Review: Loewe – Gala

Loewe – Gala 

แน่นอนว่าพูดถึง Loewe แบรนด์ดังจากสเปน ส่วนใหญ่น้ำหอมที่ได้ลองใช้จะมาในโทนสดชื่นเป็นหลักมาตลอดเลย และเป็นน้ำหอมผู้ชายเสียด้วย แต่ได้มีโอกาสได้ลองน้ำหอมผู้หญิงของแบรนด์นี้ที่เรียกว่ามาในโทนที่เข้าทางวินเทจ เลยต้องมาบอกเล่ากันเสียหน่อยว่าเป็นยังไงบ้างกับรุ่นนี้เลย Gala 

ตอนแรกที่ยังไม่ได้ใช้ ไปแอบดู Notes กลิ่นก่อนว่าจะเป็นยังไง ก็แอบใจสั่นและหวั่นๆ ไม่น้อยเพราะกลิ่นโทน Animalic จะเด่นมากจากการเป็นชะมดเช็ด และ Castoreum (กลิ่นต่อมเพศของบีเวอร์) แถมยังมี Aldehydes อีก แต่พอได้ลองเท่านั้นแหละ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยเพราะ Top Notes มากับกลิ่นโทน Aldehydes แบบสบู่สดชื่นสะอาดโปร่งจัดๆ ก็จริง แถมกลั้วไปด้วยกลิ่นโทนเขียวและซิตรัสที่มาประชุมพลกันด้วย แต่เพราะว่าการรองพื้นหลังด้วยโทน Animalic หรือสาปปลุกเร้ามันก็เด่น เลยตัดทอนกลิ่นคมๆ ลงไปได้เป็นกลิ่นที่ออกทาง Old School แต่ออกทางไม่หนักหน่วงมาก ที่สำคัญเพราะอิทธิพลของช่วง Middle Notes มันขึ้นมาไวมากด้วย โทนดอกไม้นานาพันธุ์ในช่วงนี้เลยทำให้กลิ่นออกโทนนุ่ม ขรึม ขลังแบบมีระดับเด่นที่มะลิ กระดังงา กับคาร์เนชั่นที่ติดเขียวๆ หน่อย แน่นอนมีความเป็น Old School ก็จริง แต่กลิ่นช่วงนี้มีความร่วมสมัยพอสมควร เพราะลักษณะเหมือนการเดินคู่ขนานไปกับกลิ่นอายแบบ Old School ที่ Aldehydes และ Animalic เด่น แต่ก็เยียบฝั่ง Floral ที่มานวลๆ แบบมีระดับแบบติดกลิ่นอายทันสมัยไม่ได้ขนมาแบบแน่นหนา มีความบางเบาแต่คงตัวอยู่ได้งามเลยทีเดียว ซึ่งจะเริ่มมีโทนอบอุ่นแฝงขึ้นมาทีละน้อย จนเข้าสู่ Base Notes ที่กลิ่นอาย Animalic จะเด่นกลั้วความอบอุ่นติดโทนนุ่มๆ ซึ่งกลิ่นของชะมดเช็ดและ Castoreum จะกลายเป็นโดยเหลาจนนุ่มไปเลย กลิ่นสาปแบบปลุกเร้าจึงกลายเป็นกลิ่นนุ่มนวลแบบไม่น่าเชื่อ เพราะกลิ่นไม้จันทน์หอม พิมเสน โทนดอกไม้ในช่วงกลาง และวานิลลาจะตัดทอนความสาปออกไปจนกลายเป็นกลิ่นนุ่มๆ มีภูมิไปเลย ซึ่งภาพรวมเลยเป็นกลิ่นที่บอกถึงผู้หญิงนิ่งๆ ขรึมๆ แต่งชุดสุภาพแต่มีระดับหรูหราแบบออร่ามันออกมาเองโดยไม่ต้องพยายาม จนทำให้เราต้องมองและแอบยำเกรงกึ่งชื่นชมในออร่าที่ผู้หญิงคนนี้มีเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ – ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นให้ความรู้สึกภูมิฐาน มีของ และมีระดับมากพอที่ทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกถึงออร่าแบบผู้หญิงร่วมสมัยที่เก่งและเก๋ไก๋ไม่หยอก สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบงานทางการและทั่วๆ ไปแบบมีระดับหน่อย ไม่ใช่ใส่กับกระโจมอกตำน้ำพริก หรือไปวิ่งไล่จับจะเอ๋กับใครแถวไหน ออกกำลังกายข้ามไปได้เลย ไม่เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนออกงานราษฎร์งานหลวงได้หมด กลิ่นเอาอยู่ แต่ถ้าไปเที่ยวท่องราตรี เน้นแบบเริ่ดๆ เชิดๆ ไม่ได้มาหาผู้ชายนะ แต่ถ้าผู้ชายเข้ามาเองอันนี้ก็ช่วยไม่ได้ (ทำท่าก็ไม่รู้สินะ)

