แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tory Burch แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tory Burch แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563

Review: Tory Burch - Jolie Fleur Lavande

Tory Burch - Jolie Fleur Lavande

ว่ากันในเรื่องของกระเป๋าที่เป็นสาย Assesories หนึ่งในแบรนด์ที่กระเป๋ามีความเรีนยบหรูทันสมัยและโดดเด่นจนเป็นแบรนด์ระดับต้นๆ นั่นก็ต้องมี Tory Burch อยู่ในนั้นด้วย และแน่นอนว่าไม่ได้มีดีแค่กระเป๋าเพราะว่าแฟชั่นเสื้อผ้าทั้งหลายก็ไม่ธรรมดา รวมถึงน้ำหอมเองก็มีความดีงามในตัวสูงตามสไตล์ของกลิ่นอายเรียบหรูและมีระดับสาย Designer มากเลยทีเดียว

และจากที่เคยผ่านการเล่ากลิ่นไปก่อนหน้านี้อย่างรุ่นแรกสุดของแบรนด์ ก็ได้เวลาในการมาต่อเนื่องกับรุ่นอื่นๆ ซึ่งหันซ้ายขวาไปเจอ Collection - Julie Fleur ที่จะชูโรงความเป็นกลิ่นอายสายดอกไม้ต่างๆ และสื่อสารความเป็นสาย Feminie แบบที่น้ำหอมแบรนด์นี้เดินในเส้นทางนี้มาเสมอ ซึ่งรุ่นที่เลือกมาเล่ากลิ่นนั่นก็คือ Jolie Fleur Lavande เพราะชูโรงการเป็นลาเวนเดอร์นี่แหละ และสิ่งที่ซึมซับออกมาได้นั่นก็คือ

ความเรียบหรูในสายมินิมัลที่ให้ความเป็นลาเวนเดอร์แบบเข้าถึงง่ายแต่มีเสน่ห์ในรูปแบบกลิ่นอายสายดอกไม้และโทนแป้ง”

