นลูกครึ่งแขกหรือเปล่า หน้าไม่ให้เลยยยยย ส่วนยามค่ำคืนสามารถจัดได้ตามสะดวกไม่ว่าจะท่องราตรีหรือจิบอะไรเบาๆ แม้กลิ่นจะออกตะวันออกกลางไปบ้าง แต่ก็ถือว่าหอมมีเอกลักษณ์อยู่ไม่น้อย

ความทน - ตรงๆ นี่คือ EDC แต่ กลิ่นทนจัดกว่า EDT หลายตัวมาก เพราะ 8 ชม. คือเรื่องปกติของน้ำหอมตัวนี้ แถมส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นรุมๆ แบบออร่ารอบๆ ตัวให้รู้สึกได้ตลอดเลยด้วยซ้ำไป 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบปานกลาง และปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัวอย่างชัดเจน 

ทิ้งท้าย - แม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้ออกแนว Luxury อะไรขนาดนั้น และถ้าไม่ได้ใส่ใจว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นแนวสังคราะห์ เอาจริงๆ กลิ่นนี้ ถือเป็นกลิ่นที่หอมไม่น้อยเป็น Oud แบบกำลังดีเลย อาจจะไม่ได้ Intense ตามชื่อนักเพราะจับตลาดคนที่ไม่ได้ใช้ Oud มาก่อนได้ด้วย ใส่ตัวนี้เดินนานามีแขกหันมองตามได้เลยนะว่า "ยูหอมมาก" ที่สำคัญเป็นกลิ่นเริ่มต้นได้เลยสำหรับคนที่จะเข้ามาใช้น้ำหอมโทนนี้ สุดท้ายราคาไม่แพงเลยจ้าาาาา จุดเด่นเขาอยู่ตรงนี้แหละครับ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ  http://www.beautyencounter.com/products/large/3607346222676.jpg

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

Review: Jovan - White Musk for Women

Jovan - White Musk for Women

ถือเป็นตัว Top อีกหนึ่งตัวของแบรนด์ Jovan เลยทีเดียวกับกลิ่นอายที่นำเด่นด้วยความนุ่มนวลของเนื้อกลิ่น แม้ว่าจะมาในลักษณะแบบ Cologne แต่กลิ่นเอาอยู่ได้มากเลยทีเดียว ที่สำคัญคนที่ชอบกลิ่นอายของแป้งเด็กหอมนวลตัวนี้จะทำให้ประทับใจอย่างมากเลยทีเดียวนั่นคือ White Musk for Women

เปิดตัวด้วยกลิ่นอายของ White Musk ที่จะเด่นเป็นสง่ามาเลย เพียงแต่จะได้ความสะอาดนุ่มผสมผสานกับความหวานจางๆ จากดอกไม้ขาวออกโทนใสๆ อย่างมะลิ และมีกลิ่นออกทางหวานๆ ของกระดังงามาเสริมให้รู้สึกได้ เรียกว่ากลิ่นมาทางสายผู้หญิงกันก่อนเลยทีเดียว ได้อารมณ์ออกทางแป้งหอมกำลังดี ซึ่งเพียงไม่นานจะเข้าสู่ช่วงกลางที่เริ่มมาสายแป้งเด็กติดแห้งๆ อย่างชัดเจน เพราะ White Musk จะยังคงอยู่ให้ความนุ่มสะอาดนวลๆ แต่จะได้ความหวานจากโทนดอกไม้ที่ให้ความเป็นแป้งเสริมเข้าไปอย่างดอกสายน้ำผึ้ง กลิ่นจะแป้งเด็กสบายๆ แห้งๆ อมหวานจางๆ ดอกไม้ได้อย่างลงตัว ได้อารมณ์คล้ายๆ แป้งจอห์นสันขวดขาวกำลังดีไปเรื่อยๆ จนเมื่อเข้าช่วงท้ายกลิ่นอายแป้งเด็กจะคงตัวแต่จะได้ความอบอุ่นของโทนไม้หอมเข้ามาเสริม มีกลิ่นอายวานิลลาเบาบางให้รู้สึกได้ กลิ่นเลยจะได้ออกทางแป้งติดผิวกายอบอุ่นอวลๆ ไปตลอด ภาพรวมจึงบอกได้เลยว่า กลิ่นนี้แป้งเด็กอมหวานจางๆ อย่างชัดเจน แถมได้ความรู้สึกนุ่มผ่อนคลายไปตลอดเสียด้วย

