แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Gucci แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Gucci แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Review: Gucci - Mémoire d'une Odeur

Gucci - Mémoire d'une Odeur

เมื่อเทรนด์ตลาดผู้ใช้น้ำหอมเริ่มเปลี่ยน และความเป็นอัตลักษณ์ทางกลิ่นที่เจาะจงกับเพศมันเริ่มเป็นเรื่องที่เริ่มเข้าสู่กระบวนการที่พร้อมจะล้าสมัย และเริ่มที่จะมีคำว่า Unisex ที่สามารถเข้ากันได้กับทั้งผู้ทุกเพศแบบที่มีความเป็นกลางๆ หรือสร้างโทนกลิ่นที่บ่งบอกถึงความทรงจำร่วมที่มีได้ทุกคน หรือจริงๆ มันอาจจะไม่ได้เข้าได้เป๊ะๆ แต่พอมา Mix & Match กับสไตล์การแต่งตัวหรือแฟชั่นแล้ว มันก็สร้างสไตล์ทางกลิ่นที่มีความ Unique และแตกต่างได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในสาย Niche Perfume เขามีมานานแล้ว แต่สาย Designer ก็มี CK1 เป็นตัวเปิดมานานแล้วเช่นกัน เพียงแต่มันยังไม่ได้เด่นชัดที่ตีคู่มากับเทรนด์แฟชั่นเท่ากับช่วงยุค 2020 ที่จะไปต่ออีกเรื่อยๆ นี้เท่าไหร่

และแน่นอนว่าเมื่อทุกอย่างเริ่มมีทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน Gucci ก็เป็นหนึ่งในสาย Designer ที่ลงมาจับตลาด Unisex โดยเน้นเอาเทรนด์ความเก๋ของแฟชั่นที่ผู้ชายที่มีความ Feminie มา หรือบางคนก็เอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาใส่ให้ดูเก๋ หรือผู้หญิงมีสไตล์สายเท่ห์ที่ชัดเจนมากขึ้น + กับการสร้างสรรค์กลิ่นที่อยู่ในความทรงจำร่วมของทุกเพศมาสู่การเปิดตัวน้ำหอมใหม่ในปี 2019 พร้อมกับการเอา Harry Styles นักร้องหนุ่มหล่อชื่อดัง ที่เป็นตัวเปิดเทรนด์การแฟชั่นแบบ Genderless มาเป็น Brand Ambassador ของน้ำหอมกลิ่นนี้ด้วย ซึ่งนั่นก็คือ Mémoire d'une Odeur

ช่วงเปิด - ถึงกับยิ้มออกมาเลยแม้ว่ากลิ่นจะมีความเข้มหวานที่มีความอวลนวลกึ่งแป้งซ้อนอยู่ ทำให้รู้สึกแอบคมไปและมีความเอียนไปนิดนึงเพราะเรายังไม่คุ้นชินกับกลิ่นก็จริง แต่ช่วงเปิดมันคือกลิ่นดอกคาโมมายด์ที่ให้ความหวานหอมระเรื่ออารมณ์แบบสมุนไพรเขียวค่อนแห้งติดหวานที่มีความเข้มชัดเขียว แต่ก็มีความเป็นโทนออกทาง Earthy ที่ให้โทนกลิ่นแบบติดดินอารมณ์พื้นดินที่มีดอกคาโมมายด์เยอะๆ เนียนๆ แฝงอยู่ อันนี้แหละคือโทนบรรยากาศล่ะ ซึ่งถ้ามีแค่นี้จะทื่อและดูเหมือนตรงตัวไป แต่เพราะการเอากลิ่นโทนครีมมี่กึ่งแป้งของอัลมอนด์ที่มีความหวานนวลอวลอยู่มาเสริม แกมมีกลิ่นหวานนวลคล้ายมะลิมาสอดรับเข้าไปอีก เลยทำให้อารมณ์กลิ่นมีความเป็นมนุษย์เข้าไปอยู่ในบรรยากาศนั้นๆ ด้วยจากกลิ่นอวลแป้งหอมหรือครีมมี่อะไรก็ตามที่ออกมา ซึ่งเพราะความชัดเจนและอวลหวานกึ่งแป้งของกลิ่นในช่วงต้นอาจจะทำให้ยังนึกภาพอะไรไม่ออกว่าจะไปในทิศทางไหน แต่ช่วงถัดไปนี่แหละจะชัดเจนเลยล่ะ

ช่วงกลาง - เมื่อความหวานแกมอวลกึ่งแป้งหอมค่อยๆ ลดทอนลงมา และเนื้อกลิ่นเริ่มมีความนุ่มมากขึ้น อารมณ์กลิ่นจะเริ่มชัดเจนถึงความเป็นสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่มีมนุษย์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของกลิ่นชัดเจน เพราะเนื้อกลิ่นจะมีเลเยอร์ที่ดูค่อนข้างจะเรียบง่าย คือ สมุนไพร ดอกไม้ และกลิ่นแป้งกึ่งนวล Musk แต่มันให้อารมณ์เรียบง่ายที่รื่นรมย์ เพราะกลิ่นสมุนไพรที่มีคาโมมายด์เป็นตัวหลักจะเด่นชัดอยู่ แต่จะให้ความหวานที่ระเรื่อมากขึ้น สอดรับกับกลิ่นเขียวออกทางหญ้าแห้งหน่อยๆ ที่ให้ความเป็นแนวสนามหญ้าหรือทุ่งหญ้าอ่อนๆ เข้ามาร่วมด้วย ซ้อนกับกลิ่นมะลิที่เป็นตัวเชื่อมโทนชัดเจน เพราะมีความหวานนวลกำลังดีในการเป็นดอกไม้ และหวานแกมอวลข้นเข้าโทนครีมมี่กึ่งแป้งของอัลมอนด์ อารมณ์แป้งกลิ่นดอกไม้แนวยุค 70 ให้รู้สึกได้ และคุมองค์รวมของกลิ่นทั้งหมดด้วย Musk ที่ให้ความละมุนๆ ภาพเลยออกมาเลย เออ นี่แหละตรง Concept มันคือกลิ่นแนวความทรงจำ เวลาที่เราได้กลิ่นแป้งหอมดอกไม้แกมโลชั่นหรือน้ำมันทาผิวนุ่มๆ เคล้ากับกลิ่นบรรยากาศกลางแจ้งแบบเรื่อยๆ กำลังดี มีความหวานหอมละมุน ใช่เลย แม้เกิดไม่ทันยุค 70 แต่เคยได้กลิ่นสมัยเด็กๆ ถึงแป้งหอมดอกไม้หรูๆ สมัยก่อนมันได้อารมณ์แบบนี้จริงๆ

