แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ CoSTUME NATIONAL แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ CoSTUME NATIONAL แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565

Review: CoSTUME NATIONAL - Scent Intense Parfum Red Edition

CoSTUME NATIONAL - Scent Intense Parfum Red Edition

จากต้นตระกูลที่ให้ความเป็นน้ำหอมกลิ่นชบา ที่ผสมผสานกลิ่นออกมาได้อย่างมีคลาส หรูหรา สว่างแต่เย้ายวนแฝงได้บาดจิตไม่เหมือนใครจนได้รับความนิยมเป็นตัว Top ของ CoSTUME NATIONAL อย่าง Scent EDP ที่มีแตกแขนงทั้งล่างที่เป็น Scent Sheer และเหล่า Scent Gloss ต่างๆ และบนที่มี Scent Intense และ Scent Intense Parfum ที่เพิ่มความดาร์กและซับซ้อนเย้ายวนโดดเด่นเข้าไปอีก ที่สำคัญหลายๆ รุ่นของสายนี้ แม้จะลงไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิงแต่จริงๆ Unisex แบบงดงามที่ผู้ชายใช้ก็มีเสน่ห์อย่างมาก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสายที่ยากที่จะโค่นได้ลงจริงๆ ในการเป็นหนึ่งในกลิ่นโทน Amber ที่ไม่ธรรมดามาเสมอ

และในปี 2018 การต่อยอดสายบนอย่างโซน Intense ก็ได้เปิดตัวความเป็น Scent Intense Parfum Red Edition ออกมา ซึ่งคราวนี้ไม่มาเจาะแค่การเป็นน้ำหอมผู้หญิงแล้ว แต่มากับการเป็นน้ำหอม Unisex กันอย่างเต็มๆ โดยแบรนด์ลงเอาไว้ว่าความเข้มข้นจะมากกว่าความเป็น Scent Intense ปกติจาก 23% มาเป็น 25% ที่เป็น Parfum โดยนำเสนอความแข็งแกร่ง แซ่บ และขบถที่ชัดเจนลุ่มลึกมากขึ้น เช่นนั้น ขอมาลองความขบถที่ว่ากันหน่อยว่าจะออกมาเป็นแบบไหน

Scent Intense Parfum Red Edition คงพื้นฐานเดิมแบบเดียวกับ Scent Intense ที่และมีลายเซ็นแบบที่เป็นตระกูล Scent ให้จับต้องได้ เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีโทนที่ให้ความรู้สึกสีแดงชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นเป็นตัวขับเคลื่อนกลิ่นกันยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้าย จุดเริ่มต้นก็จะเป็นโทนกลิ่นชาเขียว + เม็ดกระวาน ที่เป็นลายเซ็นแบบบอกเลยว่านี่แหละตัวเปิดเสมอของ Scent เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีความเข้มชัดแต่ไม่ถึงกับหนักหน่วง และมีความลึกของกลิ่นที่จับมิติความชัดในโทนต่างๆ ได้ครบถ้วนเลย เพราะจะได้ความฝาดกึ่งอะโรม่าติดเขียวของชา ที่มีความปร่าขมเปรี้ยวของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เนียนๆ ผสมผสานกับความเผ็ดหวานเย้าปร่าแต่ไม่ถึงกับหนักข้นของเม็ดกระวานที่เรียกว่าช่วงนี้คือตัวเด่นเลย แถมเนื้อกลิ่นยังได้โทนกุหลาบหน่อยๆ เสริมอีก เลยทำให้ช่วงต้นเป็นโทนสีแดงโปร่งที่ดึงดูดและมีความเก๋ในเนื้อกลิ่นแบบที่ให้อารมณ์คงเดิมแบบ Scent Intense แต่เพิ่มความรู้สึกสีแดงเข้าไปนั่นเอง

