แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Gianfranco Ferre แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Gianfranco Ferre แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559

Review: Gianfranco Ferre – Bergamotto Marino

Gianfranco Ferre – Bergamotto Marino

น้ำหอมอิตาลีมักจะทำโทนซิตรัสออกมาได้งามและน่าสนใจมากเลยทีเดียว ในหลายๆ ตัวต่างก็มีแฟนคลับเอาไปเป็Signature ก็มากมาย แล้วแบรนด์ Gianfranco Ferre ล่ะ มีตัวซิตรัสที่น่าสนใจไหม บอกเลยว่ามีและกลิ่นงามมากเสียด้วย นั่นคือรุ่น Bergamotto Marino นั่นเอง 

ช่วง Top Notes เป็นอะไรที่กลิ่นแบบว่าตรึงจมูกมากกับโทนซิตรัสที่หอมสดชื่นติดโทนฟรุตตี้ได้ลงตัวสุดๆ เพราะกลิ่นของมะกรูดจะเป็นตัวเด่นนำก็จริง แต่เพราะเจอแบล็คเคอแรนท์ที่มาให้โทนฟรุตตี้ติดซิตรัสกับเมล่อนที่มาให้โทนหวานฉ่ำๆ กลิ่นอายเลยออกแนวสดชื่นติดสดใสไม่คมจนเกินไปแบบธรรมชาติตรึงความประทับใจในจมูกได้ดีมาก จนเมื่อเข้า Middle Notes ก็ได้เวลาของการเปลี่ยนโทนมาเป็นตัวเอกอย่างดอกส้มซึ่งกลิ่นอายจะสดชื่นแบบนุ่มๆ เลยเพราะมีมะลิมากลั้วคลอเคลีย กลิ่นซิตรัสของมะกรูดจะมาเป็นองค์ประกอบให้ความสดชื่นแบบซิตรัสยังคงอยู่ในช่วงนี้เคล้าความเป็นดอกไม้สีขาวแบบไม่ชวนเวียนหัว กลับให้ความนุ่มสะอาดหอมสดชื่นแบบอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ติดเย้ายวนเซ็กซี่บางๆ ได้กำลังดีงาม แถมกลิ่นมีระดับมากพอจากโทนซิตรัสที่ผสมผสานกันลงตัวไม่ได้เน้นหอมสดชื่นมันเข้าไป ซึ่งกลิ่นจะลากยาวไปยัง Base Notes โดย Musk จะมาให้ความนุ่มนวลแบบผิวกายสะอาด กลั้วความอบอุ่นของโทนไม้หอมเบาๆ กำลังดี แน่นอนว่ากลิ่นสดชื่นของซิตรัสยังติดอยู่จางๆ ไม่ไปไหน ภาพรวมเลยเป็นกลิ่นสดชื่นที่หอมไม่ต้องพยายามบิลด์อะไรเลย เพราะมันมีดีในทุกช่วงออกทางเรียบง่ายแต่ประทับใจได้มากเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ – Unisex เลย ได้หมดทั้งผู้หญิงและผู้ชายทุกเพศ กลิ่นใช้ง่ายมาก เข้าถึงได้ง่าย มหาชนชอบและชื่นชมเอาได้เลยทีเดียว ที่สำคัญเข้ากับอากาศร้อนๆ บ้านเราขั้นสุดด้วย โดยสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย จัดได้ทุกงานทั้งทางการและทั่วๆ ไป จะงานได้ก็ได้หมด แต่กลิ่นมีระดับอยู่ไม่น้อยจะใส่แบบเดินแก้ผ้ารอบบ้านอาจจะไม่เข้าทางนัก ส่วนยามค่ำคืน ถ้าอากศย้านเรา อยากได้ความสดชื่นก็จัดไป แต่ถ้าจะใส่ไปล่าเหยื่ออันนี้อาจจะยากถึงยากมากก็เท่านั้นเอง 

ความทน เป็น EDC ที่ทนเทียบเท่า EDT ได้เลยทีเดียว กับประมาณ 6 ชม. กำลังดี สามารถลากออกไปอีกได้ถ้าจำนวนสเปรย์ถึง เพราะส่วนตัวจัดที่ 7 สเปรย์ลากไปได้ที่ 8 ชม. เลย 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดฮวบมาไวหน่อยเป็นออร่ารอบๆ ตัวในตอนกลาง และปิดท้ายด้วย Skin Scent อย่างชัดเจนในช่วงท้ายตามสไตล์ Cologne 

ทิ้งท้าย กลิ่นนี้เทียบเท่าความดีงามพอๆ กันกับ Mugler Cologne ได้เลย เพียงแต่ตัวนี้ได้อารมณ์ของความฟรุตตี้และความเป็น Bergamot หรือมะกรูดได้น่าสนใจกว่าเอาดอกส้มกับโทนเขียวขึ้นต้นแบบ Mugler Cologne เช่นนั้นถือว่าเป็นกลิ่นที่งามแบบไม่ต้องพยายามและเป็นหนึ่งใน#ของดีเทคนิคไม่ต้อง สบายๆ เลยล่ะครับ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://ecx.images-amazon.com/images/I/61eDVQMlVaL._SL1500_.jpg

