แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Parfums de Nicolai แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Parfums de Nicolai แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Review: Parfums de Nicolai - L’Eau Chic

Parfums de Nicolai - L’Eau Chic

พื้นฐานกลิ่นอายสายมินิมัล มีความสว่าง สดชื่น แบบมีระดับ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่มักจะพบหาได้ง่ายเลยในน้ำหอมแบรนด์ Niche Perfume อย่าง Parfums de Nicolai ซึ่งต้องยอมรับจริงๆ ว่าแบรนด์ทำกลิ่นสไตล์นี้ได้ดีเป็นระดับต้นๆ มาเสมอ

ซึ่งในความสดชื่นต่างๆ ก็มีอยู่โทนหนึ่งที่อยากลองมากจริงๆ นั่นคือ กลิ่นมินต์ของแบรนด์นี้ ที่เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่ากลิ่นน่ารักและลงตัวมากในการใช้งานวันอากาศร้อนๆ เพื่อให้จมูกปลอดโปร่ง แถมเนื้อกลิ่นเองก็ทันสมัยเรียบหรูเชียวอย่าง L’Eau Chic เช่นนั้น รักมินต์ ชอบมินต์ ก็จัดไปอย่าได้เสีย และเมื่อลองใช้จนฉ่ำไปแล้ว ก็ได้เวลามาถ่ายทอดต่อกันหน่อยว่ากลิ่นจะมาในลักษณะไหน

ต้องเรียกว่ากลิ่นเปิดบอกทิศทางของน้ำหอมได้ชัดเจนถึงการเป็นกลิ่นอายของเจอราเนียม + มินต์ ซึ่ง 2 โทนนี้จะโดดเด่นมากแบบผสมผสานกัน โดยไม่ได้มีการแย่งซีนกันแต่อย่างใด ซึ่งวูบที่กลิ่นฟุ้งออกมาจะจับได้ถึงความเขียวแบบน้ำในแจกันกุหลาบแบบใหม่ๆ ที่ยังมีความเขียวชัดเจนซ้อนด้วยโทนกุหลาบอ่อนๆ ซึ่งนี่แหละเจอราเนียมล่ะ แต่จะมีตัวซ้อนที่ให้ความอะโรม่าแบบติดสมุนไพรกึ่งนวลสะอาดหน่อยๆ ของลาเวนเดอร์ ทำให้ได้อารมณ์แบบสบู่เขียวอะโรม่าเจือลาเวนเดอร์กุหลาบอ่อนๆ ที่ค่อนข้างชัดเจนพอสมควร แต่ไม่ใช่แค่นั้นผู้เล่นหลักอย่างมินต์เองก็ให้อารมณ์แบบกลิ่นเขียวปร่าระเรื่อได้ทั้งวูบกึ่งปร่าของเพพเพอร์มินต์ และมีความระเรื่อโปร่งจมูกของสเปียร์มินต์เข้ามาร่วมด้วย ทำให้บางวูบจะนึกถึงกลิ่นยาสีฟันมินต์ที่ให้ความปลอดโปร่งและสดชื่น แกมกลิ่นออกทางขยี้ใบสเปียร์มินต์ปร่าอ่อนๆ ที่เป็นธรรมชาติ เลยถือว่าเป็นการผสมผสานกันได้อารมณ์กึ่งสบู่หรูๆ + ยาสีฟันกลิ่นมินต์ปร่าสดชื่นเย็นๆ ก็ได้ หรือจะเป็นกลิ่นสบู่หรูหราสดชื่นที่ยืนพื้นกับการเป็นกลิ่นโทนเขียวอะโรม่าเป็นสำคัญ

