แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Krigler แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Krigler แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Review: Krigler - Emeraude Noire 77

Krigler - Emeraude Noire 77

ได้เวลากลับมาสู่แบรนด์ Luxury หรูหราขั้นสุดและประวัติศาสตร์ยาวนานอย่าง Krigler อีกครั้ง ซึ่งจากที่ได้ผ่านน้ำหอมรุ่นต่างๆ ของแบรนด์นี้มาเรียกว่าเวลาก็ไม่สามารถทำอะไรน้ำหอมแบรนด์นี้ได้เลย เพราะลักษณะกลิ่นทุกตัวมีความเหนือกาลเวลาที่ยังสามารถใช้ได้เรื่อยๆ มาเสมอ โดยสามารถเปิดรับคนใหม่ๆ ที่เข้ามาสู่แบรนด์โดยที่ไม่ทิ้งคนเก่าและอยู่ร่วมกันไปได้เป็นอย่างดี เช่นนั้นก็ได้เวลาบอกเล่ากลิ่นอายเหนือกาลเวลากันอีกครั้งกับอีกหนึ่งรุ่นที่อยู่ยงคงกะพันมาถึงตอนนี้ นั่นคือ Emeraude Noire 77

ต้องบอกกันเลยว่าคนที่เป็นสายแอมเบอร์คาบเกี่ยวไปทางวานิลลา ถ้าได้ลองจะฟินกับตัวนี้ได้ไม่ยากเลย ที่สำคัญมีความเรียบหรูผู้ดีติดอวลกำลังดีได้ชัดมาก กลิ่นจะเปิดตัวที่ความเป็น Spicy ที่มาลักษณะ On Top ก่อนเลย แต่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รองพื้นด้านหลังชัดเจนเช่นกันกับโทนวานิลลาและแอมเบอร์ที่มาแบบกำลังดีไม่ได้จัดจ้านมากเกินไป ให้ความอบอวลแบบมีชั้นเชิงไม่หนักหน่วง ซึ่งความเป็นโทนเครื่องเทศในช่วงนี้จะมีความกลมกล่อมและนุ่มกำลังดีเสียด้วยเพราะกลิ่นอายของพริกไทยที่เผ็ดสะอาดกับกลิ่นของเมล็ดจันทน์เทศที่จะออกมากเผ็ดนุ่มเจือหวาน แอบจับได้ว่ามีโทน Citrus เจือบางๆ ให้กลิ่นมีมิติความสว่างได้น่าสนใจมาก ซึ่งกลิ่นจะโทนเครื่องเทศโปร่งๆ จะผ่านเกลามาเป็นอย่างดีไม่มีอะไรที่แหลมเกินไปและสอดรับลงตัวกับความเป็นโทนแอมเบอร์อบอุ่นที่เริ่มจะขยับจากฉากหลังมาเป็นตัวเอกหลักของน้ำหอมในช่วงกลาง โดยที่จะให้อารมณ์ของความเป็นแอมเบอร์ที่เป็นกลิ่นอายอบอุ่นมีความเป็นยางไม้ที่ให้อารมณ์สีเหลืองนวลปนส้ม กลิ่นจะไม่ได้เป็นแอมเบอร์สายเปรี้ยวอุ่น แต่ให้ความเป็นยางไม้และไม้หอมที่เจือวานิลลาแทน ซึ่งความเป็น Spicy นุ่มๆ ในตอนต้นจะยังคงตามมาอยู่ ผสมผสานกันจนเป็น 3 โทน คือ Spicy Vanille และ Amber ได้อย่างลงตัว กลิ่นเผ็ดนุ่มเคล้าอบอุ่นยางไม้เจือวานิลลา แต่จะมีกลิ่นอายพิมเสนบางๆ คลอไปตลอด ให้ความเรียบหรูแต่วอ้อยอิ่งท่ามกลางความอวลนุ่มอบอุ่นมีความนัวหวานกำลังดี และยังไม่หมดแค่นี้ทั้ง 3 โทนจะยังตามไปยังช่วงท้ายต่อ โดยกลิ่นอาย Spicy จะเริ่มเบาบางลง และกลิ่นวานิลลาจะเริ่มปรับโทนมาเป็นโทนแป้งที่เจือความอบอุ่นจากกลิ่นอายของแอมเบอร์ ซึ่งกลิ่นจะเริ่มแตะคำว่า Noire มากขึ้นแต่ไม่ได้ดาร์กดำดิ่งให้ความรู้สึกน่าค้นหาแทนจากโทนยางไม้ที่มีลักษณะคล้ายหนังกลั้วความอบอุ่น โดยมาสอดรับพอดีกับโทนหลักที่มีทั้งหมด กลิ่นเลยจะได้อารมณ์แบบกลิ่นอายอบอุ่นผิวกายที่ทาแป้งที่มีกลิ่นวานิลลาเบาๆ นุ่มๆ ไลท์เวอร์ชั่นเคล้าความเป็นเครื่องเทศที่บางๆ เจือตลอด ทำให้ช่วงนี้กลิ่นจะมีความแมนมากกว่า Unisex ที่รับรู้ได้ไม่ยาก 