นี่แหละคือประโยคที่จำกัดความน้ำหอมตัวนี้ค่อนข้างชัดเจนเลย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะเริ่มจากช่วงต้นนั่นก็คือการสร้างกลิ่นอายแบบดอกไม้ติด Herbal สมุนไพรหน่อยๆ ที่มีความสดชื่นและมีความเย็นๆ ในเนื้อกลิ่น ซึ่งสิ่งแรกที่มาชัดในการจับคู่ 2 สีกันได้ลงตัวมานั่นก็คือ กลิ่นของลาเวนเดอร์ที่ให้โทนออกทางอะโรม่านวลอวลหอมรื่นจมูกแกมกลิ่นกิ่งก้านที่มีความเขียวเข้มแต่มาแบบอ่อนๆ แต่จะมีกลิ่นของดอกฟรีเซียที่สร้างอารมณ์กึ่งเขียวชื้นกึ่งพริกไทยติดออกทางสบู่หน่อยๆ ที่เป็นตัวตีคู่รองรับได้อย่างลงตัว ซึ่งจะมีโทนออกทางคล้ายกุหลาบหอมนวลสดชื่นที่น่าจะเป็นลักษณะของแนวๆ ดอกโบตั๋นที่ให้ความเป็นกุหลาบหวานน่ารักเข้ามาร่วมด้วย กลิ่นเลยจะได้อารมณ์แบบสบู่ลาเวนเดอร์ธรรมชาติที่มีโทนปร่าติดเขียวกึ่งพริกไทยปนกลิ่นดอกไม้หอมหวานในพื้นฐานกลิ่นติดโทนหรูๆ ได้น่าสนใจ แต่ไม่จบแค่มิตินี้ เพราะจะมีกลิ่นปร่าสดชื่นติดเปรี้ยวขมของมะกรูดฝรั่งล้อมคลอกลิ่นอยู่ประปรายที่รู้สึกเย็นๆ เข้ามาร่วมด้วย เลยเป็นความสดชื่นคลอกลิ่นสบู่ลาเวนเดอร์ได้อย่างดีเลยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงเริ่มมีความชัดเจนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่มีความเป็น Feminine ชัดเจนมาก และเป็นการปูทางสู่การเป็นโทนแป้งที่มีมิติกลิ่นครอบคลุมพอสมควรไม่ว่าจะเป็นกลิ่นแป้งติดหวานเจือเขียวโปร่งของดอกไวโอเล็ตที่จะเปิดตัวออกมาเคล้ากเลเยอร์กลิ่นแป้งติดทึบอ่อนๆ ระเรื่อๆ จากไอริสที่ลดทอนความเป็นโทนลาเวนเดอร์แบบสมุนไพรในช่วงแรกมาเป็นลาเวนเดอร์นวลๆ หอมนุ่มแบบแป้งลาเวนเดอร์ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีโทนออกทางเปรี้ยวหอมหวานแกมแว๊กซ์เมือกหน่อยๆ ซึ่งเป็นลักษณะของแมกโนเลียแกมกลิ่นเขียวรื่นจมูกติดอะโรม่าของกลิ่นชาอ่อนๆ ที่เข้ามาสร้างความสดชื่นในเนื้อกลิ่นได้อยู่ ทำให้ช่วงนี้จะยังได้ความรู้สึกสดชื่นแกมแป้งลาเวนเดอร์ที่มีความหวานกึ่งใสกึ่งนวลไม่พอ กลิ่นโทนโบตั๋นในตอนแรdก็ยังตามมาอยู่เลยคุมโทนความเป็นผู้หญิงในเนื้อกลิ่นได้ชัดเจนมาก โดยที่ถ้าดมเข้าไปใกล้ๆ ผิวจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นออกทางสะอาดนวลของ Musk ที่แฝงตัวรองพื้นอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควรแก่เวลา กลิ่นโทนลาเวนเดอร์จะผ่อนลงเหลือเพียงความนวลหอมอะโรม่าเบาๆ ควานหวานใสของโบตั๋นจะหายไป ก็เปลี่ยนสถานะในการเข้าสู่ช่วงท้ายที่มีความมินิมัลเป็นที่ตั้ง กับการเป็นโทนกลิ่นแป้งเจือความสะอาด อารมณ์แบบแป้งเด็กหน่อยๆ แต่มีความเรียบหรูที่ดูผู้ดีมากกว่าจะแป้งเด็กจ๋าๆ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นที่เด่นมาเลยคือ Musk และมีกลิ่นออกทางแป้งนวลๆ แบบแป้งวานิลลาเคล้าแป้งเด็กที่มาจากถั่วตองก้าที่เกลาเอาความเขียวคิดหญ้าแห้งกึ่งอัลมอนด์ออกไป เลยทำให้ช่วงนี้จะเป็นกลิ่นออกทางคล้ายแป้งเด็กหรูๆ มีความสะอาดรองพื้นเคล้ากลิ่นนวลติดลาเวนเดอร์อ่อนๆ ที่ให้ความเรียบง่ายและเรียบหรูแบบที่ยังไงก็รอด ปิดท้ายการสื่อสารกลิ่น Jolie Fleur Lavande ได้ลงตัว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานได้สบาย เนื้อกลิ่นเปิดตัวด้วยความเป็นธรรมชาติและสื่อสารถึงความเป็นลาเวนเดอร์แบบรื่นรมย์ 2 มิติได้ดีเลยทีเดียว โดยสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลยแบบกวาดหมดยังไงก็รอดและมีความสดชื่น สว่าง และนุ่มนวลเรียบหรูได้ยาวๆ จะมีก็แต่ออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายๆ ดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปหรือโรแมนติคจะดีที่สุด เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายหนักหน่วงหรือปล่อยพลังเพื่อเน้นเย้ายวนชวนใส่ไปท่องราตรี เพราะเน้นความสดใสนุ่มนวลและอ่อนโยนเป็นสำคัญ

ความทน - 8 ชม. กลิ่นยังคงอยู่ให้จับต้องได้ ซึ่งเรียกว่าเกินคาดในเรื่องความทนมากเลยทีเดียว เพราะเดิมคาดไว้ว่าไม่น่าจะเกิน 6 ชม. ซึ่งตรงนี้ทำได้ดีมากในแง่ของน้ำหอมโทนดอกไม้ที่มีความสดชื่นและโทนแป้งไล่เรียงกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนตัวเกิน 8 ชม. ไปอีกจนถึง 12 ชม. เลยด้วยซ้ำ เออ ของเขาดี

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีและชัดเจนในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาที่กลางๆ ไปเรื่อยๆ ยาวๆ จนเมื่อเข้าช่วงท้ายจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกลิ่นแป้งรื่นรมย์ไปเรื่อยๆ  

สรุป - ถ้าจะเอาความหวือหวา อาจจะไม่ได้จากรุ่นนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าเอาความรื่นรมย์ ใช้ง่าย มีระดับ รอด และผ่าน อย.ด้านกลิ่นแบบที่ให้ความเรียบหรูมินิมัล และมาในโทนสว่างที่รื่นรมย์ อันนี้ยกให้เลย ได้ครบและเต็มเปี่ยมจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.robinson.co.th/th/tory-burch-jolie-fleur-lavande-eau-de-parfum-net-volume-100-ml-rbs32404616

 

