แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Paco Rabanne แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Paco Rabanne แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567

Review: Paco Rabanne - Phantom

Paco Rabanne - Phantom

แรกสุดเมื่อได้เห็นขวด นั่นคือ “โหยยยยย อย่างเท่ห์” และมีความล้ำตามสไตล์ของ Paco Rabanne กันแบบเต็มๆ แถมมีความเป็นอารมณ์อวกาศเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งแน่นอนว่าความสนใจใคร่อยากลองน่ะมาเต็มจริงๆ และที่สำคัญเมื่อเห็นสุคนธกรที่เข้ามาร่วมสร้างสรรค์กลิ่น เรียกว่า Dream Team เลยก็ว่าได้ เพราะมีถึง 4 คนระดับปรมาจารย์กันได้เลยไม่ว่าจะเป็น Anne Filpo, Dominique Ropion, Juliette Karagueuzoglou และ Loc Dong 

ที่มาที่ไปของน้ำหอม จริงๆ มันคือการเปลี่ยนเรือธงใหม่จากที่อยู่กัยบ Invictus มาหลายปี เพื่อมาเป็นความล้ำแบบใหม่ในสไตล์ของแบรนด์นั่นเอง เลยเอาความเป็นสไตล์ล้ำยุคและอวกาศ สร้างขึ้นมาเป็น Paco Galaxy ที่ไม่ว่าจะมาจากไหนก็มา Join กันได้ราวๆ นั้น เช่นนั้นในการเป็น Phantom เนื้อกลิ่นจะออกมาในรูปแบบไหน มาว่ากันได้ตามนี้

เปิดมาก็ Citrus ที่เนื้อกลิ่นมีความหนาและอวลอยู่พอสมควร โดยเป็นการผสมผสานของกลิ่นโทนเลมอนที่มีอารมณ์ติดขมเปลือกเลมอน + กับกลิ่นโทนนวลกึ่งแป้งที่มีความติดเขียวหน่อยๆ มีลูกกลิ่นแบบโทนเขียวกึ่งวินเทจจางๆ ในนั้น ซึ่งพอจับได้ว่าสาเหตุที่ทำให้กลิ่นมีน้ำหนัก แม้ว่าน่าจะเปิดด้วยโทน Citrus คือ ลาเวนเดอร์ ที่จะเป็นแก่นหลักของกลิ่นอยู่ในทุกๆ ช่วงแบบเป็นตัวละครสนับสนุนที่ไม่ได้เป็นตัวเอก แต่อยู่กันยาวๆ แบบที่ต้องมี ซึ่งทำให้เนื้อกลิ่นช่วงนี้มีอารมณ์กลิ่นที่เป็นสไตล์เรียกแขกในแบบทันสมัยที่ให้อารมณ์อวลๆ เย้าๆ แบบที่เรามักเจอในน้ำหอมเจ้าเสน่ห์ของแบรนด์นี้ อาทิเช่น Pure XS หรือ Black XS เพียงแต่จะมีกิมมิคที่แตกต่างเมื่อเข้าสู่ช่วงถัดไป นั่นคือ 

โทนกลิ่นออกทางดินๆ Earthy ที่แทรกเข้ามาพร้อมกับลูกผสมกลิ่นโทน Fruity ที่ให้อารมณ์เกือบจะ Creed Aventus ที่มีแอปเปิ้ลเขียวแกมสับปะรดติด Smoky แกมพิมเสนเข้ามาร่วมด้วย แต่ก็ไม่ได้ทื่อๆ ไร้ชั้นเชิงขนาดนั้น เพราะโทน Earthy ที่ให้ความรู้สึกดินๆ แกม Dirty นี่แหละ ที่เป็นตัวคุมเกมส์ โดยมีตัวเสริมชั้นดีที่ตามมาจากช่วงต้นอย่าง Citrus และลาเวนเดอร์ ที่ยังคงตรึงให้กลิ่นมีความเย้าๆ เจ้าเสน่ห์อยู่ เพียงแต่มีความ Dirty Earthy ของโทนแกมดินๆ กึ่งพิมเสนที่ให้ความเก๋ๆ แตกต่างเข้ามาเด่นมาก ทำให้กลิ่นฉีกออกมาได้เป็นตัวตนของตัวเอง ที่ยังคงมีโทนกลิ่นสมัยนิยมสายเย้าต่างๆ เสริมให้ทันสมัย + ร่วมสมัยได้อย่างน่าสนใจ

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มมีโทนอบอุ่นแกมกลิ่นไม้หอมอวลๆ ที่มีความเป็นวานิลลาแบบไม่ได้หนัก แต่มาให้น้ำหนักของกลิ่นที่มีโทนอบอุ่นอวลๆ เสริมให้กลิ่นหญ้าแฝกที่มาร่วมทีมกับโทนกลิ่นแนวลาเวนเดอร์ + กลิ่นโทนคล้าย Oak Moss ที่มีความเขียวเข้มๆ เนียนๆ รวมอยู่ เนื้อกลิ่นมีความเป็นแป้งหน่อยๆ ร่วมด้วยจาก Effect ทั้งลาเวนเดอร์และวานิลลา โดยที่ยังมีกลิ่นติดฟรุตตี้อ่อนๆ แกม Smoky จากช่วงกลางมาให้จับต้องได้ประปราย ทำให้ช่วงท้ายเป็นกลิ่นแนวไม้หอมแห้งๆ อวลๆ มีความอบอุ่น มีความ Fougere สุขุมหน่อยๆ แต่แน่นอนเป็นกลิ่นสายอวลอุ่นเย้าที่มีความทันสมัยและใช้งานง่ายสาย Trendy เต็มๆ 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปก็สามารถใช้กลิ่นนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่แต่เฉพาะตะลุยราตรี เพราะเนื้อกลิ่นค่อนข้างครอบคลุมการใช้งานยามกลางวันด้วย แต่ไม่ควรอัดสเปรย์เยอะเกินไป เดี๋ยวจะอวลจนอึนเอาเสียก่อน ซึ่งกลิ่นสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นทั่วไปหรือว่าใส่ทำงาน Office แต่ถ้าใส่ไปออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งแนะนำเบาสเปรย์หรือรอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนใส่ไปออกงานหรือท่องราตรี อันนี้จัดไปเข้าทางแบรนด์นี้นักแล 

ความทน - สมฐานะที่พื้นฐาน 8 ชม. ได้สบายๆ และไปต่อได้อีกขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์ ส่วนตัวใช้แค่ 5 สเปรย์ก็แตะ 8 - 10 ชม. ได้สบายมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น เรียกว่าเปิดมาก็เรียกแขกกันเลย ก่อนที่จะลดลงมากระจายดีต่อเนื่องไปราวๆ 3 ชม. ก็จะลงมาปานกลางจนถึงราวๆ 6 ชม. ก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัว ไปเรื่อยๆ แล้วติดผิวเมื่อผ่านไปซักประมาณ 8 - 10 ชม. เป็นต้นไป

สรุป - เอาจริงๆ ตอนแรกเห็นขวดคิดว่ากลิ่นจะล้ำกว่านี้ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะสไตล์ของแบรนด์เป็นสไตล์น้ำหอมเจ้าเสน่ห์เรียกแขก แน่นอนว่ายังคงต้องมีลูกเอื้อน Signature สายเย้า Citrus + Fruity ที่เรียกแขก แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างความต่างคือโทน Earthy ดินๆ แกมพิมเสนช่วงกลางนี่แหละที่เป็น Game Changer ให้เนื้อกลิ่นหลุดมาในการเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ดี เช่นนั้น ไม่ได้ล้ำยุค Avant-Garde หรืออวกาศมาจากไหน แต่ให้ความทันสมัยมีเสน่ห์ อวล เย้า เซ็กซี่ และดึงดูด ในอีกรูปแบบตามสไตล์น้ำหอมชายของแบรนด์นั่นเอง 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://6shop.mom/products.aspx?cname=phantom+paco+rabanne+perfume&cid=62

 

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Review: Paco Rabanne - 1 Million Prive