เหมาะสำหรับ - แบรนด์ตราเอาไว้ว่า Unisex แต่เอาเข้าจริงๆ ตัวมีไปสายผู้ชายซักประมาณ 65-70% ได้ เพราะช่วงท้ายของกลิ่นจะแมนพอสมควร ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม แม้ว่ากลิ่นจะนุ่ม แต่ถ้าอากาศร้อนจัดๆ และอบอ้าวมาก เดี๋ยวแอมเบอร์กับวานิลลาจะตีขึ้นจนจุกเสียก่อนเอาได้ ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งกับออกกำลังกายไปได้เลย มันไม่เข้าทางทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนจัดไป ใส่ออกงานเพื่อเพิ่มความหรูอบอุ่นน่าค้นหา หรือใส่ท่องราตรีแบบมีมาดเนี้ยบหรูก็สามารถหมด

ความทน - ดีงามมมมม 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. เช้าจรดดึกแบบอากาศทั้งร้อนทั้งเย็นในห้องแอร์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบปานกลาง ตามด้วยเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไป เมื่อผ่านไปซัก 8 - 10 ชม. กลิ่นถึงจะเริ่มเป็น Skin Scent 

ทิ้งท้าย - กลิ่นจะได้ความรู้สึกเหมือนบุคคลหนึ่งที่มีออร่าอบอวลแบบกำลังดี ไม่ดูโฉ่งฉ่าง ให้อารมณ์น่าค้นหาในความอบอุ่นเคล้าความเรียบหรู มีคลาส สมาร์ท และวางตัวดี แต่งตัวด้วยชุดโทนเข้มออกทางน้ำเงินหรือดำที่ให้อารมณ์อบอุ่นก็ได้ ภูมิฐานก็ดี และมีความเย้ายวนก็สามารถ รวมถึงมีออร่าให้รู้ว่าคนนี้มีระดับมากประมาณนั้นเลย

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit – Fragrantica
-->https://fimgs.net/images/secundar/o.44754.jpg

วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Review: Krigler - Oud Azur 75212

Krigler - Oud Azur 75212

ยามเมื่อ Oud เข้าสู่ช่วงรุ่งโรจน์ในทุกหัวระแหงที่ไม่ว่าแบรนด์ไหนก็ตามทั้ง Designer และ Niche ต่างก็ต้องมี Oud เป็นตัวชูโรงแน่นอนว่า Krigler เองเขาก็มีกลิ่น Oud มาตั้งแต่ปี 1975 ด้วยซ้ำไป เรียกว่าล้ำหน้ามาก่อน เพียงแต่ว่าทำออกมาแล้วหยุดไป ก่อนจะเอากลับมาอีกครั้งยามที่เทรนด์ของ Oud มาอีกครั้ง แต่ก็ไม่ใช่รุ่นที่เราจะกล่าวถึง เพราะ Krigler มี Oud ชูโรงเลยถึง 3 ตัว รวมทั้งเก่าออกใหม่และใหม่กิ๊งมาตีตลาด ดังเช่นรุ่น Oud Azur 75212 หนึ่งในของใหม่ที่ออกมาเมื่อปี 2012 แตกตัวมาจากรุ่นเก่าเมื่อปี 1975 ซึ่งกลิ่นจะเป็นยังไงก็ขอพิสูจน์กันหน่อย

