แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Reyane Tradition แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Reyane Tradition แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Reyane Tradition - Insurrection II Wild

Reyane Tradition - Insurrection II Wild

เมื่อเห็นใน Fragrance Community ของเมืองนอกมีการประโคมและอวยกันใหญ่ว่าน้ำหอมรุ่นหนึ่งของแบรนด์ Reyane Tradition มีความคุ้มค่าและดีงาม ต่างคนต่างก็มาบอกสรรพคุณกัน แถมมีบอกด้วยว่าสามารถใช้กลิ่นนี้เป็นตัวตายตัวแทนของ Mugler - A*Men Pure Havane ที่ตอนนี้เลิกผลิตไปแล้วได้ด้วย แน่นอนว่าความสนใจก็ผุดขึ้นมาทันทีจากการบิลด์ เช่นนั้น เมื่อได้โอกาสจัดมาเลย จะได้จบๆ

และเมื่อทำความเข้าใจและเรียนรู้กลิ่นจนได้ที่แล้ว ก็ได้เวลาถ่ายทอดต่อว่ารุ่น Insurrection II Wild จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

แรกเปิดสเปรย์ออกมามีความรู้สึกอย่างแรกคือ โทนกลิ่นยาสูบจะยังไม่ได้ถึงกับสมูธมากนัก จะแอบมีความคมหน่อยๆ  เจือหอมโปร่งหวานที่ยังไม่ได้แตะความรู้สึกแบบ Aromatic มากนัก และเมื่อดมเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิดจะจับได้ถึงกลิ่นน้่ำผึ้งที่มีความหวานหน่อยๆ ติดใสคม แกมกลิ่นเครื่องเทศที่เป็นตัวสนับสนุนให้กลิ่นมีความฟุ้งกระจายและมีความหวานเจือปร่าหน่อยๆ ซึ่งข้อดีคือ กลิ่นจะชัดฟุ้ง พุ่ง และชูความเป็นยาสูบได้ชัด โดยมีน้ำผึ้งเสริมแบบกำลังดี แต่ข้อด้อยคือ ทำให้รู้สึกได้ว่ากลิ่นไม่ได้ธรรมชาติมากเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามได้ เพราะเป็นแค่ช่วงเปิดที่ยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าน้ำหอมนี้ไม่ดี เลยต้องตามติดต่อเนื่องกันต่อในช่วงกลางที่คราวนี้ความน่าสนใจเริ่มปรากฎมากขึ้นและให้ความลงตัวมากกว่าที่คิด

