Review: Iceberg - Eau de Iceberg

Iceberg - Eau de Iceberg 

เป็นแบรนด์ Sport Fashion ก็จริงๆ แต่ต้องยกให้ Iceberg เขาเลยว่าน้ำหอมทำออกมาได้ดีและเนื้อกลิ่นงามสูสีกับแบรนด์ดังที่เด่นด้านน้ำหอมทั้งหลายมากมาย ที่สำคัญใส่ความเป็นอิตาลีลงไปในน้ำหอมอย่างแจ่มมาก เคยผ่านไปตัวนึงกับแบรนด์นี้ก็เลยต้องกับมาหาด้วยประการละฉะนี้อีกครั้งกับรุ่นที่น่าสนใจอย่างรุ่นนี้เลย Eau de Iceberg 

Top Notes เปิดตัวมาเต็มกับโทนซิตรัสติดคมหน่อยๆ สดชื่นกันเต็มๆ ขนมาเลยจ้าทั้งเกรฟฟรุต มะกรูด และเลมอน ได้ความรู้สึกแบบฟ้าใสและมาในโทนน้ำหอมซิตรัสแบบอิตาเลี่ยนได้ชัดเจนมาก ซึ่งกลิ่นโทนซิตรัสนี่แหละจะตามไปถึงท้ายๆ เลย โดยที่ Middle Notes ที่จะมีกลิ่นอายอบอุ่นเบาๆ ขึ้นมาของ Labdanum ที่จะให้โทนติดหนังจางๆ กลั้วกับหญ้าแฝกที่มาแบบติดฉ่ำออกทางวู้ดดี้นิดๆ กลิ่นช่วงนี้จะสะอาดนวลๆ ลดทอนโทนซิตรัสคมๆ ให้ลงมาแบบนุ่มจมูกมากขึ้น โดยจะมีโทนเขียวอ่อนๆ มาแซมได้อารมณ์แบบสดชื่นแกมอบอุ่นกันเต็มๆ ที่สำคัญมันมีระดับเสียด้วยซ้ำกับกลิ่นอายแบบไม่ต้องเยอะแต่เรียบหรูแบบนี้ แล้วเมื่อผันเข้าสู่ Base Notes จึงเปลี่ยนมาเป็นโทนอบอุ่นนุ่มจมูกอย่างชัดเจน เพราะ Musk จะมาแบบสะอาดๆ นวลๆ เย้ายวนเบาๆ นุ่มๆ มีกลิ่นอายอบอุ่นมี่เริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยที่โทนซิตรัสจะเหลือเพียงบางเบา โดยยังมีความสดชื่นอยู่ให้พอรู้สึกได้ ภาพรวมของน้ำหอมตัวนี้เลยเป็นกลิ่นอายที่บอกถึงการเปิดฟ้าใสสดชื่นยามเช้า ตามมาด้วยแสงแดดยามสาย และปิดท้ายด้วยอากาศอันอบอุ่นตลอดวันแบบนี้เลยล่ะ 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัย ม.ต้น ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว เพราะมันคาบเกี่ยวความเป็นน้ำหอมแบบ Sport ก็ได้ สดชื่นเรียบๆ แต่หรูหราก็ดี หรือสบายๆ ชิลล์ๆ ก็เหมาะ จึงทำให้ใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันทั้งงานทางการและไม่ทางการ กลิ่นออกทาง Safe Scent อย่างชัดเจนโดยที่ไม่ทิ้งความมีระดับในเนื้อกลิ่นแต่ประการใด แต่กลางคืนอย่าเลยจ้ากลิ่นเบาไปนะจ้าาาาาา

ความทน - อยู่ที่ 6 ชม. โดยประมาณ อาจจะน้อยหรือมากกว่านั้นอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ส่วนตัวลากไปได้ถึง 8 ชม. สบายๆ เพราะจัดไปที่ 8 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อด้านหน้าด้วย 

การกระจาย - ตามที่บอกไปก่อนหน้าว่าตัวนี้เป็น Safe Scent เช่นนั้นการกระจายเลยจะเน้นที่ความเป็น Skin Scent เสียส่วนใหญ่ เริ่มที่กระจายกลางๆ แล้วลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวปิดท้ายด้วยกลิ่นติดผิว ไม่รวบกวนใครและมหาชนมักจะชอบกลิ่นแบบนี้เพราะมันสดชิ่นแกมอบอุ่นเบาๆ นั่นเอง 

ทิ้งท้าย - กลิ่นดีกว่าที่คิดมาก เพราะตอนแรกนึกว่าจะ Sport สดชื่นทั่วไป ที่ไหนได้มาแนวหรูหราแบบน้ำตาอิตาเลี่ยนกันอย่างชัดเจน แถมใช้ง่ายมากเสียด้วย 