เรียกว่าเป็นกลิ่น Oud ชูโรงเลยอาจจะไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะกลิ่นที่เป็นตัวเอกหลักกลายเป็นโทน Fresh Spicy เสียมากกว่า โดยที่ Oud เป็นแค่หนึ่งในฉากหลังที่เป็นสายดันดาราให้กลิ่นโทนอื่นมารายล้อมแบบดูดีมีบริวารอะไรประมาณนั้น โดยที่กลิ่นเปิดอาจจะอึ้งกันพอสมควรเพราะว่ากลิ่นของพริกไทยจะมาเต็มพุ่งขึ้นมาเลย โดยในเนื้อกลิ่นจะเคล้าความหวานปนเผ็ดโปร่งจากขิง และมีกลิ่นโทนเขียวคมให้รู้สึกได้ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะเผ็ดปร่าสดชื่นกันแบบมาเต็มเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นใกล้เคียงความเป็น Dzongkha ของ L’Artisan Pafumeur ในแว้บแรกที่ดมกันเลย แต่แล้วเพียงไม่นานกลิ่นของไม้แห้งที่เก่าๆ แห้งจัดๆ ของปาปิรัส จะแทรกขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นออกโทนอวลแบบแห้งๆ อมหวานนิดๆ ของ Oud จะเป็นตัวดึงเข้าสู่ช่วงกลาง ซึ่งต้องบอกกันเลยว่า ไม่สามารถคาดหวังความเป็น Oud แบบตะวันออกกลางได้ เพราะไม่มีความรู้สึกแบบนั้นมาเลย Oud จะมาแบบโทนไม้แห้งๆ ที่กลิ่นจะออกอวลเบาๆ แบบที่ออกแนวเป็นตัวรองพื้นเสียมากกว่า เพราะกลิ่นของไม้แห้งเก่าๆ ของปาปิรัสจะผสมผสานกับความเป็นเครื่องเทศโทนโปร่งจัดเต็มที่ตามมาในช่วงแรกจะเป็นตัวที่ปล่อยของออกมาตลอดไม่หยุดไม่หย่อนเลย กลิ่นจะมีความสดชื่นตีคู่กับไม้หอมตลอด ออกแนวไม้หอมแห้งๆ เผ็ดๆ ประมาณนั้น จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายกลิ่นโทนเครื่องเทศเผ็ดสดชืิ่นจะเริ่มจางลงไป ให้ไม้หอมในช่วงกลางจะเริ่มมีตัวช่วยให้ปล่อยของกันบ้างนั่นคือกลิ่นของ Amber ในเนื้อกลิ่นจะมีโทนไม้หอมหลายประเภทให้พอรู้สึกได้นอกจาก Oud และปาปิรัส นั่นคือกลิ่นไม้ซีดาร์ที่มาแบบขรึมๆ มีมาดกับกลิ่นของไม้จันทน์หอมที่มานุ่มๆ นวลๆ กลิ่นไม้หอมจะผสมผสานกันออกมาติดผิวรุมๆ แห้งๆ Smoky เล็กๆ ให้มีความอบอุ่นกำลังดี กลิ่นจะมีความนุ่มของ Musk แบบเบาๆ มาเป็นตัวช่วยให้กลิ่นนวลจมูกไปตลอดเสียด้วย เข้าทางลักษณะการเป็นสไตล์ Oud และไม้หอมแบบคุณชายชัดเจน

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศเลย มาสาย Unisex ชัดเจน ซึ่งกลิ่นนี้อาจจะต้องผ่านกลิ่นโทนเครื่องเทศเผ็ดโปร่งปร่ากันมาบ้างจะอินกับมันได้ง่ายขึ้น โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ยิ่งออกงานหรืองานทางการต่างๆ กลิ่นยิ่งเข้าทาง เพราะมีความภูมิฐานและมีระดับในเนื้อกลิ่นชัดเจนมาก ซึ่งอาจจะจำกัดสเปรย์กันให้เหมาะสมเพราะกลิ่นมันพุ่งพอสมควรในช่วงแรก ส่วนในยามทั่วๆ ไป สามารถใส่ได้อยู่ แต่งดใส่ออกกลางแจ้งและออกกำลังกายจะดีกว่า กลิ่นแบบนี้อาจจะทำให้ฉุนได้เพราะเครื่องเทศตอนแรกแม้จะเหลาให้กลิ่นมันมีมิติและมีระดับที่ไม่คมจัด แต่ถ้าคนไม่ชิน ฮัดชิ่ว! ได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืน ใส่ออกงานได้อย่างสบายมาก แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรี ก็ใส่ได้อยู่ แต่กลิ่นอาจจะไม่ได้มาสายหวานก็เท่านั้นเอง

ความทน - กราบบบบบบ 12 ชม. กลิ่นยังอยู่ ซึ่งค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ราวๆ 8 ชม. ได้ถ้าสภาพผิวอาจจะไม่ได้เอื้อมาก ทั้งนี้ก็ยังคงอิงที่จุดที่ฉีดและจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญด้วยส่วนหนึ่ง 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นเรียกว่ามาเต็มจมูกกันเลย ก่อนที่จะลดลงมากระจายปานกลางแบบยาวไป ก่อนจะปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - ภาพรวมของกลิ่นต้องเรียกว่า ชื่อ Oud แต่ออกแนวให้ Oud เป็นตัวกลางที่ชูกลิ่นโทนอื่นๆ ให้เด่นและมีเสน่ห์มากขึ้นเสียมากกว่า กลิ่นจะให้ความเผ็ดโปร่งที่ชัดมาก เรียกว่ามาโทนสไตล์ Oud คุณชายที่ไม่แขกตะวันออกกลางเลยแบบ Creed - Royal Oud แต่กลิ่นจะชัดจัดเต็มในเรื่องเครื่องเทศมากกว่า ข่มกันชัดๆ ก็งานนี้แหละ ><

