แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 4160 Tuesdays แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 4160 Tuesdays แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2565

Review: 4160 Tuesdays - Be Careful What You Wish For

4160 Tuesdays - Be Careful What You Wish For

สำหรับแบรนด์ 4160 Tuesdays แรกเริ่มสุคนธกรอย่าง Sarah McCartney เองถือว่าเป็นหนึ่งในสายอินดี้ที่ไม่ได้จะลงมาแย่งกับตลาดสาย Oud เพราะว่าสามารถครีเอทกลิ่นอายที่มีความเก๋ไก๋ตามสไตล์ของแบรนด์โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Note นี้ อีกอย่าง Oud ก็มีเยอะแล้ว ไปเจาะด้านอื่นน่าสนใจกว่า จะมีก็มาแตะบ้างก็เพราะเอามาเป็นองค์ประกอบในการสร้างสรรค์อย่างกลิ่น Lion Cupboard ที่ให้กลิ่นไม้ที่มีความลุ่มลึก แต่เพราะยังไม่ได้อินมากและยังไม่ได้เจอแบบที่ถูกใจด้วยส่วนหนึ่ง

จนเมื่อสุคนธกรได้มีโอกาสไปเที่ยวดูไบ และลองซื้อ Oud ที่แตกต่างกัน 5 ประเภทมาสัมผัสด้วยตนเอง และก็ได้พบว่าได้เวลาเปลี่ยนใจมาลองทำกลิ่น Oud ดูบ้างแล้ว เพราะเจอกลิ่น Oud ที่ถูกสเปคจึงได้เป็นที่มาในการมาผนวกกับสไตล์กลิ่นเก๋ๆ ของแบรนด์ และในที่สุดก็ออกมาเป็นกลิ่น Be Careful What You Wish For ในที่สุดกับการสร้างสรรค์กลิ่น Oud ที่แตกต่างเกินคาด จนสามารถเล่าออกมาได้แบบนี้ว่า

นี่คือ Fresh Fruity Oud ที่ให้ทั้งเสน่ห์แบบมีสไตล์เฉพาะตัวมากเลยทีเดียว เพราะกลิ่นที่เป็นแกนหลักเลยต้องยกให้สายผลไม้ที่ให้ความหวานเย้าและให้ความรู้สึกเข้าโทนสีม่วงอย่างพลัม ที่จะมีกลิ่นโทนเบอร์รี่ที่ดึงเอาด้านหวานดาร์กออกมามากกว่าจะมาแบบใสๆ เป็นตัวสนับสนุนที่จะพุ่งออกมาแรกสุดโดยจะมีกลิ่นปร่าหน่อยๆ ที่ให้อารมณ์คล้ายเหล้าจินมาเสริมพร้อมด้วยกลิ่นหอมพีชที่หวานกำลังดีและมีความ Citrus หน่อยๆ เสริม โดยที่ะจับต้องกลิ่นกลิ่น Oud ที่มีความอวลลึกแบบกำลังดี ไม่ได้มีความอาระเบียนมาทำให้เนื้อกลิ่นเปลี่ยนโทน แต่ดึงเอาความเย้าน่าค้นหาของ Oud มาเสริมแบบฉากหลังเสียมากกว่า ซึ่งถือว่าช่วงเปิดให้อารมณ์สีม่วงที่มีความหวานแกมใสแกมอวลกลางๆ อารมณ์เกิอบจะไซรัป แต่ยังคุมโทนธรรมชาติได้ดีให้อารมณ์เย้าๆ แกมสดชื่นหน่อยๆ ดึงความน่าค้นหาในเนื้อกลิ่นได้ดีมากตั้งแต่แรก 

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มปรับโทนจนทำให้สัมผัสได้ว่า กลิ่น Oud ที่มีความอวลเย้าลึกๆ กำลังดีชัดเจนมากขึ้นตีคู่กับกลิ่นผลไม้ที่คราวนี้จะเป็นลูกผสมพลัมกับเบอร์รี่เลย ซึ่งจะจับความเย้าหวานลึกสีม่วงของพลัมชัดเจน โดยที่มีความหวานหอมราสเบอร์รี่ที่มีปลายกลิ่นเป็นกลิ่นสตรอเบอร์รี่ ทำให้เนื้อกลิ่นได้อารมณ์แบบสีม่วงผสานกับสีแดงทำให้มีความเข้มลึกเย้ามากขึ้น โดยที่มี Oud มาเสริมแถมมีกลิ่นออกทาง Smoky กำลังดีเข้ามาร่วยมด้วย โดยที่บอกเลยว่าไม่แขก ไม่อาหรับ แต่ให้อารมณ์โทนกลิ่นผลไม้ที่มีความเป็นสีม่วงแกมแดงเข้มที่มีความดาร์กหวานน่าค้นหาและดึงดูดสูงมาก ซึ่งช่วงนี้ต้องยอมเขาเลยว่าเอา Oud มาเกลาให้กลิ่นมีความอวลลึกเย้าแกมนุ่มนวลได้ลงตัวมาก ไม่แย่งซีนแต่มีความเด่นที่สนับสนุนโทนผลไม้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มมีความดาร์กมากขึ้นแต่ไม่ได้ข้นหนักเกินไป และมีความปร่าระเรื่อหวานอ่อนๆ ของพิมเสนเสริมเข้ามาทีละหน่อย ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายเต็มตัวที่ตอนนี้เนื้อกลิ่นของพลัมกับ Oud จะเป็นเนื้อเดียวกันแล้วอย่างชัดเจน ทำให้ได้อารมณ์กลิ่นแบบ Oud ที่ฝังความเป็นผลไม้เข้าไปทุกอณู โดยที่จะมีความนวลๆ วานิลลาเข้ามาเกลาให้กลิ่นที่แม้จะดาร์กจะมีความควันๆ หน่อยๆ มีความนุ่มนวล ซึ่งเนื้อกลิ่นในภาพรวมทั้งหมดยังคงให้ความหวานเย้าลึกและให้โทนสีม่วงเข้มแต่ไม่แน่นอวลหนักได้พอเหมาะ แถมที่สำคัญตัวแย่งซีนที่ส่งเสริมให้กลิ่นมีเสน่ห์มาอกอย่างพิมเสนก็ทำหน้าที่ให้ความปร่าระเรื่อได้ดีมาก เป็นการปิดท้ายได้ลงตัว มีเสน่ห์น่าค้นหาครบถ้วนมาก