Credit ภาพ - http://fimgs.net/images/secundar/o.17217.jpg

Review: Iceberg - Twice pour Homme

Iceberg - Twice pour Homme

หนึ่งในแบรนด์ของอิตาลีที่เน้นเสื้อผ้าแฟชั่นทางด้านกีฬาเป็นหลัก แน่นอนว่าลงมาจับตลาดด้านน้ำหอมตั้งแต่ปี 1989 แล้วล่ะครับ ซึ่งต้องบอกกันตรงๆ ว่าแบรนด์นี้น้ำหอมราคาไม่แพงแบบที่คุณภาพไม่เป็น 2 รองใครมากเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรุ่น Twice pour Homme ที่เนื้อกลิ่นทำได้น่าประทับใจมากแบบนี้เลย 

Top Notes เปิดขึ้นมาก็สดชื่นแบบแน่นๆ เลยทีเดียว กับกลิ่นโทนซิตรัสกลั้วมิ้นท์ กลิ่นของส้มยูซุกับเลมอนที่จะมาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาก ยิ่งมีกลิ่นของมินท์ด้วยกลิ่นเลยจะออกทางคมแน่นไม่น้อย แต่ไม่ถึงกับเสียดจมูกจนรับไม่ไหว เพราะกลิ่นในช่วง Middle Notes จะดันขึ้นมาเร็วมาทีเดียว มาผสานกันจนกลายเป็นกลิ่นที่คาบเกี่ยวความเป็น Old School และความ Modern ได้อย่างลงตัวมาก เพราะกลิ่นของลาเวนเดอร์กับมะลิจะมาแบบนุ่มนวลๆ แอบนัวๆ ด้วยอบเชยและยี่หร่า มีโทนเขียวๆ สมุนไพรเข้ามาแซม โดยที่กลิ่นโทนมินท์ซิตรัสแน่นๆ จะยังคงอยู่ กลิ่นจะมาเต็มแน่นเลยทีเดียว แบบที่คนชอบน้ำหอมที่ปล่อยของด้านกลิ่นได้ดีจะหลงตัวนี้ได้ไม่ยาก จนปิดท้ายด้วย Base Notes งานนี้กลิ่นมะนาวจะโผล่ขึ้นมาแบบที่ไม่คิดว่ามันจะอยู่ในช่วงนี้ แต่จะมาในโทนของมะนาวติดหวาน มีกลิ่นของวานิลลามาประปรายให้รู้สึกอบอุ่น เสริมความแมนสะอาดด้วยกลิ่นโทนไม้หอมอย่างไม้จันทน์หอม ที่จะเด่นขึ้นมาตีคู่กับมะนาว แถมด้วยกลิ่นอาย Smoky แต่นุ่มจมูกไปตลอด ซึ่งยังคงความหอมแน่นแต่ออกทางโปร่งคาบเกี่ยวกับความร่วมสมัยได้ดีเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะค่อนข้างแน่นหน่อย ต้องจำกัดจำนวนสเปรย์ในการใช้งานสำหรับวันอากาศร้อนๆ แม้ว่ากลิ่นจะมาในโทนซิตรัสคมๆ สดชื่นก็ตามที ซึ่งสามารถใช้ได้แทบทุกสถานการณ์ทั้งยามกลางวันและกลางคืน ส่วนการใส่เพื่อออกกำลังกายรอช่วงท้ายจะดีที่สุดครับ

ความทน – มากกกกก กลิ่นติดทนจริงจังเกิน 8 ชม. สบายๆ เลย

การกระจาย – เนื้อกลิ่นมีความแน่นสูงมาก การกระจายจะดีมากตั้งแต่ต้นกับกลิ่นโทนสดชื่นแน่นคม และลดลงมากระจายดีในช่วงกลางแบบร่วมสมัยในเนื้อกลิ่น และปิดท้ายด้วยกระจายกลางๆ ค่อนไปทางออร่าอบอุ่นติดสดชื่นในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – ตรงๆ กลิ่นนี้ทำผมแปลกใจมาก เพราะราคามันไม่ได้แพง แต่คุณภาพเนื้อกลิ่นทำออกมาได้คุณภาพดีมากจริงๆ และส่วนตัวในช่วงท้ายๆ กลิ่นจะแอบคล้ายๆ CK Escape อยู่ไม่น้อย แต่ไม่ได้เย้ายวนขนาดนั้นเพราะมีความสดชื่นของมะนาวที่ออกโทนหวานนั่นเอง