เมื่อได้เวลาของช่วงกลาง สิ่งที่จะชัดเจนมากขึ้นคือ ความเป็นโทนดอกไม้ที่ให้สีแดงแบบไม่หนักข้น ซึ่งแน่นอนว่ากุหลาบกับชบาเป็นตัวแปรสำคัญและเป็นตัวเด่นสุดในช่วงนี้เลย โดยเนื้อกลิ่นในช่วงต้นต่างๆ จะยังตามมาอยู่แต่จะลดระดับเป็นสายซับที่ดี ซึ่งกระวานจะเป็นตัวเสริมให้มีความเป็นกุหลาบแกมเครื่องเทศโปร่งๆ และชาจะเสริมตัวชบาให้มีความแกมหวานระเรื่อที่ชัดขึ้น แล้วดอกไม้ทั้ง 2 ก็เลยกลายเป็นโทนเด่นที่แบบตีคู่กัน + ผสมผสานกันให้ความรู้สึกแบบสีแดงเต็มๆ ฟุ้งขึ้นมาให้รับรู้ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะจับได้มากกว่าความเป็น Scent Intense เดิมนั่นคือกลิ่นออกทางกึ่งเมทัลลิคที่ทำให้รู้สึกอารมณ์แบบกลิ่นเลือดสีแดงขึ้นมาหน่อยๆ ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นหญ้าฝรั่นที่เข้ามาสร้าง Effect ลักษณะนี้ โดยมีเลเยอร์ตรงกลางเป็นดอกไม้ขาวแนวมะลิที่มีความ Indolic หรือตุ่นนิดๆ ที่เป็นตัวเสริมความเร้าใจให้กลิ่นหน่อยๆ + ความอบอุ่นที่จะเริ่มชัดขึ้นในเนื้อกลิ่นตามลำดับ ทำให้ไล่โทนกันชัดจากสีแดงของกุหลาบชบากึ่งเมทัลลิค สู่ความนวลระเรื่อเย้าๆ และความอุ่นอวลชวนดึงดูด เรียกว่าเป็นช่วงที่น่าค้นหาและมีความเก๋ ชิค และใช่เลยขบถแบบฉีกตัวเองออกมาเป็นอีกเวอร์ชั่น โดยไม่ทิ้งความเป็น Scent Intense เดิม 

ช่วงท้ายเนื้อกลิ่นจะเริ่มกลับเข้าสู่การเป็น Scent Intense ลักษณะเดิมมากขึ้นกับการเป็นโทนแอมเบอร์เด่น แต่จะไม่ได้โฉ่งฉ่างแบบใส่แอมเบอร์มาเต็มๆ ซึ่งจะให้ความเป็นแอมเบอร์ในลักษณะแบบแบบกึ่งผิวกายติดเค็มอ่อนๆ ที่เป็นโทนกลิ่นแบบ Ambergris ที่มีโทนวานิลลาอยู่อ่อนๆ ซ้อนประปรายผสมผสานกับโทนครีมมี่ไม้หอมของจันทน์หอมหน่อยๆ แกมยางไม้ที่เป็นลักษณะกลิ่นแบบแอมเบอร์ปกติรวมอยู่ด้วย แต่สิ่งที่สะกิดจมูกเพิ่มก็คือ มีโทนหนังเข้ามาตัดทอนให้ได้ความรู้สึกห่ามเบาๆ และมีความเป็นกุหลาบแกมชบาบางๆ ที่ตามมาซึ่งสร้างความเซ็กซี่เย้ายวนร่วมด้วย นี่แหละลายเซ็นของความเป็น Scent Intense ล่ะ เพียงแต่กลิ่นไม่ได้โฉ่งฉ่างทรงพลัง แต่ผสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผิวกายที่สร้างเสน่ห์ในมิติเชิงลุ่มลึกมากขึ้นในลักษณะการเป็น Parfum ถือว่าเป็นการปิดท้ายกลิ่นที่ยังเคารพที่มาที่ไป แต่เพิ่มความเร้าใจในโทนสีแดงออกมาได้อย่างไม่ธรรมดาและน่าสนใจมากจริงๆ

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนมาก แม้จะเด่นที่ดอกไม้แต่ก็ยังคุมโทนที่ใช้ได้ทุกเพศ แบบที่สร้างความเก๋ ความแซ่บขบถประมาณนั้น ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไป หรือใส่ทำงานเน้นความเก๋และมีสไตล์ทางกลิ่นที่มีคลาสประมาณนั้น แต่ถ้าใส่ยามทางการอาจจะต้องพิจารณาสถานการณ์นิดนึง แต่ที่ข้ามไปได้เลยคือการใส่เพื่อออกกำลังกาย ส่วนยามค่ำคืน ได้หมดทั้งทั่วไป ใส่ออกงาน หรือท่องราตรีแบบไม่ได้เต้นรากแตก เน้นเก๋ๆ ส่วนถ้าจะใส่เพื่อโรแมนติคก็พอได้อยู่ แต่มันจะ Unique นิดนึง

ความทน - อันนี้แหละที่เรียกว่ามาเต็ม เพราะความเข้มข้นสูงระดับ Parfum แม้กลิ่นอาจจะไม่ได้ถึงกับทรงพลังแต่มันฝังลงไปในจุดฉีดแบบยาวนานมาก อาบน้ำล้างตัวก็ไม่ออกไปง่ายๆ ซึ่งถ้าวัดความทนที่กลิ่นกระจายได้นานขนาดไหนก็ตีไปที่ 8 ชม. กำลังดี แต่ถ้าวัดการติดทนบนผิวกายอันนี้ขอให้ที่ 18 ชม. ไปเลย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และค่อนข้างคงตัวยาวไปประมาณ 3 ชม. ก่อนที่จะลงมาเป็นปานกลางแล้วเป็นออร่ารอบๆ ตัวตั้งแต่ชั่วโมงที่ 5 - 6 เป็นต้นไป เรียกว่าไม่ได้ปล่อยพลังมาก แต่มีดีเรื่องออร่าสีแดงรอบตัวประมาณนั้น