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit by Krigler’s Website - https://image.jimcdn.com/app/cms/image/transf/none/path/sff80de15f2c7507c/image/i1d20c7712db9442f/version/1450642813/image.jpg

วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Review: Krigler - Manhattan Rose 44

Krigler - Manhattan Rose 44

เข้าสู่ตัวที่ 3 ของแบรนด์หรูหราจัดเต็ม Luxury มากอย่าง Krigler ซึ่งเมื่อผ่านมวลมหาดอกไม้ และมีแยกมาแตะที่ความเป็นมะลิกันไปแล้ว ก็ได้เวลาของความเป็นราชินีแห่งดอกไม้อย่างกุหลาบกันบ้าง กับการปลดปล่อยความโรแมนติคผ่านกลิ่นที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในความเหนือกาลเวลา เพราะกลิ่นไม่ได้ล้าสมัยเลยแม้ว่าจะวางขายมาตั้งแต่ปี 1944 ก็ตาม นั่นคือรุ่น Manhattan Rose 44

เรียกได้ว่ากุหลาบคือจุดศูนย์กลางของกลิ่นนี้เลย จะอยู่ลากยาวตั้งแต่ต้นยันจบ เมื่อเปิดต้นกลิ่นมาก็ทำเอาทึ่งมาก เพราะว่ากลิ่นของกุหลาบแบบติดเปรี้ยวสดชื่นมีโทนที่ได้ทั้งความเป็นกุหลาบสดและแห้งที่กลิ่นชัดและมาเต็ม โดยจะมีกลิ่นอายติดเขียวโปร่งหน่อยๆ ตามด้วยกลิ่นอายของ Aldehydes กับโทนสบู่ที่จะไม่ได้มาแบบแน่นๆ คมๆ จนกลายเป็นสบู่กุหลาบแน่นๆ แต่จะมาแบบเหมือนอากาศโปร่งคมๆ ที่มีความเป็นสบู่แบบไม่หนักหน่วงคล้ายๆ สบู่กลีเซอรีนใสๆ เสียมาก ดันให้กลิ่นของกุหลาบนั้นสดชื่นมากมายโดยมีความโปร่งเคล้าคมคมพุ่งกำลังดี กลิ่นให้โทนสีแดงของกุหลาบแบบไม่ได้เข้มจัดนักในความรู้สึกและไม่แหลมจัดๆ แบบกุหลาบแห้งนัก แอบจับได้ถึงกลิ่นดอกไวโอเล็ตที่เริ่มเข้าสู่โทนแป้งแบบโปร่งๆ และก็นำเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนลงมาเป็นโทนแป้งมากขึ้น แต่ความเป็นกุหลาบแบบสดชื่นติดเปรี้ยวนิดๆ ยังคงอยู่ ซึ่งยังคุมโทนความโปร่งของกลิ่น ไม่ได้รู้สึกอับจมูกแน่นๆ แต่ประการใด ทำให้กลิ่นช่วงนี้เป็นลักษณะของแป้งหอมกุหลาบที่ยังมีความสดชื่นเป็นพื้นฐาน กลิ่นมีความธรรมชาติและมีความหรูหรา ให้ความเป็นโทนสีออกทางแดงปนชมพูหอมสบายๆ ไม่คมไม่แหลม มีความอะโรม่าติดโรแมนติคลงตัวมาก จนเมื่อมีกลิ่นอายนวลๆ และไม้หอมสะอาดๆ เจือเข้ามา ก็เดินทางเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอม กลิ่นจะมีลักษณะติดความเป็นโทนย้อนยุคแบบเบาบางเพราะจับได้ถึงกลิ่น Oak Moss จางๆ และมีพิมเสนนิดนึง แต่เป็นสายสนับสนุนเสียมาก โดยจะมีกลิ่นอายของ Musk ที่ให้ความนุ่มสะอาดจะเคล้ากับกลิ่นไม้หอมอ่อนๆ มาเป็นมือซ้ายมือขวาของกลิ่นกุหลาบที่ติดโทนแป้งที่ลดทอนลงมาจากช่วงกลางแต่ยังชัดเจนให้จับต้องได้ ภาพรวมของกลิ่นเลยจะได้อารมณ์ของความเป็นกุหลาบสดชื่น กุหลาบแป้งหอมธรรมชาติ และกุหลาบนวลเบา ซึ่งจะมีความโรแมนติคและมีความเรียบหรูไปตลอด แถมแตกต่างจากน้ำหอมกุหลาบทั่วไป แบบที่ไม่ได้มาสายเบาเกินและแรงเกินได้ดีงามมากจริงๆ 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป เอาจริงๆ น้องๆ มหาลัยก็ใส่ตัวนี้ได้ แบบจำกัดสเปรย์จะกลิ่นน่ารักเหมือนเดินเล่นในสวนกุหลาบยามเช้าได้ดีมาก ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน กลิ่นให้ความเป็นผู้หญิงที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นออกงาน ทำงาน ทั่วๆ ไป เรียกว่าสื่อสารความเป็นหุหลาบที่สดใสและโรแมนติคตามสไตล์แต่ละบุคคลได้ชัดเจนมาก ส่วนออกกำลังกายงดจะดีกว่า กลิ่นไม่เข้ากับเหงื่อนัก ส่วนยามค่ำคืนออกงานหรือดินเนอร์ หรือว่าสบายๆ ใส่ได้หมด ใส่ไปท่องราตรีก็พอได้ แต่อาจจะไปเจอกลิ่นแน่นๆ แล้วออกแนวอ่อนแอก็อาจจะแพ้ไป เพราะกลิ่นนี้ไม่ได้มาสายแน่นมากนั่นเอง 