เมื่อสัมผัสได้ถึงโทนสดชื่นเต็มๆ ในช่วงแรกแบบยาสีฟันมินต์ธรรมชาติเริ่มลดทอนบทบาทลงมาเป็นโทนออกทางสบู่ติดเขียวอะโรม่าแกมกุหลาบอ่อนๆ ที่มีความนวลรองพื้นมากขึ้น ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่คุมโทนการเป็นกลิ่นอายแบบสบู่เต็มตัวเพราะเนื้อกลิ่นจะมีโทนออกทางกึ่งแป้งกึ่งทึบของการผสมผสานระหว่างไอริสและหัวเหง้าออริสที่ทำให้เนื้อกลิ่นมีความเป็นสบู่ที่ชัดเจนขึ้นกว่าช่วงต้น แม้จะมีไพล่รไปทางโทนแป้งเล็กๆ บางๆ แต่ก็ไม่ได้เด่นจนเป็นนัยยะสำคัญอะไรนัก สิ่งที่เด่นขึ้นมาในช่วงนี้ที่เป็นตัวสมทบความเป็นเจอราเนียมกับมินต์นั่นคือ คาโมมายล์กับกานพลู ที่จะมาทำให้กลิ่นมีความสมุนไพรติดปร่าเผ็ดกำลังดี ทำให้ช่วงกลางนี้เลยเป็นลักษณะสบู่สมุนไพรที่มีความเขียวแกมน้ำในแจกันกุหลาบที่มีความปร่าสดชื่นที่อวลขึ้นแกมกลิ่นอะโรม่าสมุนไพรที่มีพื้นกลิ่นสะอาดให้รู้สึกหอมเป็นธรรมชาติและสดชื่นผ่อนคลาย

ในรอยต่อระหว่างช่วงกลางกับช่วงท้ายจะเริ่มสัมผัสได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ว่ามีโทนไม้หอมติดครีมมี่มิลค์กี้ที่ให้โทนจืดหอมปนสีนวลสว่างเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งอันนี้ไม้จันทน์หอมชัดเจน พร้อมกับเนื้อกลิ่นที่มีความนุ่มสะอาดมากขึ้น ก่อนที่จะผสมผสานกันในการเป็นช่วงท้ายกับการเป็นโทน Soapy Musky Woody ที่ฉาบหน้าด้วยกลิ่นสมุนไพรแบบกำลังดีซึ่งแน่นอนว่าความเป็นมินต์ยังมีอยู่ปลายกลิ่นให้รับรู้ รวมถึงเจอราเนียมที่ก็ยังจับต้องได้ชัดเจนอยู่ เพียงแต่กลิ่นจะมีนุ่มขึ้นมีความเป็นโทนไม้หอมโปร่งๆ แกม Musk สะอาด เคล้ากับกลิ่นที่ตามมาจากช่วงกลางแบบกำลังดี อารมณ์แบ่งภาคสนับสนุนกันแบบคนละครึ่งได้ลงตัว ปิดท้ายกลิ่นได้สบายๆ และมินิมัลเรียบหรูแบบไม่โฉ่งฉ่างได้สวยเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่อาจจะมีกลิ่นไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่านิดหน่อย แต่ไม่ต้องมายด์ ยังไงผู้ชายก็ใช้ได้สบายมาก ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลยไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แบบกวาดหมด ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบผ่อนคลายสบายๆ หรือจะใส่ออกงานก็ลงตัว แต่ถ้าจะเน้นเซ็กซี่เย้ายวน ข้ามไปจะดีกว่า กลิ่นไม่ได้มาสายนี้

ความทน - อยู่ที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบราวๆ 2 ชม. ตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 10 - 12 ชม. ก็บ่อยครั้งกับการใช้ที่ 6 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อที่สวมด้วย แต่ถ้าวันไหนเหงื่อโทรมมาก ก็ยันกันได้ที่ 6 ชม.

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ให้ความสดชื่นชัดเจน แล้วจะลดลงมาปานกลาง ก่อนที่จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย จนเมื่อผ่านไปซัก 6 - 8 ชม. ก็จะเริ่มติดผิวแล้ว