Paco Rabanne - 1 Million Prive 

ถ้าพูดถึงน้ำหอมผู้ชายของ Paco Rabanne สาย 1 Million มักเป็นโซนที่คนนึกถึงก่อนเสมอในช่วงยุคหลังปี 2010 เรียกว่าแอบเบียดสาย XS หรือ Black XS มาขึ้นแท่นเป็นน้ำหอมเด่นของแบรนด์ไปอย่างน่าชื่นชมไม่น้อยเลยทั้งรูปลักษณ์ของขวดแบบทองแท่งและกลิ่นอายที่สร้างออร่าของการเป็นน้ำหอมสไตล์ Metro ที่สำคัญมีลูกหลานออกมากันอย่างมากมายไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อได้ห่
างหายสายนี้ไปนานก็ได้เวลากลับมาเจอกับกลิ่นที่น่าสนใจของไลน์นี้อีกครั้งกับรุ่นนี้เลย 1 Million Prive

เปิดตัว Top Notes กันด้วยกลิ่นอายที่คุ้นเคยและเป็น Signature ของไลน์ 1 Million เลยนั่นคือกลิ่นอายของอบเชย ที่จะชัดเจนกันตั้งแต่ช่วงนี้เลย โดยจะมาผสมผสานกับกลิ่นอายสไตล์ส้มที่ทำให้กลิ่นมีความหวานเจือเปรี้ยวมีมิติ และจะแอบจับได้ถึงกลิ่นแนวๆ ผลไม้แห้งๆ ที่ทำให้กลิ่นช่วงต้นมีความเป็นโทนดึงดูดปนอบอุ่นแอบเจ้าเสน่ห์เคล้าความเมโทรตามสไตล์ของ 1 Million ได้น่าสนใจมาก สิ่งที่ดีมากเลยของช่วงนี้คือ กลิ่นอบเชยจะไม่แหลมโดดจนทำให้จับเอาน้ำหอมตัวนี้ไปวางในกลุ่มเรียกร้องความสนใจแบบไม่แคร์โลก ซึ่งกลิ่นจะมีความหอมหวานปนอบอุ่นแบบที่ไม่แน่นเกินไป มีความโปร่งไม่ถึงกับร้อนแรงจัด มีอารมณ์กึ่งไม้หอมหน่อยๆ ปนครีมบางๆ นวลจมูกมากกว่าที่คิด ทำให้กลิ่นปูทางเข้าสู่น้ำหอมที่สร้างสมดุลย์ให้กลายเป็นโทนที่มีคลาสมีระดับและดู Cool ขึ้นมาทันทีเลย จนเมื่อโทนกลิ่นของส้มจางลงไปและมีกลิ่นของยาสูบที่ให้อารมณ์หวานโปร่งกำลังดีดันขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นยางไม้เคล้าควันอ่อนๆ เสริมเข้ามาผสมผสานกับกลิ่นของอบเชย ทำให้ได้กลิ่่นออกทางอบอุ่นปน Smoky อ่อนๆ เคล้ากับกลิ่นหวานกึ่งนวลที่เริ่มจับต้องได้ว่ามาจากถั่วตองก้ากึ่งสมูธที่มีเสน่ห์มาก กลิ่นจะให้ความรู้สึกแบบหนุ่ม Metro น่าค้นหาเรื่อเย้าจมูกไปตลอด ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ทุกอย่างสมดุลย์ลงตัว ให้ความมีระดับแบบผู้ชายที่มี Sex Appeal แบบที่ไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าก็น่ามองและดึงดูดมาก ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะส่งต่อไปที่ช่วงท้ายกับการเป็นโทนยางไม้เจือไม้หอมเคล้ากับกลิ่นมีโทนหวานโปร่งกำลังดีจากยาสูบ มีความนวลหวานของตองก้า และมีความอ้อยอิ่งเย้าระเรื่อจมูกของพิมเสนที่เข้ามาแจมในช่วงนี้กลิ่นจะได้ความอบอุ่นนวลจมูกเย้ายวนน่ากอด รวมถึงมีชั้นเชิงและมีความหรูหราเข้ามาให้รู้สึกได้ ซึ่งกลิ่นจะมีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากตัวอื่นๆ ในไลน์มากเลยทีเดียว แม้จะมีลายเซ็นของต้นตระกูลอยู่บ้างก็ตาม เพราะมาในลักษณะโทนนุ่มที่มีระดับและและมีเสน่ห์น่าเข้าใกล้ได้ดีเกินคาด ซึ่งถ้าว่ากันด้วยภาพรวมของกลิ่นนี้ ก็ทำให้เห็นถึงผู้ชายมั่นใจที่แต่งตัวสมาร์ทสไตล์ Metro ในลักษณะของโทนสีเข้มที่ดึงดูดและเย้ายวนมีเสน่ห์และน่าค้นหา แบบที่เดินผ่านแล้วทำให้คนต้องหันไปมองตามได้ไม่ยาก ประมาณนี้เลย 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นสร้างออร่าที่มีระดับและมีความน่าค้นหามากเลยทีเดียว ซึ่งจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะถ้ามากไปเดี๋ยวจะจุกเอาได้ โดยได้ทั้งทางการและทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืนจัดไป กลิ่นมีเสน่ห์ มีระดับ และมีความน่าค้นหาแบบคนเจ้าชู้เงียบได้เป็นอย่างดีมาก 

ความทน - 8 ชม. ได้เลยสบายมาก แต่มากกว่านั้นได้ด้วย อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางแบบกำลังดีไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายที่จะออร่าดึงดูดแบบกึ่งนวลกึ่งเย้ายวนได้ลงตัวจริงๆ 

ทิ้งท้าย - นี่คือหนึ่งใน Flanker ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของสาย 1 Million ได้เลย เพราะนอกจากมีลายเซ็นของต้นตระกูลแล้ว ยังฉีดตัวเองออกมาได้ชัดและมีระดับเกินคาดมากจริงๆ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://rozetka.com.ua/18820683/p18820683/



วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Review: Paco Rabanne pour Homme

Paco Rabanne pour Homme

สำหรับแบรนด์ Paco Rabanne ใช่ว่าจะมีแต่น้ำหอมที่ออกสายเมโทรยั่วยวนในแบบที่คนใช้น้ำหอมหลายๆ คนได้เห็น แต่สำหรับแบรนด์นี้ถือว่าได้สร้างประวัติศาสตร์กับหนึ่งในความคลาสสิคที่อยู่มาอย่างยาวนาน ที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่นิยมของผู้คนหลายๆ รุ่นมาตลอดตั้งแต่ปี 1973 จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการปรับสูตรแล้วก็ตาม ซึ่งจะเป็นตัวไหนไปไม่ได้นั่นคือ Paco Rabanne pour Homme