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่เข้ากับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งแม้จะมีความหวาน แต่พอตัดด้วย Oud แล้วมันดันมีเสน่ห์น่าค้นหาในความเป็นโทนสีม่วงเข้มได้ดีจนเข้าได้หมดกับทุกเพศ ซึ่งลงตัวกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบใส่ทั่วไป หรือใส่ทำงาน Office แต่ถ้าใส่ออกงานทางการจัดๆ อาจจะไม่ได้เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงาน ใส่โรแมนติค หรือว่าใส่ท่องราตรีแบบหรูๆ มีระดับอันนี้ลงตัวมาก ส่วนการออกกำลังกายหรือใส่กิจกรรมลุยๆ กลางแจ้ง เว้นไปเถอะ ไม่เข้ากันเท่าไหร่

ความทน - ดีงามมากกับ 10 ชม. เป็นพื้นฐานในการใช้งาน ซึ่งไปต่อได้อีกเสียด้วยถ้าจำนวนสเปรย์กับสภาพผิวเอื้อมากพอ ซึ่งส่วนตัวเจอไป 15 ชม. เป็นเรื่องปกติ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนแรก และคงที่ไปราวๆ 15 นาทีได้ ก่อนจะลดลงมาเป็นกระจายดีไปพักใหญ่ ถึงลงมาเป็นปานกลางๆผเรื่อยๆ จนเมื่อแตะชั่วโมงที่ 4 ก็จะเริ่อมผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว และพอผ่านไป 8 ชม. แล้ว ก็เข้าสู่การเป็น Skin Scent แบบค่อยเป็นค่อยไป

สรุป - เป็นโทนพลัมเบอร์รี่ Oud ที่ทำออกมาได้ดีมาก เกินความคาดหวังในด้านดีไปเยอะเลยกับเนื้อกลิ่นที่ให้ความหวานลึกในโทนสีม่วงเข้มได้งดงามและหวานเย้าจริงๆ เรียกว่าสมกับชื่อกลิ่นด้วยเช่นกัน เพราะเดาทางกลิ่นมาอีกแบบ พอมาเจอจริงกลายเป็นอีกแบบที่ลงตัวมาก ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่แบรนด์นี้ปล่อยของได้เก๋และมีเสน่ห์มาก

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ 

Photo Credit - https://www.4160tuesdays.com/becareful.html

 

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565

Review: 4160 Tuesdays - Freeway

4160 Tuesdays - Freeway

ถ้าพูดถึงร้านน้ำหอม Niche Perfume ชื่อดังระดับโลกแน่นอนว่าหนึ่งในนั้น Luckyscent ต้องเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในร้านน้ำหอมที่มีความหลากหลายทางแบรนด์ในการเลือกซื้อหาสูงมาก และยังมีขายเป็น Sample ขนาดจิ๋วในลักษณะแบบแบ่งขายให้ลองอีกด้วย (แม้ว่าจะจิ๋วมากไปหน่อยก็เถอะ) ซึ่งเมื่อเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยม แน่นอนว่าในหลายๆ โอกาสก็ได้มีการร่วมกับแบรนด์ Niche หรือ Indie ในหลายๆ แบรนด์ สร้างสรรค์กลิ่นที่มีความเฉพาะเจาะจงเป็น Exclusive เฉพาะของร้านเข้ามาร่วมด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ 4160 Tuesdays

ที่มาที่ไปของการสร้างสรรค์กลิ่น มาจากการที่ Sarah McCartney ที่เป็นทั้งเจ้าของแบรนด์และสุคนธกรได้ไปเยือนที่ Luckyscent ในช่วง Summer เมื่อปี 2015 และได้เริ่มที่จะทำน้ำหอมขึ้นมาเป็น Exclusive ในการครบรอบ 15 ปีของร้านนี้ ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจาก LA ล้วนๆ ทั้งการนั่ง/ขับรถหรูชมวิวสูดอากาศที่ทั้งมีกลิ่นอายน้ำมันเชื้อเพลิง ไอถนน กลิ่นอายเครื่องยนต์จากรถหรู ดอกส้มที่หอมรวยรินตามลม และขนมหวานต่างๆ รวมถึงการเดินเล่นบนฟุตบาทที่ Hollywood Boulevard ซึ่งทุกอย่างนำเสนอออกมาเพื่อเปรียบเสมือนเป็นกลิ่นอายของ LA ในอนาคต เช่นนั้น มาจับต้องกับเนื้อกลิ่นกันหน่อยดีกว่าว่าจะสร้างสรรค์ออกมาเป็นอย่างไรกับรุ่นนี้ Freeway

เปิดกันเต็มๆ ด้วยความเป็นดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลาย (Orange Blossom) ที่จะให้ความหอมนวลหวานแกมเปรี้ยวอ่อนๆ ที่มีความสะอาด แต่จะมีลักษณะเนื้อกลิ่นที่แปลกอยู่อย่างคือมีกลิ่นโทนออกทางคล้ายเหล้ารัม ทำให้ได้อารมณ์รัมดอกส้มนวลๆ หอมหวานโปร่งๆ มีเสน่ห์ดึงดูดเข้ามาร่วมด้วย และที่สำคัญการที่เสริมกลิ่นโทนติดเขียวของกิ่งก้านส้ม ที่ดึงเอาโทนเข้มติดที่ให้อารมณ์ของกลิ่นคล้ายยางแกมน้ำมันปิโตรเลียมเติมรถเป็นลูกเอื้อนเข้ามา โดยที่ยังมีความเขียวเปรี้ยวหอมสว่างกำลังดี มันเสริมกับกลิ่นของดอกส้มได้ยอดเยี่ยมไม่พอ ยัง + กลิ่นโทนแนวดาร์กที่ให้อารมณ์ยางรถยนต์แกมน้ำมันเชื้อเพลิงแฝงเนียนๆ บางๆ ซึ่งทำให้เนื้อกลิ่นมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดสร้างภาพในหัวเหมือนนั่งรถเปิดประทุนสูดบรรยากาศรายรอบที่ให้โทนสีส้มสว่างแกล้มความเป็นโทนหวานโปร่งได้ดีจนเกินคาด