ความทน – ยกนิ้วให้เลยเพราะ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้น 

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น เรียกว่ามาแบบลงตัวและงามเลยทีเดียว และลดลงมากระจายปานกลางคงตัวไปถึงช่วงท้ายๆ ก่อนจะค่อยๆ เป็นออร่ารอบๆ ตัวแล้วจางไปตามกาลเวลา 

ทิ้งท้าย – ผมไม่นึกว่าผมจะเจอน้ำหอมที่กลิ่น Animalic นุ่มได้มากขนาดนี้ ตะลึงตึ้งตึงไม่พอ ยังทำให้ประทับใจมากเลยทีเดียวล่ะครับ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://tienda.murlana.es/myfiles/gala_Loewe.jpg

Review: Loewe – Solo Loewe Intense

Loewe – Solo Loewe Intense

เพราะ Solo Loewe ที่เป็นตัวเอกของ Loewe ในน้ำหอมฝ่ายชายดังมากเหลือเกิน และกลิ่นอายสดชื่นแบบมีระดับจริงๆ ก็เลยมีการแตกไลน์ออกลูกออกหลานมากมายเต็มไปหมด ซึ่งหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจมากเลย Solo Loewe Intense ที่จะมาลองให้ดมผ่านตัวหนังสือกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

เรียกว่ามาเต็มกับโทนผลไม้ติดซิตรัสกันเลยทีเดียว เพราะเปิดต้นกลิ่นมาก็มาเต็มกับโทนซิตรัสที่มาหมดเลยทั้งเกรฟฟรุต เลมอน มะนาว และส้ม แต่จะมีกลิ่นอายที่เด่นขึ้นมาควบคู่คือ ฝรั่ง ที่จะมาให้ความหอมสดชื่นติดเขียวออกหวานนิดๆ แกล้มไปด้วยตลอดและยังมีกลิ่นสมุนไพรติดเขียวสดชื่นแทรกเป็นระยะๆ กลั้วกับกลิ่นนุ่มสะอาดของลาเวนเดอร์ที่มาแบบกำลังดี กลิ่นเปิดเรียกว่ามาติดคมๆ เลยทีเดียว เรียกความสดชื่นแบบให้ตื่นได้เลยถ้าง่วงๆ อยู่ และเมื่อช่วงกลางได้ทำหน้าที่ของตัวเอง กลิ่นของฝรั่งยังคงอยู่มากลั้วกับเมล่อนให้มีความหวานมากขึ้นในเนื้อกลิ่น กลิ่นลาเวนเดอร์ยังคงอยู่ให้ความรู้สึกสะอาดนุ่มนวลจมูก โทนซิตรัสต่างๆ ยังทำหน้าที่แบบละระดับลงมา แต่สิ่งที่มาเสริมทัพคือ กลิ่นของพิมเสนที่รับช่วงต้อจากกลิ่นอายสมุนไพรในตอนแรก กลิ่นโทนวู้ดดี้นวลๆ ที่มาเสริมให้กลิ่นมีโทนอบอุ่นนุ่มๆ จางๆ มาตัดและเป็นตัวเชื่อมกับกลิ่นช่วงท้าย ที่จะมาด้วยความเป็นเครื่องเทศติดสดชื่นอย่างพริกไทย และมีกลิ่นอายหวานๆ ของอบเชยมาทำให้กลิ่นนวลสะอาด โทนผลไม้ติดซิตรัสสะอาดๆ ก็ยังคงอยู่แต่มาแบบเบาๆ มีความเป็นวู้ดดี้อ่อนๆ ให้รู้สึกได้ ภาพรวมจึงถือเป็นน้ำหอมที่ใช้ง่ายมากเลยทีเดียว ออกแนวสดชื่น สบายๆ และเป็นแนวๆ วันฟ้าใสอย่างชัดเจน

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ต้น ก็ใช้ได้แล้ว เพราะกลิ่นสดชื่นคมๆ แบบนี้เข้าถึงง่ายมาก แถมเป็นกลิ่นที่เปิดสว่างวันฟ้าใสจริงจัง เหมาะกับอากาศร้อนๆ ขั้นสุด ซึ่งสามารถใส่ได้ทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการ เพราะมีความเป็น Safe Scent เกิน 70% เลย ส่วนยามค่ำคืนถ้าไม่ได้เน้นไปยั่วใคร ใช้แบบชิลล์ๆ กับอากาศร้อนก็ลงตัว