ช่วงท้าย - เนื้อกลิ่นจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากช่วงกลางมากนัก แต่จะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายคล้ายโทน Earthy กึ่งแร่ธาตุแนวหินกึ่งทรายเบาๆ เข้ามาแทรกซึมกลิ่นประปราย และมีกลิ่นโทนไม้หอมติดครีมมี่ของจันทน์หอมที่ให้ความนวลและสีออกทางโทนนวลสว่างอารมณ์สีโทนแสงแดด แถมมีลูกเอื้อนอบอุ่นกึ่งแป้งของวานิลลาเสริมอยู่ ซึ่งสอดรับกับกลิ่น Musky ที่เป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นและมีกลิ่นไม้โปร่งๆ อ่อนๆ เบาๆ ประปรายด้วย เลยได้ลูกผสมกลิ่นที่เป็น Woody Musky แฝงแร่ธาตุที่มีโทนคาโมมายด์และแป้งมะลิอ่อนๆ สร้างความหวานเบาๆ ที่ Aromatic รื่นรมย์นวลๆ ฉาบหน้าอย่างสมดุลย์ให้ความเป็นโทนละมุนกึ่งครีมมี่สว่างๆ เรื่อยๆ มาเรียงๆ แบบกึ่งมินิมัลที่เป็นกลิ่นเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่เน้นเรียบง่ายแต่แฝงสไตล์ที่เป็นกิมมิคเก๋ๆ เนียนๆ แบบไม่จงใจ ถือว่าปิดท้ายในโทนร่วมสมัยและเรียบหรูแกมมีสไตล์รุ่มรวยที่ลงตัวเลยทีเดียว      

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนมาก แม้ช่วงเปิดเหมือนจะไปสายผู้หญิงหน่อย แต่ไม่นานพอเข้าช่วงกลางคือ Unisex เต็มตัวกันยาวๆ ไป เนื้อกลิ่นให้ความหอมนุ่มกรุ่นหวานที่ได้จากสมุนไพร จากดอกไม้ขาว แป้งนวล และจาก Musk ที่พอเหมาะกำลังดี เลยเข้าได้กับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ยกเว้นออกกำลังกาย ที่ถ้าจะใช้เพื่อการนี้ควรรอช่วงท้ายมากๆ ไปเลยจะดีที่สุด ส่วนที่เหลือจัดไป กลิ่นหอมนวลหวานโปร่งละมุนแกมเรียบหรูได้เลย ส่วนยามค่ำคืนอันนี้ใส่ทั่วๆ ไปหรือออกงานจะดีที่สุด เพราะเนื้อกลิ่นไม่ได้ไปสายไอสะขยี้ยูให้แหลกคึในยามค่ำคืนหรือท่องราตรีเลย

ความทน - อยู่ที่ราว 6 - 8 ชม. เป็นพื้นฐาน อิงตามสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ที่ใช้ แต่ถ้ากลิ่นเข้าทางและเข้ากับผิวคนที่ใช้ ความทนถือว่ายืดออกไปถึง 12 ชม. ก็เจอมาแล้ว แต่ยังไงพื้นฐานก็ถือว่าทนเข้าขั้นดีไม่น้อย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ออกจะติดเอียนๆ ไปกันราว 5 - 10 นาที แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางราวๆ 1 - 2 ชม. ก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปจนเมื่อผ่านไปซัก 6 ชม. ก็ Skin Scent แล้ว

สรุป - ต้องยอมรับเลยว่า เนื้อกลิ่นไม่ได้แฟชั่นจ๋านัก แค่ให้ความรู้สึกสอดรับกับเทรนด์ Genderless เสียมากกว่า แต่แกนหลักจริงๆ คือความทรงจำของกลิ่นที่มีความเป็นโทนร่วมสมัย โดยเอาความเป็นสาย Herbal แบบบรรยากาศปาร์ตี้กลางแจ้งชิลล์ๆ แนวผู้ดียุค 70 มาผนวกกับความเป็นกลิ่นอายกึ่งมินิมัลแกมกลิ่นโทนแร่ธาตุที่เป็นสไตล์ในปัจจุบันได้ดี ที่สำคัญนานๆ ทีจะได้กลิ่นน้ำหอมที่มีคาโมมายด์เด่นมากๆ แบบนี้ ซึ่งส่วนตัวพึงใจจริงๆ เพราะชอบกลิ่นนี้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับกันหน่อยว่า กลิ่นไม่ได้มาสายล้ำหรือว้าวนัก แต่มีดีในการเป็นหนึ่งในน้ำหอมสายความทรงจำหรือเข้าทาง Timeless ได้ไม่ยาก

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.gucci.com/us/en/pr/gifts/gifts-for-men/gucci-memoire-dune-odeur-100ml-eau-de-parfum-p-589186999990099

 

วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

Review: Gucci Rush for Men

Gucci Rush for Men 

ช่วงที่ Tom Ford ได้ทำงานกับ Gucci ในตำแหน่ง Creative Director นอกจากแฟชั่นที่กลายเป็นหนึ่งในยุคที่รุ่งโรจน์ของแบรนด์จากที่เกือบจะพังทลายไปแล้ว น้ำหอมเองก็มี Masterpiece ออกมามากมายและน่าจดจำเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Gucci pour Homme, Envy ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย, Accenti, Gucci EDP และขาดไปไม่ได้เลยนั่นคือ Gucci Rush ทั้งหลายที่ฝั่งผู้หญิงรุ่นนี้เรียกว่าอยู่ยงคงกะพันปล่อยพลังความ Sexy ได้ใจมากจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็ขอชื่นชม Tom Ford เลยที่ทำให้ Gucci เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ติดลมบนมาตลอดจนทุกวันนี้ 

แต่ก็น่าเสียดายมากที่ในสาย Gucci Rush มี 1 รุ่นที่เลิกผลิตไป และเป็นอีกหนึ่งใน Masterpiece ได้เลย อย่าง Gucci Rush for Men ที่เป็นหนึ่งในกลิ่นโทน Sandalwood หรือไม้จันทน์ฺหอมที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในโลก รวมถึงเป็นการเปิดศักราชการนำ Incense เข้ามาสู่น้ำหอมสาย Designer เสียด้วย เช่นนั้นก็ต้องมาบอกเล่าความดีงามของรุ่นนี้กันหน่อยว่าจะให้ลักษณะกลิ่นออกมาอย่างไรบ้าง 