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มปูทางเข้าสู่ช่วงกลาง ที่กลิ่นจะมีความหวานที่แตกต่างมากขึ้นเพราะนอกจากดอกส้มแกมรัมจะตามมาในช่วงนี้ ก็จะมีความหวานโปร่งแห้งๆ ของยาสูบที่มาสอดรับ และมีมะลิมาเสริมให้กลิ่นดอกส้มมีความระเรื่อแกมนวลมากขึ้น ทุกอย่างยังคุมโทนผสมผสานระหว่างโทนสีส้มแกมนวลหวานโปร่งๆ อยู่ตลอด โดยที่เริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นวานิลลาที่เข้ามาทำให้เนื้อกลิ่นมีโทนสีครีมอ่อนๆ สร้างความสว่างนวลแกมหวานที่ไม่ได้หนักข้นเกินไป โดยโทนหวานแต่ละมิติสอดรับกันเป็นอย่างดีมากจนได้ความรื่นรมย์แบบวันฟ้าใสแสงแดดอบอุ่นที่มีความหวานหอมโปร่งให้จับต้องได้รอบๆ แบบลักษณะคล้ายวานิลลาดอกส้มที่กำลังดี ได้ความเป็นกึ่งๆ ขนมกึ่งไอศครีมที่ค่อนไปทางเจลาโต้หรือเชอร์เบท โดยที่มีความเป็นกลิ่นติดเปรี้ยวแกมเขียวติด Dirty ขื่นเย้าๆ นิดๆ ผลุบโผล่ๆ ให้รู้สึกตื่นเต้นในการจับกลิ่นเป็นระยะ เลยทำให้ได้อารมณ์ที่ไม่ใช่แค่ขนมแล้ว เพราะมีลูกเล่นความเก๋ๆ ดึงดูดแฝงเข้ามาร่วมด้วย

เมื่อกลิ่นโทนหวานเริ่มเบาลงมาอีกสเต็ป และเริ่มมีกลิ่นไม้หอมแห้งๆ เข้ามามากขึ้นจนกลายเป็นตัวเมน ซึ่งช่วงนี้จะมีความ Dirty นิดๆ แกม Smoky ติดเขียวขื่นบางๆ ที่จะเริ่มจับได้ว่านี่น่าจะเป็นกัญชาที่เกลาให้กลิ่นเขียวเปรี้ยวฉุนจัดๆ หายไป ทำให้ได้อารมณ์แบบไม้แห้งๆ ค่อนไปทางกลิ่นกระดาษหนังสือที่ค่อนข้างชัด โดยที่กลิ่นโทนวานิลลากับยาสูบจะยังคงตามมาในช่วงนี้อยู่ แต่พอมาเจอกับกลิ่นเหล้าบรั่นดีที่ให้อารมณ์แบบเหล้าที่มีกลิ่นไม้โอ๊ค ทำให้เนื้อกลิ่นวานิลลาจะยังคงมีความโปร่งแกมกลิ่นหวานระเรื่อของยาสูบที่ติดโทนเหล้าที่ on Top กลิ่นกระดาษหรือหนังสือแห้งๆ แบบเบาๆ ให้ลักษณะที่ Contrast แต่มีความ Mix & Match แบบเก๋ๆ ที่จะได้ความขรึมแบบหนังสือหรือกระดาษเก่าๆ ก็ได้ จะได้ความเป็นกลิ่นเหล้าวานิลลาแกมยาสูบที่มีลูกเอื้อนแบบไอศครีมเปรี้ยวหอมอ่อนๆ ปลายกลิ่นก็ได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ  

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่เข้าได้กับทุกเพศ เพราะเนื้อกลิ่นมีความกลางๆ กำลังดี แต่มีความเก๋แฝงเป็นระยะให้รู้สึกไม่เหมือนใครที่แตะได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ชอบกลิ่นอายหวานโปร่งที่ให้โทนสีส้มไล่โทนไปนวลครีมติดไม้หอม ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะกลิ่นไม่ได้หนักข้นเกินไปด้วย เลยทำให้ใส่ได้หลายหลายไม่ว่าจะแบบทั่วไป เฮฮา ลั่นล้า ปาร์ตี้ จะเป็นกิจกรรมกลางแจ้งก็พอได้ หรือใส่ทำงาน Office ก็มีเสน่ห์ แต่ถ้ายามทางการอาจจะเลือกดูความเหมาะสมนิดนึง ส่วนออกกำลังกายข้ามจะดีกว่าเนื้อกลิ่นไม่ได้มาสายนี้

ความทน - พื้นฐานคือ 8 ชม. ที่ไปต่อได้อีกตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กับการใช้งาน 6 สเปรย์เป็นเรื่องปกติของการใช้งาน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางประมาณ 3 ชม. ก่อนจะลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป แบบเข้ามาอยู่ใกล้ๆ จะได้กลิ่นหวานมีเสน่ห์เข้าโทนสีส้มอ่อนๆ แล้วเริ่มเป็น Skin Scent เมื่อผ่านไปราว 8 ชม. ไปแล้ว     

สรุป - กลิ่นนี้ให้อารมณ์แบบท่อง LA ชานเมือง นั่งรถเปิดประทุนสัมผัสอากาศที่กำลังดี ไม่ร้อนเกินไป และมีกลิ่นอายหอมหวานโปร่งๆ อบอวลอยู่ในอากาศผสมผสานกันด้วยกลิ่นของดอกส้มให้ความสะอาดนวล วานิลลาให้ความอบอุ่น เหล้ารัมให้ความลุ่มลึกมีเสน่ห์ ยาสูบให้ความหวานโปร่ง ไม้หอมแห้งๆ ที่ให้ความผ่อนคลาย กลิ่นเขียวติดขื่นของกัญชาที่มาอ่อนๆ และกลิ่นออกทางยางผสมน้ำมันรถยนต์นิดๆ ทุกอย่างคือการถอดเอาการนั่งรถชิลล์ๆ ท่องเที่ยว Happy ลงขวดและเป็น Exclusive เฉพาะเว็บไซต์ Luckyscent ที่ทำออกมาได้มีเสน่ห์ หอมหวานโปร่งรื่นรมย์และดีต่อใจมาก อันนี้โดนตกเต็มๆ จริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.4160tuesdays.com/freeway.html