เหตุที่กลิ่นนี้ได้รับความนิยมมาเสมอไม่มีคำว่าตกยุคเพราะคาบเกี่ยวได้หมดทั้งการเป็น Retro และ Modern ได้สบายๆ ด้วยกลิ่นอายที่ความแมนจัดเต็มจริงๆ โดยเริ่มกับ Top Notes อย่างโทนเขียวติดเครื่องเทศเผ็ดปร่าสดชื่นอย่างโรสแมรี่ เสริมด้วยใบเซจทำให้กลิ่นเขียวฟุ้งปร่าซ่ากันมาเลย และมีความเขียวสากแมนจากๆ จาก Oak Moss มาให้รู้สึกอยู่ด้วย ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นออกทางไม้หอมติดกุหลาบจางๆ แทรกอยู่ข้างในและที่สำคัญกลิ่นของลาเวนเดอร์จะเสริมเข้ามาไวมาจนทำให้ได้กลิ่นแนวสบู่เขียวสะอาดสดชื่นคมๆ ฟุ้งกระจายออกมาจัดเต็มชัดเจน เรียกว่าถ้าง่วงๆ อยู่ ใช้กลิ่นนี้สามารถตื่นได้เลยเพราะกลิ่นปลุกความสดชื่นแบบจริงๆ ซึ่งกลิ่นโทนเขียวปราสดชื่นติดนวลสบู่สะอาดนี้จะตามไปยัง Middle Notes ซึ่งจะมีความนุ่มในเนื้อกลิ่นเสริมเข้ามามากขึ้นจากลาเวนเดอร์ และมีกลิ่นติดกุหลาบจางๆ ซึ่งจะมาจากดอกเจอเรเนียมเป็นตัวกลางเชื่อมกลิ่นโทนนุ่มสบู่คาบเกี่ยวกับกลิ่นอายติดเลมอนหน่อยๆ ที่มาสายสนับสนุนให้กลิ่นโทนสมุนไพรยังคงปล่อยของเต็มที่อยู่เช่นเดิมคงเส้นคงวาไปตลอด ที่สำคัญ Oak Moss จะเริ่มปล่อยของมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำเข้าสู่ Base Notes โดยมีกลิ่นอายแบบเขียวติดสากแมนเท่ห์ ไม่ได้มาสายอลังหรือดำมืดแต่ประการใด โดยจะมีความนวลของ Musk ความหวานของน้ำผึ้ง และความอบอุ่นติดครีมมี่ของไม้หอมมาเสริมทำให้กลิ่นดูมีความเป็นสุภาพบุรุษที่มีความแมนภูมิฐานปนความเท่ห์ติดหวานอบอึ่นจางๆ กำลังดี เป็นช่วงที่เรียกว่ากลิ่นกลมกล่อมยืนพื้นของความเป็นสบู่และสมุนไพรได้ลงตัวมากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ซึ่งจริงๆ น้องๆ วัยมหาลัยก็ใช้ได้ ถ้าสนใจ กลิ่นไม่ได้สร้างความรู้สึกว่าแก่อะไรขนาดนั้น เพราะมันเป็นกลิ่นสะอาดสมุนไพรที่อาจจะไม่ได้รับคำชมในคราแรกดม แต่มันจะสร้างความเป็นสุภาพบุรุษและความคุ้นชินมากกว่าที่จะเป็นความแน่นหวานย้วย โดยสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันกวาดได้หมด แต่อาจจะต้องจำกัดจำนวนสเปรย์หน่อย เพราะกลิ่นฟุ้งกระจายแน่นคมพอสมควร เดี๋ยวจะทำให้ชาวบ้านอึดอัดเอาได้ ซึ่งถ้าออกกำลังกาย อาจจะรอนิดนึงให้ความคมมันลดทอนลงไปก่อน ส่วนยามค่ำคืนก็เรียกว่าจัดได้สบายๆ เอาอยู่และสู้กับกลิ่นโทนหวานได้เสียด้วย เพียงแต่อาจจะไม่ได้ถึงขั้นเย้ายวน เซ็กซี่อะไรเด่น เน้นเป็นสุภาพบุรุษสะอาดสะอ้านติดคลาสสิคผมเรียบแปล้ใส่ Pomade ประมาณนี้เลย

ความทน มากกกกกกกก ยอมใจ เพราะ 12 ชม. กลิ่นยังคงอยู่

การกระจาย กลิ่นกระจายดีสุดๆ ในตอนต้นเรียกว่ามาเต็มกันเลยทีเดียว แล้วจะลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง ก่อนจะค่อยๆ ลงมากระจายปานกลาง และเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายแบบยาวไป

ทิ้งท้าย -  จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมกลิ่นนี้ถึงได้เป็นหนึ่งในกลิ่นที่ได้รับความนิยมมาเสมอและเป็นหนึ่งในความคลาสสิคตลอดกาลของแบรนด์นี้ ถือเป็น Masterpiece กันอย่างชัดเจน

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ -
https://groomingguru.files.wordpress.com/2013/05/prphflacon-high-res.jpg


วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Review: Paco Rabanne - Invictus Aqua

Paco Rabanne - Invictus Aqua 

จากรุ่นปกติกับน้ำหอมถ้วยรางวัลทางการกีฬาอย่าง Invictus ของ Paco Rabanne ที่เรียกว่านอกจากเอาความล่ำมากของนายแบบมาเรียกเรตติ้งกันแล้ว กลิ่นยังทำออกมาได้แปลกและมีเอกลักษณ์มากในแง่ของความเป็นหนุ่มเมโทรแบบทุกสถานการณ์ได้อีกด้วย เช่นนั้นการต่อยอดความสำเร็จจึงได้มีคราวนี้ใครที่คิดว่ารุ่นปกติไม่ได้ Aqua นัก ก็ได้เวลาของคนชอบกลิ่นอายทะเลกลั้วซิตรัสกันบ้างแล้วเพราะแบรนด์ปล่อยลูกของไลน์นี้ออกมากับขวดที่สีขุ่นขึ้นนั่นคือรุ่น Invictus Aqua 

การเชื่อมโยงของตัวต้นตระกูลจะมาชัดเจนในแง่ของความเป็นกลิ่นทะเลกับความเป็น Citrus ซึ่ง Invictus Aqua จะยังคุมโทนเช่นเดียวกันแต่เพิ่มความความสดชื่นมากขึ้นรองพื้นด้วยกลิ่นอายแบบทะเลที่คง Concept อยู่ เปิดตัว Top Notes กันที่ความเป็น Citrus ของส้มยูซุที่คมๆ มีความติดขมหวานเจืออยู่บ้างกันก่อนเลยแต่มีกลิ่นจะมีความเป็นเกรฟฟรุตที่มาทำให้โปร่งสะอาดติดเครื่องเทศหวานกันนิดนึงเลยจะได้ความรู้สึกคล้ายสับปะรดนิดๆ ในตอนนี้ ซึ่งจะจับได้เลยถึงกลิ่นโทนทะเลที่จะเสริมขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาเต็มที่เลยใน Middle Notes กลิ่นทะเลจะชัดเจนมากขึ้นและจะม่ีความเป็นกลิ่นโทนเขียวโปร่งของใบไวโอเล็ตเคล้าเข้ามาให้กลิ่นมีความหอมนวลติดเย้ายวนเข้ามาเสริมทัพ โดยที่โทนสดชื่นจาก Citrus ในตอนต้นจะยังอยู่ ซึ่งในช่วงนี้จะเริ่มสัมผัสได้กับกลิ่นติดโทนเค็มทะเลเสริมเข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็เข้าสู่ Base Notes กับกลิ่นอายของ Ambergris (อำพันปลาวาฬ) ที่จะเป็นตัวเอกในช่วงนี้ กับกลิ่นออกทางติดเค็มเคล้าความเป็นทะเลชัดเจนที่จะมีความเป็นไวโอเล็ตโปร่งกลั้วซิตรัสบางๆ กระจายออกมาให้ความรู้สึกสดชื่นสบายๆ ติดเย้ายวนของผิวกายที่เคล้ากลิ่นอายแบบติดเค็มทะเลจากการเล่นน้ำทะเลหรือเดินเล่นริมทะเลมานั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็ใช้งานตัวนี้ได้แล้ว เพราะกลิ่นถือว่ามีราคาและมีคลาสในระดับหนึ่งในการเป็นโทน Marine Aquatic กลิ่นไม่ได้โหลจนเหมือนน้ำหอมทั่วไปเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้แทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เว้นช่วงเดียวคืองานทางการจัดๆ ที่ต้องรับแขกบ้านแขกเมืองเพราะกลิ่นชิลล์ไป ไม่ได้เสริมลุคความน่าเชื่อถือมากนัก ส่วนยามค่ำคืนสามารถใส่ตัวนี้ได้อยู่ เพียงแต่เหมาะกับปาร์ตี้ริมสระน้ำ หรือเดินเล่นตลาดนัดเสียมากกว่าจะไปท่องราตรีหาเหยื่อ เพราะแม้กลิ่นจะปล่อยของได้ดีแต่สู้โทนหวานเย้ากว่านี้ไม่ได้แน่ๆ นอกจากจะกลับไปใช้ตัวต้นตระกูลที่พอสู้ได้บ้าง

ความทน - ลงตัวที่ประมาณ 8 ชม. อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. กับ 6 สเปรย์รวมฉีดเสื้อที่สวมด้านหน้า 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นเ เรียกว่าสดชื่นกันเลยทีเดียว แล้วจะลดลงมากระจายปานกลาง และเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - กลิ่นถือว่าปรับโทนให้มีความสดชื่นและใส่ความเป็นทะเลลงไปมากขึ้น ซึ่งเข้าถึงง่ายมากขึ้นในแง่การใช้งาน แต่ถ้าใครที่ไม่ได้หลงรักโทนทะเลที่ติดคาวเค็มหน่อยๆ อาจจะโบกมือลาก็เท่านั้นเอง 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้ามผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://www.punmiris.com/himg/o.37688.jpg