เปิดตัวด้วยกลิ่นอายโทนไม้หอมโทนติดเขียวเจือกลิ่น Spicy แบบกลิ่นอายของเนื้อไม้สนปร่านวลหอมเคล้ากับลาเวนเดอร์ที่นุ่มจมูกเจือหวานนวลไพล่มาทางแป้งอ่อนๆ และยังมีกลิ่นอายคล้ายโทน Incense หรือธูปผงไม้โปร่งๆ สว่างๆ รองพื้นอยู่ด้านหลัง เนื้อกลิ่นจะมีความเป็นน้ำหอมผู้ชายติดไม้นวลปร่านุ่มที่หอมดึงดูดแบบโทนสว่างกันตั้งแต่เริ่มเลยทีเดียว แล้วพระเอกของงานอย่างไม้จันทน์หอมที่มาแบบนวลๆ ละมุนๆ ครีมมี่กำลังดีจะค่อยๆ แทรกขึ้นมาจนเข้าสู่ช่วงกลางที่โทนไม้จันทน์หอมจะให้ความนวลครีมมี่แบบสว่างละมุนๆ เป็นพื้นฐานคลอไปกลับโทน Incesne อ่อนๆ รื่นจมูกแบบกลิ่นเนื้อไม้สีขาวปนครีมและจะมีกลิ่นอายโทนไม้หอมติดปร่าของกลิ่นไม้สนในตอนแรกมาสนับสนุนพร้อมกับลาเวนเดอร์ให้ได้ความเป็นไม้หอมนวลครีมเจือความปร่านุ่มติดโทนแป้งหวานละมุนอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ โดยที่คุมโทนสว่างได้เป็นอย่างดี ไล่เรียงให้ความนวลเย้ายวนแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายที่จะสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงกลิ่นอายแบบครีมมี่ Incense นวลๆ มีกลิ่นอ้อยอิ่งดึงดูดระเรื่อๆ เจือหวานของพิมเสนที่โดนเกลากลิ่นมาจนกลมได้ที่ รองพื้นด้วยกลิ่นโทน Musky ที่ให้ความนุ่มสะอาดที่เป็นโทนกลิ่นที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันซ่อนความเย้ายวนนวลละมุนอย่างมีระดับในโทนกลิ่นสว่างครีมไปตลอด 

จากที่เล่ากลิ่นเหมือนจะออกไปทางกลิ่นอายไม้หอมนวลๆ สบายๆ อะโรม่า แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ซ่อนอยู่ในโทนกลิ่นแต่ละช่วงคือ จะให้ความรู้สึกแบบกลิ่นอายผิวกายผู้ชายสะอาดติดครีมมี่นวลปนแป้งไม้หอมนุ่มที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาเลย เพราะจะมีความนวลเย้าที่ให้ความรู้สึกน่ากอด น่าเข้าใกล้ น่าซุกซอกคอ น่ากองมันอยู่บนตัวดมกลิ่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มาก ไล่เรียงความเป็นโทนดึงดูด
เย้ายวน และเซ็กซี่ สมควรแล้วที่สามารถทำให้เกิดอาการ Rush (ความหมายในเชิงทางเพศ) กับคนที่ได้กลิ่นได้โดยง่ายแบบคุมโทนสว่างไปตลอดจนต้องยอมเขาเลย กลิ่นดีมากจริงๆ 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้สบายๆ เลย เพราะกลิ่นมีให้ความรู้สึกแบบผู้ชายตัวหอมนวลสว่างเย้ายวนไปตลอด แบบที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาในความรู้สึกจริงๆ ซึ่งถ้าไม่ได้มองในเรื่องความเย้ายวน กลิ่นนี้ก็สามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไปก็สามารถ จะมีเพียงการใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายที่ไมMatch นัก ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบทั่วๆ ไปหรือโรแมนติคจะเข้าทางมากกว่าใส่ไปท่องราตรีที่แม้กลิ่นจะสร้างความเย้ายวนก็จริง แต่มันไปสู้กับกลิ่นหวานเลี่ยนจัดเต็มได้ยากพอสมควร 

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 8 ชม. อาจจะมีบวกลบบ้างก็อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวเป็นสำคัญ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นที่มาถึงก็ดึงดูดกันก่อนเลย แล้วจะลดลงมาที่กระจายปานกลางซักระยะ ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปจนถึงช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - ไม่แปลกใจเลยที่มีแต่คนเรียกร้องให้รุ่นนี้ได้กลับมาผลิต และยอมรับในฝีมือของ Tom Ford อย่างยิ่งเลยที่เป็นหนึ่งในผู้ที่สร้างความเป็น Rush ของผู้ชายออกมา ยกดาวให้กลิ่นนี้ทั้งฟ้าเลย 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://myoriginal.com.ua/product/gucci-rush-for-men/

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

Review: Gucci – Accenti

Gucci – Accenti

ตรงๆ คือไม่รู้จักมาก่อนว่า Gucci มีน้ำหอมรุ่นนี้ เนื่องจากเป็นน้ำหอมผู้หญิงด้วยส่วนหนึ่ง แถมเลิกผลิตไปนานมากแล้วเลยไม่รู้ว่ากลิ่นออกมาในลักษณะไหน แต่ได้รับการแบ่งปันมาให้ลองจากกัลยาณมิตรในกลุ่มน้ำหอมด้วยกัน เลยได้รู้ว่ากลิ่นมีความดีงามมากกกกก จนอุทานออกมาว่าเลิกผลิตไปเพื่ออัลไล? เช่นนั้นมารู้จักกันกับรุ่นเทพตัวนึงของ Gucci ตัวนี้เลย Accenti

ต้องบอกกันก่อนว่า สิ่งที่ได้ลองเป็นแนววินเทจไปเรียบร้อยแล้วแน่นอน จึงจะ Review ในลักษณะที่เป็นวินเทจมากกว่าจะบอกตามโทนแต่ละขั้น ซึ่ง Top Notes เหลือเบาบางมากจนต้องพยายามหลายรอบมากในการจับกลิ่น ซึ่งพอจับได้ถึงกลิ่นโทนซิตรัสที่บางๆ ของส้มที่ยังมีอยู่ แต่จะกลายเป็นกลิ่นอายที่เด่นขึ้นมาเต็มที่ลากยาวตั้งแต่ต้นยันจบเลยคือ พีช เลยเป็นกลิ่นออกแนวพีชรองพื้นด้วยส้มและกลิ่นหอมหวานของราสเบอร์รี่ที่มาแจมกับเขาด้วยก็จริง แต่มีลูกคู่ตีขึ้นมาเคียงคู่กับโทนผลไม้นั่นคือ ดอกไม้ นั่นเอง โดยมะลิและกุหลาบจะมาแบบนวลจมูกออกทางแป้งหอมดอกไม้กลั้วผลไม้อย่างชัดเจน กลิ่นช่วงนี้จะบ่งบอกถึงการเป็นสาวที่สดใสก็ได้ ออกแนวนุ่มนวลก็ดี จนเมื่อผ่านไประยะนึงกลิ่นโทนดอกไม้จะบางลงให้กลิ่นวานิลลาติดแป้งเด่นขึ้นมาแทนที่ มีความครีมมี่กลั้วความหวานหอมของผลไม้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งที่เด่นขึ้นมาอีกอย่างนึงเต็มๆ เลยคือ กลิ่นไม้จันทน์หอม ที่มาตัดโทนผลไม้ไม่ให้ออกทางหวานจัดเกินไป เสริมความอบอุ่นกำลังดีสร้างความมีระดับให้กลิ่นมีคลาสมากขึ้น ภาพรวมเลยเหมือนผู้หญิงที่ทั้งนุ่มนวล สดใส เย้ายวนกำลังดี วางตัวดี และกลิ่นอายออกทางมีความสุข ที่สำคัญกลิ่นนี้แม้จะติดโทนวินเทจแต่ร่วมสมัยมากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นให้ความรู้สึกเป็นผู้หญิงที่ได้แทบทุกมุมยกเว้นมุมดาร์ก เน้นโทนรื่นรมย์อย่างชัดเจน จึงเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและไม่ทางการ เพราะมีความนุ่มนวลน่าเข้าหา และมีความสดใสให้รู้สึกสบายๆ หอมแบบสบายใจแนวๆ แป้งผลไม้ แต่ขอยกเว้นใส่เพื่อออกกำลังกาย ไม่เหมาะเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนยามค่ำคืนจะเหมาะกับการออกงานเสียมากกว่าจะไปท่องราตรี