 

วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2564

Review: 4160 Tuesdays - Lion Cupboard


4160 Tuesdays - Lion Cupboard

“ในยามเด็กฉันกับน้องสาวชอบไปเล่นที่ตู้ไม้ที่สลักรูปสิงโตของพ่อมาก ซึ่งในตู้นั้นมีไว้เก็บหมวดของพ่อ เก็บสิ่งของที่พ่อชอบจนไม้ได้ดูดซับเอากลิ่นต่างๆ เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นมินต์ กาแฟ ลาเวนเดอร์ เกรปฟรุต และอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในความทรงจำเสมอมา จนวันหนึ่งที่พ่อของฉันเสียไปและทิ้งตู้นี้เอาไว้ เวลาที่พวกเรากลับไปที่บ้าน น้องสาวฉันมักจะเปิดตู้แล้วมุดเข้าไป เพื่อสูดเอากลิ่นที่เปรียบเสมือนเป็นอ้อมกอดของพ่อและระลึกถึงท่านเสมอ และเมื่อทำความสะอาดตู้ กลิ่นเหล่านี้ก็ได้หายไป และเมื่อฉันได้เริ่มทำน้ำหอม เพื่อที่จะถ่ายทอดเอาช่วงเวลาที่มีความสุขของผู้คน น้องสาวฉันก็ได้มองและบอกกับฉันว่า -ทำกลิ่นตู้ไม้รูปสิงโตให้ฉันที-”

ซึ่งนี่แหละคือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นของสุคนธกรอย่าง Sarah McCartney ในการดึงเอาความทรงจำกลิ่นอายต่างๆ ที่ตราตรึงในอดีตมาสู่ขวดและกลิ่นนี้ก็ไม่ใช่แค่จะอยู่กับครอบครัวเธอเท่านั้น และเป็นการแผ่เอาความสุขจากกลิ่นมาถึงคนอื่นๆ อีกด้วย เช่นนั้นมาสัมผัสกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

กลิ่นเปิดบอกความรู้สึกได้อย่างหมดจดจริงๆ กับอารมณ์กลิ่นเหมือนเปิดตู้เก็บสิ่งของต่างๆ ที่มีทั้งกลิ่นไม้หอมอวลๆ กลิ่นสมุนไพรต่างๆ กลิ่นมินท์ กลิ่นติดเครื่องเทศเผ็ดโปร่งหวานของเมล็ดเทียนสัตตบุษย์ (Anise) กลิ่นปร่าแบบเหล้าจิน กลิ่นลาเวนเดอร์ค่อนไปทางโทนแห้ง และกลิ่นหอมสดชื่นติดสว่างๆ มีความเปรี้ยวหน่อยๆ ของเกรปฟรุต ซึ่งต้องยอมใจให้เลยว่าอารมณ์กลิ่นมีความซับซ้อนและซ้อนกันเป็นเลเยอร์กลิ่นอยู่ในโทนไม้หอม ได้อารมณ์แบบเปิดตู้ไม้เก่าๆ ที่ยังใช้งานได้ดีแล้วมีสิ่งของเหล่านี้วางอยู่แล้วกลิ่นผสมผสานกันฟุ้งออกมาให้รู้สึกได้ สร้างเสน่ห์ทางกลิ่นที่ยอดเยี่ยมในความรู้สึกที่ดึงเอาประสบการณ์แบบที่เราเคยเปิดตู้ไม้เก่าได้ดีมาก และเป็นการเชื้อเชิญให้เราดูต่อเลยว่าในตู้ไม้นี้มีอะไรให้เราดูบ้าง และได้ความรู้สึกแบบที่เราตื่นเต้นกับมันได้เลย 

เนื้อกลิ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยจะเป็นการสลับความเด่นให้กลิ่นที่ฟุ้งกระจายจับต้องความรู้สึกที่หลากหลายในช่วงต้นแบบแผ่วลงไปเหมือนเราชินกับมันแล้วจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นที่เป็นสายสนับสนุน ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางที่โดดเด่นกับกลิ่นโทนไม้หอมแห้งๆ ที่จับต้องได้ชัดว่าเป็นไม้ซีดาร์และหญ้าแฝกแห้งติดโทนเก่าๆ ซึ่งได้อารมณ์แบบตู้ไม้เก่า โดยจะเป็นตู้ไม้ที่ยังมีลูกผสมกลิ่นต่างๆ ในช่วงต้นอยู่ครบถ้วนแบบที่ไม่ได้จัดจ้านเหมือนช่วงแรกแล้ว แต่เพิ่มเติมเอาความเผ็ดนวลของพริกไทยมาเสริมให้กลิ่นไม้หอมเข้มชัดขึ้นมีความปร่านวลกำลังดี และมีกลิ่นหอมติดหวานหน่อยๆ เข้าทางโทนดอกไม้มาปรับจมูกให้รับรู้กลิ่นแบบที่กลมกล่อมขึ้น ได้อารมณ์ตู้ไม้เก่าๆ ที่เก็บสิ่งของต่างๆ ผสมผสานกันมาเป็นอย่างดี โดยที่กลิ่นไม้จะเป็น Lead ในการนำพาทุกอย่างเข้าสู่การรับรู้แล้วประมวลผลในความรู้สึก ซึ่งอารมณ์แบบเรายืนสูดกลิ่นตู้ที่เราเปิดแล้วซึมซับทุกอย่างที่เป็นอะโรม่าในความทรงจำมาเต็มๆ