สรุป - อาจจะไม่ได้แทงตัวเด่นที่มินต์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเอาเจอราเนียมมาดันให้เด่นเคียงคู่เสียมากกว่า เลยทำให้ความเขียวอะโรม่ามีความชัดเจนจริงๆ เสริมด้วยความเป็นสบู่ที่เป็นแกนหลักของน้ำหอมเลยก็ว่าได้ เลยได้ความเป็นกลิ่นอายสบู่สมุนไพรติดเขียวที่เรียบหรูและดูแพงคลอผิวเราได้อย่างงามๆ และลงตัว ซึ่งแม้ว่าจะมีคนเอากลิ่นนี้ไปเทียบกับ You or Someone Like You ของ Etat Libre d’Orange แต่กลิ่น L’Eau Chic เกิดมาก่อนนะจ้ะ และก็ไม่ได้คมเปรี้ยวแบบ Cassis เท่า เรียกว่ามีดีกันคนละแบบในการปูพื้นฐานกลิ่นมินต์แบบนี้น่าจะเข้าทีกว่าเยอะ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://pnicolai.com/en/boutique/eau-chic/

 

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Review: Parfums de Nicolai - Eau de Yuzu

Parfums de Nicolai - Eau de Yuzu

ส้มยูซุ” ที่เรามักจะได้เจอในน้ำหอมมักจะมาในแนวๆ กลิ่นอายสายสดชื่นที่เรียกว่าจะส้มก็ไม่เต็มปาก จะเลมอนก็ 50-50 แต่เอาจริงๆ เป็นกลิ่นสาย Citrus ที่มีความเฉพาะตัวและมีความเป็นกลิ่นอายสไตล์น้ำหอมโทนสายตะวันออกที่ไพล่ไปทางญี่ปุ่นเสียส่วนใหญ่ ซึ่งการชูโรงกลิ่นส้มยูซุในการเป็นรุ่นน้ำหอมก็มีอยู่พอสมควรเลยทีเดียว และหนึ่งในนั้นก็มี Parfums de Nicolai ที่เอากลิ่นนี้มานำเสนอกับเขาด้วย ซึ่งนั่นก็คือ Eau de Yuzu ที่ออกมาวางจำหน่ายในปี 2020 นี้เลย

เพราะการได้กลิ่นส้มยูซุเป็นอะไรที่น่าสนใจ รวมถึงกลิ่นของแบรนด์นี้มักจะมาสายเรียบหรูมีระดับไม่เยอะสิ่งแต่มีเสน่ห์ เช่นนั้นก็ได้เวลาพิสูจน์กันหน่อยว่าจะสื่อกลิ่นอายออกมาเป็นลักษณะไหน

เปิดต้นกลิ่นมาความเป็น Citrus เปรี้ยวเจือขมปร่าฟุ้งก็พุ่งมาทักทายกันเต็มๆ ซึ่งแน่นอนอารมณ์กลิ่นจะมีความเป็นกลิ่นส้มยูซุที่มีความขมฉุนเปรี้ยวหน่อยๆ เจือหวานปลายกลิ่น บางวูบแบบไพล่ไปทางกลิ่นคล้ายส้มโอมือเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้คมเท่า ที่แน่ๆ จับกลิ่นเปรี้ยวแปร่งๆ แต่มาในโทนสว่าง Uplift ให้เกิดความรู้สึกสดใสและตื่นได้เลยของเกรปฟรุตที่เข้ามาแท็คทีมอยู่ด้วย ซึ่งนี่คือสิ่งแรกที่ออกมาทักทายในการเป็นโทน Citrus ที่เปิดตัวมาได้อย่างน่าสนใจมาก ซึ่งกลิ่นจะมีความคมกำลังดี ปร่าฉุนแบบอารมณ์เปลือกส้มติดขม ซึ่งเมื่อพยายามจับกลิ่นต่อจะรู้สึกได้ว่าในเนื้อกลิ่นมีตัวสร้างโทนเขียวๆ ติดเปรี้ยวหอมออกแนวคล้ายกิ่งก้านส้มเจืออารมณ์แบบหญ้าตัดใหม่หน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งทำให้ช่วงต้นมีความชัดเจนกับการเป็นโทน Citrus Green ที่มีความสว่างปลุกให้ตื่นกันได้เลยเพียงแค่แรกสเปรย์