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Review: Gianfranco Ferre - Ferre for Men


Gianfranco Ferre - Ferre for Men 

Gianfranco Ferre เป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นจากอิตาลีที่ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องมีน้ำหอม ซึ่งพอได้คำแนะนำมาว่ารุ่น Ferre for Men กลิ่นมันหอมมากจากเพื่อนที่เล่นน้ำหอมด้วยกัน ก็จัดมาเลยสิครับ รออะไร ผลออกมาเลยเป็นเช่นนี้ 

หอมจริง หอมมากด้วย หอมหรูด้วย คือ กลิ่นนวลเนียนนุ่มจมูกมากมาย เพราะเปิด Top Notes ด้วยกลิ่นสับปะรดติดซิตรัส กลั้วกับลาเวนเดอร์ กลิ่นจะหอมนุ่มติดสดชื่นกำลังดีเลยในตอนนี้ มีกลิ่นเขียวๆ ติดโทนแป้งจางๆ ให้รู้สึกได้ จนเมื่อเข้า Middle Notes งานนี้คือไฮไลท์เลยจ้า มันคือโทนดอกไม้ที่แมนกำลังดีมาก มีความเป็นแป้งหอมๆ นุ่มๆ จากดอกไอริสเป็นตัวชูโรงเลย โดยจะมีกลิ่นหอมละมุนจากมวลหมู่ดอกไม้ที่มาแบบไม่สาว มีโทนกุหลาบจางๆ มีมะลิหน่อยๆ และมีความสดชื่นจากดอกส้มเข้ามาเสริม กลิ่นในช่วงนี้ถือว่าเป็นโทนดอกไม้ที่ซับซ้อนและไม่ได้มาแบบหนักหน่วง ทำให้กลิ่นอายละมุนได้ลงตัวจริงๆ และปิดท้ายที่ Base Notes ที่กลิ่นจะมาแบบนุ่มๆ ติดโทนแป้งเด่นที่วานิลลาที่ไม่หนักหน่วง เพราะมาแบบไลท์เวอร์ชั่นกลั้วไปกับกลิ่นโทนอบอุ่นอย่างไม้หอมและครีมมี่ของถั่วตองก้า กลิ่นช่วงนี้จะรับต่อความละมุนมาจากช่วงกลางซึ่งโทนดอกไม้จะยังคงอยู่แบบเบาๆ ทำให้มีความหรูหรามีระดับเลยทีเดียว โดยมีมีกลิ่นอายเขียวๆ จาก Oak Moss กำลังดี และมีความสะอาดสะอาดนุ่มๆของ Musk ที่ยึดเป็นตัวรองพื้นเอาไว้ซึ่งกลิ่นภาพรวมเรียกว่าซับซ้อนแบบมีชั้นเชิงมาก เพราะไม่ได้มาทื่อๆ มาแบบผสมผสานกันจนภาพรวมของน้ำหอมการเป็นโทนละมุนของสุภาพบุรุษที่ได้ทั้งความสุภาพ ความอบอุ่น ความละมุน และเย้ายวน ถือว่าไม่เสียดายเงินเลยที่ได้จัดมา

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป แม้ว่ากลิ่นจะออกทางโทนภูมิฐานหน่อยๆ ก็จริง แต่ก็ใส่ได้สบายๆ ซึ่งถ้าใส่ไปงานทางการนี่จะเข้าทางและเข้าทีมาก กลิ่นไม่ได้รบกวนใครเกินไปเสียด้วย แต่หอมละมุนน่าไว้วางใจและเข้าใกล้เสียมากกว่า ส่วนชิลล์ๆ ทั่วไป ก็จัดได้สบายๆ ครับ เพราะกลิ่นมีความนุ่มจมูก เข้ากับความสบายๆ ได้ดีด้วยซ้ำไป ส่วนยามค่ำคืน ถ้าโรแมนติคกับแฟนจัดได้อยู่ แต่ถ้าไปหาเหยื่อกลิ่นอาจจะสู้คนใส่น้ำหอมเรียกแขกไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะเขากว่าเขาอยู่ไม่น้อยเลยล่ะครับ

ความทน - เรียกว่าดีงาม เพราะว่าลากยาวไปที่ 8 ชม. ได้อยู่ โดยอิงจากจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด รวมถึงพึ่งเคมีบ้างครับ

การกระจาย - กลิ่นกระจายกลางๆ ในช่วงต้น แล้วจะลดลงมากระจายแบบออร่ารอบๆ ตัว และเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย เรียกว่าเป็นโซนปลอดภัยที่ไม่รบกวนใครนักก็ได้อยู่นั่นเอง

ทิ้งท้าย
- แม้กลิ่นจะไม่ได้กระจายมาก แต่มันหรูจริง เวลากลิ่นตีขึ้นให้ผมรับรู้ รู้สึกฟินมุ้งมิ๊งคนเดียวไม่แบ่งใครดีแท้

Credit ภาพhttp://www.parfumerieeternelle.com/wp-content/uploads/2014/12/ferre-men.jpg