เหมาะสำหรับ แม้จะตราเอาไว้ว่าเป็นของผู้หญิง แต่เอาจริงๆ แล้วกลิ่น Unisex มาก เพราะกลิ่นแป้งเด็กเข้าได้กับทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว ช่วงแรกๆ อาจจะกลิ่นดอกไม้ชัดไปนิดนึงแต่พอผ่านไปได้ไม่นาน ผู้ชายจัดได้สบายๆ รับมือได้แถมหอมนุ่มเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ขอข้ามการใส่เพื่อออกกำลังกายเพราะกลิ่นโทนแป้งไม่เข้าทางกับเหงื่อนัก ส่วนยามค่ำคืนถือว่าจัดได้สบายๆ แบบทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเน้นไปเต้นยั่วให้หนำ กลิ่นนี้ถือว่าสู้ชาวบ้านไม่ได้ ชวนใส่เบาๆ ก่อนนอนให้หอมนุ่มๆ เผื่อคนข้างๆ (ถ้ามี) มาซุกจะดีกว่า

ความทน เพราะเป็น Cologne Concentrate ที่เทียบเท่า EDT เช่นนั้นราวๆ 6 – 8 ชม. ได้สบายแฮมากมาย ส่วนตัวจัดไป 6 สเปรย์ เกิน 10 ชม. แล้วกลิ่นยังอยู่ให้รับรู้ได้ ถือว่าดีงามมมม

การกระจาย กลิ่นกระจายกำลังดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงไปที่ออร่ารอบๆ ตัวแบบลากยาวไปตลอดจนถึงช่วงท้ายๆ ที่จะเป็น Skin Scent เรียกว่ามาสายปลอดภัยกันเต็มๆ

ทิ้งท้าย เดิมทีเคยเจอตัว White Musk แบบเพียวๆ ที่โดยเหงื่อแล้วจะรู้สึกออกทางเหม็นเปรี้ยวนิดๆ แต่ตัวนี้ไม่ใช่เลย เพราะความเป็นโทนดอกไม้มาเสริม เลยได้อารมณ์ที่ใช้ง่ายมาก แถมไม่รบกวนคนอื่นยังไงก็รอดสบายๆ ตามสไตล์ Safe Scent และความเป็นแป้งเด็กอมหวานจางๆ เช่นนั้นเอาไปเลย #ของดีเทคนิคไม่ต้อง

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Review: Jovan - Secret Amber

Jovan - Secret Amber 

ได้ยินชื่อ Jovan มานานมากกกกก เพราะเป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมที่ไม่แพงแถมกลิ่นยังมีของมากมายที่คุ้มแสนคุ้มเกินราคา แต่คลาดกันมาตลอด จนวันหนึ่งมีโอกาสได้ลองตัวที่เรียกว่า "หนึ่งในเพชรเม็ดงามเลยก็ว่าได้" เช่นนั้นมาดมเลยดีกว่ากับรุ่นนี้เลย Secret Amber