และความเปรี้ยวขมปร่าซ่าเจือเขียวในช่วงต้นก็เริ่มมีความปร่าเขียวมาเสริมแบบทีละหน่อยๆ จนกลายเป็นการเปลี่ยนช่วง ซึ่งทำให้จับได้ชัดเจนมากขึ้นเลยว่าฉากหลังที่มีความเขียวเจือกลิ่นปร่าและมีวูบกลิ่นคล้ายเหล้าจินหน่อยๆ นั่นก็คือจูนิเปอร์เบอร์รี่ ซึ่งจะมาผสมผสานกับกลิ่นที่ตามมาจากช่วงต้น โดยที่ความเป็นส้มยูซุปร่าขมปนฉุนมีลูกโทนความหวานเจือๆ เคล้าความเปรี้ยวแปร่งของเกรปฟรุตก็ยังคงเด่นเป็นสง่าและชัดเจนอยู่ แต่จะเพิ่มความปร่าซ่าเจือเขียวที่มีความคมกึ่งกลิ่นเหล้าจินที่มีกลิ่นเขียวเจือเปรี้ยวอ่อนๆ คลอ ซึ่งจะมีวูบติดสะอาดเผ็ดนวลกึ่งไม้หอมรองพื้นอยู่แบบติดผิวอารมณ์กลิ่นออกทางพริกไทยหน่อยๆ เลยทำให้ช่วงกลางเลเยอร์ของกลิ่นจะเริ่มจากเปรี้ยวขมสว่างเจือเขียวปร่าซ่าติดเขียวเปรี้ยวปลายกลิ่นที่มีโทนเผ็ดนวลสะอาด ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นในช่วงนี้จะได้อารมณ์เหมือนอยู่ท่ามกลางกลิ่นเขียวๆ ของสวนที่มีความเปรี้ยวขมซ่าติดหวานปลายกลิ่น อารมณ์ติดกลิ่นคล้ายสวนส้มยูซุหน่อยๆ ได้เลย

จนเมื่อกลิ่นไม้หอมแห้งๆ มีความ
Smoky อ่อนๆ ของหญ้าแฝกจะค่อยๆ เริ่มแทรกตัวออกมาแล้วเปลี่ยนสถานะของกลิ่นในการเข้าสู่ช่วงท้ายที่ผู้เล่นหลักแน่นอนว่ากลิ่นเปรี้ยวปร่าซ่าๆ ติดเขียวยังคงมีอยู่เป็นเลเยอร์แรก แต่เนื้อกลิ่นจะชัดเจนกับการที่โทนไม้หอมแห้งๆ ติดเข้มเบาๆ ที่เป็นตัวเดินกลิ่นชัดเจน อารมณ์จะเป็น Woody Citrus ที่ให้ความกำลังดี มีความปร่าระเรื่อจมูกอ่อนๆ ติดหวานสะอาดค่อนไปทางพิมเสนใสๆ เข้ามาร่วมด้วย อารมณ์แบบสารหอมอย่าง Clearwood ที่ให้ลูกผสมพิมเสนสะอาดๆ เคล้าไม้ซีดาร์เป็นตัวสร้างอารมณ์ไม้หอมที่สว่างๆ รวมถึงมีความสะอาดนวลของ White Musk ที่รองพื้นติดผิวอยู่ กลิ่นเลยจะได้อารมณ์ไม้หอมติดเปรี้ยวเจือขมสดชื่นปนความสะอาดเรื่อยๆ กำลังดี ซึ่งทั้งหมดตั้งแต่ช่วงต้นลงมาถึงท้าย ไล่เรียงและคุมโทนได้ดีในความเป็นส้มยูซุที่สดชื่นสว่างมีความเป็นธรรมชาติที่น่าสนใจ สู่การเป็นกลิ่นไม้หอมแห้งๆ สดชื่นกำลังดีคลอผิวแบบเรียบหรู ไม่ต้องเยอะสิ่งได้อย่างเรียบง่ายและลงตัว