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Review: Paco Rabanne – 1 Million Intense for Men

Paco Rabanne – 1 Million Intense for Men 

เรียกว่าเป็นหนึ่งในไลน์ที่ยอดนิยมมากมากเลยทีเดียวของ Paco Rabanne ที่จัดกันอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ กับการเป็น 1 Million ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมชายหรือหญิง ซึ่งแน่นอนว่าเน้นความเป็นเมโทรกันแบบจัดเต็มมาตลอด ซึ่งหลังจากผ่านรุ่นปกติและ Cologne ไปแล้ว มีหรือที่จะไม่มีรุ่นเข้มข้นออกมาเพื่อเพิ่มความสะใจ เช่นนั้นทองแท่งแบบจัดหนักจึงได้เวลามาเสิร์ฟแล้ว ลองมารับความจัดเต็มกันซักหน่อยกับ 1 Million Intense ได้เลย 

เรียกว่าขนความเป็น 1 Million มาอย่างไม่มีผิดเพี้ยนเพราะกลิ่นอายในลักษณะเดิมอยู่แต่เพิ่มความเด่นเฉพาะ Notes และให้ความเข้มข้นกระจายจัดเต็มในเนื้อกลิ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน เริ่มที่ Top Notes กับการเป็นกลิ่นอายแบบซิตรัสกลั้วความเป็นเครื่องเทศอย่างพริกไทยและเม็ดกระวาน โดยมีกลิ่นออกทางโทนหนังแกล้มหวานปนขมของหญ้าฝรั่นมากล่อมให้เกิดความนัวแน่น กลิ่นจะไม่ได้มีความสดชื่นมาให้รู้สึกเลยมาแบบอบอุ่นและแน่นกันอย่างชัดเจน เพียงไม่นานตัวเอกของ 1 Million ที่จะมาทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงในแต่ละรุ่นจะแทรกขึ้นมาไวมากพอสมควรในการให้ความเย้ายวนกึ่งเมโทร นั่นคือ อบเชยและกุหลาบ กลิ่นจะมาผสมผสานกันอย่างน่าดมมาก แม้จะแน่นแต่ก๋บอกชัดถึงความหวานเย้ากลั้วไปกับกลิ่นนวลเสน่ห์ โดยที่กลิ่นในช่วงต้นจะยังตามมาผสมผสานในช่วงนี้โดยไม่ได้ทำให้รู้สึกหวานเยิ้มเลย เน้นความเย้ายวนเท่ห์ๆ เสียมากกว่าเป็นสำคัญ เมื่อผ่านไปกลิ่นหนังและกลิ่นไม้หอมจะแทรกขึ้นมาดันเข้าสู่ Base Notes ที่กลิ่นจะเริ่มมีความเท่ห์และนุ่มอบอุ่นมากขึ้น กลิ่นของหนังจะไม่ได้มาแบบติดดิบ แต่มาแบบนุ่มนวลเพราะจะโดนกลิ่นของกุหลาบปละอบเชยที่ยังคงตามมาเด่นอยู่ล้อมรอบแบบหอมมีเสน่ห์อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มาตัดให้เกิดความรู้สึกไม่แน่นจัดเกินไปนั่นคือกลิ่นของไม้จันทน์หอมและกลิ่นโทนแป้งกลั้วพิมเสนจะมาเบรกให้กลิ่นอายมีความเท่ห์นวลมากขึ้น กลิ่นจะให้อารมณ์มีเสน่ห์แบบผู้ชายเท่ห์ๆ ที่มี Sex Appeal ชัดเจนว่ามาเพื่อเด่นและทุกคนต้องหันมามองนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปก็ใช้ได้แล้ว แต่ต้องระมัดระวังการใช้พอสมควรเพราะกลิ่นแน่นว่าแน่นตัวพ่อ หนักตัวแม่กันเลยทีเดียว โดยถ้าเป็นยามกลางวัน ก็สามารถใช้ได้กับงานทางการและทั่วๆ ไป ในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสมและไม่เยอะเกินไปนัก ไม่เช่นนั้นจะเป็นการฆาตกรรมให้ขาดอากาศหายใจกันเอาได้ ตัดทิ้งเรื่องการใส่ออกกำลังกายและออกกลางแจ้งไปได้เลยไม่เหมาะทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนจัดไปแบบจำนวนสเปรย์ลงตัว เรียกร้องความสนใจแบบผู้ชายเท่ห์ๆ เมโทรได้เลย แถมใครก็ฆ่าไม่ได้ เพราะของตัวนี้แรงอยู่แล้ว 

ความทน มากกกกกกกกก คือ สมชื่อรุ่นเลยจ้า ทนมากกกก 15 ชม. กลิ่นยังอยู่แถมติดเสื้อดีมากขนาดซักไปแล้วกลิ่นยังติดจางๆ อยู่เลย 

การกระจาย เอารอบทิศกันเลยในช่วงแรก แบบแน่น หนัก ไม่แคร์ใครก็เด่นอ่ะ แล้วจึงค่อยลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง และกระจายปานกลางไปเรื่อยๆ ในช่วงท้าย ก่อนจะลดลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัวเมื่อผ่านซัก 12 ชม. ไปแล้ว 

ทิ้งท้ายแบบเปรียบเทียบ 3 รุ่น: 
1 Million Cologne – เด่นที่ซิตรัสและพิมเสน โดยลดทอนความแน่นของเครื่องเทศอบอุ่นลงมาให้ใช้ง่ายขึ้
1 Million – เด่นที่เครื่องเทศโทนเย้ายวนอย่างอบเชยที่จะเป็นตัวเดินเรื่องเคล้ากลิ่นหนังอบอุ่นเท่ห์ๆ เมโทร 
1 Million Intense – เด่นที่กลิ่นอายกุหลาบกลั้วอบเชยรองพื้นด้วยความอบอุ่นของหนังที่ปล่อยเสน่ห์ชัดเจ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://assets.junglam.com/wp-content/uploads/2015/11/1-Million-Intense.jpg

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Review: Paco Rabanne – 1 Million Cologne


Paco Rabanne – 1 Million Cologne

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไลน์ที่ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียวกับ 1 Million ของ Paco Rabanne ที่บ่งบอกถึงความเป็นหนุ่มเมโทรเท่ห์ๆ ไลฟ์สไตล์แบบหนุ่มดูแลตัวเองในสังคมเมือง ซึ่งมีการต่อยอดไลน์นี้ออกมาหมดไม่ว่าจะเป็นรุ่น Intense ที่เข้มข้นซะ และรุ่น Cologne ที่ลดระดับความหวานลงมา เช่นนั้นรุ่นแน่นยังไม่ถึงเวลาขอรุ่น Cologne ก่อนแล้วกันว่าจะออกมาในรูปไหน 