สรุป - เนื้อกลิ่นยืนพื้นที่การเป็น Scent Intense ชัดเจน เพียงแต่กลิ่นจะมีความมิติเชิงลึกมากขึ้นและเสถียรบนผิวได้ยาวนานขึ้น รวมถึงฉีกตัวเองออกมาเป็น Red Edition ได้อย่างสวยงามโดยไม่ทิ้งลายเซ็นเดิม เพิ่มเติมความขบถที่ทันสมัย ที่สำคัญใครที่ชอบกลิ่นแอมเบอร์ อย่าได้พลาดแบรนด์นี้เชียวเพราะเขาเก่งโทนนี้มากจริงๆ และทำได้แตกต่างมากเสียด้วย

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://en.costumenationalscents.com/products/intense-red-edition

 

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Review: CoSTUME NATIONAL – Cyber Garden


CoSTUME NATIONAL – Cyber Garden

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความแรงและความดีงามในเนื้อกลิ่นมากมายจริงๆ กับ CoSTUME NATIONAL ที่ปล่อยออกมาแต่ละตัวเรียกว่าเด็ด และมีความแรงกระจายแบบจัดหนักไม่น้อย ซึ่งสบโอกาสเห็นว่าแบรนด์นี้มีน้ำหอมสดชื่นอยู่หนึ่งตัวที่ชื่อน่าสนใจนั่นคือ Cyber Garden จัดเลยแบบไม่ยั้งคิด ผลออกมาหลังจากได้จัดเต็มคือ

เปิดต้นกลิ่นมาด้วยกลิ่นอายสดชื่นแบบเขียวโปร่งสบายจมูกกันเลยทีเดียว เพราะกลิ่นโทนเขียวติดฉ่ำหน่อยๆ จะเป็นตัวเด่นนำเป็นสง่าแบบที่โทนซิตรัสยังต้องยอมสยบมาอยู่ใต้อาณัติในการเป็นตัวสนับสนุนที่ทำให้กลิ่นเขียวๆ ช่วงนี้สดชื่นแบบติดนุ่มจมูก ที่สำคัญมีกลิ่นติดหวานเครื่องเทศจากพริกไทยสีชมพูเป็นตัวทำให้กลิ่นมีความแน่นแบบโปร่งๆ เสียด้วย ซึ่งกลิ่นโทนเขียวนุ่มโปร่งนี้แหละจะลากยาวไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลย โดยที่ในช่วงกลางกลิ่นเขียวจะมาผสมสานกับกลิ่นอายล้ำๆ จากพลาสติกไวนิลที่เริ่มเข้าสู่ความเป็น Cyber สมชื่อแล้ว โดยจะมีโทนเขียวๆ หอมนุ่มจมูกโปร่งๆ แกมเย้ายวนติดหวานจากใบไวโอเล็ตและหญ้าฝรั่นมาทำให้กลิ่นหอมนวลจมูก โดยมีความสดชื่นของดอกเจอเรเนียมที่มีความเป็นซิตรัสจางๆ กลั้วกุหลาบเบาๆ มาเสริมให้กลิ่นมีลูกเล่นที่ออกแนว Garden ชัดเจน ตามด้วยช่วงท้ายที่จะมีกลิ่นหญ้าแฝกมาเสริมให้กลิ่นออกทางไม้หอมที่มีความ Smoky จางๆ กลั้วกับกลิ่นยางไม้อ่อนๆ ติด Incense รองพื้นที่ตรึงให้มีความเป็นไม้หอมอ่อนๆ ที่นวลจมูก โดยที่กลิ่นเขียวๆ กลั้วไวนิลจากช่วงกลางจะยังอยู่เสริมทัพด้วยพิมเสนและหญ้ามอสทีให้ความสดชื่นแบบสบายๆ ล้ำๆ ออกแนวสวนพฤกษศาสตร์ที่ปลูกต้นไม้ด้วยกระถางพลาสติคไวนิลวางเรียงกัน เหมือนอยู่บนสวนในโคโลนี่อวกาศที่หอมสดชื่นอย่างมีเอกลักษณ์มากจริงๆ