ความทน เป็น EDT ก็จริง แต่กลิ่นมีความทนน่าสนใจมากที่ 8 ชม. แล้วจะค่อนๆ จางลงไปตามลำดับ

การกระจาย
กลิ่นกระจายดีงามมาก เรียกว่าหอมแบบหวานผลไม้ติดแป้งแบบลงตัวเลย ก่อนที่จะกระจายกลางๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จนถึง Skin Scent

ทิ้งท้าย อีกครั้งว่า เลิกผลิตทำไม? กลิ่นดี ไม่ค่อยเหมือนใครด้วยกับการคงความเป็นแป้งติดผลไม้ที่ยาวนานได้ดีงามมาก มองบนใส่ Gucci ไม่พอ ขอมองแรงต่ออีกทีเลยแล้วกัน

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ


วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review: Gucci pour Homme


Gucci pour Homme

นี่คือหนึ่งในเพชรเม็ดงามของแบรนด์ Gucci เลยนะครับ ที่ผมเซ็งขีดสุดกับแบรนด์นี้มากมายจากกรณีที่ #เลิกผลิต ตัวนี้ไป ทั้งๆ ที่รุ่นนี้เป็นน้ำหอมกลิ่นไม้เนื้อหอมที่งามงดและหรูหรามีระดับแบบที่ไม่โหลเลยแม้แต่น้อย เพื่ออารายยยยยย Gucci พี่เกดไม่เข้าใจ OK ข้ามเรื่อง รมณ์เสีย! มาบอกเล่าความดีงามของรุ่นนี้กันดีกว่า หาเพื่อนมาร่วมเสียดายเพิ่มกับ Gucci pour Homme น้ำหอมสีน้ำตาลขวดนี้ครับ

Top Notes เป็นการเบลนด์น้ำหอมได้งามงดมากครับ ต้องยกนิ้วให้เขาเลย เพราะทำออกมาได้สื่อถึงกลิ่นผงไม้เนื้อดีในโรงไม้ หรือกลิ่นอายแบบเนื้อไม้ดินสอชั้นดี โดยกลิ่นของไม้ปาปิรัสที่เด่นขึ้นมาล้อมด้วยโทนซิตรัสที่ผสานกับกลิ่นนุ่มๆ ซึ่งไม่พอกลิ่นไม้ซีดาร์เด่นขึ้นมาควบคู่ด้วย กลิ่นแบบว่าทำให้เกิดความรู้สึกทั้งแมน และหอมเนื้อไม้กันขั้นสุด แบบว่าช่วงนี้คือกลิ่นโรงเลื่อยไม้ชั้นดีเดินได้กันเลยทีเดียว จนเมื่อเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นหอมเนื้อไม้ยังคงอยู่ แต่จะมีความนวลมากขึ้น เพราะไม้ซีดาร์จะมาเต็มในช่วงนี้ มีความหวานของพริไทยสีชมพูที่ไม่ได้มาแบบหวานจัดๆ มาแบบเน้นเป็นตัวพ่วงไม่อยากเด่นเกินหน้าเกินตาลิ่นเนื้อไม้ ซึ่งจะติดโทนแป้งไม้หอมกลั้วพิมเสน เรียกว่าคงความเป็นไม้หอมที่ยังมีระดับดึงดูดแบบแมนเท่ห์ ภูมิฐาน จนเริ่มมีกลิ่นอายโทนธูปไม้เนื้อหอมกันขึ้นมาจนเข้าช่วง Base Notes เต็มตัวกับกลิ่นอายแบบธูปเนื้อไม้ชั้นดี กลิ่นอายไม้เนื้อหอมจะมาแบบกลางๆ ออกแนวเริ่มมีโทนสะอาดของ Musk และโทนแป้งอบอุ่นของวานิลลาเข้ามาแจม แต่ไม่มาแบบแย่งซีน มาเป็นผู้สนับสนุนรองของรายการ ส่งผลให้กลิ่นจะบ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษแบบเท่ห์ๆ ภูมิฐานแบบมีระดับและมาดแมน ซึ่งในช่วงนี้จะเป็นการเบลนด์ได้งามมากเพราะแตะความกลมกล่อมของการเป็น Smoky ก็เป๊ะ Woody ก็งาม โทนนุ่มนวลก็ได้ โทนหวานเครื่องเทศก็ลงตัว โทนอบอุ่นก็เข้าทาง นี่แหละครับที่เสียดายขั้นสุดจริงๆ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นมาทางภูมิฐานและเท่ห์กันอย่างชัดเจน สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน โดยเฉพาะงานทางการ เพราะกลิ่นสร้างความน่าเชื่อถือกันเต็มๆ หรือจะใส่แบบชิลล์ๆ ทั่วๆ ไปก็ทำให้ดูเท่ห์ไม่หยอก ใส่อยู่กับแฟนก็ดูเป็นหนุ่มอบอุ่นเท่ห์ๆ ได้เลยทางด้านกลิ่น งดใส่ออกกำลังกายจะดีที่สุด ไม่เข้าทาง เดี๋ยวจะออกแนวไปเลื่อยไม้มาจนเหงื่อซ่กแทนนะ ส่วนยามค่ำคืนออกงานหรูจัดไปลงตัวมาก แถมใส่เที่ยวกลางคืนยังได้เลยครับ

ความทน – 8 ชม. สบายๆ อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น ไม้เนื้อหอมกันเต็มๆ จ้า และจะลดลงมากระจายกลางๆ ปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัว ขนหายไปจากผิว

ทิ้งท้าย – เสียดายมาก นี่คือ ตัวที่ไม่น่าเลิกผลิตเลย กลิ่น Timeless จริงๆ แบบที่รุ่นที่ออกมาในปัจจุบันของฝ่ายผู้ชาย ยังไม่สามารถเทียบรุ่นนี้ได้เลยครับ