ความทน – ตรงๆ รุ่นนี้เป็น EDC หรือ Cologne แต่มีเพราะเป็น Intense ความทนจึงเรียกว่า EDT ดีๆ นี่เอง ซึ่งอยู่ที่ 6 – 8 ชั่วโมง ตามจำนวนสเปรย์ และจุดที่ฉีด ซึ่งถ้าย้ำที่เสื้อด้านหน้าไปด้วยกลิ่นจะทนขึ้นพอสมควรเลย 

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ปลุกให้ตื่นสดชื่นเต็มๆ แล้วลดลงมากระจายกลางๆ ก่อนจะเป็นออร่ากึ่ง Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – กลิ่นอายของตัวนี้รับมาจาก Solo Loewe ตัวปกติเยอะอยู่ และมีความเป็นเมทัลลิคคมๆ แบบ Azzaro Chrome พอสมควร จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงใช้ง่าย และเข้าถึงได้ง่ายเช่นนี้

Credit ภาพ - http://www.perfumesideal.com/images/stories/virtuemart/product/i0107492g.png   

Review: Loewe – Solo Loewe

Loewe – Solo Loewe

หนึ่งในแบรนด์จากสเปนที่ทำน้ำหอมได้เริ่ดสะแมนแตนมากจริงๆ แถมเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ดมเผินๆ อาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่มันเก๋ตรงนี้ในแต่ละช่วงการจัดวางลำดับและการเบลนด์กลิ่นทำได้ไม่มีที่ติเลย เพราะชูจุดเด่นของโทนกลิ่นที่ควรจะเป็นชัดเจนและหอมสดชื่นตลอด จนได้รับความนิยมอย่างมากและออก Flanker มาหลายตัวตอกย้ำความสำเร็จกันเลยทีเดียวอย่าง Solo Loewe ครับ 

ใครชอบส้ม รักส้ม แถมด้วยชอบฝรั่งและรักฝรั่งมาทางนี้ เพราะ Top Notes นี่คือกลิ่นของฝรั่งสุกๆ ปั่นรวมกับน้ำส้มผสมเลม่อนให้ความรู้สึกหอมสดชื่นกันชัดเจน แต่ที่เด็ดคือกลิ่นของโทนผลไม้กลั้วซิตรัสจะตีขึ้นให้รับรู้ แต่ไม่ได้มาแบบคมจัด เพราะมีลาเวนเดอร์มาตัดให้เกิดโทนสะอาด แถมด้วยมีกลิ่นโทนสมุนไพรเขียวๆ กับวู้ดดี้รองพื้นดันให้กลิ่นที่กระจายออกมาเด่น จนเมื่อเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นโทนส้มผสานฝรั่งและลาเวนเดอร์ยังคงเด่นเด้งขึ้นมาเต็มๆ คงความสดชื่นกันชัดเจน โดยจะมีความหวานของโทนเครื่องเทศอย่างอบเชยและพริกไทยสีชมพูที่มาแบบอ่อนๆ กำลังดี และมีโทนเย็นวาบๆ ของจันทน์เทศกับมินท์มาเสริม ทำให้กลิ่นไม่ออกทางหวานและแน่นเกินไป ดันให้กลิ่นโทนผลไม้กระจายเด่นเสียด้วยซ้ำ จนปิดท้ายที่ Base Notes งานนี้ Musk ต้องมาให้ความนุ่มเย้ากลั้วไปกับโทนอบอุ่นสะอาดๆ ของไม้จันทน์หอมและแอมเบอร์ โดยมีตัวรองพื้นอย่างวานิลลาเป็นเบื้องหลังคอยดันดาราให้อยู่ แต่พระเอกคู่ของงานอย่างส้มและฝรั่งยังคงอยู่จางๆ ให้รู้สึกได้อยู่ ซึ่งเป็นน้ำหอมโซนสดชื่นที่ผสานกลิ่นออกมาได้ยอดมากจริงๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นตั้งแต่ต้นยันจบ แทรกความอบอุ่นกำลังดีและความสะอาดแบบผู้ชายดูแลตัวเองได้ลงตัวมากครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ต้น ขึ้นไป เป็นน้ำหอมที่เข้าถึงได้ง่ายมาก สดชื่นแบบมีระดับ ไม่โหล ไม่เหมือนใคร ยิ่งคนรักกลิ่นส้มยิ่งปลื้มปริ่มกันได้เลยทีเดียว สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันและยามเย็นแบบทั่วๆ ไป

ความทน – เพราะการจัดวางลำดับของกลิ่นและการเบลนด์กลิ่นที่ดีมากของตัวนี้ในแต่ละช่วงที่จะมีตัวเด่น ตัวดัน และตัวรองพื้นที่จะทำให้กลิ่นคงตัวไล่ระดับกันตั้งแต่ช่วงต้นยันท้าย เลยทำให้น้ำหอมกลิ่นโทนสดชื่นที่แรกใช้ไม่คิดว่าจะทนเท่าไหร่ กลายเป็นทนเกิน 8 ชม. ได้สบายๆ ส่วนตัวเจอมา 10 ชม. ก็ยังได้กลิ่นอยู่เลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะลดลงมากระจายกลางๆ ไปเรื่อยๆ จนเป็นออร่าหอมสดชื่นรอบๆ ตัวคนใส่ แบบกลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ได้