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลายขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว ซึ่งกลิ่นเข้าถึงง่ายแบบเขียวนุ่มๆ และมีความแนวเฉพาะแบบที่ไม่ทำให้คนได้กลิ่นยี้เอา ซึ่งสามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันเลย ครอบจักรวาลกันเต็มๆ ได้ความมีเอกลักษณ์เสียด้วยซ้ำไป ส่วนยามค่ำคืน ถ้าอากาศร้อนๆ จัดได้เลยแบบชิลล์ๆ แต่ถ้าจะเน้นไปท่องราตรีสีชาวบ้าน ตัวนี้อาจจะเบาไปก็เท่านั้นเอง

ความทน เนื่องจากแบรนด์นี้น้ำหอมส่วนใหญ่ทุกตัวมักทนจัด มาถึงตัวนี้ความทนอาจจะสู้ตัวแน่นๆ ก่อนนี้ไม่ค่อยได้นัก แต่ก็อยู่ที่ราวๆ 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายกลางๆ และเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย ก่อนที่จะค่อนๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จนเป็น Skin Scent แล้วจางลงไป

ทิ้งท้าย ชอบมากกกกกกในความเป็นกลิ่นอายแบบเขียวล้ำๆ และมีเสน่ห์ ซึ่งแบรนด์นี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังในความเก๋เลย ที่สำคัญเข้ากับอากาศบ้านเรามากมาก

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ




วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Review: CoSTUME NATIONAL - Scent Intense


CoSTUME NATIONAL - Scent Intense

จาก Scent รุ่นปกติที่เรียกว่าขนความดีงามของน้ำหอมโทนหรูหราและผู้ดีมากไม่พอ ยังมีกลิ่นอายที่ดึงดูดสูงมาก คราวนี้ถึงเวลาของรุ่น Intense กันบ้างว่าจะขนอะไรมาให้มีความประทับใจกันอีก ก็ตามนี้เลย 

เปิดตัวมาแบบมีความเป็น Spicy แบบเข้มๆ แฝงอยู่ด้วยตลอด และยังมีกลิ่นโทนอบอุ่นติด Smoky รองพื้นหลบอยู่ด้านหลังทำหน้าที่ดันกลิ่นชาให้เด่นขึ้นมาเต็มๆ ลักษณะออกแนวคล้ายๆ Chai Tea ที่เป็นชาผสมเครื่องเทศแบบอุ่นๆ กลิ่นจะมาเต็มแน่นกันเลยทีเดียว เรียกว่าไม่ได้มีความสดชื่นเข้ามาแจมอะไรมาก ซึ่งกลิ่นตอนนี้ถ้าคนที่ชอบน้ำหอมโทนสดชืิ่นเป็นหลักอาจจะผงะไปได้ 3 ตลบเลย เพราะมันแน่นจริงอะไรจริง จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นอายของชาติดเครื่องเทศจะเริ่มจางลง มาเป็นโทนชาเบาๆ กลั้วกับดอกชบาและมะลิ กลิ่นชบาที่เด่นสุดๆ มาแบบโปร่งๆ ใน Scent รุ่นปกติ จะเปลี่ยนโทนเป็นชบาแบบเข้มๆ ติดออกทางดาร์ก กลิ่นมีความซับซ้อนและลึกลับจนรู้สึกได้ โดยมีกลิ่นของมะลิแบบจางๆ และโทนอบอุ่นรองพื้นด้านหลังให้กลิ่นยังคงโทนอุ่นแบบมีระดับอยู่เช่นเดิม และปิดท้ายกันด้วยกับกลิ่นอบอุ่นที่หลบอยู่เบื้องหลังมานาน ก็โผล่มาเบื้องหน้าเสียทีกับ แอมเบอร์ ที่แบรนด์นี้เขาเก่งไม่น้อยกับ Note ตัวนี้ เพราะกลิ่นจะไม่ได้มาแบบ Smoky จัดๆ หรือออกสาปไม้แน่นๆ แต่ประการใด เพราะจะมาแบบกึ่งดาร์กกึ่งโปร่งหอมอบอุ่นนวลๆ มีความนุ่มเย้าของพิมเสน และมีความเป็นไม้หอมสะอาดสะอ้านอยู่ แต่ภาพรวมคุมโทนความดาร์กเข้มของกลิ่นได้ลงตัวมาก เรียกว่าเป็นน้ำหอมโทนอบอุ่นติดดอกไม้ที่เซ็กซี่ และเย้ายวนแบบมีระดับได้เลยทีเดียว ไม่แปลกใจนักที่รุ่นนี้จะติดหนึ่งในน้ำหอมที่ยั่วให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายน้ำเดินแบบไม่รู้ตัวได้ไม่ยาก ฮิ้ววววววว