ความทน - ยอมรับเลย 10 ชม. แล้วกลิ่นยังอยู่ ถือว่าความทนดีงาม ซึ่งก็อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญด้วยส่วนหนึ่ง 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่ากุหลาบฟุ้งทั้งห้องเลย ให้ความสดชื่นและไม่ได้ถึงกับเป็นกุหลาบที่แห้งข้นแน่นจนมึนนัก แล้วจะลดลงมากระจายปานกลาง ก่อนจะปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไป 

ทิ้งท้าย - ส่วนตัวผมไม่ได้ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบนัก ยิ่งกุหลาบแห้งๆ มักจะอึนๆ บางครั้งจะแอบเวียนหัว เพราะมันแห้งและแน่นไป แต่ตัวนี้ทำเอาประทับใจในความสดชื่นและเป็นกลิ่นอายแบบแป้งกุหลาบที่มีความธรรมชาติสูงได้ดีและลงตัวมาก เรียกว่าแม้จะกลิ่นสาวแค่ไหน ก็ขอใส่เพื่อฟินกับกลิ่นหน่อยแล้วล่ะ เพราะเข้าข่าย Masterpiece กันอย่างชัดเจนจริงๆ สมแล้วที่ดังมายาวนานจนถึงทุกวันนี้

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit by http://2.bp.blogspot.com/-oCPzJGbVrJg/VJh4BO-BVdI/AAAAAAAALjI/V1PbBscmho0/s1600/44_Manhattan%2BRose.jpg

วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Review: Krigler - Juicy Jasmine 30

Krigler - Juicy Jasmine 30

หลังจากผ่านตัวมวลมหาดอกไม้ที่มากับโทนสบู่เรียบหรูดูผู้แพงไปแล้ว ก็มาลองกลิ่นอายดอกไม้เด่นๆ ของแบรนด์ Krigler ตัวอื่นกันกันบ้าง ซึ่งก็ถึงคราวของมะลิที่จะเป็นตัวเอกและจะมาให้ความรู้สึกบานฉ่ำซะหน่อยกับรุ่นที่ผลิตและได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 1930 เช่นนั้น จัดไปเลยดีกว่ากับรุ่น Juicy Jasmine ซึ่งจะออกมาในรูปแบบไหน 