เปิดต้นกลิ่นในแบบที่ทำเอาตะลึงไปพอสมควร เพราะ Top Notes มากับโทนซิตรัสแบบส้มผสมเลมอนสดชื่นกันเลย ซึ่งยังไม่พอขนความเป็นกลิ่นอายของโทนสดชื่นแบบน้ำทะเลมาด้วย ซึ่งแอบแปลกใจใช้ผิดขวดหรือเปล่า แต่พอจับโทนหวานเย้าติดเท่ห์ได้จากเม็ดกระวาน เลยได้ความเชื่อมโยงจากรุ่นต้นตระกูลมาได้อยู่ ซึ่งกลิ่นของโทนสดชื่นนี้จะเป็นเป็นตัวรองพื้นและตัดโทนให้ช่วง Middle Notes ที่เอาความเป็น 1 Million มาชัดเจนกับกลิ่นอบเชยกลั้วกุหลาบแบบหนุ่มเมโทร แต่มันจะเบาลงไปเยอะจากต้นตระกูล เพราะกลิ่นซิตรัสกับโทนสดชื่นมาตัดทอนลงไปพอสมควรโดยเฉพาะความหวานแน่นจากอบเชย แต่กุหลาบยังคงอยู่แบบน่าดูชมแทนแบบไม่ออกสาว กลิ่นยังมีความเป็นโทนทะเลแบบไม่มีกลิ่นคาวให้รำคาญใจเลย และกลิ่นโทนอบอุ่นจะเริ่มเข้ามาผสมผสานจนดันเข้าสู่ Base Notes กับการเป็นกลิ่นหนังนุ่มๆ ที่มีความครีมมี่ในเนื้อกลิ่นกับลักษณะออกนวลๆ คล้ายผิวกายติดหวาน ล้อมด้วยกลิ่นอายของพิมเสนที่หอมนวลจมูกเคล้ากลิ่นอายหวานกำลังดีที่ยังเป็นอิทธิพลจากช่วงกลางมาถึงตอนนี้แบบไม่หนัก ซึ่งลักษณะแบบเป็นการสลับโทนกลิ่นของรุ่นต้นตระกูลที่กลิ่นหนังจะเด่นให้เกิดความนุ่มอบอุ่นติดเมโทร มาเป็นให้พิมเสนเด่นแล้วหนังลดทอนความหนักลงไป โดยยังคงความเป็น 1 Million ได้อยู่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่เสริมการสดชื่นและการใช้ง่ายในลักษณะแบบ Cologne เข้ามา ชัดเจนตรงนี้ 

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ก็ใช้ได้แล้ว ซึ่งกลิ่นนี้ลดโทนหนักๆ จากรุ่นปกติไปได้เยอะเลยทำให้วัยหนุ่มละอ่อนมาใช้ตัวนี้ได้ด้วยสบายๆ ซึ่งกลิ่นออกแนวสดชื่นก็จริง แต่แฝงด้วยความเย้ายวนพอสมควร และมีความภูมิฐานได้อยู่ น้องๆ ม.ปลาย อาจจะต้องดูสถานการณ์ในการใส่นิดนึง ส่วนวัยอื่นๆ ที่โตขึ้นมาตัวนี้สามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะงานทางการและทั่วๆ ไป ส่วนยามค่ำคืนสามารถใช้ได้สบายๆ แต่อาจจะต้องอัดสเปรย์กันนิดนึง และอาจจะสู้ชาวบ้านไม่ได้ถ้าจะเน้นปล่อยเสน่ห์ จึงแนะว่าให้ไปหารุ่นปกติหรือ Intense จะดีกว่า มาเต็มและจัดหนักตามลำดับขั้นกว่า 

ความทน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็น Cologne แต่กลิ่นอยู่ในระดับ EDT ที่ความทนน่าสนใจมาก อยู่ระหว่าง 6 – 8 ชม. ซึ่งอาจจะมีบวกลบบ้าง อิงที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น เรียกว่าสดชื่นแบบมีของซ่อนอยู่ให้รู้สึกได้เลย ก่อนจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวคงตัวไปตลอดจนถึงช่วงท้าย ก่อนจะจางลงไปเป็น Skin Scent ตามกาลเวลา 

ทิ้งท้าย แอบประทับใจ เพราะส่วนตัวมีความเฉยๆ กับ 1 Million ตรงที่มีน้ำหอมหลากแบรนด์ที่กลิ่นใกล้เคียงกันไปหมด เพียงแต่อาจจะไม่ได้มีลักษณะเมโทรเท่า พอมา Cologne เฮ้ย! กลิ่นดีนะนั่น เรียกว่าลดทอนความเกร่อลงมาได้น่าสนใจไม่น้อย ที่สำคัญ Design ขวดได้สวยมาก เวลาแสงตกกระทบจากพื้นหลังสีทองทำให้ขวดงามอร่ามตาเลยทีเดียว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://iscentyouaday.com/wp-content/uploads/2015/07/1-million-cologne.jpg

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Review: Paco Rabanne - Black XS L'Aphrodisiaque for Men

Paco Rabanne - Black XS L'Aphrodisiaque for Men 

กลับมาที่แบรนด์ที่ผมปลื้มอย่าง Paco Rabanne อีกครั้งกับไลน์ Black XS ที่เน้นความเจ้าชู้ประตูดินกันสุดๆ ซึ่งหลังจากผ่านรุ่นปกติและ L'Exces ไปแล้ว งานนี้ต้องมาเจอความหวานกันให้หนำต่อเนื่องกลั้วความร็อคกันดีกว่า ซึ่งรุ่นต่อมาที่จะมาเล่าให้ฟังกันนี้คือ Black XS L'Aphrodisiague นั่นเอง 

ขวดแบบเท่ห์สุดๆ เลยนะ มีหนามออกแนวร็อคพังค์เมทัลกันสุดๆ ตัดสีกันอย่างสวยงามระหว่างสีดำกับสีทองแถมมีหัวกระโหลกห้อยมาด้วย ซึ่งขวดเท่ห์แบบนี้ แต่พอฉีดกลิ่น Top Notes ที่ออกมา คือ กลิ่นแนวซิตรัสกลั้วผลไม้แบบที่เป็นตัวเชื่อมโยงในไลน์นี้จะเด่นขึ้นมาก่อนเลย แน่นอนว่ากลิ่นเย้ายวนและขี้เล่นกันเต็มที่ โดยจะมีกลิ่นของอบเชยที่เด่นนำตีคู่มาด้วยแบบไม่ลดราวาศอก เลยไม่ได้มาแบบใสๆ เน้นแน่นหวานกันตั้งแต่ตอนนี้ จนเข้าสู่ Middle Notes ที่กลิ่นของดอกส้มจะมานวลๆ แต่เด่นกว่าใครเพื่อนเลยคือน้ำผึ้ง ที่มาหวานกันเต็มเหนี่ยว ยิ่งอบเชยในช่วงแรกยังตามมากลั้วด้วย เลยจะได้ความหวานเย้ายวนกันเต็มๆ แทรกความนวลเซ็กซี่ไปเรื่อยๆ เน้นเรียกร้องความสนใจแบบล่อลวงด้วยความหวานกันเต็มๆ ซึ่งน้ำผึ้งกับอบเชยจะยังตามไปถึงช่วง Base Notes ที่งานนี้กลิ่นหนังนุ่มๆ กลั้วชอคโกแลตพราลีน ที่เป็นหัวใจหลักของไลน์ Black XS จะเป็นตัวเด่นเด่นขึ้นมา กลายเป็นกลิ่นนุ่มหวานเย้ายวนเต็มเหนี่ยวมากขึ้น มีความเป็นขนมหวานๆ จากกลิ่นอัลมอนด์เข้ามาเสริมด้วย เรียกว่า ขนความหวานมาเสิร์ฟถึงที่กันเลยล่ะ ภาพรวมอาจจะสวนทางกับขวดที่มันพังค์ซะขนาดนั้น แต่ก็พอเข้าใจได้ว่ามันพังค์แบบหวานจัด เพราะเวลาขาร็อคเขาอินเลิฟ มันก็จะหยดย้อยไม่น้อย เราเข้าใจท่าน 55555 ^^

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยมหาลัยขึ้นไปก็ใส่ได้แล้ว ยิ่งคนชอบกลิ่นโทนหวานน้ำผึ้งออกขนมจะปลื้มได้ไม่ยาก แต่ให้จำกัดจำนวนสเปรย์กับอากาศร้อนๆ จะดีที่สุดไม่งั้นหวานจุกคอหอยกันพอดี โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทั่วไปและชิลล์ๆ แบบจำกัดสเปรย์ ส่วนงานทางการรับแขกบ้านแขกเมืองอาจจะไม่เหมาะนัก และออกกำลังกายหรืออยู้กลางแจ้งกลางแดดทุกประเภทไม่ควรเลย เดี๋ยวฆ่าหมู่เอาได้ แต่สำหรับยามค่ำคืน จัดไป เรียกร้องความสนใจกันสุดๆ หวานแบบไม่ปราณีใครเลยจริงๆ 

ความทน - มากกกกกก ทนกว่าต้นตระกูลอีกจ้าาาาา เรียกว่า 15 ชม. กลิ่นยังอยู่เลย กับอากาศเย็นๆ กลิ่นจะหอมหวานน่าซบเลยแหละ ซึ่งถ้าคนผิวไม่เอื้อน้ำหอมความทนยังไงก็ยังเกิน 8 ชม. ได้อยู่ 

