แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Lady Gaga แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Lady Gaga แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

Review: Lady Gaga - Eau de Gaga 001


Lady Gaga - Eau de Gaga 001 

หลังจากปล่อย The Fame ออกมาให้เหล่า Little Monsters และคนที่ชอบน้ำหอมโทนหวานได้ฟินกับน้ำหอมสีดำกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีตัวที่ 2 ออกมาวางตลาดกันบ้างซึ่งคราวนี้ได้เวลาเอาใจทุกเพศกับความเป็น Unisex ที่ Gaga จะมาปล่อยของให้รู้ว่านางไม่ได้มีแค่ด้านที่หวานยั่วและดาร์กนะ นางมีด้านละมุนกับเขาด้วยกับรุ่นนี้เลย Eau de Gaga 001 

เปิดตัวกันด้วยกลิ่นอายของความเป็น Citrus ที่จะมาวูบนึงเลยกับการเป็นมะนาวและมะกรูด แล้วจะมีกลิ่นอายติดดทนนุ่มนนวลของชาและดอกไวโอเล็ตเสริมขึ้นมาเร็วมาก กลายเป็นกลิ่นสดชื่นเคล้าความนุ่มนวลจมูก นำเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่น Citrus จะยังเป็นส่วนผสมหลักที่ดังมีความเด่นอยู่ แต่กิ่นอายนุ่มนวลของดอกไวโอเล็ตและชาจะดันขึ้นมาเด่นควบคู่ โดยที่จะมีกลิ่นอายของใบไวโอเล็ตที่ให้ความเขียวนวลโปร่งๆ กลิ่นในช่วงนี้เลยผสมผสานกันออกมากลายเป็นกลิ่นอายของผงชาเขียวมัทฉะที่หอมละมุนติดความสดชื่นมากมาย กลิ่นจะได้อารมณ์ละเมียดละมุนท่ามกลางความเขียวหอมนุ่มอะโรม่าที่มาเต็มมาก ซึ่งกลิ่นจะมีความนุ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะมีความเป็น Animalic ให้พอรู้สึกได้จากกลิ่นอายของหนังที่จะดันขึ้นมาเรื่อยๆ จนนำเข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นหนังจะมาเป็นตัวเอกเด่นนำกลั้วความเป็นไม้หอมอบอุ่นกำลังดี กลิ่นจะมีความนวลๆ ของพิมเสนจางๆ โดยที่กลิ่นโทนชาเขียวมัทฉะละมุนจะลดระดับลงมาให้พอรู้สึกได้ในความอะโรม่าอยู่ ซึ่งภาพรวมถ้า The Fame คือการสื่อสารถึงความเป็น Gaga ในรูปแบบที่ผสมผสานความเป็นหวานฉ่ำแบบน้ำหอม Celeb ที่มีกิมมิคที่น้ำหอมสีดำติดดาร์กนิดๆ ให้ดูแตกต่าง Eau de Gaga 001 เลยจะได้อารมณ์ของความละเมียดเสียมากในแบบที่ Gaga ของ Jazz คู่กับ Tony Bennett นั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ตราเอาไว้ว่า Unisex แต่จริงๆ มีความแมนเสียแตะที่ 60% ได้เลย แต่ผู้หญิงก็ยังใส่ได้สบายๆ เพราะกลิ่นชาในช่วงกลางหอมละมุนควรให้ฟินในความอะโรม่าอยู่แล้ว ซึ่งเหมาะกับทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ได้หมดทั้งทางการและทั่วไป แต่ให้ข้ามเรื่องการออกกำลังกายออกไป เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายตั้งรับเหงื่อได้ดีมากขนาดนั้น ส่วนยามค่ำคืนถ้าเน้นใส่ออกงาน หรือดินเนอร์หรูๆ จิบเบาๆ อะไรแบบนี้จะเข้าทีมากกว่าใส่เพื่อไปเต้นเด้งหน้าเด้งหลังหาเหยื่อ เพราะกลิ่นจะเบาไป สู้ชาวบ้านเขาไม่ได้แน่ๆ ซึ่งถ้ายังอยากได้ความเป็น Gaga ไปสู้กับคนอื่น เพราะนางคือขุ่นแม่ ให้เลือก The Fame ไปประสานงาแทนจะดีกว่า

ความทน - น่าพึงพอใจมากกับประมาณ 8 ชม. ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้อิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคั 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายกลางๆ และปิดท้ายด้วยออร่ากึ่ง Skin Scent ลดหลั่นลงไปตามลำดับ

ทิ้งท้าย - ช่วงกลางของน้ำหอมตัวนี้คือความละมุนในแบบที่ไม่คิดจะได้เจอในความเป็น Lady Gaga มากๆ และที่สำคัญขวดรุ่นนี้งามงดจริงๆ เห็นครั้งแรกแบบว่า เอ๊ะ! ใช่แน่เหรอ ซึ่งถือว่าทำได้แตกต่างและมีความหรูหรามากขึ้นจริงๆ (ยกเว้นหัวฉีดยังคงก๊องแก๊งเช่นเดิม 5555) 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://img3.wikia.nocookie.net/__cb20140824092301/ladygaga/images/d/d9/Eau_de_Gaga_Promo_Poster_002.png