เหมาะสำหรับ - Unisex เต็มๆ เพราะกลิ่นมาสายสดชื่นและมีความกลางๆ มากพอในการใช้งาน แต่บางวูบกลิ่นจะมีโทนกลิ่นแบบน้ำหอมสาย Citrus ของผู้ชายอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ได้หมดถ้าสดชื่นอยู่แล้ว เลยเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ครอบจักรวาลการใช้งานเลยทีเดียว ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไป ชิลล์ๆ เพิ่มความสดชื่นจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่เหมาะกับการใส่ไปท่องราตรีเท่าไหร่ เพราะแม้จะสดชื่น แต่ก็โดนสายหวานกลบมิดอยู่ดี

ความทน - มีความแกว่งในตัวพอสมควรเลย อยู่ที่ 4 - 8 ชม. แล้วแต่สภาพอากาศและสภาพผิวผู้ใช้ ซึ่งวันไหนอากาศร้อนๆ เหงื่อซึมบ่อยๆ กลิ่นไปไวพอสมควร ถ้าถ้าอากาศเย็นๆ ชื้นๆ ยืดระยะเวลาออกไปได้อีก รวมถึงฉีดที่เสื้อที่สวมก็ทำให้น้ำหอมติดยาวนานกว่าเดิมพอสมควร

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีค่อนไปทางดีมากในตอนต้นซึ่งจะมีลูกคมแปร่งฉุนตามที่ควรจะเป็นอยู่หน่อย แต่ไม่ได้คมจนบาดพุ่งแต่อย่างใด แล้วกลิ่นจะดรอปลงมาที่ปานกลางซักครู่หนึ่งถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปจนถึงราวๆ 3 - 4 ชม. ก็จะลดลงมาเป้น Skin Scent กันไปเรื่อยๆ จนจางไปตามเวลา   

สรุป - อารมณ์กลิ่นค่อนข้างจะเน้นความเป็นส้มยูซุแบบกลิ่นออกทางเปลือกส้มที่มีน้ำมันหอมระเหยเยอะๆ มากกว่าจะเป็นแบบน้ำส้มยูซุคั้นสด กลิ่นเลยจะจะไพล่ไปทางกลิ่นสวนส้มยุซุที่มีปลูกเกรปฟรุตประปรายร่วมด้วยซึ่งก็พออนุมานไปเป็นลักษณะนี้ได้อยู่ แต่ทั้งนี้นั้นก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่ากลิ่นนี้ให้ความสดชื่นโทนสว่างมากและเป็นอีกหนึ่งโทนที่ใช้ง่าย โดยแฝงความมีระดับเรียบหรูในกลิ่นเนียนๆ ได้ลงตัว เข้าทางการเป็นสไตล์ของ Parfums de Nicolai เลยล่ะ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.beautyhabit.com/products/parfums-de-nicolai-eau-de-yuzu

 

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Review: Parfums de Nicolai - Angelys Pear


Parfums de Nicolai - Angelys Pear

ลูกแพร์ (Pear) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสายกลิ่นอายผลไม้ที่ให้ความหวานก็ได้ ฉ่ำก็ดี สดชื่นก็สามารถ และมักจะเป็นหนึ่งในกลิ่นยอดฮิตที่น้ำหอมหญิงก็มานำเสนอความหวานหอมฉ่ำ ส่วนฝ่ายน้ำหอมชายก็จะมาเพิ่มโทนผลไม้กึ่งฉ่ำ Aquatic ที่สร้างความสดชื่นแบบคูลๆ และเมื่อแบรนด์ Niche Perfume สายเรียบหรูและมินิมัลอย่าง Parfums de Nicolai นำเอา Note กลิ่นนี้ออกมาชูโรง กับชื่อรุ่นที่สวยทีเดียวเชียวอย่าง Angelys Pear เช่นนั้น ความน่าสนใจก็มาเต็มทันที