จนเวลาดำเนินไปแล้วเราเริ่มชินกับกลิ่นตู้ไม้นี้แล้ว ซึ่งเนื้อกลิ่นโทนไม้แห้งๆ ก็จะเบาลงไป เราจะได้กลิ่นสิ่งของที่เก็บเอาไว้ในกล่องหรือตลับบางอย่างที่ปิดเอาไว้จากการเปิดออกมา ซึ่งอย่างแรกที่ชัดเจนเลยคือ ยาสูบที่ให้อารมณ์อะโรม่าติดหวานโปร่งแห้งๆ ที่จะมาพร้อมกับกลิ่นโกโก้ที่เป็นโทนติดผงโกโก้ที่สร้างความรู้สึกหอมอวลกำลังดีและสร้างโทนสีน้ำตาลในความรู้สึกได้เลย และจะมีกลิ่นโทยอบอุ่นของวานิลลาที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายๆ เข้ามาร่วมด้วย โดยที่ทุกอย่างยังยืนพื้นที่กลิ่นอายไม้หอมแห้งๆ ที่ยังมีอยู่ประปรายให้จับต้องได้อารมณ์ชินกับกลิ่นแบบที่เกริ่นไปในช่วงต้นย่อหน้านี้ เป็นการปิดท้ายกลิ่นที่สร้างความรื่นรมย์ติดอวลปนกลิ่นไม้หอมได้สมดุลย์ มีความเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดาในทุกอารมณ์ที่กลิ่นสื่อสารออกมาสร้างประสบการณ์ในการจับต้องกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวได้อย่างยอดเยี่ยมมาก

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย ซึ่งกลิ่นจะเป็นการถอดเอาสภาพแวดล้อมและความรู้สึกจากการเปิดตู้ไล่เรียงออกมาเป็นฉากๆ ได้ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งมันแตะและดึงเอาประสบการณ์ในความรู้สึกของแต่ละคนที่ก็ต้องเคยเปิดตู้เก่าๆ มาก่อนกันบ้างแหละ แบบที่ไม่ว่าเพศไหนก็จับต้องได้และอินกับมันไม่ยาก ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันหรือกลางคืนแบบใส่ทางการหรือทั่วๆ ไป ที่เน้นสร้างอะโรม่าให้นึกถึงความสุขที่ผ่านมาในอดีตแล้วทำให้เรายิ้มกับมัน แต่ไม่เข้ากับการใส่ออกกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือออกกำลังกายเท่าไหร่ รวมถึงการใส่ไปท่องราตรีแน่นอน

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ แต่จะไปมากกว่านี้ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวกายและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. ราวๆ นี้เสมอกับ 6 สเปรย์ในการใช้งาน 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นให้อารมณ์เปิดตู้ไม้เก่าที่มีของวางอยู่ชัดเจน แล้วจะลดลงมาปานกลางกำลังดีในช่วงกลางแบบเราชินกับกลิ่นแล้ว ก่อนที่จะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวสร้างความอะโรม่าติดหวานหน่อยๆ ของสายยาสูบและโทน Oriental ต่างๆ ไล่เรียงกันอย่างพอดีๆ จนเมื่อผ่านไปราว 6 - 8 ชม. ก็จะเป็น Skin Scent 

สรุป - ต้องบอกเลยว่าน้ำหอมกลิ่นนี้สร้างภาพเป็นฉากๆ แบบที่เราเปิดตู้ไม้เก่าๆ ที่ข้างในยังเก็บของต่างๆ อยู่ ซึ่งมีทั้งความรู้สึกต่างๆ ที่อบอวลอยู่ข้างในจากผู้ที่เคยใช้งานและความอะโรม่าแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนง่ายๆ เพราะมันจะมีความเฉพาะตัวในการเก็บสิ่งของของแต่ละคน ซึ่งอันนี้ต้องยกนิ้วให้ความยอดเยี่ยมกับสุคนธกรเลย เพราะถ่ายทอดกลิ่นออกมาได้เหมือนเขาเอาตู้ของพ่อเขามาให้เราเปิดแล้วสำรวจจนรับรู้อารมณ์กลิ่นในทุกๆ ช่วงได้อย่างงดงามในความเรียบง่ายที่เฉพาะตัวจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.basenotes.net/ID26138214.html

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Review: 4160 Tuesdays - Over the Chocolate Shop


4160 Tuesdays - Over the Chocolate Shop

ให้ลองจินตนาการว่าถ้าเรายืนอยู่ในร้านขายชอคโกแลตที่มีทั้งชอคโกแลตในแบบต่างๆ ขนมที่ทำจากชอคโกแลตแบบแฮนเมด ที่เราสามารถเห็นกระบวนการทำของเชฟได้ด้วย และมีเครื่องดื่มเกี่ยวกับชอคโกแลตและโกโก้แบบละลานตาทั้งแบบร้อนและแบบเย็น คิดว่ากลิ่นที่ได้รับตอนเข้าไปเยือนในร้านนั้นจะรู้สึกอย่างไร?

สำหรับคนชอยชอคโกแลตรับรองมีฟิน ยอมกินก่อนเบิร์นทีหลังกันแน่ๆ ซึ่งน้ำหอมส่วนใหญ่ที่สื่อสารถึงกลิ่นชอคโกแลตเองก็แทบไม่เจอเลยด้วยซ้ำที่จะสื่อสารถึงลักษณะกลิ่นอายของร้านชอคโกแลตนักส่วนใหญ่ก็จะเป็นแค่องค์ประกอบที่ให้ความเป็นโทนเข้ม ดาร์ก หรือว่าขนมหวานกันอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อเห็นมาดูแบรนด์ Niche สายเก๋จาก UK อย่าง 4160 Tuesdays บอกเลยว่ารู้ใจ เพราะสร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่นอายที่นำเสนอถึงความเป็นร้านชอคโกแลตได้อย่างถึงแก่นและงามกันได้เลย เช่นนั้นมาจาระไนกันว่ากลิ่นนี้จะไล่เรียงมิติการสื่อสารออกมาอย่างไรบ้าง

Over the Chocolate Shop เปิดตัวที่กลิ่นผงโกโก้ที่ฟุ้งกระจายออกมาก่อน แน่นอนความเข้มติดโทนแป้งหน่อยๆ ของผงโกโก้จะมาชัดและทำให้จับต้องได้ทันทีว่านี่แหละการเปิดตัวของชอคโกแลตแบบแฮนเมดก่อนลงมือทำ อารมณ์แบบเอาผงโกโก้มาเทเตรียมไว้แล้วกลิ่นฟุ้งกระจายออกมาแบบชัดเจน ซึ่งในเนื้อกลิ่นนอกจากผงโกโก้จะมีกลิ่นติดขมหอมกึ่ง Smoky ของกาแฟที่เข้ามาร่วมด้วย เลยสร้างอารมณ์แบบเม็ดโกโก้ที่ลดจนเป็นผงที่มีกลิ่นอะโรม่าขมหอม เลยทำให้กลิ่นในช่วงต้นจะได้อารมณ์แนวดาร์กโกโก้ควรจะเป็นเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่าเปิดมาก็สร้างอะโรม่าความเป็นผงโกโก้และเม็ดโกโก้ที่บดละเอียดที่เป็นธรรมชาติและมีเลเยอร์กลิ่นที่มีความลุ่มลึกดึงดูดได้ดี