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในช่วงกลางของน้ำหอม ความเป็นยาสูบยังเป็นตัวยืนสำคัญเลย และให้อารมณ์ยาสูบที่มีความ Aromatic มากขึ้นแบบยาสูบแห้งเคล้าความเป็นซิการ์หอมแบบกำลังดี มีความดิบนิดๆ ให้รู้สึกแบบอารมณ์ยาสูบห่ามมีเสน่ห์ ซ้อนไปกำับน้ำผึ้งที่ยังเป็นฝ่ายสนับสนุนที่ดีในการสร้างความหวานในเนื้อกลิ่นแบบที่ข้นขึ้นมาอีกสเต็ป แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงจนแย่งซีนยาสูบ ซึ่งเมื่อมานั่งแกะกลิ่นจะจับได้ถึงกลิ่นที่มาสร้างเสน่ห์ให้เนื้อกลิ่นมีความหนาขึ้นมาเลยนั่นคือวานิลลา และมีลูกขมหอมของโกโก้ที่เป็นเลเยอร์ผสมผสานกันอยู่ ที่สำคัญมีกลิ่นออกทางพิมเสนที่ไม่ได้เป็นสายสมุนไพรแต่มาแบบปร่าเรื่อเจือกึ่งไม้หอมหน่อยๆ มาตัดทอนเลยจะได้อารมณ์แบบซิการ์ยาสูบเจือกลิ่นน้ำผึ้งหอมที่มีความอวลนวลกำลังดี โดยยืนพื้นที่ความหวานแบบไม่ได้ถึงกับเลี่ยน จนเมื่อกลิ่นเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอีกรอบในการเข้าสู่ช่วงท้าย คราวนี้ความเป็นพิมเสนจะชัดขึ้นมามากกว่าเดิมลดทอนโทนยาสูบลงไป และน้ำผึ้งก็เหลือเพียงนิดหน่อยจนบางทีก็จับไม่ได้ โดยจะมีกลิ่นออกทางอบอุ่นติดอวลลึกแนวๆ โทนแอมเบอร์เข้ามาเป็นตัวรองพื้น โดยวานิลลาที่ยังตามมาจากช่วงกลางจะลดทอนตัวเองลงเป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นโทนอบอุ่นในภาพรวมไปแล้ว พร้อมกับมีกลิ่นออกทางติดนวลกึ่งหญ้าแห้งปนอัลมอนด์และวานิลลาที่เป็นเอกลักษณ์ของถั่วตองก้าเข้ามาเสริมจนได้ลักษณะโทนกลิ่นแบบน้ำหอมผู้ชายสายทันสมัยเข้ามาด้วย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะเป็นเลเยอร์แบบพิมเสนยาสูบติดห่ามหน่อยๆ ที่เด่นออกมาซ้อนลงไปด้วยโทนอบอุ่นกึ่งนวลกำลังดีปนหวานลึกๆ ของโทนสายแอมเบอร์วานิลลาที่ไม่หนักและไม่แย่งซีน ให้อารมณ์เย้ายวนเร้าใจกำลังดีปนชวนคลุกวงในได้อย่างน่าสนใจมาก และได้ความรู้สึกแบบกลิ่นอายสาย Bad Boy แบบที่ไม่ได้ดูพยายามใส่ความแมนเข้าไปจนดูพยายาม แต่ให้ชั้นเชิงและความเท่ห์ที่ลงตัวแบบมีเสน่ห์ติดร้ายหน่อยๆ มากกว่า

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม. ปลายขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นมีความชัดเจนในการพรีเซนต์ตัวเองในสไตล์ Bad Boy มีระดับที่ออร่ามันออกมาทางกลิ่นเองแบบไม่ต้องพยายามยัดเยียดความแมนๆ ในกลิ่นจนเกินกว่าเหตุ ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันเน้นใส่แบบทั่วไป ได้หมดทั้งใส่ทำงาน ใส่เรียน ใมส่ไปเที่ยว ใส่เพื่อความเท่ห์มีเสน่ห์ แต่ถ้าเป็นยามทางการอาจจะต้องดูนิดนึงว่ามันพอไปได้หรือเปล่าตามแต่ดุลยพินิจไป แต่ถ้าจะใส่ไปออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งออกจะไม่เข้าทางเท่าไหร่ ยกเว้นช่วงท้ายๆ ที่กลิ่นอ่อนลงไปแล้ว อันนี้ได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืนลงจำนวนสเปรย์ที่เข้าที ก็มีชัยไปกว่าครึ่งได้เลยไม่ว่าจะใส่ออกงาน ใส่ท่องราตรี หรือใส่แบบโรแมนติคที่เน้นสร้างออร่าความเร้าใจ 

ความทน - ต้องยกนิ้วให้เลย เพราะกลิ่นทนเกินคาด กับพื้นฐานที่ 8 ชม. และไปต่อได้อีกตามสภาพผิวผู้ใช้ ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กับการใช้ที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาที่กระจายดีกันไปซักพัก พอเข้าช่วงกลางไประยะหนึ่งถึงผ่อนลงมาตามลำดับ พ้นไปซัก 5 - 6 ชม. ถึงเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัว จนเมื่อผ่าน 8 ชม. ไปแล้วก็เริ่มเช้าสู่เฟสติดผิว