อันนี้ต้องยอมใจ กลิ่นเปิดมาให้อารมณ์ในลักษณะกลิ่นดอกมะลิธรรมชาติที่มีความเขียวเจือกลิ่นหอมนวลหวานติดใสนิดๆ คือเหมือนเวลาเราดมดอกมะลิจากดอกที่จะมาแบบไม่หนักหน่วงเหมือนพวกน้ำมันหอมระเหยและจะมีกลิ่นเขียวแปร่งๆ ตามธรรมชาติมาผสมผสาน ซึ่งกลิ่นเขียวๆ ที่ว่าน่าจะมาจากดอกไฮยาซินท์ที่ให้ความเขียวแบบเฉพาะคล้ายเมือกเขียวๆ หรือกลิ่นเขียวติดน้ำมัน บางคนอาจจะนึกถึงกลิ่นน้ำลายเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าเพราะการเบลนด์ที่ดี ทำให้กลิ่นเขียวๆ มันมาแบบธรรมชาติ ไม่ได้มาแบบแรงหนักหน่วง ทำให้กลิ่นกลายเป็นมะลิที่มีความนวลเบาหอมลงตัวธรรมชาติยาวไปโดยที่กลิ่นไม่ได้มาแบบฉ่ำโบ๊ะ มาแบบกลางๆ กำลังดี ที่สำคัญกลิ่นมะลิจะเป็นตัวหลักที่อยู่ไปจนถึงช่วงท้าย แต่จะลดหลั่นความเด่นลงไปทีละหน่อย โดยเริ่มที่ช่วงกลางกลิ่นจะเริ่มมีความติดเย้ายวนติดนัวเคล้าดอกมะลิจากกลิ่นของกระดังงา (Ylang Ylang) ที่จะมาแบบนวลๆ นัวๆ ยั่วยวนพอประมาณ เพราะเหมือนพื้นฐานของกลิ่นแบรนด์นี้คือ ผู้ดีมีระดับ กลิ่นเลยจะไม่ได้มาสายยั่วแบบพร้อมรบคาเตียง แต่จะออกแนวมีจริตจะก้านแบบยังวางตัว ให้โทนกลิ่นอายแบบธรรมชาติเสียมากกว่า ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นดอกไม้ขาวติดสดชื่นนิดๆ จากดอกส้มเข้ามาด้วย เลยเป็นลักษณะที่มาสายดอกไม้เหลืองผสมกับขาวที่ยังมีกลิ่นเขียวตามธรรมชาติอยู่ กลิ่นจะมีความสะอาดให้สัมผัสได้ตลอดและมีความแห้งไม่ได้มาสายฉ่ำแล้ว เพียงไม่นานกลิ่นจะเริ่มมีโทนไม้หอมติด Smoky เสริมเข้ามา ซึ่งมาผสมผสานกับกลิ่นของกระดังงาและมะลิ จนเป็นกลิ่นที่ได้ความรู้สึกแบบมีมิติของดอกไม้ผสมควันไม้ ซึ่งอาจจะทำให้นึกถึงธูปกลิ่นมะลิหรือกระดังงาไปบ้าง แต่กลิ่นยังมีความสะอาดนวลเป็นที่ตั้งเลยไม่ได้ไปสายธูปจัดๆ ขนาดนั้น ซึ่งกลิ่นไม้หอมติด Smoky แบบนี้จะเป็นตัวนำเข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นจะลดทอนลงเป็นเป็นไม้หอมอ่อนๆ ที่มีมิติติดควันบางๆ แต่ Musk จะเป็นตัวที่เด่นขึ้นมาให้ความสะอาดนวลของกลิ่น ซึ่งแน่นอนขาดไปไม่ได้กลิ่นมะลิกับกระดังงาจะยังมีอยู่จางๆ คูู่กับกระดังงาที่มาแบบนวลๆ รับช่วงต่อกันเป็นอย่างดีให้กลิ่นช่วงนี้เป็นกลิ่นสะอาดที่มีความเซ็กซี่เย้ายวนแบบมีจริตเคล้าความสะอาดมีภูมิมีมาดและนิ่งหรูนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป กลิ่นมีความเป็นธรรมชาติและมีระดับ ผสมผสานโทนดอกไม้กันอย่างลงตัวที่จะได้ทั้งอารมณ์ผ่อนคลาย เย้ายวน มีจริต และสะอาดเป็นตัวหลักแบบยาวไป จึงเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็น ทางการ ออกงานหรูและทั่วๆ ไป ได้หมดกลิ่นแบบนี้เข้าถึงง่ายและมีความเป็นธรรมชาติสูง บ่งบอกถึงคุณภาพของน้ำหอมได้ดีมาก ออกกลางแจ้งพอได้บ้างแบบไม่ต้องอัดสเปรย์เยอะ เพียงแต่ให้ข้ามการใส่เพื่อออกกำลังกายไปได้เลย กลิ่นไม่ได้เอื้อกับเหงื่อมากขนาดนั้นและมันแพง ส่วนยามค่ำคืนแบบออกงานหรู หรือว่าดินเนอร์จัดไป มันมีจริตของมันอยู่ที่ทำให้คนได้กลิ่นรู้สึกถึงความเย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้ง แต่ถ้าใส่ไปเที่ยวกลางคืน เดี๋ยวคนอาจจะงงเอาได้ เพราะกลิ่นบางช่วงมันใกล้เคียงธูปในระดับหนึ่ง เดี๋ยวเขาจะหาว่าใครขี่คออยู่หรือเปล่าเอา นอกจากนี้คุณผู้ชายสามารถใส่กลิ่นนี้ได้อยู่ เพราะมันมีความเป็น Unisex ในระดับหนึ่งจากความเป็นธรรมชาติของกลิ่นนี่แหละ 