และเมื่อได้มาครอบครองและใช้จนเต็มที่แล้ว ก็เล่าต่อได้แบบนี้

ความธรรมชาติแรกเริ่มของกลิ่นช่วง Top Notes จะเรียกว่าสร้างสวรรค์ทางการดมกลิ่น โดยเฉพาะคนที่ชอบกลิ่นอายโทนเขียวสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าเคล้ากับอากาศเย็นๆ ชื้นๆ ยามเช้าได้แบบทันที โดยที่แม้กลิ่นจะได้อารมณ์บรรยากาศก็จริง แต่ในเนื้อกลิ่นเรียกว่าผสมผสานกันอย่างน่าดูชม ดมกลิ่น และมีลูกเล่นน่าสนใจเลย ซึ่งกลิ่นนำเด่นออกมาก่อนเพื่อนเลยคือ โทนเขียวใบหญ้าสดชื่น ที่จะมีความเปรี้ยวออกทาง Citrus สร้างบรรยากาศปนปร่าแบบสมดุลย์กำลังดีของส้มโอมือและมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่ไม่ได้มาแบบแปร่งฉุนคมฟุ้งแต่อย่างใด เพราะในเนื้อกลิ่นมีโทนหวานเจือฉ่ำของลูกแพร์ที่มาตัดทอนและให้โทนหวานเจอชื้นปนฉ่ำ และมีโทนผลไม้ติดโทนเปรี้ยวเจือหวานปร่าแอมโมเนียเล็กๆ อย่างแบล็คเคอแรนท์มาเป็นตัวเชื่อมโทน และสร้างความเป็นธรรมชาติอารมณ์แบบยืนสูดกลิ่นอายธรรมชาติยามเช้าที่มีความสดชื่น ความเปรี้ยวปร่าเจือหวาน ความฉ่ำชื้นในอากาศรอบตัว ทุกอย่างมีความสมดุลย์และลงตัว ถือเป็นอีกหนึ่งในรุ่นที่มีกลิ่นเปิดที่ดีมาก

และเมื่กลิ่นโทนเขียวสดชื่นของบรรยากาศเริ่มลดทอนลงไปและมีกลิ่นอายโทน Aquatic ปนหวานเข้ามามากขึ้น และมีกลิ่นโทนดอกไม้อย่างมะลิที่ให้ความรุ่มรสยในกลิ่นพร้อมกับโทนกุหลาบที่ให้ความนวลโรแมนติคหวานบางๆ เข้ามา ก็เข้าสู่ Middle Notes กับการเปลี่ยนโทนมาเป็นแนว Fruity Floral Aquatic เต็มตัว กลิ่นจะมีความเป็นสายผลไม้ติดฉ่ำนวลน้ำเคล้ากลิ่นดอกไม้ที่ให้ความหอมนวลเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว โดยที่กลิ่นโทนสดชื่นจากตอนต้นจะกลายเป็นสายสนับสนุนที่ให้ความสดชื่นประปรายไม่พอ ยังเสริมมิติกลิ่นให้มีความเป็นธรรรมชาติติดเขียวบรรยากาศสดชื่นคลอกลิ่นลูกแพร์ฉ่ำเจือดอกไม้ไปตลอดจนเข้า Base Notes ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะกลิ่นจะเริ่มเข้าสู่โทนแห้งมากขึ้นตามลำดับ โดยมีโทนไม้หอมเจือพิมเสน สไตล์พิมเสนติดไม้ใสๆ คล้ายกลิ่นอายของสารหอมอย่าง Clearwood ที่เป็นลูกครึ่งพิมเสนสายสะอาดเจือไม้หอมที่มีความเป็นธรรมชาติและเรียบหรูในเนื้อกลิ่น โดยจะมีโทนกลิ่นที่เด่นออกมาเลยคือ Oak Moss แบบที่ไม่ได้ไปสายกรุยกรายน่าค้นหา หรือเข้มแมนจัดๆ แต่จะให้ความอวลติดน่าค้นหากำลังดี มีความเป็นกลิ่นเขียวติดเข้มเล็กๆ ที่มี Musk มาตัดทอนให้กลิ่นนุ่มมากขึ้น แต่ยังมีความน่าค้นหาเนียนๆ ให้จับต้องได้อยู่ตลอด โดยที่กลิ่นโทนลูกแพร์และโทน Aquatic ในช่วงกลางจะยังตามมาเหลือเพียงประปรายได้อารมณ์โทนผลไม้ติดนวลสดชื่นอยู่ตลอด ซึ่งสร้างความหอมที่เข้าถึงได้ไม่ยากและมีความเป็น Unisex ในสายเรียบหรูโทนกึ่งสว่างแต่มีพลังทางกลิ่นได้อย่างลงตัวมาก