การกระจาย - มากกกกกกกก เรียกว่าตีขึ้นสะใจเมทัลกันเลยทีเดียว กระจายหนำสุดๆ ในช่วงแรก แล้วจะลดลงมากระจายดีหวานเย้าไปตลอด และกระจายแบบกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - กลิ่นหวานมากและถือว่าเป็นการเอาต้นตระกูลมาต่อยอดเสริมความหวานกันได้ดีเลยทีเดียวล่ะครับ ที่สำคัญชอบขวดจริงๆ แม้เวลากดใช้มือมักจะไปโดนหนามบ้างก็เถอะ 555555 

Credit ภาพ - http://fimgs.net/images/secundar/o.23522.jpg

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Review: Paco Rabanne – Ultrared Men


Paco Rabanne – Ultrared Men

ต้องบอกก่อนเลยว่า #ร้องไห้หนักมาก และ #ผิดที่เราเจอกันช้าไป เพราะรุ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่มีดีในตัวสูงมาก กลิ่นดีจนแบบว่าไม่ควรออกมาเป็น Limited Edition เลยจริงๆ และตอนนี้ #เลิกผลิต ไปแล้ว ถือว่าเป็นตัวที่หายากและราคาถีบขึ้นสูงมากจริงจัง เช่นนั้นมารู้จักกันซักหน่อยครับกับของดีที่น่าเสียดายของ Paco Rabanne อย่างรุ่น Ultrared ครับ 

“น้ำส้มสีเลือด คุ้กกี้วานิลลาชอคโกแลตชิป กับผิวกายหอมอบอุ่นรัญจวน” 

คือ คำจำกัดความของน้ำหอมตัวนี้เลยครับ เพราะเปิด Top Notes มาเต็มๆ กับกลิ่นของน้ำส้มสีเลือดคั้นสดแบบหอมสดชื่นติดหวานมากมาย เพียงแค่กลิ่นต้นก็ทำเอาฟินมาก เพราะกลิ่นส้มสีเลือดจะได้อารมณ์ส้มฉ่ำโทนหวานหอมติดโทนผลไม้มากกว่าส้มปกติ ซึ่งกลิ่นจะออกโทนสีแดงกันชัดเจนทั้งแต่ช่วงนี้เลย จนเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นของส้มสีเลือดจะผันเป็นกองหลังให้กลิ่นของวานิลลาดันขึ้นมากลั้วกับกลิ่นของชอคโกแลตสอดไส้ กลายเป็นกลิ่นคุกกี้วานิลาชอคโกแลตชิปทันที กลิ่นช่วงนี้หอมมากกกกกกก ได้อารมณ์คุกกี้อบเสร็จใหม่ๆ หอมนุ่มละมุนกระจายเลยทีเดียว ราวกับอบคุกกี้เสร็จพร้อมรับประทานกับน้ำส้มสีเลือดยังไงยังงั้น ซึ่งโทนขนมจะมาเต็มเหนี่ยวไม่พอ โทนอบอุ่นยังมาเต็มด้วยเช่นกัน ส่งต่อให้ช่วง Base Notes ที่กลิ่นโทนคุ้กกี้จะลดลงมารองพื้นด้านหลัง มีกลิ่นส้มสีเลือดจางๆ เบาๆ ดันให้กลิ่นกลายเป็นครีมมี่นุ่มๆ ติดพิมเสนเย้าละมุนกับผิวกาย โดยมีโทนอบอุ่นนำนวลไปตลอด โดยมีกลิ่นโทนวู้ดดี้อ่อนๆ ให้รู้สึกได้ถึงความสะอาดและละมุนอยู่ในตัว ราวกับนั่งชิลล์ๆ พักหลังจากกินขนมและน้ำส้มสีเลือดหมด ท่ามกลางอากาศอบอุ่นและกลิ่นอายของความเป็นขนมที่ยังหลงเหลืออยู่ แบบกลิ่นติดผิวกายหอมจนน่ากินคนที่ฉีดน้ำหอมตัวนี้มากกกกกก ฟินไปเลยจ้า~

เหมาะสำหรับ – เป็นน้ำหอมที่ตราไว้ว่า Men แต่เอาเข้าจริงกลิ่นมัน Unisex มากครับ กลิ่นแบบนี้ใช้ได้ทุกเพศในวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปได้เลย กลิ่นออกทางสดชื่นกลั้วความเป็นขนมที่เอาเข้าจริงๆ ใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบที่ไม่ทางการจัดๆ เช่นทำงานใน Office หรือทั่วไป ยิ่งใส่ชิลล์ๆ ยิ่งกลิ่นหอมน่ากินมากบอกเลย ออกกำลังกายขอให้งดครับ เพราะกลิ่นจะอวลแน่นจนเวียนหัวเอาได้ กับโทนขนมแบบนี้ ส่วนยามค่ำคืนออกตระเวณราตรี จัดไป กลิ่นชวนเข้ามาดมและสนใจจนหลุดปากออกมาได้ว่า “น่ากินจัง”

ความทน – เอาไปเลย 8 ชั่วโมงขึ้นไป และมากกว่านี้ได้ถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม ซึ่งสำหรับผมจัดไป 6 สเปรย์ ยาวนานตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โทงเย็น กลิ่นจึงค่อยๆ จางลงไป

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้นเรียกความสดชื่นด้วยกลิ่นน้ำส้มสีเลือดได้ดีมาก ก่อนจะกลายเป็นกระจายดีมากในช่วงกลางกับการเป็นคุ้กกี้ชอคโกแลตชิป และปิดท้ายด้วยกระจายกลางๆ ค่อนไปทางออร่ารอบๆ ตัวอบอุ่นในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – ยังคงเสียใจมากที่หาตัวนี้ไม่ได้อีกแล้ว กลิ่นมันถูกจริตผมมากมายจริงๆ กลับมาผลิตอีกครั้งเถอะ Please 

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Review: Paco Rabanne – Black XS L’Exces for Him


Paco Rabanne – Black XS L’Exces for Him

เพราะ Black XS ถือว่าเป็นตัวเรียกแขกแบบเซ็กซี่สุดกู่ ทั้งหอมสดชื่นแบบผลไม้ที่น่ากิ๊นน่ากิน ก็ต้องมีการต่อยอดสิครับ ซึ่ง Paco Rabanne เลยปล่อยตัวลูกตัวแรกออกมาก่อนในปี 2012 คราวนี้จะมาแบบต้นตระกูลหรือไม่ ต้องมาว่ากันหน่อยกับรุ่นนี้ครับ Black XS L’Exces for Him

Top Notes เรียกได้ว่าเปิดต้นกลิ่นมาได้สดชื่นมากมายกับกลิ่นโทนผลไม้กลั้วซิตรัส แบบว่าสับปะรดและเลมอนมากลั้วกันได้อย่างลงตัวมาก แอบมีโทนสตรอเบอร์รี่คล้ายๆ ต้นตระกูลมาบางๆ ให้พอรู้สึกได้ ที่สำคัญกลิ่นไม่แหลมเกินไปเสียด้วยเพราะมีลาเวนเดอร์มาตัดให้ความลงตัวหอมแบบเรียกแขกกันตั้งแต่ตอนนี้เลยทีเดียว จนเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes ถึงเริ่มฉีกตัวเองออกมามากขึ้น โดยยังคงลายเซ็นของต้นตระกูลอย่างโทนผลไม้ผสมซิตรัสอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน แต่จะได้โทนแบบน้ำทะเลแบบไม่มีกลิ่นคาวเข้ามาให้ความสดชื่นติดเย้ายวน และมีความซ่าๆ ติดโทน Spice ในเนื้อกลิ่นกำลังดี แอบมีโทนหวานจางๆ มาผสานแบบว่าเอากลิ่นของต้นฉบับมาปรับใหม่นั่นเอง และ Base Notes จะเริ่มเข้ามาให้ความอบอุ่นกลั้วเซ็กซี่ในรูปแบบที่คล้ายคลึงต้นฉบับ กับโทนวู้ดดี้สะอาดๆ ติดอบอุ่นและมีกลิ่นของพิมเสนนุ่มเย้าดึงดูดไปตลอด แต่สิ่งที่ยังคงมีอยู่จางๆ ให้รู้สึกได้คือ กลิ่นโทนผลไม้กลั้วซิตรัสที่ก็ยังไม่ได้ไปไหนเช่นเคย เรียกว่าปรับเป็นรุ่นลูกที่กลิ่นน่าดูชมและดมกลิ่นไม่น้อยเลยทีเดียว แถมให้ความรู้สึกแบบผู้ชายเย้ายวนแบบสดชื่นเท่ห์ๆ มากกว่าจะหวานยั่วแบบต้นฉบับเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยมหาลัยขึ้นไป กลิ่นเข้าถึงง่ายเลยทีเดียว ไม่ได้แน่นจนเกินไปด้วย ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งยามกลางวันและกลางคืน ซึ่งยามกลางวันอาจจะต้องเลือกสถานการณ์นิดนึง เพราะกลิ่นไม่ได้ออกทางการเท่าไหร่ ถ้าใส่ทำงานก็พอไหวในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม ยิ่งใส่ชิลล์ๆ ก็ลงตัว หรือใส่ไปอยู่กับแฟน อาจจะคลุกวงในกันหนำได้เลย เพราะกลิ่นสดชื่นติดยั่วยวนไม่น้อย ส่วนยามกลางคืน ยิ่งท่องราตรีด้วยแล้ว จัดไป กลิ่นเหมาะสมมากเลย