กลิ่นเปิดทำเอาตะลึงกันไปเลย นึกว่าน้ำหอม Niche กลิ่นดีๆ กลิ่นหนึ่งที่เอา Oud, Amber และวานิลลาเป็นตัวชูโรงเลยทีเดียว เพราะ Top Notes มีลักษณะที่เป็นเครื่องเทศโทนหวานเคล้าความเป็น Oud หรือกฤษณาที่ชัดเจนไม่น้อย แต่ไม่ได้ถึงกับมีความเป็นแขกตะวันออกกลางอะไรขนาดนั้่น ซึ่งเครื่องเทศในตอนต้นที่มาให้โทนหวานติด Spicy อย่างขิงและจันทน์เทศจะมาแบบแน่นกันพอสมควร กลิ่นมีความเป็น Amber อุ่นๆ เคล้าวานิลลาเป็นตัวซ้อนอยู่ข้างหลังเสริมความแน่นเข้าไป โดยที่เพียงไม่นานกลิ่นของอบเชยจะดันขึ้นมาไวมากนำเข้าสู้ความเป็นโทนหวานเย้าชัดเจนใน Middle Notes โดยที่จะมีกลิ่นกุหลาบมาแบบจางๆ มาเพิ่มความนวลของกลิ่นลงไป โดยที่กลิ่นเครื่องเทศในช่วงต้นและ Oud จะลดระดับลงมาผสมผสานให้กลิ่นช่วงนี้มีเสน่ห์แบบเย้ายวนนัวๆ อุ่นๆ ซึ่งความเป็น Amber กับวานิลลา ก็เริ่มขยับตัวเด่นมากขึ้นมากกว่าที่จะเป็นพื้นหลังให้เกิดความแน่นเพียงอย่างเดียวแบบตอนต้น จนเมื่อ Base Notes เข้ามาเยือนงานนี้ยกให้ Amber ที่จะเป็นชูโรงเคียงคู่กับวานิลลาที่จะเด่นในโทนอบอุ่นกันเต็มๆ กลิ่นจะมาอุ่นนัวนวลไปตลอด มีความสะอาดอย่าง Musk จางๆ ให้รู้สึกได้ ซึ่งภาพรวมเรียกว่าเป็นน้ำหอมเน้นความอบอุ่นกับความเย้ายวนมีเสน่ห์ ดึงความเป็น Oud ออกมาชูโรงให้ Amber มีความนวลอวลแบบไม่ได้แขกจ๋ามากจนเกินไปจนทำให้ได้เสน่ห์ในแบบที่มีของไม่น้อยจนเรียกว่านี่คือเพชรเม็ดงามตามที่กล่าวไว้ตอนต้นเลยทีเดีย 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นนี้แตะความเป็นทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป หรืทอคนที่ชอบน้ำหอมโทน Oud ที่ไม่ได้ออกทางแขกจ๋าจัดๆ นัก โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะกลิ่นมีความอบอุ่นเป็นพื้นฐานตามด้วยความหวานและความอวล กลิ่นเข้ากับงานทางการในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และใส่แบบทั่วๆ ไปก็สามารถ เพียงแต่งดใส่ออกกำลังกายและออกกลางแจ้งอย่างเด็ดขาด ไม่งั้นตีขึ้นหนำใจจนอึ้งเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นนี้ถือว่ามีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียวที่จะปล่อยของแบบอุ่นนัว 

ความทน - น่าพึงพอใจมากกับ 8 ชม. สบายๆ แถมกลิ่นทนได้มากกว่านั้นอีกด้วย ถ้าจำนวนสเปรย์พอเหมาะ โดยส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. สบายๆ กับ 5 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น อาจจะเรียกว่าทำให้ฉุนได้เลยทีเดียว แต่พอกลิ่นลดทอนความแรงลงความหวานอุ่นนวลกระจายปานกลางลงตัวจะมาแทนที่ลากยาวไปเรื่อยๆ จนถึงกลางๆ ช่วงท้าย ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวต่อเนื่องไป 

ทิ้งท้าย - ถ้าจะไม่ได้เห็นชื่อแบรนด์ก่อนหน้านี้ แทบจะเดาเลยว่าเป็นน้ำหอมตะวันออกกลางที่มีโทน Modern ผสมผสานระหว่างเสน่ห์ของ Oud และความอบอุ่นเย้ายวนของ Amber และวานิลลาได้ลงตัวมาก ซึ่งพอรู้ว่าเป็น Jovan เรียกว่ายอมและยกนิ้วให้เลย ทำออกมาได้เหนือความคาดหมายจริงๆ  

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://www.parfumery.com/pictures/large/3607346222577.jpg