เมื่อกลิ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โทนกลิ่นออกทางแป้งผงโกโก้เริ่มแปรสภาพ เพราะจะมีกลิ่นออกทางโกโก้บัตเตอร์และวานิลลาอ่อนๆ เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งกลิ่นจะเริ่มมีความข้นอารมณ์แบบเอาผงโกโก้มาผสมกับโกโก้บัตเตอร์ที่มีวานิลลาแช่อยู่ให้มีความหอมลุ่มลึก และจะเริ่มมีความอุ่นในเนื้อกลิ่นมากขึ้นตามลำดับ รวมถึงจ๊ะเอ๋กับโทนกลิ่นออกทางถั่วหอมมีความหวานเจือกลิ่นไม้หอมของฮาเซลนัทที่เนียนเสริมขึ้นมา อารมณ์แบบกระบวนการทำชอคโกแลตเริ่มชัดเจนมากขึ้น เพราะกลิ่นจะให้อารมณ์การเคี่ยวชอคโกแลตจนส่งกลิ่นฟุ้งออกมาจนได้เนื้อกลิ่นของดาร์กชอคโกแลตเข้มข้นเคล้ากลิ่นหอมอะโรม่าอบอุ่นฟุ้งๆ ควบคู่ไปกับกลิ่นฮาเซลนัทที่ให้อารมณ์ไม้หอมเจือหวานหน่อยๆ อารมณ์หยอดฮาเซลนัทลงไปในชอคโกแลตเคี่ยวประมาณนั้น ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่คืออารมณ์ของการดูการทำชอคโกแลตแบบเต็มๆ จริงๆ เป็นไฮไลท์สำคัญของกลิ่นนี้เลยที่มาเต็มและชัดเจน

การเดินทางของกลิ่นในการเข้าสู่ช่วงท้ายจะค่อยๆ ลดทอนโทนอบอุ่น ลงมาเจนเหลือเป็นลักษณะของบรรยากาศเสียมากกว่า เพราะจะมีโทนไม้หอมติด Smoky ปนสว่างหน่อยๆ ให้จับต้องได้รองพื้น และกลิ่นที่เป็นเลเยอร์ด้านบนจะเป็นออกทางชอคโกแลตบาร์กึ่งกลิ่นชอคโกแลตพราลีน เพราะจะมีกลิ่นออกทางชอคโกแลตที่พึ่งทำเสร็จหล่อเป็นชอคโกแลตบาร์หรือพราลีนที่มีกลิ่นเข้มหอมมีความหวานประปรายแนวๆ วานิลลานิดๆ และมีลักษณะอวลๆ ขมหอมกำลังดีแบบชอคโกแลตที่ควรจะเป็น อารมณ์กลิ่นจะเหมือนชอคโกแลตทำเสร็จวางอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเรือนไม้ ทำให้กลิ่นจะผสมผสานกันอย่างลุ่มลึกมีมิติทั้งการเป็นชอคโกแลตที่รื่นรมย์และกลิ่นหอมบรรยากาศที่มีกลิ่นไม้หอมโปร่งๆ ปนปร่าอบอุ่นนิดๆ เคียงคู่กันไปอย่างมีชั้นเชิงได้ความรู้สึกของ Chocolate Shop ที่ชัดเจนและลงตัวเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex เต็มๆ เพราะกลิ่นสายโกโก้กับชอคโกแลตเช้าได้กับทุกเพศอยู่เป็นทุนเดิม และถ้าชอบกลิ่นชอคโกแลตอยู่แล้วด้วยบอกเลยว่าฟินสุดติ่งเอาได้ ซึ่งกลิ่นเองอาจจะไม่ได้เข้ากับยามทางการเท่าไหร่เพราะมาสายกลิ่นโทนบรรยากาศที่เป็นโทนของหวาน (ที่แม้มันจะขมก็ตามเถอะ) เลยเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะเข้าทางที่สุด แต่จะมีก็แค่การใส่ออกกำลังกายที่ไม่ควร เดี๋ยวกลิ่นตีขึ้นจนจุกเสียก่อน ส่วนในยามค่ำคืน ถ้าอยากเรียกเรตติ้งบอกเลยว่าตัวนี้เอาชอคโกแลตไปฝากคนรอบตัวให้รับกลิ่นได้ไม่ยาก

ความทน - มากกกกกก เรียกว่ากลิ่นทนถึง 15 ชม. กันเลยทีเดียวจากการใช้จริง ถ้าตีค่าเฉลี่ยก็เกิน 8 ชม. แน่ๆ เช่นนั้นบอกเลยว่าเรื่องนี้ดีงามสูงมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายดีกันยาวๆ พอสมควรจนถึงกลางๆ ช่วงท้ายที่จะเป็นออร่าหอมชอคโกแลตรอบตัวที่เสถียรใช่ย่อย จนเมื่อผ่านไป 12 ชม. ถึงลดลงมาเบาๆ เน้นติดผิว

สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นที่ถอดเอากระบวนการทำชอคโกแลตเหมือนเราไปนั่งดูการทำจริงในร้านเรือนไม้ที่บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมขมอะโรม่าปนหวานลุ่มลึกได้อย่างลงตัว โดยที่เป็นโทนขนมก็จริง แต่ไม่ได้เอาความหวานมายัดเยียด เน้นนำเสนอแต่กลินอายความเป็นจริงในการทำชอคโกแลต ซึ่งต้องยอมเลยว่าถอดกลิ่นออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://lknu.com.au/products/over-the-chocolate-shop

วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

Review: 4160 Tuesdays – The Dark Heart of Old Havana

4160 Tuesdays – The Dark Heart of Old Havana

เป็นหนึ่งในแบรนด์ Niche ที่ทำน้ำหอมได้เก๋ไม่พอ การตั้งชื่อรุ่นก็เด็ดดวงไม่แพ้กัน แถมมีความ Rare Items พอสมควรกับการหามาครอบครองอย่าง 4160 Tuesdays ซึ่งเคยผ่านการกล่าวถึงไปแล้วรุ่นหนึ่ง ที่เขาตั้งชื่อบอกว่าเป็นน้ำหอมที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกหล้านี้ (แบบเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ปรุง) ก็ได้เวลาของกลิ่นอายของรุ่นอื่นกันบ้างว่าแบรนด์นี้จะทำออกมาอย่างไร ผลออกมาคือ 

The Dark Heart of Old Havana เปิดตัวด้วยกลิ่นอายน้ำตาลไอซิ่งที่ผสมผสานกับกลิ่นน้ำเชื่อมไซรัปข้นๆ แต่แปลกตรงที่ไม่หนักหน่วง เพราะโทนกลิ่นจะมีความหวานเป็นที่ตั้งก็จริง แต่จะมีความโปร่งสบาย หวานแบบไม่ทึบ เพราะกลิ่นอายของผลไม้อย่างพีชมาเป็นตัวเสริมแต่ไม่สาวมากไป และมีกลิ่นติดเขียวแปร่งๆ แบบเปลือกส้มหรือผลไม้ตระกูล Citrus มาตัดทอนผสมผสานแบบเปลือกผลไม้ที่โดนเคลือบน้ำเชื่อม ที่เหมือนจะยังผสมกันไม่ลงตัวนัก แต่มันมีเสน่ห์ในความเป็นธรรมชาติอยู่ไม่น้อย ซึ่งกลิ่นน้ำตาลไอซิ่งนี่แหละจะเป็นตัวหลักที่อยู่ยาวไปจนถึงท้ายๆ ของน้ำหอมเลย โดยที่จะไปเจอกับพระเอกหลักของน้ำหอมตัวนี้อีกตัวที่จะเป็นตัวมาเต็มๆ ในช่วงกลางอย่างยาสูบ ที่จะมาให้ความหวานใสโปร่งแต่ติด Dark เสริมทัพความหวานของน้ำตาลไอซิ่งที่ยังมีโทน Citrus เจือจางๆ นั้นมีมิติแบบเย้ายวนมากกว่าจะหอมโปร่งเฉยๆ แบบตอนต้น และยังไม่พอกลิ่นแนวกาแฟแบบติดครีมมี่ รวมถึงกลิ่นนวลใสของมะลิจะยกพลเข้ามาเสริมทัพด้วย โดยกลิ่นจะผสมผสานกันพร้อมแบ่งเค้กให้ปล่อยของกันได้ลงตัวมากขึ้นประมาณว่ากลิ่นเริ่มเซทตัวได้ที่ประมาณนั้นเลย ลักษณะของกลิ่นจะได้ความหวานหอมโปร่งตีขึ้นมาแบบหวานเย้าของยาสูบแทรกให้รู้สึกได้ แต่พอดมที่ผิวกลิ่นออกทางกาแฟหวานครีมจะชัดเจน ซึ่งเมื่อผ่านไประยะหนึ่งความอบอุ่นจะเริ่มแสดงความโดดเด่นออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เคล้ากับความหวาน นำเข้าสู่ช่วงสุดท้ายอย่างชัดเจนกับการเป็นวานิลลาที่เป็นตัวมาผสมผสานกับยาสูบให้มีความเย้ายวน เซ็กซี่ มากขึ้น ซึ่งจะมีความรู้สึกออกทางสีน้ำตาลเข้มแต่ออกทางซีทรูที่สัมผัสได้ว่ามีความ Dark อยู่นะ โดยที่ความหวานโปร่งของน้ำตาลไอซิ่งจะยังคงอยู่เป็นตัว On Top ที่จะได้ความเป็นมะลิในกลิ่นจางๆ ในเนื้อกลิ่นอยู่ตลอด ซึ่งถาพรวมน้ำหอมตัวนี้ไม่ได้มาแบบแน่นหนักข้นคลั่กแต่อย่างใด อาจจะมี Bomb ความหวานกันหน่อยในตอนแรกกับกลิ่นที่ยังแปลกๆ แปร่งๆ กันบ้าง แต่ที่เหลือคือความหวานที่ดีงามหอมแบบติดดาร์กก็จริง แต่มีความโปร่งมากพอให้เราเข้าถึงได้ ที่สำคัญกลิ่นนี้ให้ความโรแมนติคได้ดีมากจริงๆ

เหมาะสำหรับ ทุกเพศตามที่แบรนด์เขาตราเอาไว้ ตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ได้สบายๆ แต่อย่างน้อยพื้นฐานอาจจะพอรับหรือมีความชอบกลิ่นหวานเป็นทุนเดิมจะฟินมากกับกลิ่นน้ำตาลไอซิ่งแบบนี้ ซึ่งสามารถใส่ได้ในบางสถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งกลิ่นอาจจะไม่เหมาะกับยามทางการนัก เพราะมันหวานนี่แหละ อาจจะทำให้คนอื่นที่ได้กลิ่นไม่ได้ปลื้มเหมือนกันทุกคน แต่ถ้าใส่ทั่วๆ ไปเช่น ทำงาน Office แบบไม่ได้พบปะใครมาก หรือชิลล์ๆ ออกแนวโรแมนติคหวานติดลึกล้ำแบบทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้ได้ถึงความหวานโปร่งที่เรามี ส่วนยามค่ำคืนจัดไปกลิ่นนี้หวานเย้ายวนลงตัวน่าค้นหามาก อาจจะไม่ได้เหมาะกับการไปเต้นแร้งเต้นกา แต่เหมาะกับการคลุกวงในแบบโรแมนติคทีเดียวเชียวแหละ 

ความทน อยู่ที่ราวๆ 8 ชั่วโมง และมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ส่วนตัวเพียงแค่ 4 สเปรย์ ลากยาวไปที่ 12 ชั่วโมงได้สบายๆ เลย 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นเรียกว่ามาเต็มและหวานแปร่งๆ ให้งงๆ กันก่อน จึงค่อยลดลงมากระจายดีในตอนกลาง แล้วจะลงมาตามลำดับเรื่อยๆ ในช่วงท้ายแบบออร่ารอบๆ ตัว กับ Skin Scent ตามเวลาที่ผ่านไป 