ความทน – ขอยกนิ้วให้เลย สิ่งที่เจอคือ 8 ชม. กลิ่นก็ยังตีขึ้นสบายๆ ซึ่งบนผิวผม 12 ชม. ยังตีขึ้นครับ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากกกกกกตั้งแต่ช่วงต้น ยาวไปถึงท้ายๆ ช่วงกลาง ก่อนจะกระจายปานกลางในช่วงท้าย และลดลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัว ที่ใครเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นแน่นอน

ทิ้งท้าย – ใครคิดว่า Black XS ปกติ หวานยั่วไปหน่อย ตัวนี้เป็นตัวที่ลดโทนหวานมาเป็นสดชื่นติดเย้ายวนได้ดีเลยทีเดียว แถมเผลอๆ อาจจะชอบมากกว่ารุ่นถ้วยรางวัลอย่าง Invictus ที่โทนกลิ่นคล้ายๆ กันอีกเสียด้วยนะครับนั่น ^^

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Review: Paco Rabanne – Black XS for Men


Paco Rabanne – Black XS for Men

นี่คือหนึ่งในน้ำหอมที่บอกถึงความเจ้าสำราญที่ดึงดูดอย่างสุดๆ แถมเป็นตัวที่ผสมกันได้อย่างลงตัวระหว่างความสดชื่นและความเซ็กซี่แบบพร้อมออกศึกมากเลยทีเดียว ที่สำคัญเรียกแขกได้ทุกเพศเลยนะครับ ไม่เสียชื่อแบรนด์ Paco Rabanne เลยแม้แต่นิดเดียวกับรุ่นนี้เลย Black XS 

เพียงแค่เปิดต้นกลิ่นแบบว่าฟินนนนนนมากกกกกก เพราะกลิ่นสตรอเบอร์รี่กลั้วกับส้มจี๊ดและเลม่อนมันหอมสดใสสดชื่นมาก แต่ไม่ได้เบาโหวงมากเพราะมีโทนเขียวๆ สะอาดมาเสริม ทำให้เกิดความรู้สึกหอมชื่นใจสดชื่นสุดๆ แฝงไปด้วยความดึงดูดในรูปแบบที่เป็น Unisex ได้อย่างดีมากเลยทีเดียว จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นของสตรอเบอร์รี่กลั้วเลม่อนยังคงตามมาเด่นนำอยู่ แต่จะมาผสมผสานกับกลิ่นของพราลีน (ชอคโกแลตสอดไส้) กับกลิ่นโทนหวานเย้ายวนและเซ็กซี่ของอบเชยและเม็ดกระวาน ให้ความรู้สึกดาร์กแบบอบอุ่นเร้าใจมากมาย บอกเลย! ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกแขกที่สุดแล้ว เพราะกลิ่นมันบอกถึงความมั่นใจ เจ้าสำราญ เซ็กซี่ เปิดกว้าง และพร้อมให้กินถ้าสนใจแบบชัดเจนเลยทีเดียว ที่สำคัญความรู้สึกแบบ Metrosexual จะมาเต็มมาก (จริงๆ มันมีความรู้สึกแบบ Bisexual ผสมด้วยแหละนะ 555555) เลยไม่แปลกใจว่าจะยั่วทุกเพศขนาดนี้ และจะเริ่มเปลี่ยนถ่ายเข้ามาสู่ช่วงท้ายๆ กับโทนเย้ายวนนุ่มนวลจมูกอย่างพิมเสนกลั้วกับโทนวู้ดดี้ที่ให้ความรู้สึกสะอาดๆ เซ็กซี่และอบอุ่นแบบน่าค้นหา ตอกย้ำความเป็น Metro เข้าไปอีกแบบไม่เกรงใจใครและมั่นใจเต็มร้อยมาก นี่แหละครับ Paco Rabanne 

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป เพราะกลิ่นสดชื่นเย้ายวนและเซ็กซี่แบบเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ยกเว้นงานทางการเพราะกลิ่นมันเจ้าสำราญมากเกินไป ใส่ทำงานก็ยังได้อยู่แบบไม่ต้องจัดหนักมาก ส่วนยามกลางคืนที่เน้นเที่ยว และหาเหยื่อจัดไปครับ รับรองจะมีคนเข้าหามาหมดทุกเพศ งานนี้สับหน้าหลังกันตามสะดวกนะครับ 55555

ความทน – 8 ชั่วโมงได้สบายๆ อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย – เรียกแขกกันตั้งแต่ต้น ก่อนที่จะลดระดับมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายๆ

ทิ้งท้าย – แม้ว้ากลิ่นนี้อาจจะไม่ได้มาเต็มแน่นแบบน้ำหอมโทนเครื่องเทศหนักๆ ที่เน้นชวนกันโต้งๆ มากขนาดนั้น แต่สู้พวกนั้นได้แน่นอน เพราะความแตกต่างอย่างมั่นใจที่น้ำหอมตัวนี้สื่อออกมาผ่านกลิ่นนี่แหละครับ ที่สำคัญผมใช้ตัวนี้ใส่ไปทำงานหรือไปเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืน จะได้รับคำชมทุกครั้งไปตามแต่สถานการณ์ด้วย แอบเคยมีคนมาดมซอกคอแบบไม่ขอก่อนด้วยแหละ ฮิ้ววววววว (สมัยยังเป็นวัยห่ามๆ อยู่) ที่เหลือหลังจากนั้นไม่ได้มีอะไรต่อนะครับ เพราะเป็นคนเรียบร้อย และรักนวลสงวนตัว (เชื่อกันไหมนั่น) 55555555

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Paco Rabanne – 1 Million



Paco Rabanne – 1 Million

ถือหนึ่งในน้ำหอมที่บอกถึงความเป็น Metrosexual สุดๆ เลย ที่ Paco Rabbane ได้ปล่อยของออกมา ที่สำคัญได้รับความนิยมมากเพราะมันบ่งบอกถึง Lifestyle ที่เป็นหนุ่มดูแลตัวเอง เข้าใจใช้เสน่ห์ในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเอง เช่นนั้น มาทำความรู้จักกันกับรุ่น 1 Million ครับ 