สรุป - ไม่ปฏิเสธที่กลิ่นนี้มีความใกล้เคียง A*Men Pure Havane สูงมาก แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด เพราะว่าความหวานนวลที่สร้างความสมาร์ทสุขุมนุ่มลึกยังทำได้ไม่เท่า ซึ่งถ้าจะต้องเทียบกันจริงๆ โทนอาจจะมาแบบเดียวกัน แต่อารมณ์คนละอย่าง ซึ่งถ้า A*Men Pure Havane จะให้อารมณ์แบบเจ้าพ่อสุขุมสมาร์ทอบอุ่นที่มีเสน่ห์เร้าใจ Sexy แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าที่แฝงด้วยความแพรวพราวและลุ่มลึกภายใต้ความหวานหอม ฝั่ง Insurrection II Wild จะให้อารมณ์ลูกเจ้าพ่อที่มีความห่ามดิบติดหวานที่ไม่ได้ลุ่มลึกมากนัก แต่เร้าใจแบบคนที่พร้อมจะปล่อยเสน่ห์ของตัวเองออกมาแบบสไตล์ลุยๆ นี่แหละ เทียบอารมณ์และสไตล์กันได้ประมาณนี้ 

หมายเหตุ

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.perfumetrader.de/en/reyane-tradition-insurrection-ii-wild-eau-de-toilette-90-ml

 

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560

Review: Reyane Tradition - Insurrection II Pure

Reyane Tradition - Insurrection II Pure

Reyane Tradition เป็นแบรนด์ Niche ที่มาจากประเทศฝรั่งเศส ในแบบที่แทบไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามใดๆ มาก่อนเลย เรียกว่าหาข้อมูลแบรนด์เองก็แทบจะไม่มีใดๆ ทั้งสิ้นนัก แต่แปลกกลับทำน้ำหอมออกมามากมายเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่ทำให้รู้จักแบรนด์นี้มาจากน้ำหอมอยู่รุ่นหนึ่งที่เขาขนานนามกันว่า กลิ่นคล้ายรุ่นดังของแบรนด์ Creed เช่นนั้นต้องมาลองกันหน่อยว่าจะเป็นอย่างไรกับ Insurrection II Pure