Credit ภาพ
http://i1.wp.com/whatmenshouldsmelllike.com/wp-content/uploads/2013/02/Gucci-Pour-Homme.jpg

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Review: Gucci Guilty Intense pour Homme


Gucci Guilty Intense pour Homme 

ถือว่าแตะไลน์ Guilty ของ Gucci ในส่วนของน้ำหอมผู้ชายครบพอดีเลยเพราะไล่เรียงกันมาตั้งแต่ Guilty Back, Guilty, Guilty Studs และก็ได้เวลาปิดท้ายของด้วยแรงอย่างรุ่น Guilty Intense บ้างแล้วล่ะครับ ว่าจะมาได้เด็ดดวงขนาดไหน 

เมื่อเป็น Intense ก็ถือว่าอัพเลเวลของกลิ่นจากรุ่นปกติมาได้ชัด โดยยังคงความดีงามของกลิ่นตามต้นฉบับที่ควรจะเป็นได้ไม่ขาดตกบกพร่อง แบบให้ความรู้สึกผิดว่า "กลิ่นยั่วไปหน่อย โทษทีนะตะเอง" แต่ตัดโทนติดหวานของรุ่นปกติเป็นแนวดาร์กเข้มได้ดีมากขึ้น โดย Top Notes ยังคงกลิ่นเด่นนำของเลม่อน ที่จะยังคงโทนซิตรัสสดชื่น โดยมีกลิ่นของเม็ดผักชีมาทำให้กลิ่นติดโทนซ่าๆ ที่สำคัญจะมีโทนนุ่มๆ ของลาเวนเดอร์มาตัด ซึ่งกลิ่นจะมาตัดกันได้อย่างลงตัวน่าดูชมเลยทีเดียยว ก่อนที่จะไปผสมผสานกับกลิ่นโทนนุ่มติดสดชื่นแบบซิตรัสแต่เย้ายวนจัดเต็มของดอกส้มในช่วง Middle Notes โทนหวานของดอกส้มที่เคยมีในรุ่นปกติและ Studs หายไป เป็นดอกส้มที่เย้ากันตรงๆ ติดโทนดาร์กจางๆ ที่จะค่อยๆ เข้มขึ้นในช่วง Base Notes โดยกลิ่นโทนอบอุ่นของแอมเบอร์และติดขรึมๆ ของไม้ซีดาร์ จะมากลืนกลิ่นดอกส้มให้ผันตัวไปอยู่พื้นหลังจางๆ ให้รู้สึกได้ถึงความนุ่มที่ยังมีอยู่ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะดาร์กดึงดูดเลยทีเดียว โดยพิมเสนจะมาปล่อยไอกลิ่นนุ่มเย้าให้น่าค้นหาไปเรื่อยๆ คาบเกี่ยวที่ได้ความรู้สึกทั้งสดชื่นจางๆ เย้ายวนจัดๆ Sexy น่าค้นหามาเต็ม มากกว่าจะเอากลิ่นหวานใสๆ มาดึงดูด ได้อารมณ์ผู้ชายที่มีชั้นเชิงและเข้าใจนำเสนอเสน่ห์ของตัวเองได้มากเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ซึ่งเอาเข้าจริงๆ น้องๆ มหาลัยก็ใช้น้ำหอมตัวนี้ได้นะครับ เพียงแต่ถ้าจะเอาใสๆ ไม่ดูมากประสบการณ์เกินไป ไปเล่นรุ่นปกติจะดีกว่า ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม เพราะกลิ่นมันออกแนวเย้ายวนดึงดูดเป็นหลัก ใส่ทำงานแบบอยู่ใน Office เฉยๆ ได้อยู่ แต่พบปะผู้คนหรืองานทางการ รวมถึงออกกำลังกายอาจจะไม่ค่อยเหมาะ ส่วนใส่ชิลล์ๆ หรือใส่ไปเกี้ยวพาราสีชาวบ้านน่ะได้เลย ส่วนยามกลางคืนจัดเลย กลิ่นเข้าทางมากครับ

ความทน - 8 ชั่วโมงกำลังดี อาจจะบวกลบไปบ้างอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าทนกว่ารุ่นอื่นๆ ในไลน์นี้เลยล่ะครับ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีเลยทีเดียวในช่วงต้น และจะลดลงมากระจายกลางๆ ไปเรื่อยๆ จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - ถ้าเทียบกันเองภายในไลน์ Guilty ผมยกให้รุ่นนี้เป็นตัวที่ดีงามเลยล่ะครับ ^^

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

Review: Gucci pour Homme II


Gucci pour Homme II 

หนึ่งในน้ำหอมที่สามารถทำให้คนที่ดมผ่านๆ สามารถทำให้ตัดสินใจซื้อได้ในทันทีเลยทีเดียวของแบรด์ Gucci กับความเข้าถึงได้ง่าย มีระดับและชั้นเชิงในเนื้อกลิ่นที่ทำให้มหาชนชอบได้ไม่ยาก นี่คือ Gucci pour Homme II ครับ 

เปิดตัวกันเต็มๆ กับ Top Notes ที่จะมาแบบสดชืิ่นติดเขียวนุ่ม โดยจะมีโทนหวานโปร่งๆ จางๆ มาให้รู้สึกได้จากใบไวโอเล็ต ซึ่งแน่นอนต้องมีโทนซิตรัสเข้ามาเสริมกลิ่นในช่วงนี้จะดึงดูดกันเลย เพราะใบไวโอเล็ตจะมีกลิ่นออกออกทางเย้ายวนเซ็กซี่อยู่ในตัวอยู่แล้ว และเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes กลิ่นชาดำจะค่อยๆ ปล่อยของออกมาจนเต็มที่ โดยมีอบเชยผสานทำให้ติดเครื่องเทศในเนื้อกลิ่นแบบคมๆ เลยทำให้หวานกำลังดี ติด Spicy ที่ออกทางสดชืิ่นพอสมควร ซึ่งกลิ่นชาจะยังอยู่ยาวนานไปถึงช่วงท้ายๆ ซึ่งใน Base Notes จะไปผสมผสานกับใบยาสูบที่จะให้ความหวานเย้ายวนแบบแมนๆ และมี Musk ให้ความนุ่มเย้าสะอาด ซึ่งจะมีโทนวู้ดดี้บางๆ ติดเขียว และมีโทน Smoky หน่อยๆ ให้รู้สึกได้ แบบว่ากลิ่นผสมผสานกันออกมาได้อย่างหมดจดจริงๆ ทุกอย่างสื่ออกมาถึงผู้ชายดูแลตัวเอง เท่ห์ๆ จะชิลล์ก็ได้ จะเมโทรก็ดี จะนิ่งๆ มีภูมิก็เหมาะ มาครบกันเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปครับ กลิ่นเข้าถึงง่ายแบบแฝงไปด้วยความเย้ายวนกำลังดี กลิ่นมีภูมิพอสมควร ทำให้คนใส่มีเสน่ห์ที่คาบเกี่ยวไปได้ทั้งความเนี้ยบและทั่วๆ ไปสบายๆ ซึ่งตัวนี้ครอบจักรวาลได้เลยในการใช้งานทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการ ยิ่งใส่ทำงานหรือออกงานยิ่งเหมาะมาก ใส่เที่ยวกลางคืนแบบอากาศบ้านเราก็สามารถครับ