เว่ากันซึ่งๆ ว่า Top Notes หอมมากกกกกกกก เพราะกลิ่นของมินท์กับส้มสีเลือดและเกรปฟรุต จะให้อารมณ์หอมสดชื่นและฟินไม่น้อยเลย แต่เพียงเวลาไม่นานกลิ่นของอบเชยจะปล่อยของออกมาทักทายเร็วมาก ทำให้กลิ่นในช่วงนี้จะออกแนวสดชื่นแป๊บๆ แล้วจะเริ่มมีโทนเครื่องเทศทำให้กลิ่นแน่นขึ้น จนเข้าสู่ Middle Notes ที่อบเชนจะกลายเป็นพระเอกหลักเลยที่ปล่อยของกลั้วกับกลิ่นเครื่องเทศ ทำให้กลิ่นจะออกทางหวานแน่นแต่ที่ไม่หนักจมูกมากเพราะมีกลิ่นของกุหลาบมาทำให้ละมุนละม่อมมากขึ้น บอกตรงๆ ผมฟินไม่น้อย เพราะช่วงนี้มันให้อารมณ์ผู้ชายเท่ห์ๆ บุคลิกดี แต่งตัวเนี้ยบๆ หน้านิ่งๆ มีความรู้สึกหวานจางๆ แบบว่าผู้ชายคนนี้น่าสนใจนะ ดึงดูดทั้งสายตาและกลิ่นที่น่าเข้าใกล้สุดๆ และเมื่อ Base Notes ปล่อยของออกมาทำหน้าที่กลิ่นของหนังและแอมเบอร์จะมาผสมกับกลิ่นเครื่องเทศในช่วงกลางๆ ทำให้กลิ่นออกทางอบอุ่นแบบจัดเต็ม กลั้วไปด้วยความเย้ายวนของพิมเสนที่ลอยละล่องมาก ขับเสน่ห์ขาดใจจริงๆ แบบว่าเพิ่มความดึงดูดเข้าไปอีกภายในบุคลิกที่นิ่งๆ เข้าทางกลิ่นหล่อเลือกได้ไม่น้อยเลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปครับ เพราะกลิ่นมันให้ความรู้สึกทันสมัย เนี้ยบๆ นิ่งๆ แต่เย้ายวนดึงดูดมาก สามารถใส่ไปทำงาน เที่ยวโน่นนี่แบบสังคมเมืองออกงานกับชุดทางการก็ได้หมด แต่ขอยกเว้นเรื่องออกกำลังกาย เพราะกลิ่นแน่นไปเดี๋ยวทำให้คนอื่นเขม่นเอา ส่วนเที่ยวกลางคืน จัดโลดดดดดดด เพราะกลิ่นมันทำให้ดูน่าค้นหามากแบบหนุ่มหล่อเลือกได้ไม่น้อยเลย

ความทน – 8 ชม. ขึ้นไปเป็นเรื่องปกติ และมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในทุกๆ ช่วง และตีขึ้นให้รับรู้ตลอด เพียงแต่ในช่วง Base จะลดลงมากระจายกลางๆ แบบอยู่ใกล้ๆ จะได้กลิ่นแน่ๆ

ทิ้งท้าย – น้ำหอมกลิ่นนี้ค่อนข้างทำให้คุณผู้หญิงเขางงๆ กันครับ อันนี้ประสบการณ์กับตัวเองเลยเพราะมีคน Feedback ว่ากลิ่นหอมและเหมาะกับลุคมาก แต่กลิ่นมันทำให้คิดไปอีกทางได้นะว่า “เกย์หรือเปล่า” 5555555 แต่ก็เข้าใจได้นะ ว่ากลิ่นมันออกทางผู้ชายดูแลตัวเองให้ดูดี มันเลยสามารถคิดไปได้น่ะครั

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Paco Rabanne - Invictus



Paco Rabanne - Invictus 

เมื่อผมเห็นน้ำหอมตัวใหม่ของแบรนด์นี้ออกวางขายตามเคาน์เตอร์น้ำหอมในห้าง สิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในใจ “#อยากได้อ่ะ” แถมขวดนี่ล่อมาเป็นถ้วยรางวัลกับนักกีฬาล่ำๆ กันเลยทีเดียว เช่นนั้น น้ำหอมตัวนี้อาจจะเป็นแนวทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยในแบบที่ผมยังไม่เคยเจอจากแบรนด์นี้ก็ได้ เช่นนั้นสบโอกาสได้ครอบครอง จึงได้มาบอกเล่ากันซักหน่อยว่าเป็นยังไงกับรุ่นนี้เลยครับ Invictus

สิ่งที่คาดหวังในครั้งแรก คือ น้ำหอมตัวนี้น่าจะมาในทิศทางที่สดชื่นออกทางสปอร์ตพอสมควรจากเพียงแค่เห็นฉากหน้า แต่สิ่งที่เจอใกล้เคียงนิดหน่อยครับ 5555555 เพราะ Top Notes ที่เปิดตัวมาสดชื่นจริงครับ แต่เป็นการสดชื่นแบบแน่นๆ เลย ไม่ได้มาแบบที่สูตรสำเร็จทั่วไปแม้แต่น้อย เพราะกลิ่นเปิดขนมาเต็มทั้งส้มและเลมอนกลั้วไปกับกลิ่นน้ำทะเล ซึ่งจริงๆ ไม่ควรจะแน่น แต่เพราะกลิ่นในช่วง Middle Notes ของใบกระวานดันขึ้นมาเร็วมาก เลยทำให้กลิ่นจะมาในโทนที่สดชื่น เขียว แน่น หวาน เย้ายวนกันตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางของ Middle Notes เลย แอบได้กลิ่นของอบเชยไม่น้อยที่เสริมเข้ามาทำให้กลิ่นออกเชิงหวานมากขึ้น เหมือนดึงข้อดีของรุ่น 1 Million มาปรับให้เข้ากับความเป็น Invictus ที่ได้ทั้งความแข็งแกร่งและเมโทรในเนื้อกลิ่นในเวลาเดียวกันได้เลย หลังจากเข้า Base Notes กลิ่นโทนสดชื่นแน่นๆ จะหายไป แต่ยังมีกลิ่นของใบกระวานที่หวานเย้ายวนมาสานต่อผสมกับกลิ่นเชิงแมนๆ เย้ายวนนุ่มๆ ที่จะมีกลิ่นอายพิมเสนลอยล่องให้จับต้องได้ ที่สำคัญกลิ่นของอำพันทองที่เป็นตัวเสริมให้กลิ่นแน่นขึ้นนั้นกลายเป็นค่อนข้างเด่นเลยทีเดียวกับกลิ่นโทนอบอุ่นออกเค็มๆ หน่อยๆ กลิ่นออกทางเซ็กซี่เลยทีเดียว ซึ่งโดยรวมให้อารมณ์ผู้ชายที่ออกทางสปอร์ตเชิงกีฬาทางน้ำทะเลแต่แฝงไปด้วยความแน่น และพรีเซนต์ชัดเจนถึงพลังทางเพศของผู้ชายชัดเจน “แบบว่าพี่มีของนะ แน่นด้วยแหละ น้องจะพิสูจน์ไหมจ้ะ” แล้วทำหน้ากรุ้มกริ่มแบบ Presenter ประมาณนั้นเลยครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปหัวใจเมโทรทันสมัยทุกช่วงตัวครับ สามารถใส่ไปทำงานและไปเรียนด้วยจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม หรือจะใส่ไปเที่ยวเล่นโน่นนี่ ไปยั่วยวนแฟนก็ได้หมด แต่ใส่ออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้ง รอช่วงเบสดีกว่าครับ ไม่งั้นกลิ่นจะหนักไปจริงๆ เที่ยวกลางคืนก็เป็นตัวที่เรียกแขกไม่น้อยเลยครับ

ความทน - มากกกกกกกก ผมเจอ 15 ชม. มาตลอดเลย

การกระจาย - กระจายดีเว่อร์เลยทีเดียวในช่วง Top และ Middle ส่วนช่วง Base จะเริ่มกระจายกำลังดีปานกลาง เน้นให้เข้ามาคลุกวงในกับความแมนแน่นกันเน้นๆ ครับ

ทิ้งท้าย - น้ำหอมผู้ชายแบรนด์นี้ไม่เคยทิ้งแนว Metrosexual เลย และนี่ก็เป็นอีกตัวที่ยังคงแนวทางเช่นนั้นครับ เพียงแต่ว่า เป็นน้ำหอมที่ต้องลองก่อนซื้อ เพราะกลิ่นนี้จะว่าใช้ยากก็ใช่ ใช้ง่ายก็ไม่ถึงขนาดนั้น อย่างน้อยต้องผ่านน้ำหอมแน่นๆ มาก่อนจะเข้าใจกลิ่นนี้ได้ดีขึ้นครับ