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่เข้ากับทุกเพศวัยเรียน ม.ปลายเป็นต้นไปก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นเน้นที่ความเรียบหรูแต่มีพลังเป็นสำคัญ ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย กวาดหมดครอบจักรวาล แต่ถ้าใส่ไปออกกำลังกายแนะนำให้เบามือลงมาหน่อย เดี๋ยวจะตีขึ้นจนมึนเอาได้เพราะช่วงกลางก็ปล่อยพลังพอตัว ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ออกงาน ออกเดท หรือออกแนวจิบสบายๆ จะดีกว่าไปท่องราตรี ที่แม้กลิ่นจะสู้ได้อยู่ แต่เจอโทนหวานอวลหนักๆ ก็โดนกลบเอาได้

ความทน - เกินคาดที่สุดของแจ้ เพราะว่ากลิ่นทนจัดมากเรียกว่าจนนี้คือความดีงามอย่างที่สุดจริงๆ เพราะ 15 ชม. ก็แล้ว อาบน้ำล้างออกก็แล้ว กลิ่นยังติดอยู่ให้จับต้องได้ ซึ่งถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ย ยังไงก็เกิน 8 ชม. แน่นอน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และค่อนข้างเสถียรกันแบบยาวๆ จนถึงช่วงท้ายเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในความดีงามของน้ำหอมรุ่นนี้

สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นสดชื่นที่สร้างอารมณ์กลิ่นไล่เรียงกันได้อย่างลงตัวตั้งแต่กลิ่นอายบรรยากาศไปสู่กลิ่นโทนหรูน่าค้นหาติดอวลมีเสน่ห์ได้อย่างรื่นไหล โดยที่กลิ่นอาจจะไม่ได้หวือหวามาก (เพราะแบรนด์เขามาแนวสายเรียบง่ายอยู่แล้ว) แต่ก็มีเสน่ห์และยกระดับผู้ใช้ได้อย่างดีงาม ซึ่งถ้าใครที่ชอบทั้งกลิ่นอายเขียวบรรยากาศเจือความสดชื่นติดหวานฉ่ำ และโทนผลไม้กึ่ง Aquatic ก่อนจะปิดด้วยความหอมติด Cool มีพลังและความทนเป็นเลิศแล้วล่ะก็ ถ้าลองตัวนี้ก็ระวังโดนตกเอาได้นะนั่น

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Angelys-Pear-Fruit-of-Knowledge-Fruit-of-Joy-13541.html

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

Review: Parfums de Nicolai - Patchouli Homme



Parfums de Nicolai - Patchouli Homme

ผมเคยตัดสินใจมาก่อนว่าจะไม่ Review น้ำหอมตัวนี้ ไม่ใช่เพราะมันไม่หอม มันหอมมาก มันดีงามมาก แต่ผมรู้สึกถึงความหลอนเศร้าแน่นๆ ตลอดเวลาใช้น้ำหอมตัวนี้ จนต้องขายต่อคนอื่นไป เพราะผมทนกับความรู้สึกแบบนั้นไม่ค่อยได้ เท่าที่พอรู้น้องที่ได้ตัวนี้ต่อจากผมไปก็ฟินกับตัวนี้น่าดู อยู่ดีๆ ผมเกิดอยากมาบอกเล่าน้ำหอมตัวนี้ขึ้นมาซะงั้น เลยขอเปลี่ยนใจ มาว่ากันซักหน่อยกับ Parfums de Nicolai รุ่น Patchouli Homme ครับ