เปรียบเทียบ - รุ่นปกติกลิ่นแน่นแต่ก็มีความใสในเนื้อกลิ่น มีความเป็นผู้ดีหรูหรามีระดับมาก แถมมีความแอบยั่วยวนอยู่โดยไม่โจ่งแจ้ง เน้นมาเงียบๆ ฟาดเรียบนะจ้ะ แต่ Intense จะเข้มข้น ดาร์ก น่าค้นหาแบบชัดเจน ยั่วยวนกันแบบมีชั้นเชิง บอกถึงความมีของภายในว่า "ชั้นมีดีที่คุณจะหลง" แบบนี้เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - น้ำหอมรุ่นนี้ตราเอาไว้ว่าของผู้หญิง แต่จริงๆ กลิ่น Unisex มากครับ ผู้ชายก็ใช้ได้สบายๆ เลย โดยสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดจำนวนสเปรย์ กลิ่นจะให้ความดีงามมากเลยทีเดียว โดยใช้ได้ทั้งงานทางการและไม่ทางการ ยิ่งเวลาโรแมนติคมันจะปลุกเร้าเอาได้ง่ายๆ เลยนะ แต่ถ้าอัดมากไป จะฆ่าตายหมู่เสียก่อน งดใส่ออกกำลังกาย และกลางแจ้งร้อนๆ ทุกกรณีกลิ่นกระจายดีมากจนอาจจะแน่นไปได้ ส่วนยามค่ำคืนเน้นไปเที่ยว จัดได้ กลิ่นมีระดับ ไม่โหล และดึงดูดแบบจัดเต็มเลยล่ะครับ

ความทน - เรียกขุ่นแม่กันเลยดีกว่า เพราะ 15 ชม. กลิ่นยังตีขึ้่นอยู่เลย เช่นนั้นเชื่อใจได้ว่าเกิน 8 ชม. แน่ๆ ครับ

การกระจาย - จะกระจายดีมากในช่วงต้นเพราะกลิ่นเปิดมันแน่นและติด Spice แบบที่คนไม่ชอบอาจจะอึดอัดเอาได้ และจะลดลงมากระจายดีสม่ำเสมอไปจนถึงช่วงกลางของตอนท้ายๆ ก่อนที่จะกระจายกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ ครับ

ทิ้งท้าย - เรียกว่ากลิ่นดีงามเลยทีเดียว เพราะมีความซับซ้อน มีระดับ หรูหรา ดึงดูด และเย้ายวนแบบที่ไม่ได้เกร่อโหลเลย มาแบบมีชั้นเชิงมาก และถ้าใครชอบน้ำหอมโทนแอมเบอร์เด่นๆ ตัวนี้จะได้แอมเบอร์ติดโทนดอกไม้ที่นวลจมูกแบบลึกลับเลยล่ะครับ แถมบางทีอาจจะได้ทั้งคำชมและได้คนที่น่าสนใจกลับบ้านด้วยนะครับ ฮิ้ววววววววววว

Credit ภาพhttp://3.bp.blogspot.com/-3zW5Ijk9hEQ/U_nPob7TcmI/AAAAAAAAC2Y/XYGuh3l6R1w/s1600/Costume%2BNational%2BScent%2BIntense.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Review: CoSTUME NATIONAL Homme

CoSTUME NATIONAL Homme

เป็นน้ำหอมผู้ชายตัวหลักเลยของแบรนด์ CoSTUME NATIONAL ที่ขอเรียกว่า #เทพ เลยก็ว่าได้ เพราะมาเต็มเหนี่ยว มาแรง และมาไม่ยั้งเลยจริงๆ ในแง่ของน้ำหอมที่มีการกระจายดีสุดๆ และมีความ Unique ในกลิ่นสูงเลยทีเดียว นั่นคือ CoSTUME NATIONAL Homme ครับ 