ความทน - 8 ชั่วโมงสบายๆ อาจจะบวกลบไม่มาก ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย - เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่กระจายกลางๆ ไม่ได้เน้นกระจายแบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งในช่วงท้ายๆ จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวคนที่เข้ามาอยู่ใกล้ๆ จะได้กลิ่น

ทิ้งท้าย - ได้ข่าวว่าตัวนี้จะเลิกผลิต ซึ่ง Gucci นี่ก็แปลก ตัวดีๆ นี่หยุดผลิตกันอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่ของมันดีงามมากเลยทีเดียว อ้อ ที่สำคัญกลิ่นนี้คนที่สูบบุหรี่ใช้แล้วจะช่วยทำให้กลิ่นบุหรี่ที่ติดตามตัว มีความหอมเฉพาะบุคคลด้วยนะครับ จากอิทธิพลของใบยาสูบในน้ำหอมตัวนี้เน้นๆ เลย ^^

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

Review: Gucci – Guilty pour Homme & Guilty Studs



Gucci – Guilty pour Homme & Guilty Studs 

จากที่เคยบอกเล่าถึงรุ่น Guilty Black ไปแล้ว ได้เวลามาแตะกับรุ่นต้นฉบับของไลน์ Guilty ฝั่งผู้ชายของ Gucci กันบ้าง ซึ่งครั้งนี้มาแบบแพ็คคู่เป็นยาสีฟันเลยทีเดียว เพราะพ่วงเอารุ่น Limited Edition อย่าง Guilty Studs มาด้วย เพราะว่าง่ายๆ เลยครับ กลิ่นมันเหมือนกันทุกเม็ดอย่างกับแกะ มีแตกต่างบ้างนิดหน่อยเพียงแค่กลิ่นนั้นขึ้นมาเด่นแทนกลิ่นนี้บ้าง แต่ที่เหลือคงเดิมไม่มีผิดเพี้ยน อย่างกับแค่ทำขวดใหม่ให้แนวๆ ออกมาก็เท่านั้น เอากับเขาสิ 55555

ภาพรวมของทั้ง 2 รุ่น จะมากับกลิ่นโทนเดียวกันนั่นคือ “กลิ่นเย้ายวนปล่อยเสน่ห์แบบไม่รู้ตัวอีกแล้วอ่ะ รู้สึกผิดจังเลย วู้วววววว” เพราะเปิดตัวกันด้วยกลิ่นของลาเวนเดอร์ที่กลั้วกับกลิ่นของเลมอนผสมผสานกันออกมาแบบนุ่มนวลเนียนติดหวานเล็กๆ เย้ากันตั้งแต่เริ่มหน่อยๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงกลางที่คราวนี้จะมาในโทนของดอกส้มกันเต็มๆ โดยมีกลิ่นโทนเขียวๆ ออกทางสมุนไพรนิดๆ เสริมให้นวลเนียนหอมนุ่มเย้ายวนมากขึ้นโดยไม่โจ่งแจ้ง ออกแนวมาเรื่อยๆ นะ “เตรียมมาซบพี่ให้พี่รู้สึกผิดได้เลย พี่ไม่ว่า” ซึ่งในช่วงนี้ต้องยอมให้ดอกส้มจริงๆ เพราะเด่นมาก จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายคราวนี้พิมเสนกับโทนวู้ดดี้เริ่มมาเต็ม กลิ่นจะเย้ายวนในระดับที่กำลังดี กลิ่นดอกส้มยังตามมาจางๆ ที่สำคัญแอบจับโทนเครื่องเทศรองพื้นด้านหลังให้พอรู้สึกได้ทำให้กลิ่นยังติดโทนหวานเข้ามาด้วย เลยทำให้กลิ่นจะออกทางดึงดูด และเซ็กซี่ชวนให้เข้ามาดมจนฟินได้ไม่ยาก สมชื่อ Guilty เลยล่ะครับ

ความแตกต่างของ 2 รุ่น – ง่ายๆ Guilty ปกติ จะเด่นที่ดอกส้มเลยกลิ่นนุ่มนวลก็จริงแต่เซ็กซี่มาก แต่ในรุ่น Studs ลาเวนเดอร์จะมาตีคู่กับดอกส้มและพิมเสนจะเต็มขึ้นมาหน่อยเท่านั้นเอง จริงๆ ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรนัก เพราะพื้นฐานกลิ่นเหมือนกันหมด อยู่ที่ว่าชอบขวดแบบไหนมากกว่า

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นถือว่าใช้ได้ครอบจักรวาลทุกสถานการณ์ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นทำงาน เรียน เที่ยว ชิลล์ กกแฟน ออกกำลังกาย (รอช่วงท้ายๆ หน่อย) รวมถึงยามกลางคืนทุกแนวได้หมด ถือว่าเป็นกลิ่นที่เย้ายวนก็จริง แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงมากเกินไปจนใส่ในสถานการณ์ทั่วไปไม่ได้ แถมกลิ่นทำให้ดูเมโทรเสียด้วยซ้ำไป

ความทน – แกว่งอยู่ระหว่าง 6 – 8 ชม. ทั้ง 2 ตัวครับ อยู่ที่จำนวนสเปรย์ จุดที่ฉีด และเคมีในระดับหนึ่งทั้งๆ ที่น้ำหอมตัวนี้มีความหอมในตัวเองสูงอยู่แล้ว

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นและกลาง และจะเริ่มเป็นเข้ามาใกล้ๆ จะได้กลิ่นจนถึงขั้น Skin Scent ครับ

ทิ้งท้าย – ทั้ง 2 ตัวกลิ่นไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังเลย มีดีในตัวเองทั้งคู่และใช้ง่ายกว่าที่คิด ที่สำคัญมันครอบจักรวาลนี่แหละ เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่อยากได้น้ำหอมขวดเดียว เสียวทุกงาน เอ๊ย! ไม่ใช่ ไปได้ทุกงานเลยล่ะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Gucci by Gucci Sport



Gucci by Gucci Sport 

เพราะต้นฉบับคือน้ำหอมที่ผมปลาบปลื้มสุดในแง่ของความโรแมนติคสุดใจขาดดิ้น แล้วพอออก Flanker มาล่ะ แถมเป็นรุ่นสปอร์ต แน่นอนว่าไม่พลาดที่จะต้องลองครับ ว่ากลิ่นจะยังคงโรแมนติคมากน้อยแค่ไหน ผลออกมาคือ 