เพราะชื่อรุ่นบอกถึงพิมเสน เช่นนั้น จะมีพิมเสนอยู่ทุกช่วงให้สัมผัสได้ ซึ่งจะมากจะน้อยจะอยู่ตามแต่ละช่วงเลยทีเดียว เปิดกลิ่นที่ Top Notes ด้วยดอกลาเวนเดอร์กับเจเรเนียมชัดแจ่มมาก มีกลิ่นส้มมาแซมๆ ให้ออกโทนสดชื่นหน่อยๆ แต่สิ่งที่แอบรองพื้นด้านหลังคือกุหลาบ อบเชย และพิมเสน ดันให้กลิ่นช่วงนี้หนักแน่นจัดเต็มฟุ้งกระจายมากมาย แต่มันให้อารมณ์ดูขรึมๆ นิ่งงันท่ามกลางความแน่นอย่างบอกไม่ถูก จนเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes งานนี้กุหลาบจะมาเต็ม โดยมีอบเชยเสริมให้แน่นพร้อมกับโทนเครื่องเทศที่ตามมาติดๆ แต่ไม่ว่าตัวไหนที่บอกมาก็ไม่สามารถสู้พิมเสนได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะจะมาแบบเต็มแน่นมาก ปล่อยความรู้สึกของความมีคลาสและหรูหรา แต่มันเศร้าและยังคงความนิ่งงันท่ามกลางความเต็มแน่นที่กระจายฟุ้งอยู่ และเมื่อ Base Notes ปล่อยของ กลิ่นหนังจะเสริมขึ้นมาไวมาก โดยตีคู่มากับกลิ่นธูปแนวๆ ไม้หอม และมีวานิลลารองพื้นให้เกิดความอบอุ่น แต่พิมเสนไม่มีคำว่าไปไหน ตามมาผสมผสานจนได้กลิ่นเฉพาะแบบธูปหอมพิมเสนแต่พ่วงความเป็นสุภาพบุรุษท่านชายที่ภูมิฐานมีความสูงศักดิ์ในเนื้อกลิ่นแน่นๆ มากมาย แต่ก็ยังทำให้รู้สึกว่ามันเศร้าสร้อย นิ่งงัน และเงียบขรึมอยู่ตลอด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แม้ยามนึกถึงมันก็ยังค้างอยู่ในอารมณ์ไม่เคยจางหายไปเลยแม้แต่นิดเดียว

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป รวมถึงเป็นคนชอบน้ำหอมแน่นๆ ครับ เพราะกลิ่นนี้จะเต็มแน่นทุกช่วงเลยทีเดียว ไม่ลดราวาศอกเลยแม้แต่น้อย สามารถใส่ทำงาน ออกงานหรูหรา หรือพบปะผู้คนที่อาวุโสกว่าได้สบาย แต่ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายหรือว่าเที่ยวกลางคืนเมาหยำเปแต่ประการใดเลย

ความทน – บอกเลยครับ สิ่งที่พบเจอกับการใช้รุ่นนี้ คือ 15 ชม. กลิ่นยังเต็มแน่น ขนาดอาบน้ำแล้วกลิ่นยังติดอยู่ ไม่พอเสื้อผ้าที่ผมใส่ตอนฉีดน้ำหอมตัวนี้ซักไปแล้วกลิ่นก็ยังติดอยู่ รีดผ้าทีฟุ้งกระจายขึ้นมาเต็มๆ เทพจนไม่รู้จะเทพอย่างไงเลยงานนี้

การกระจาย – เพราะกลิ่นเต็มแน่น เช่นนั้นการกระจายจึงหายห่วงกับความหนักแน่นไม่ลดราวาศอกในทุกๆ ช่วง ที่สำคัญกระจายมาแบบธูปหอมแน่นๆ ผสานกลิ่นเศร้าๆ ของพิมเสนในตัวนี้ ยิ่งทำให้ผมเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ

ทิ้งท้าย – เพราะผมเป็นคนชอบพิมเสนแต่ไม่สามารถทนกับความรู้สึกเศร้าสร้อยแบบกลิ่นยิ่งสูงยิ่งหนาวแบบนี้เท่าไหร่เลยจำเป็นต้องปล่อยออกไป และเท่าที่ติดตามน้ำหอมของแบรนด์นี้มารู้สึกว่ารุ่นนี้น่าจะไม่ค่อยได้รับการ Promote แล้ว ไปเน้นที่รุ่น Patchouli Intense แทน ซึ่งเปลี่ยนโทนไปเป็นแบบ Unisex เช่นนั้นกิเลสมาทันทีก็งานนี้แหละครับ