ทิ้งท้าย แม้ในความดาร์กมืดมันก็ยังมีความหวานอยู่ภายในที่น่าค้นหาไม่น้อยด้วยเช่นกัน เช่นนั้นกลิ่นนี้จึงเป็นหนึ่งในลูกรักและเป็นหนึ่งใน Knight of Romance ของผมเลย กลิ่นหอมหวานโปร่งน้ำตาลไอซิ่งกับยาสูบที่ไม่แน่นหนา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายในความหวานที่กลิ่นนี้มีให้ ฟินที่สุดเลยจริงๆ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

Review: 4160 Tuesdays - The Sexiest Scent on the Planet. Ever. IMHO

4160 Tuesdays - The Sexiest Scent on the Planet. Ever. IMHO

ชื่อยาวมากและชัดเจนว่ารุ่นนี้สื่อถึงอะไร และชัดเจนเรื่องการดึงดูดว่าใช้แล้วมันจะเด็ดดวงใช่ไหม ซึ่งถือเป็นตัวแรกของแบรนด์ 4160 Tuesdays นี้ที่ได้มีโอกาสจัดเต็มเพราะต้องการเสริมความเซ็กซี่สุดๆ ในตัวเองเผื่อจะได้บ้างอะไรบ้าง เช่นนั้นในเมื่อเขาออกตัวมาว่าเป็นน้ำหอมที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ในความคิดเห็นของ Perfumer เช่นนั้น มาเลยดีกว่าขอจัดเต็มเพราะเราจะเซ็กซี่ที่สุด ผลที่ออกมาคือ

The Sexiest Scent on the Planet. Ever. IMHO เรียกว่าเป็นกลิ่นอายที่อบอุ่นจากโทนไม้หอมสูงมาก กลิ่นเปิดแม้จะมีความเป็นซิตรัสจากมะกรูด แต่กลิ่นอายของไม้หอมที่มาจาก ISO E Super จะมาเต็มและชัดเจนมาก ได้อารมณ์แบบไม้ซีดาร์สะอาดๆ ขรึมๆ ติดอบอุ่นที่ให้ความสะอาดน่าดมน่าเข้าใกล้กันอย่างชัดเจน จนเมื่อโทนซิตรัสเบาลงไป กลิ่นอายไม้หอมจะจัดเต็มแบบอบอุ่นกำลังดีในช่วงกลางที่มีกลิ่นอายเครื่องเทศเบาๆ ที่ไม่ได้ออกทางหนักแน่น เน้นมาทางโปร่งๆ สบายๆ และมีความอบอุ่นติดโทนแป้งเสริมขึ้นมาจากวานิลลา ซึ่งช่วงนี้เป็นกลิ่นอายที่มีเสน่ห์แบบธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะมันได้หมดทั้งอารมณ์อบอุ่นกำลังดี โปร่งสะอาดกำลังงาม เย้ายวนติดเซ็กซี่แบบไม่โจ่งแจ้งจนเกินไป เรียกว่ามาใกล้ๆ สิ เดี๋ยวจะฟินจนขอซุกเองอะไรแบบนี้ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะลากยาวเด่นไปจนถึงช่วงท้าย โดยจะได้ความอบอุ่นเข้ามาเสริมซึ่งจะได้อารมณ์คล้ายผิวกายสะอาดๆ เคล้าความเป็นวานิลลากลั้วไม้หอม กลิ่นจะอบอุ่นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่ได้แบบว่าแผ่กระจายอะไร แต่ได้ความรู้สึกน่าไว้วางใจ ชวนยิ้ม และมีเสน่ห์ที่เข้าถึงได้ง่าย โดยไม่ต้องพยายามปีนบันไดดมและต้องใช้ความลึกซึ้งมากมายเกินเหตุแต่ประการใด

เหมาะสำหรับ – Unisex เลย กลิ่นมีความกลางๆ สูงมากที่จะแตะการใช้งานของทุกเพศ ซึ่งวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปสามารถจัดตัวนี้ได้สบายๆ กลิ่นให้ความโปร่งสะอาดและอบอุ่นมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน ซึ่งสามารถใช้ได้ในแทบจะทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เอาจริงๆ ถ้าจะใส่ออกกำลังกายก็ใส่ได้อยู่ แต่เนื่องจากบ้านเราอากาศร้อนอาจจะรอช่วงท้ายๆ แทนน่าจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนก็สบายๆ ยิ่งถ้าต้องการความเข้าถึงง่ายและโรแมนติคแบบไม่โจ่งแจ้ง ไม่ว่าจะใส่ออกงานหรืออยู่กับคนรักก็ทำให้เอาฟินทั้งคนใส่และคนได้รับกลิ่นได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะใส่เพื่อไปท่องราตรีต้องอัดสเปรย์หน่อยก็พอไปปล่อยของได้อยู่แบบเน้นคลุกวงใน เช่นนั้นกลิ่นครอบจักรวาลการใช้งานพอสมควรเลยทีเดียว

ความทน – 8 ชม. สบายๆ เลย และอาจจะมากกว่านั้นอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ก่อนจะเป็น Skin Scent ที่ตีขึ้นยามร่างกายทำความร้อน ซึ่งถือเป็นอีกตัวที่มีความปลอดภัยในการใช้งานแถมด้วยความเซ็กซี่นั่นเอง

ทิ้งท้าย มันเซ็กซี่ที่สุดในโลกไหม? ก็ต้องตอบว่า “ตอบไม่ได้” เพราะความเซ็กซี่ทางกลิ่นของแต่ละตัวบุคคลนั้นรู้สึกแตกต่างกัน แต่ถ้าในความรู้สึกผม กลิ่นนี้คือกลิ่นที่เซ็กซี่ตามธรรมชาติแบบไม่ต้องพยายามแถมยังให้ความอบอุ่นมีเสน่ห์แบบโปร่งๆ น่าเข้าใกล้ได้ดีมาก เช่นนั้นถ้าใส่ตัวนี้แล้วมีคนซบไปเรื่อยๆ ก็ฟินจนไม่รู้จะฟินยังไงแล้วล่ะ บอกเลยยยยย

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