ความทน - กลิ่นทนมากกกกก ทนจนน่าตกใจเพราะว่า 12 ชม. กลิ่นยังอยู่ อันนี้ยอมใจจริงๆ ซึ่งถ้าผิวพรรณไม่ได้เอื้อ อาจจะได้ราวๆ 8 ชม. 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะกระจายแบบออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไปจนถึงช่วงท้าย พอผ่านไปซัก 8 ชม. จะเริ่มเป็น Skin Scent ติดผิวให้ความรู้สึกสะอาดนวลๆ มะลิกระดังงา 

ทิ้งท้าย - ส่วนตัวเป็นคนกลัวโทนดอกไม้ขาวในระดับหนึ่ง ถ้าข้นไปจะสาวแตกทุกที แต่พอมาใส่ตัวนี้กลิ่นอ้อยอิ่งออกมาได้แบบงดงามมาก ไม่แรงเกินไป มีความเป็นธรรมชาติมากเสียด้วย ต้องยอมใจและยกนิ้วให้เลยว่าทำกลิ่นออกมาได้เรียบหรูมีระดับและคุมโทนกลิ่นได้ดีจริงๆ โดยที่อาจจะไม่ได้ถึงกับ Juicy เท่าไหร่ก็ตาม

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit by https://pimages.parfumo.de/720/11231_xngiy2_juicy_jasmine_30_720.jpg

วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Review: Krigler - Ultra Chateau Krigler 212

Krigler - Ultra Chateau Krigler 212

Krigler เป็นแบรนด์เก่าแก่และมีชื่อเสียงในเรื่องของการทำน้ำหอม Luxury ที่เน้นความหรูหราและมีระดับมาตั้งแต่ช่วงปี 1879 จากยุโรปสู่อเมริกา ซึ่งน้ำหอมของแบรนด์ได้รับความนิยมในหมู่ดารานักแสดงชื่อดังรวมถึงราชวงศ์ต่างๆ มาเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงปัจจุบันอย่างเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน พระชายาของเจ้าชายวิลเลี่ยม แห่งราชวงศ์อังกฤษที่มีน้ำหอมที่เป็นกลิ่นหลักของตนเองจากแบรนด์นี้ด้วยเช่นกัน เช่นนั้น มีโอกาสก็ต้องลองสิ จึงได้ขอมาจัดเต็มกับแบรนด์นี้แบบรวดเดียว 4 รุ่น โดยเริ่มที่ตัวแรกอย่าง Ultra Chateau Krigler 212 

บอกก่อน - กลิ่นนี้เรียกว่าเป็นการนำเอากลิ่นเดิมชื่อดังอย่าง Chateau Krigler 212 ที่ผลิตออกมาเมื่อปี 1912 และยังเป็นน้ำหอมประจำตัวขอGrace Kelly เจ้าหญิงแห่งโมนาโค มาปรับใหม่เสริมคำว่า Ultra เข้าไป จนกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ต่อยอดออกมานั่นเอง ซึ่งในรีวิวจะไม่ได้บอกเล่าว่ากลิ่นต้นตำรับเป็นอย่างไร เน้นที่ Ultra Chateau Krigler 212 เป็นสำคัญ 