บอกเลยใครที่ได้ฉีดกลิ่นนี้ ถ้าไม่ชอบ อาจจะผงะกลิ้งไป 3 ตลบ แล้ววิ่งไปร้องกี๊ซซซซกันได้ ว่าทำไมมันแรงแบบเน้~ เพราะแรกเริ่มกลิ่นเปิด ก็คมกันแบบไม่ยั้งในลักษณะของเครื่องเทศโทนหวานอย่างเม็ดกระวานผสมโทนซิตรัสคมๆ เรียกว่าฟุ้งกระจายรอบทิศเลย และลักษณะของกระวานคมๆ แบบนี้จะตามไปร่วมด้วยช่วยกลายเป็นกลิ่นโทน Incense หรือธูปหอมคมๆ ติดอบอุ่นกับอบเชยและกานพลูในช่วงกลาง เรียกว่ากลิ่นในช่วงนี้ สามารถทำให้คนรอบตัวที่ไม่คุ้นชินกับกลิ่นน้ำหอมโทนแบบนี้ อุทานกันได้ว่า “นี่แกอาบธูปมาหรือเปล่า” ซึ่งเอาเข้าจริงๆ กลิ่นในช่วงนี้แม้จะเป็นธูปหอมคมๆ แต่มีความลึกลับ สดชื่น และอบอุ่นกำลังดี กลิ่นถือว่างามงดไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่ได้ออกทางอบอุ่นแบบรุมๆ แบบที่โทนธูปในน้ำหอมหลายๆ ตัวได้ทำไว้ และกลิ่นโทนธูปนี่จะเป็นตัวนำเด่นในช่วงท้าย ที่จะมีกลิ่นไม้จันทน์หอมมาผสานให้กลิ่นนุ่มขึ้น มีความติดเขียวนุ่มเย้าของพิมเสนเข้าไปอีก กลิ่นจะเป็นธูปที่ละมุนมากขึ้น ซึ่งกลิ่นจะเริ่มมีความเย้ายวนแบบแมนๆ ติดอบอุ่นกลั้วน่าค้นหา ที่สำคัญกลิ่นมีความขรึมขลัง และมีภูมิมากจริงๆ ซึ่งต้องบอกเลยครับว่า กลิ่นมันหอมไม่เหมือนใคร และมีความเท่ห์อย่างบอกไม่ถูกจริงๆ กับความเป็นธูปหอมคมๆ แบบนี้   

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายวัยทำงานขึ้นไปครับ และอย่างน้อยต้องผ่านน้ำหอมโทนวู้ดดี้ Incense และเครื่องเทศมาพอสมควร ไม่งั้นจะตกใจและหยุดใช้ไปเลยเอาได้ สามารถใส่ได้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการโดยจำกัดจำนวนสเปรย์ กลิ่นให้ความรู้สึกได้หมดทั้งน่าค้นหาและน่าเชื่อถือ งดเลยกับการใส่ออกกำลังกาย ฆ่าตายทั้ง Fitness เอาได้นะ ส่วนยามชิลล์ๆ ทั่วไปก็ใส่ได้ ส่วนยามค่ำคืนแบบใส่ไปท่องราตรี ถ้าจะลองก็ใส่พอประมาณหรือน้อยสเปรย์ครับ เพราะจะเย้ายวนน่าค้นหาแบบกำลังดี ถ้าอัดเยอะ เดี๋ยวคนที่เข้ามาจะคิดเอาได้ว่า “เอ่อ มีใครตามพี่มา หรือกำลังขี่คอพี่อยู่หรือเปล่า” 

ความทน – คือ ข้ามวันข้ามคืนจ้ะ กลิ่นติดทนนานมาก คือใส่ตั้งแต่เช้า เที่ยงคืนแล้วกลิ่นยังตีขึ้นสบายๆ เรียกว่า เทพกันได้เลย 

การกระจาย – กระจายดีมากรอบทิศกันเลยตั้งแต่ต้นจนปลายช่วงกลาง เรียกว่า ทุกคนรอบตัวจะต้องได้กลิ่น ในช่วงท้ายจะลดลงมากระจายกลางๆ ไปตลอด แบบยาวไป เพ่ ยาวไปเลยล่ะครับ 

ทิ้งท้าย – ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับกลิ่นโทนธูปหอมคมๆ แบบนี้ เรียกว่าตอนใช้ Amazing มาก เพราะนึกว่าจะหงายหลัง แต่กลับร้อง อื้อหือออออ หอมจังแทน แต่เมื่อไปถึงที่ทำงาน กลายเป็นมีแต่คนทักว่า “พกธูปมาด้วยเหรอ” แบบว่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หาได้แคร์ไม่ ก็มันหอมอ่ะ 555555555 

ป.ล. ขอบคุณคุณเท็ดดี้มากเลยนะครับ ที่แบ่งปันกันมาให้ใช้ครับ ปลื้มอ่ะ ^_^

Credit ภาพ: http://parfumplusmag.fourplusmedia.com/wp-content/uploads/2013/09/homme-100ml.jpg

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

Review: CoSTUME NATIONAL – Scent


CoSTUME NATIONAL – Scent 

เมื่อปล่อยของแรงกับการ Review ตัว 21 ที่ให้กลิ่นนมอุ่นกรุ่นแอมเบอร์เต็มแน่นขาดใจไปก่อนหน้านี้ ก็ขอลดลงมาที่ของดีประจำแบรนด์นี้ที่เข้าถึงง่ายอย่างมีคลาสและหรูหราผู้ดีสุดๆ อ่ะ กันบ้าง นั่นคือรุ่น Scent นั่นเองงงงงง 