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Review: Lady Gaga - Fame


Lady Gaga - Fame 

ได้เวลาของ #ขุ่นแม่ กาก้า กับเขาซะทีหลังจากที่โด่งดังจนได้ฤกษ์ออกน้ำหอมกับเขามา โดยมีข่าวออกมาตั้งแต่แรกว่าจะทำกลิ่นให้ออกมาเป็นเลือดกับอสุจิ แต่ขอโทษนะจ้ะ ใครจะใส่ เดินไปไหนกลิ่นเลือดกับอสุจิคลุ้งนี่ ไม่ไหวนะ เช่นนั้นจึงได้พัฒนาออกมาเป็นทางอื่นที่บอกถึงความเป็น Gaga แทนจนได้ออกมาเป็น Fame กับน้ำหอมที่มีสีดำนั่นเอง

Fame ถือเป็นน้ำหอมที่ไม่อิงตามช่วงของกลิ่น 3 Steps เพราะอ้างอิงจากข่าวที่ระบุมาเขาใช้วิธีการ Push-Pull Technology ซึ่งจะทำให้แต่ละคนที่ใช้น้ำหอมจะได้กลิ่นแตกต่างกันไปตามแต่ละประสบการณ์ แต่เอาเข้าจริงๆ กลิ่นมันก็ไล่เรียงกันแบบลักษณะเดิมแหละครับ เพียงแต่โมเลกุลไหนเบาสุดก็ไปก่อน โมเลกุลไหนใหญ่สุดก็อยู่ให้เรารับรู้ได้นาน และอยู่ที่ประสบการณ์ของการรับรู้กลิ่นในแต่ละตัวบุคคลด้วยส่วนหนึ่งแหละนะว่ากลิ่นไหนจะเด่นในจมูกเรา ซึ่งสำหรับผมเปิดต้นกลิ่นออกมาด้วยกลิ่นโทนหวานกลั้วซิตรัสออกทางสีม่วงเข้ม และมีกลิ่นออกทางฉ่ำๆ ของแอปริคอต เลยทำให้กลิ่นในช่วงนี้จะมาแบบหวานออกทางขี้เล่นติดลึกลับจางๆ ซึ่งกลิ่นที่จะเด่นเด้งออกมาเลยคือน้ำผึ่้ง ซึ่งจะอยู่เด่นเป็นสง่าไปตลอดตั้งแต่ต้นยันจบ ผสานกับโทนกลิ่นในแต่ละช่วงเป็นลักษณะน้ำผึ้งที่แตกต่างกันไป โดยเมื่อผ่านไประยะหนึ่งโทนแป้งดอกไม้จะเริ่มขึ้นมาผสมผสานกับน้ำผึ้ง+ผลไม้ กลิ่นจะเป็นช่วงที่ให้ความรู้สึกโทนสีม่วงออกดำแบบนุ่มๆ ติดโทนแป้งหอม ซึ่งแน่นอนยังหวานอยู่ไม่หนีไปไหน จนผ่านไปหลายชั่วโมงกลิ่นของน้ำผึ้งได้จางลงมาเป็นพื้นหลังให้กลิ่นของธูปหอมและโทนแป้งดอกไม้ขึ้นมานำเด่นแทน แน่นอนมี Musk ในช่วงนี้ด้วย ซึ่งกลิ่นช่วงนี้จะออกทางดาร์กชัดเจน ให้อารมณ์ของความเย้ายวนติดสาปปลุกเร้ากลั้วกลิ่นแป้งดอกไม้หน่อยๆ โดยยืนพื้นที่กลิ่นโทนหวานที่ยังให้รู้สึกได้ไปเรื่อยๆ นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดคือ Fame กับการใช้งานของผมครับ

เหมาะสำหรับ - ตามที่น้ำหอมบอกเลยว่าเหมาะกับสาวๆ เพราะกลิ่นโทนหวานบอกความเป็นผู้หญิงกันชัดเลยทีเดียวกับโทนน้ำผึ้ง ผลไม้ และดอกไม้ เพียงแต่มาในโทนหวานดาร์กกึ่งดำกึ่งม่วงแทน ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันที่ไม่ได้ทางการเกินไปนัก แบบจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม ไม่งั้นหวานฉ่ำจุกคอหอยตายเอาได้ ยิ่งถ้าใส่ออกกำลังกาย งดไปได้เลย ฆ่าตายหมู่เอานะครับ ส่วนยามกลางคืน ถ้าได้อยากกลิ่นเย้ายวนและหวานแบบลึกลับหน่อยๆ ตัวนี้จัดได้สบายๆ เอาอยู่ได้เลยล่ะ ส่วนคุณผู้ชาย เอาเข้าจริงกลิ่นนี้มันหอมนะ แต่ผู้ชายหลายคนคงไม่ได้ปลื้มนัก แต่ยกเว้นถ้าเป็นสาวกของ Gaga แล้วปลื้มนาง ชอบกลิ่นแบบนาง อยากใส่ก็จัดไปครับ เกร๋ๆ

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ตลอ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น และจะลดลงมากระจายกลางๆ จนเป็นออร่ารอบๆ ตัว

ทิ้งท้าย - เอาเข้าจริง กลิ่นนี้มันบอกความเป็น Gaga ได้ในระดับหนึ่งนะครับ เพราะนางเองก็มุมหวานเต็มๆ ก็ได้ แรดก็ดี เก๋ก็ใช่ และมีความ Creative สูง เพียงแต่ว่ากลิ่นไม่ได้ออกทางเรียบหรูเท่าไหร่นัก ส่วนผมถือว่าเพียงพอกับตัวนี้ หันไปปลื้มตัว Unisex อย่าง Eau de Gaga แทนดีกว่า กลิ่นงามงดกว่าตัวนี้เยอะเลยล่ะครับ

Credit ภาพ: http://img3.wikia.nocookie.net/__cb20130116145013/ladygaga/images/e/e7/Lady_Gaga_Fame_Spreads_Censored_002.jpg