ทิ้งท้าย – ผมขอยกให้เป็น Masterpiece เลยก็ว่าได้ครับ ทำกลิ่นน้ำหอมออกมาได้ดีจริงๆ แหละเหมาะกับหน้าร้อนบ้านเราสุดๆ ครับ

Review: Loewe – Agua de Loewe

Loewe – Agua de Loewe 

ผมว่าสเปนนี่ผลิตน้ำหอมได้ดีเลยนะครับ ที่สำคัญน้ำหอมของเขาทำออกมาได้เข้าทางกับภูมิอากาศบ้านเรามากเลยทีเดียว แต่ละแบรนด์จัดเต็มกันในเรื่องคุณภาพกันอย่างมากจริงๆ และหนึ่งในนั้น คือ Loewe ครับ แน่นอนเรื่องเสื้อผ้าหลายๆ คนคงเห็น Shop แบรนด์นี้ที่ Paragon มาแล้ว (ยังไม่เคยเข้าเลยไม่รู้ว่ามีน้ำหอมหรือเปล่านะครับ) ซึ่งหนึ่งในน้ำหอมที่ชื่อ Agua de Loewe นั้น จัดเต็มในแง่เป็นน้ำหอม Unisex ที่ให้อารมณ์กลิ่นชาที่ใช้ง่ายมากเลยทีเดียวของแบรนด์นี้ เพราะ

Top Notes คือช่วงเวลาของความสดชื่นแบบคนรักส้มกันเลย แต่ส้มที่ว่ามันคือ ส้ม Yuzu นะครับ กลิ่นนำเด่นมากรองพื้นหลังๆ ด้วยมะกรูดและส้มเขียวหวานที่ตวงความสดชื่นกันได้เต็มๆ เลย กลิ่นโทนของซิตรัสของยูซุนี่จะยาวไปถึง Middle Notes เลยทีเดียว เพียงแต่จะให้อารมณ์ชาเขียวส้มยูซุกำลังดี มีโทนออกสะอาดๆ ของพริกไทยและออกแนวเครื่องเทศบางๆ ให้อารมณ์ที่ยังคงความสดชื่นเสมอ และเย้ายวนเบาๆ เพราะโทนชาตัวนี้จะหอมนุ่มติดเขียวมากจริงๆ จนพอไปถึงในช่วง Base Notes ที่คราวนี้โทนวู้ดดี้ที่นุ่มนวลสะอาด เพราะเป็น Base ที่ยอดนิยมมากไม่ว่าจะเป็นไม้จันทน์หอม ไม้ซีดาร์ แอมเบอร์ และ Musk ที่เก็บตกโทนหอมสะอาดสะอ้านได้ครบถ้วนจริงๆ โดยมีโทนชาล่องลอยเบาๆ ให้จับต้องได้ในแบบที่กำลังดี เบาๆ ดูสุภาพมากเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในน้ำหอมโทน Safe Scent ที่ไม่รบกวนคนอื่นมากเกินไป และคนได้กลิ่นโดยส่วนใหญ่มักชอบเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ – ทุกเพศทุกวัยเลยครับ เพราะน้ำหอมตัวนี้เป็นตัวกลางๆ ที่เข้าถึงได้ง่ายมาก ใช้ง่าย ไม่รบกวนใคร ใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะใส่ทำงาน เข้าหาผู้ใหญ่ สัมภาษณ์งาน ชิลล์ๆ เดินเล่น เที่ยวห้าง กิจกรรมกลางแจ้ง และออกกำลังกาย กลิ่นเข้ากับอากาศร้อนๆ บ้านเราได้ดีมาก แต่ไม่เหมาะกับใส่กลางคืนที่อากาศเริ่มเย็นๆ เลยครับ เพราะกลิ่นจะเบาไป

ความทน – ประมาณ 6 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่เกิน 8 ชม. ครับ แล้วแต่ความเข้ากันได้ของผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วง Top และจะค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวบางๆ ให้ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสะอาดสดชื่น

ทิ้งท้าย – ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นเบาและสุภาพที่น่าสนใจมากตัวนึง ซึ่งผมชอบตรงที่โทนกลิ่นที่กลางจริงๆ ในทุกๆ ช่วง ที่ทำให้ใส่ได้ทุกเพศนี่แหละครับ ไม่มีเอียงไปทางไหนเลย มันดูไม่แบ่งแยกทางด้านกลิ่นดีมากจริงๆ