ใครที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นดอกชบา ตัวนี้แหละครับที่จะบอกความหอมของมันได้ดีมากจริงๆ โดยกลิ่นเปิดจะมากันด้วยกลิ่นชามะลิหอมๆ นุ่มๆ ติดกลิ่นแอมเบอร์รองพื้นอยู่ด้านหลัง ซึ่งกลิ่นจะมาแบบสว่างไสวเหมือนอากาศสดใส สดชื่นแต่ก็อบอุ่นไปด้วย เก๋ตรงนี้ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเหล่าชามะลิจะผันตัวเป็นรองพื้นด้านหลังเป็นเพื่อนกับแอมเบอร์ในช่วงกลาง ดันให้กลิ่นดอกชบาเด่นเด้งมาเลย แบบว่า เออ มันเหมือนได้กลิ่นดอกชบากันชัดๆ ก็คราวนี้ เพราะตัวดอกมันจริงๆ กลิ่นจะอ่อนมาก เพราะการเอาโทนเครื่องเทศบางๆ มาผสานด้วยในช่วงนี้ทำให้กลิ่นจะหอมชัดมาก หอมชบามากกกกกอ่ะ บอกเลย แถมกลิ่นในช่วงนี้จะดูหรูหรา ผู้ดี สะอาดสะอ้าน และเพียบพร้อมมากเลย แบบว่าทำให้ฟินและหลงกันได้ง่ายๆ เลยทีเดียว และเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ได้เวลาของแอมเบอร์กันเต็มๆ ที่จะเปิดตัวออกมานำเด่น แถมมีโทนธูปไม้หอมอ่อนๆ มาแทรกอยู่เป็นระยะ มีกลิ่น Musk ที่ให้ความนุ่มสะอาดเป็นคนเบื้องหลังอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งจะให้โทนอบอุ่นอย่างมีชั้นเชิงมาก แถมคงความ Elegance กันได้แบบยอดเยี่ยมไปเลยล่ะ

เหมาะสำหรับ – ตรงๆ ว่าน้ำหอมรุ่นนี้เป็นของผู้หญิงครับ แต่กลิ่นมัน Unisex มากมาย สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะออกงานทางการ งานทั่วไป ชิลล์ๆ หรืออยู่บ้าน กลิ่นมีความหรูหราเข้าถึงง่ายแบบมีระดับมาก แต่ถ้าออกกำลังกายให้รอปลายๆ ช่วงท้ายจะดีที่สุด ส่วนยามเย็นได้อยู่ครับ แต่ตัดออกจาก List ไปได้เลยถ้าจะใส่ตัวนี้ไปเที่ยวกลางคืน ไม่เข้าทางเท่าไหร่ครับ

ความทน – EDP จ้า แม้จะให้กลิ่นหอมอ่อนๆ แต่เกิน 8 ชม. ได้สบายๆ ซึ่งส่วนตัวเจอมาแล้ว 12 ชั่วโมง ฟินมากกกกก

การกระจาย – กลิ่นกระจายกำลังงามมากกว่าที่จะกระจายหนักหน่วง เพราะเป็นน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ อย่างมีระดับ เลยต้องมีการไว้ตัวในเนื้อกลิ่นกันหน่อยสิจ้ะ แต่จะคงความกระจายกำลังงามอย่างนี้ไปตลอดจนถึงช่วงท้ายๆ เลย

ทิ้งท้าย – ถ้าใครชอบน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่หรูหราอย่างมีระดับ เรียกได้เลยว่าต้องลองซักครั้งนะนั่น อาจจะฟินจนเป็นหนึ่งใน Signature กันได้เลยล่ะครับ

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Review: CoSTUME NATIONAL – 21


CoSTUME NATIONAL – 21 

หนึ่งในแบรนด์ที่ทำน้ำหอมออกมาได้เก๋ไก๋และคุณภาพจัดเต็มสุดๆ ที่สำคัญน้ำหอมแต่ละตัวขึ้นหิ้งในการเป็น Masterpiece ในการใช้งานที่ทนทานมากตามด้วยการกระจายที่เอาอยู่ไม่ว่าจะเป็นโทนไหนก็ตามที่ผลิตออกมา ในเมื่อจะมาแตะกันที่แบรนด์นี้ เลยขอแตะที่ของหนักและแรงจัดชัดเจนกันก่อนเลยกับรุ่นนี้ครับ 21 