#TeamAventus ขออนุญาตบอกกันแบบนี้เลย เพราะว่านี่คือกลิ่นที่คล้ายกลิ่นดังอย่าง Creed Aventus ตามที่เขาขนานนามกันซึ่งไม่ผิดแผกไปจากที่รับรู้ เพียงแต่ในความที่คล้ายเมื่อไล่เรียงตามแต่ละช่วงแล้ว มันก็ทำให้เห็นถึงความต่างที่จับต้องได้อยู่ในภาพรวม ซึ่งแรกเริ่ม Top Notes ความเป็นสับปะรดจะชัดเจนมาก ซึ่งกลิ่นจะมาแบบสดชื่นหอมติดเปรี้ยวจากแอปเปิ้ลเขียวและโทนซิตรัสจางๆ ซึ่งกลิ่นโทนผลไม้นี้จะตามติดไปยังช่วงท้ายๆ เลยทีเดียว โดยในเนื้อกลิ่นจะจับได้ถึงกลิ่นอายของเบิร์ธที่มาแบบไม้เนื้อหอมนวลจมูกติดเขียวเคล้าพิมเสนกำลังดีเป็นตัวนำเข้าสู่ Middle Notes ที่จะเริ่มสัมผัสได้ว่ากลิ่นเปลือกเบิร์ธจะไม่ได้มาแบบ Birch Tar ที่ให้ความ Smoky ติดควันเผาหรือหนังโดนเผาเข้มจัดนัก ออกแนวหอมนุ่มติดเขียวจางๆ เพราะกลิ่นผลไม้ในตอนต้นยังเด่นเป็นสง่าแบบตามติดมาในช่วงนี้ชัดเจน เลยจะเทคโอเวอร์กันพอสมควร แต่เบิร์ธก็ยังคงความดีงามตีคู่ในโทนหอมสว่างแบบไม้หอมได้ลงตัวอยู่ โดยจะมีกลิ่นพิมเสนเคล้ามาให้หอมรื่นจมูกอ้อยอิ่งแบบหล่อๆ และมีกลิ่นดอกไม้แบบวับๆ แวมๆ เสริมเข้ามาด้วยเช่นกัน แล้วกลิ่นแนวอบอุ่นติดครีมๆ จะดันขึ้นมาเรื่อยๆ จนเมื่อเข้าสู่ Base Notes ที่กลิ่นวานิลลาจะมาแบบนวลๆครีมๆ นุ่มๆ ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงตัวสนับสนุนที่มีลักษณะแบบกลิ่นหนังกลับหรือ Musk สะอาดๆ เคล้ากลิ่นไม้หอมรองพื้น โดยที่กลิ่นเขียวติดสากเท่ห์ๆ ของ Oak Moss จะกลั้วกับโทนผลมีที่เบาลงมาในระดับที่ยังให้ความสดชื่น จะเป็นตัวที่ลอย On Top ออกมาให้ความอ้อยอิ่งหอมเท่ห์สะอาด สดชื่น และมีความนุ่มนวลแนววานิลลากับไม้หอมแบบกำลังดีควบคู่ไปด้วยกัน ซึ่งแน่นอนในเนื้อกลิ่นไม่ได้มีความนุ่มและหรูหราจัดๆ ของกลิ่นอำพันปลาวาฬ (Ambergris) ที่เป็นตัวเอกของ Creed เช่นนั้นจึงทำให้ความแตกต่างมันชัดตรงที่ความนวลเนียนกลิ่นนุ่มหรูหรานวลเนียนมันจะไม่ได้มีใน Insurrection II Pure แต่จะมาเป็นลักษณะกลิ่นอายที่เป็นกลิ่นนุ่มไม้หอมเคล้าความนวลสดชื่นในแบบที่เข้าถึงได้ง่ายและมีระดับในตัว พูดง่ายๆ กลิ่นมีความหล่ออยู่ในระดับที่ดีเลยนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็จัดตัวนี้ได้สบาย เพราะกลิ่นเอาความดีงามของ Aventus มา เรียกแขก ทำให้เข้าถึงได้ง่าย หอมเรียกแขกและคำชมได้ง่ายมาก เช่นนั้นจึงสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันในแทบทุกสถานการณ์ มีในส่วนของการออกกำลังกายจริงๆ ใส่ได้ เพียงแต่ถ้าใส่เต็มเวลาบึ้ดจ้ำบึ้ดจะกระจายแหลกรบกวนคนเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนจัดไปได้เลย แม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้แน่นมาก แต่เรื่องการปล่อยของถือว่าผ่าน อย. ฉลุย 

ความทน อยู่ระหว่าง 6 – 8 ชม. ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้อิงจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวเจอที่ 10 ชม. กับกลิ่นนี้กับจำนวนสเปรย์ที่ 6 สเปรย์ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าอุทานออกมาเลย Aventus นี่นา ก่อนจะลดลงมากระจายดีผ่อนลงไปเรื่อยๆ เป็นปานกลางแบบยาวไป แล้วจึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย สรุปได้ง่ายๆ คือ Insurrection II Pure ไม่ได้นวลเนียนหรูหรานุ่มจมูกแบบที่ Aventus เป็น แต่มีความดีงามในความคล้ายที่ยืนพื้นกับความเป็นไม้หอมนวลๆ สะอาดๆ หล่อๆ เป็นพื้นฐานนั่นเอง ซึ่งการซื้อหารุ่นนี้ต้องดูดีๆ นิดนึง เพราะขวดของรุ่นปกติกับรุ่น II จะเหมือนกันทุกประการ ต้องสังเกตุนิดนึงว่ามีคำว่II ไหม ถ้ามีคือใช่ ถ้าไม่มีก็ตัวใครตัวเผือกนะฮะ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - http://www.lilydirect.com/assets/images/Fragrances/Insurrection_Pure_II_30_Men_Retail_500X500.JPG