เปิดต้นกลิ่นมาแบบที่ทำให้นึกถึงความสวยงามและหรูหราในสไตล์น้ำหอม Old-Fashioned วันวานยังหวานและหรูมาก เพราะกลิ่นอายโทนติดคลาสสิคที่เด่นกับความเป็น Aldehydes ที่ให้ความเป็นสบู่คมๆ โปร่งฟุ้งกระจายจัดเต็มมาแบบชัดเจนตีคู่กับโทนดอกไม้รายล้อมกันก่อนเลย แต่กลิ่นจะไม่ได้มาสายฉ่ำ เน้นเป็นการฟุ้งกระจายติดแน่นๆ แต่มีความแห้งในเนื้อกลิ่นที่สัมผัสได้ โดยจะจับได้ถึงความเป็นดอกไวโอเล็ตที่ให้ความเป็นกลิ่นหอบติดแป้งอมเขียวโปร่ง ตีคู่กับดอกฟรีเซียที่จะมีความสะอาดติดโทนพริกไทย นอกนั้นจะรู้สึกได้ถึงกุหลาบบางๆ ที่มาแว้บเดียว แล้วก็จะเข้าช่วงกลาง โดยที่โทนสบู่คมๆ ยังคงอยู่ แต่จะลดระดับกลายเป็นสายนับสนุนที่ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายสบู่ดอกไม้อยู่ โดยที่ช่วงนี้จะเป็นทีของดอกไม้ขาวและเหลืองแล้วที่จะมาให้ความหอมละมุนกลั้วความใส ฝั่งขาวจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมะลิที่จะมาตีคู่กับฟรีเซียที่ยังคงปล่อยของต่อเนื่องจากช่วงต้นโดยให้กลิ่นดอกไม้ติดเครื่องเทศโปร่งสะอาดปนใส ส่วนฝั่งเหลืองจะให้ความนวลครีมและติดเย้ายวนพอประมาณจากกระดังงาและกลิ่นหอมหวานอุ่นโทนกลิ่นคล้ายชาหอมนวลอย่างจำปี ซึ่งกลิ่น 2 โทนจะผสมผสานกันเป็นเหมือนกลิ่นสบู่ดอกไม้รวมหรูๆ ที่มีความสะอาดและความนวลมีระดับหอมแบบติดผิวกายกำลังดี และในเนื้อกลิ่นมีโทนแป้งที่พอสัมผัสได้แบบนวลๆ ที่ได้ความรู้สึกมีมิติแบบกลิ่นสบู่ติดผิวกายผสมกลิ่นแป้งหอมดอกไม้โปร่งอ่อนๆ ละมุนยาวไปจนเข้าช่วงท้ายกับการเป็นกลิ่นอายนวลของ Musk เป็นพื้นฐาน โดยมีกลิ่นอายนิ่งๆ ของโทนไม้หอมอ่อนๆ ที่น่าจะมาจากไม้ซีดาร์มาผสมผสานกัน ทำให้กลิ่นดูมีความสะอาดและมีความนิ่งมีระดับไปในตัว โดยที่ยังมีความละมุนอ่อนหวานจากกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ในช่วงกลางตามมาอยู่ กลิ่นจะให้ความรู้สึกผู้ดี มีระดับ นุ่มนวลและอ่อนโยน เหมือนใส่ชุดกึ่งทางการกึ่งลำลองที่เรียบหรูโทนสีอ่อนๆ รื่นรมย์เลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นนี้มีความเป็นโทนย้อนยุคเคล้าความร่วมสมัยอยู่ เลยทำให้สร้างบุคลิกผ่านกลิ่นด้านความเรียบหรูดูแพงและวางตัวดีควบคู่กันไปประมาณนั้น เลยจะเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แบบที่ต้องวางตัวกันหน่อย ไม่ได้เน้นสายลั่นล้าหรือว่ากี๊ซก๊าซวี้ดว้าย ผู้ชายคนนั้นชั้นจอง เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายเพิ่มดีกรีความแรง มีแต่ทำให้เราดูนิ่งและวางตัวดีมีความละมุนเสียมากกว่า กิจกรรมกลางแจ้งพอได้บ้าง แต่ไม่ได้หมายถึงใส่ไปขุดดินทำสวนเต้นกวาดลาน ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายไปได้เลย กลิ่นไม่ได้เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงานหรือดินเนอร์ได้เลยจ้า กลิ่นบ่งบอกชัดเจนถึงความเป็นผู้หญิงที่มีความละมุนและดูเข้าถึงได้ง่ายเป็นผู้ดีที่ไม่ถือตัว อะไรประมาณนั้น งดใส่ไปท่องราตรีเต้นผู้สาวขาเลาะเด็ดขาด กลิ่นไม่ได้ ไม่เอื้อและเสียลุคทันควันเลยล่ะ 

ความทน - เป็น EDP ที่เรียกว่าความทนลงตัว อยู่ราวๆ 6 - 8 ชม. เป็นสำคัญ อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วย ส่วนตัวจัดไปที่ 6 สเปรย์ พร้อมฉีดเสื้อที่สวมด้านหน้า กลิ่นอยู่ถึง 8 ชม. ได้สบายๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าสบู่ดอกไม้ฟุ้งกระจายเลยทีเดียว แล้วจะลดลงมากระจายคาบเกี่ยวระหว่างปานกลางและออร่ารอบๆ ตัว แล้วก็ยาวไป จนพ้น 6 ชม. ไปแล้วจะเริ่มเป็น Skin Scent 

ทิ้งท้าย - มีความเป็นสบู่ดอกไม้หรูหราจริงๆ และดีงามไม่น้อยกับการไล่โทนการเป็นสบู่ดอกไม้ แป้งหอม กับผิวกายหอมละมุนจางๆ แม้ว่าจะแตะความเป็นกลิ่นอายย้อนยุคก็จริงแต่มันก็ไม่นาน ที่เหลือจะกลายเป็นความ Modern ที่สร้างออร่าเรียบหรูดูแพง โดยที่มีความเรียบร้อยวางตัวดีเป็นพื้นฐาน เหมือนกับที่ผมเห็นจากบุคลิกของ คุณเชอร์รี่ เข็มอัปสรยังไงยังงั้นเลย 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit by https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/c5/81/65/c58165891de2116e55828dafb0040c57.jpg