ต้องบอกกันเลยว่า ตัวนี้ต้องผ่านการใช้น้ำหอมมาในระดับหนึ่ง เพราะกลิ่นค่อนข้างซับซ้อนและหนักหน่วงมากเลยทีเดียว แถมในการใช้งานอย่างน้อยต้องเรียนรู้และให้โอกาสในการทำความรู้จักกันหลายครั้งซักหน่อย ถึงจะเริ่มเข้าถึงได้จนอาจจะหลงรักตัวนี้ไปเลยก็เป็นได้ เพราะกลิ่นเปิดขึ้นมาก็เอาซะหนักกันเลยกับกลิ่นนมกลั้วแอมเบอร์ โดยมีหญ้าฝรั่นทำให้เกิดความหวานหน่อยๆ รองพื้นด้วยกลิ่นโทนวู้ดดี้และกลิ่นดอกส้มจางๆ ไม่มีเลยกับคำว่าสดชื่น มีแต่ความอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกแบบนมอุ่นๆ แน่นๆ คลุ้งรอบตัว ซึ่งกลิ่นของนมอุ่นกลั้วแอมเบอร์นี่จะตามไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมตัวนี้เลย จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางคราวนี้จะกลายเป็นนมอุ่นกลั้วเครื่องเทศโทนหวานที่แน่นหนักมาก เปรียบได้เหมือนนมใส่เครื่องเทศที่ให้อารมณ์แบบ Spicy ติดหวานแบบจัดหนักจัดเต็มมากมายกลิ่นในช่วงนี้จะซับซ้อนและมีมิติมากมาย แต่ยืนพื้นที่กลิ่นอบอุ่นเป็นบาเรียรอบตัวตลอดเวลา ไม่มีลดราวาศอกเลย และจะปิดท้ายกันด้วยกลิ่นนมอุ่นกลั้ววานิลลากับถั่วตองก้า ที่เพิ่มความนุ่มและครีมมี่เข้าไปอีกแถมยืนพื้นด้วยโทนวู้ดดี้และ Musk ดันให้กลิ่นกลายเป็นกลิ่นนมอุ่นติดหวานนุ่มชัดเจน มีความเป็น Smoky จากหญ้าแฝกเสริมเข้าไป พูดง่ายๆ บาเรียนมอุ่นที่มีมาตั้งแต่ช่วงกลางจะหนาเข้าไปอีก จนทำให้คนใส่และคนรอบข้างรู้สึกถึงความอบอุ่นรุมๆ ตลอดวัน แบบที่ถ้าชอบจะฟินจนไม่รู้จะฟินอย่างไงเลย เพราะกลิ่นจัดหนักจัดเต็มแบบหนำใจมากจริงๆ

เหมาะสำหรับ – Unisex ครับ เพราะน้ำหอมตัวนี้ยืนพื้นที่กลิ่นนม เช่นนั้นใช้ได้หมดทั้งหญิงและชาย วัยเรียนมหาลัยขึ้นไป และคนที่ใช้ควรจะผ่านการใช้น้ำหอมมาระดับหนึ่งถึงจะเข้าถึงตัวนี้ได้ดีและดีมากยิ่งขึ้น สามารถใส่ได้หลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน (แบบทำงานให้ห้องแอร์ หรืออากาศหนาวๆ) ในจำนวนสเปรย์ที่ไม่ควรเกิน 3 สเปรย์ ถ้าไม่อยากฆ่าใครเสียก่อน ที่สำคัญงดใส่ออกกำลังกายและอากาศร้อนจัดๆ เด็ดขาด ฆ่าเอาตายได้ เพราะกลิ่นแน่นกระจายจัดจ้านมาก ส่วนเที่ยวกลางคืนก็ไม่ควรเกิน 4 สเปรย์ เพราะเดี๋ยวจะหนักหน่วงจนอึดอัดหมดทั้งตัวเองและคนรอบข้าง พูดง่ายๆ น้ำหอมตัวนี้มีดี ถ้าใช้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

ความทน – โคตรทนมากกกกกกกกก 15 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นเป็นไออุ่นแบบหนำใจมากมาย

การกระจาย – ดีมากกกกกกก เป็บบาเรียแบบนมอุ่นต่างระดับของโทนกลิ่นในแต่ละช่วงได้ดีจริงๆ ครับ กลิ่นจะตีขึ้นให้ไออุ่นรุมๆ ตลอดเวลา

ทิ้งท้าย – สำหรับผม นี่คือหนึ่งน้ำหอมที่ถ้าไม่ชอบ จะเกลียดไปได้เลย แต่ถ้าชอบจะหลงใหลได้ปลื้มสุดๆ ที่สำคัญน้ำหอมตัวนี้ อาจจะให้โทนที่ออกทางตะวันออกกลางหน่อยๆ ด้วย เพราะวันที่ผมใส่ไปทำงานแม้เพียง 3 สเปรย์กับวันที่อากาศหนาวๆ เจอทักทันที “วันนี้ใส่น้ำหอมกลิ่นแขกมาหรือเปล่า แน่นมาเชียว” เห็นไหม แรงขาดใจจริงๆ