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559

Review: Tory Burch for Women

Tory Burch for Women

เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่าน้ำหอมตัวแรกของ Tory Burch มันหอมมาก กลิ่นจะออกทางทอมบอย เอาล่ะสิ แสดงว่าต้องมีกลิ่นอายของความเป็น Unisex แน่เลยยยยย เช่นนั้นเราจึงขวนขวายหามาลองจนได้ ผลออกมาคือ

เรียกว่ากลิ่นเปิดมาได้อย่างประทับใจและสามารถดึงดูดคนที่ดมให้ชอบและรู้สึกเสีียตังค์ได้เลย เพราะเปิดด้วย Top Notes อย่างโทนซิตรัสที่เด่นกับความเป็นส้มและเกรฟฟรุตเลย โดยมีกลิ่นของดอกส้มนำโทนฟอลรัลเด่นแทรมเข้ามาแบบใสๆ โดยที่มีกลิ่นอายหวานๆ ติดฟรุตตี้นิดๆ ของพริกไทยสีชมพูเป็นตัวรองพื้นไม่ให้กลิ่นเบาโหวงเกินไป กลิ่นแล้วออกทางใสสว่าง กระตุ้นความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะไปผสานกับช่วง Middle Notes โดนกลิ่นโทนดอกไม้จะเด่นนำก่อนเลยที่โบตั๋นแบบใสๆ หอมแบบสว่างๆ เบาๆ ติดหวานปลายๆ มีซ่อนกลิ่นมาให้ความครีมมี่บางๆ เลยทำให้กลิ่นกลายเป็นสดชื่นสบายๆ ติดหวาน แต่เพราะมีกลิ่นอายเขียวๆ ของดอกกระถินกับโทนแป้งติดแครอทนิดๆ มาผสานกับโทนซิตรัสที่ตามมาตั้งแต่ต้นต้น ทำให้ช่วงนี้เป็นกลิ่นหอมที่มีความกระชับกระเฉงในเนื้อกลิ่นขึ้นมาด้วย เรียกว่ายังความหอมสดใสมีโทนสบายๆ แรกแย้มลงตัว ส่งต่อให้ช่วง Base Notes ที่กลิ่นแนวๆ ทอมบอยจะมาในช่วงนี้แหละ เพราะ 3 เกลอแห่งความนุ่มสะอาด อบอุ่นเบาๆ อย่าง Musk ไม้จันทน์หอม และไม้ซีดาร์ ที่มาทำให้รู้สึกสะอาดกระฉับกระเฉง ที่สำคัญการมีหญ้าแฝกเข้ามาให้ความ Smoky สะอาดเบาๆ ถือว่าทำให้กลิ่นมีความแมนเสริมเข้ามาตัดกับความใสในตอนต้นได้ลงตัวมาก ภาพรวมเลยกลายเป็นน้ำหอมที่หอมสดใสและกระฉับกระเฉงได้น่าสนใจเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศทุกวัยเลย เพราะกลิ่นมันเข้าถึงได้ง่ายมาก แม้จะมีกลิ่นในตลาดที่คล้ายมากอยู่ แต่เพราะว่าเนื้อกลิ่นมันมีความเป็นไม้หอมเลยทำให้ออกทางแมนๆ เข้ามาให้ความเท่ห์ เลยทำให้สามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะงานทางการหรือทั่วๆ ไปชิลล์ๆ ส่วนออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน ถ้าท่องราตรีกลิ่นนี้ไม่ค่อยเหมาะนัก แต่ถ้าทั่วๆ ไปก็ลุยได้เลย หอมเข้าถึงง่ายอยู่แล้ว

ความทน - ถือว่าน่าพึงพอใจมากกับประมาณ 8 ชม. โดยประมาณ อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย - กลิ่นกระจายกำลังดีในช่วงต้น และความการกระจายที่ลงตัวไปเรีื่อยๆ จนถึงปลายช่วงกลางที่เริ่มจะออกแนวเป็นออร่ารอบๆ ตัว ก่อนจะปิดท้ายด้วย Skin Scent หอมสะอาดกระฉับกระเฉงติดผิว

ทิ้งท้าย - เอาจริงๆ มันเหมือน Clinique Happy for Women ไม่น้อยนะครับ 5555 เพียงแต่ว่าเพราะมีโทนไม้หอมมากกว่า และไม่ได้มีโทนผลไม้เด่นออกมามากมาย เลยพอมีความแตกต่างบ้าง แต่กลิ่นแบบนี้บอกเลยให้ตายยังไง ใส่แล้วก็หอม เพราะขนาดผมยังชอบเลย เพราะมันสดชื่นโดยไม่หวานเกินไปนี่แหละครับ