กลิ่นเบาลงไปเยอะเลย เพราะว่าจากเดิมกลิ่นจะออกทางวู้ดดี้แต่กลั้วความโรแมนติคของมะลิและเนื้อไม้ต่างๆ แบบเซ็กซี่ แต่กับรุ่นลูกนี้จะมาแบบบางเบาเข้าทาง Sport ครับ เพราะเปิด Top Notes มีความเป็นออริจิมาด้วยกลิ่นของสนไซเปรสออกเชิงเขียวๆสะอาดๆ กลั้วไปกับกลิ่นส้มซิตรัสกำลังดี ทำให้กลิ่นเปิดเพียงแรกเริ่มก็บอกอารมณ์ Sport ได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่กลิ่นจะบางๆ หน่อย และเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes กล่นในช่วงนี้จะเป็นกลิ่นเชิงเขียวๆ เย็นๆ ให้อารมณ์สปอร์ตแบบไม่เหมือนใคร เด่นเลยทีเดียวที่กลิ่นของลูกมะเดื่อ ที่จะออกเขียวๆ ขมๆ กลั้วกับกลิ่นซิตรัสแน่นกลางๆ ตัดไม่ให้คมเกินไปของเม็ดกระวาน ทำให้ได้อารมณ์แบบน้ำใสๆ กลิ่นออกทางเขียวๆ หน่อย ซึ่งเป็นกลิ่นที่ถ้าคนไม่ชอบโทนเขียวๆ ขมๆ ของมะเดื่อ มีสิทธิ์โบกมือลาบ๊ายบายได้เพราะกลิ่นมันจะเขียวอวลๆ แปลกๆ พอสมควร แต่ถ้าชอบและเคมีเข้ากันได้กลิ่นจะหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะได้เลยทีเดียว จนเมื่อเข้าสู่ Base Notes กลิ่นโทนเขียวๆ จะเริ่มเปลี่ยนเป็นกลิ่นออกทางสะอาดๆ ด้วยหญ้าแฝกกับ Musk ที่มีกลิ่นออกทางเมทัลลิคกลายๆ ได้อารมณ์ Sport แบบบางเบากำลังดี แอบมีกลิ่นอายเย็นๆ เย้าไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิวครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนม.ปลาย ขึ้นไป สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน เที่ยวชิลล์ๆ ออกกำลังกาย ลั่นล้าสารพัด แต่จริงๆ แล้วใส่ยามเย็นอากาศบ้านเราได้สบายๆ ครับ

ความทน – 6 ถึง 8 ชม. ตามเคมี และจำนวนสเปรย์ที่ฉีด

การกระจาย – กลิ่นกระจายกลางๆ ไม่ค่อยรบกวนใครมาก เน้นให้คนใส่ได้รับรู้เป็นหลักมากกว่า ยิ่งช่วงเบสจะเป็น Skin Scent มาเป็นวูบๆ บางๆ หรือต้องดมที่ผิวจะได้กลิ่นครับ ซึ่งแน่นอนมันไม่รบกวนใคร

ทิ้งท้าย – เป็นน้ำหอม Sport ที่กลิ่นแตกต่างจากท้องตลาดดีเลยทีเดียวครับ แนะนำให้ลองก่อนน่าจะเป็นทางออกที่จะวัดว่าเราชอบมันหรือไม่ครับ

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Gucci Guilty Black pour Homme



Gucci Guilty Black pour Homme 

เรียกได้ว่า Gucci Guilty เป็นหนึ่งใน Flanker น้ำหอมของแบรนด์นี้ที่ฮิตสุดๆ เลยทีเดียวกับน้ำหอมที่ออกเชิงเย้ายวน เซ็กซี่ และน่าค้นตัวไม่ว่าจะทั้งของผู้หญิงและของผู้ชาย ซึ่งผมเองตรงๆ ว่าสำหรับตัวต้นตระกูลเคยแต่ได้กลิ่นจากเพื่อนที่ใช้แล้วรู้สึกเออ กลิ่นสมชื่อ Guilty ไม่น้อยเลยเพราะคนที่ใส่อาจจะรู้สึกผิดว่า "ปล่อยเสน่ห์แบบไม่รู้ตัวอีกแล้ว ทำไงดีอ่ะ" ถ้ามีก็มีแต่

1. รุ่น Intense ที่กลิ่นเซ็กซี่ขาดใจเข้มๆ ดาร์กๆ
2. รุ่น Studs ที่พึ่งได้มือ 2 มายังไม่ได้ใช้เลย (แต่หลานผมเอาไปฉีดเรียบร้อย เกร๋ๆ 555)
3. รุ่น Black ที่ผมจะมากล่าวถึงกันในวันนี้ครับ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง

ต้องบอกกันจริงๆ ว่า ผมเองคาดหวังจากคำว่า Black สูงเลยทีเดียวว่าน้ำหอมตัวนี้น่าจะออกทางดาร์กๆ น่าค้นหาสุดๆ แต่สิ่งที่ได้กลายเป็นอีกความรู้สึกนึงไปในทันที เพราะ Top Notes เปิดตัวกับกลิ่นของลาเวนเดอร์กลั้วกับเม็ดผักชีเต็มๆ ตรงๆ เลยครับว่ากลิ่นหอมนุ่มออกทาง Spice เล็กๆ ติดเขียวหน่อยๆ เป็นกลิ่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวในแง่ของความนุ่มออกทางหวานนิดๆ มีความดาร์กเข้มหม่นๆ หน่อยๆ ไม่ถึงกับมากนัก ซึ่งแน่นอนยังไม่ Black นัก เลยไปต่อกันที่ Middle Notes ที่คราวนี้ขนดอกส้มกันมาทั้งสวน 5555 เพราะกลิ่นดอกส้มจะออกทางหอมนุ่มจมูกรับช่วงต่อจากตอนต้นมาเต็มๆ มากลั้วกับกลิ่นโทนเขียวๆ ที่ให้ความรู้สึกออกทางสดชื่นก็ได้ นุ่มๆ ก็ดี มีความดาร์กเข้มในเนื้อกลิ่นบางๆ แต่ไม่หนักหน่วงมาก กลิ่นออกทางเย้ายวนจริง เซ็กซี่ได้เลย น่าเข้ามาดมใกล้ๆ นี่ยิ่งใช่ใหญ่ และก็ยังไม่ได้แตะคำว่า Black นัก เลยมาต่อกันที่ Base Notes ซึ่งตรงนี้เริ่มแตะ Concept ของคำว่า Black ได้อยู่กับกลิ่นออกทางโทนวู้ดดี้กลั้วกับพิมเสนที่นุ่มเย้า โดยมีกลิ่นดอกส้มติดเขียวหอมๆ ในช่วงกลางกำลังดีมาเป็นฉากหลัง ยังคงความเซ็กซี่ในเนื้อกลิ่นสมกับความเป็น Guilty อยู่ และมีความดาร์กมากขึ้นจากกลิ่นที่ออกทางขรึมๆ ของไม้ซีดาร์ แต่ถ้าให้มองจริงๆ ภาพรวมของน้ำหอมตัวนี้ออกทาง Green มากกว่าจะ Black นี่สิ เช่นนั้นความคาดหวังผมตกไปทันที ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความผิดหวัง เพราะมันยังมีดีพอในแง่ของเนื้อกลิ่นที่เข้าถึงได้ไม่ยาก เซ็กซี่แบบผู้ชายเท่ห์ๆ เนี้ยบๆ เย้ายวนแบบนิ่งๆ ให้กลิ่นเป็นตัวเรียกร้องความสนใจแทนการแสดงออกแบบโจ่งแจ้งนี่แหละที่ยังเป็นข้อดีที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวครั

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป เพราะกลิ่นไม่ได้ใช้ยากเลย ออกทางเย้ายวน เซ็กซี่กำลังดี ไม่หนักเข้มอะไรมาก สามารถใส่ไปทำงาน ไปเรียน เที่ยวเล่นโน่นนี่ คลุกคลีกับแฟนโน่นนั่น กลิ่นสามารถใส่ออกกำลังกายได้แต่ควรรอช่วงท้ายๆ จะดีที่สุด ส่วนใส่ตอนกลางคืน อ่ะ จัดไป เพราะกลิ่นมันเย้ายวนชวนใส่เที่ยวเรียกแขกอยู่แล้วล่ะครับ

ความทน - อยู่ในระดับที่ดีสมกับความเป็นทุนเดิมของ Gucci Guilty ซึ่งอยู่ระหว่าง 6 - 8 ชม. ครับ โดยเฉพาะบนผิวผมแตะที่ประมาณ 8 ชม. ได้เลย

การกระจาย - กลิ่นกระจายกำลังดีในช่วง Top และ Middle และจะลดมาเป็น Skin Scent ในช่วง Base ครับ เน้นมาดมใกล้ๆ จะได้กลิ่นอะไรประมาณนั้นครับ

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Gucci - Gucci by Gucci pour Homme



Gucci - Gucci by Gucci pour Homme 

หนึ่งในลูกรักทางด้านโรแมนติคมากที่สุดเลยทีเดียว แถมเข้ากับบุคลิกของผมฝุดๆ โดยไม่ต้องเน้นความหวานและเย้ายวนแบบพร้อมฟัดซ้ายขวา แค่กลิ่นก็บอกได้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ดูโรแมนซ์แถมเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูกนี่แหละครับ Gucci by Gucci pour Homme 

Top Notes เปิดขึ้นมาสดชื่นก็จริงแต่แฝงความเซ็กซี่ในแบบดอกไวโอเล็ตที่เด่นมาก แถมมีกลิ่นออกทางสมุนไพรอ่อนๆ กลั้วซิตรัสให้ความรู้สึกสะอาดกำลังดีเลยทีเดียว ซึ่งแค่กลิ่นเปิดก็ทำให้ผมฟินนนนน เพราะมันหอมมากกกกจริงๆ นะ พอมา Middle Notes ที่เริ่มกระจายออกมากอย่างใบยาสูบและมะลิ คราวนี้แหละพ่อคู๊ณณณณณกลิ่นเซ็กซี่ขาดใจ เพราะมะลิที่ว่าไม่ใช่มะลิร้อยพวงมาลัยแบบที่ขายตาม 4 แยกนะครับ แต่เป็นมะลิที่ออกแนวแน่นๆ แมนๆ กำลังดี ให้ความหอมแบบที่ไม่ได้บาดจมูกออกแนวสะอาด โรแมนติคอย่างมาก ยิ่งกลั้วกับกลิ่นใบยาสูบที่หอมนวลความเซ็กซี่ขึ้นสู่ 80% แบบทั้งคิดไปเองและไม่คิดไปเองทันที ฟินขั้นกว่าก็ตรงนี้แหละพอเริ่มเข้าสู่ Base Notes มะลิกับยาสูบยังตามมาให้ดูเซ็กซี่ตลอดไม่จากไปไหน แต่มาเพิ่มความดูสะอาดสะอ้านมาดแมนเข้าไปกับกลิ่นหนังที่กลั้วด้วยพิมเสนกับพวกแอมเบอร์ เรซิ่นยางไม้ต่างๆ ที่ออกแนวเย้ายวนกำลังดี ให้โทนกลิ่นออกทางโรแมนติคสุดๆ หอมจนฟินขั้นสุดไปข้างเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไปครับ จริงๆ วัยเรียนก็ใส่ได้นะ แต่มันเซ็กซี่โรแมนติคไป ไม่เหมาะเท่าไหร่นัก เน้นใส่ไปเที่ยวกับแฟน กิ้กนี่จะเหมาะมาก จริงๆ ใส่ไปทำงานหรือออกงานหรูก็ได้นะครับ แต่ถ้าอัดเยอะอาจจจะยั่วคนอื่นมากเกินไปได้ ใส่ชิลล์ๆ ก็ได้ เพราะจะทำให้คนใส่เซ็กซี่ขึ้นมาได้เยอะอยู่ ใส่ออกกำลังกายพอไหวถ้าคิดจะไปยั่วคนอื่นที่ฟิตเนต 5555 แต่ถ้าใส่เที่ยวกลางคืินต้องอัดเยอะหน่อยนะครับ เพราะกลิ่นค่อนข้างเหมาะกับยามกลางวันมากกว่าพอสมควรเล

ความทน - 6 ชม. ขึ้นไปครับ ส่วนตัวผมบางครั้งลามไปถึง 12 ชม. ก็เคย แต่เนื่องจากกลิ่นบางครั้งออกทางเบา อาจจะทำให้กลิ่นจางหลังจาก 6 ชม. แรกพอสมควร

การกระจาย - กระจายค่อนข้างดีในช่วง Top และ Middle แต่จะหอมกรุ่นกลิ่นกายเซ็กซี่โรแมนติคกำลังดีในช่วง Base ครับ ซึ่งกลิ่นจะตีขึ้นพอสมควร และแม้บางทีไม่ได้กลิ่นตีขึ้น แต่ก็อาจจะยังกระจายให้คนอื่นรับรู้ได้อยู่นะครับ เพราะตัวนี้ถือเป็น Sillage Scent เลยทีเดียว

ป.ล. ใส่กลิ่นนี้ทีไร คนชมทุกทีน่ะว่ากลิ่นเซ็กซี่โรแมนติค ของเขาดีจริงๆ 555555