แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 100 Bon แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 100 Bon แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2563

Review: 100 Bon - Davana & Vanille Bourbon

100 Bon - Davana & Vanille Bourbon

เมื่อครั้งที่ได้เห็นว่า 100 Bon เอากลิ่นอายที่เป็นสายสมุนไพรติดเขียวปนหวานมีวูบกลิ่นผลไม้ของ Davana (วงศ์เดียวกับโกฐจุฬาลัมพา) กับกลิ่นโทน Oriental ที่มาสายอบอุ่นมาเจอกัน ถึงกับต้องหยุดคิดเลยว่าโทนกลิ่นจะออกมาในรูปแบบไหน และคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะต้องออกมาในรูปแบบกลิ่นขนม เช่นนั้น เลยทำให้คว้าแบบในทันที ไม่ลองด้วยนะ เพราะเน้นความตื่นเต้น และคิดว่ากลิ่นนี้น่าจะเสริมความลั่นล้าได้ แต่พอใช้จริงล่ะ

ตึ่งโป๊ะ! พลิกเกมกันเลยทีเดียว (และเป็นตัวอย่างที่ดีที่ถ้ามีโอกาสลองควรจะลองและซึมซับก่อน) แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังแต่อย่างใดๆ เพราะ Davana & Vanille Bourbon มาในรูปแบบออกทางโทนผลไม่นำเด่นเป็นสง่ามาเลย และมาแบบกลิ่นไม่ได้เป็นสายฉ่ำ เพราะในเนื้อกลิ่นมีโทนสมุนไพรติดเขียวแห้งๆ เจืออยู่ตลอดเวลา ทำให้การเปิดตัวจะได้อารมณ์แบบกลิ่นสมุนไพรแห้งรสผลไม้ที่มีความหวานอมเปรี้ยวปลายและลึกพอสมควร ซึ่งเป็นลักษณะกลิ่นของ Davana โดยจะมีกลิ่นอายแบบลูกพรุนที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานเย้า และกลิ่นลิ้นจี่ที่เปรี้ยวหอมค่อนไปทางจืดคลอไปอย่างน่าสนใจไม่น้อยเลย

และเมื่อกลิ่นอายความหวานเริ่มมีโทนไม้หอมโปร่งๆ เข้ามาเสริมโทนความแห้งในเนื้อกลิ่นมากขึ้น กลิ่นก็เริ่มเข้าสู่ช่วงกลางที่จะเป็นลูกครึ่งระหว่างโทนไม้หอมปร่าอ่อนๆ โปร่งๆ สไตล์ไม้ซีดาร์ตีคู่กับโทนกลิ่นของ Davana พร้อมลูกคู่ที่ยังให้ความเป็นสมุนไพรแห้งๆ กลิ่นผลไม้อยู่ แต่จะมีความกึ่งนวลกึ่งหวานเย้าดอกไม้บางๆ เข้ามาร่วมด้วยแนวๆ คล้ายโทรกุหลาบ กลิ่นเลยจะมีลูกเล่นเนียนๆ แฝงอยู่ จนเมื่อผ่านไปซักระยะจะเริ่มสัมผัสได้ถึงความอวลอ่อนๆ นวลๆ เบาๆ ของวานิลลาที่มาแบบ Lite Version ที่เข้ามาร่วมแจม ทำให้เลเยอร์กลิ่นจะไล่จากกลิ่นผลไม้หวานอมเปรี้ยวแห้งๆ เจือไม้หอมรองพื้นด้วยอวลอ่อนๆ กรุ่นรุมๆ เบาๆ คงตัวในการเข้าสู่ช่วงท้ายแบบที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไ/ปจากช่วงกลางเท่าไหร่ แต่จะมีความอวลรุมๆ ติดผิวที่ชัดเจนมากขึ้นจากวานิลลาและมีกลิ่นออกทางพิมเสนสะอาดๆ เรื่อๆ ติดสมุนไพรหวานอ่อนๆ เนียนๆ อารมณ์กึ่งยาสมุนไพรเล็กๆ ที่เริ่มเข้ามาแทนที่กลิ่นผลไม้แห้งๆ สมุนไพรของ Davana ที่เหลือเพียงบางๆ ประปราย ทำให้ช่วงท้ายอารมณ์กลิ่นจะได้วานิลลาอ่อนๆ สบายๆ เบาๆ ติดโทนสมุนไพร Earthy ติดเปรี้ยวหอมแห้งๆ อ่อนๆ หวานหน่อยๆ ปลายกลิ่นติดผิวไปเรื่อยๆ ในสไตล์ Whispering Scent จนจางไปตามเวลา

เหมาะสำหรับ - Unisex เลยเข้าได้กับทุกเพศ ซึ่งถ้าพื้นเพชอบกลิ่นโทนผลไม้เปรี้ยวอมหวานอยู่แล้ว จะอินกับกลิ่นนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งสามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลังอยู่แล้ว จะเอาไปใส่ออกกำลังกายยังได้เลย ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่เพื่อความผ่อนคลายสบายใจแบบชิลล์ๆ ดีกว่า เพราะกลิ่นนี้ไม่ควรใส่ไปท่องราตรี เพราะคนอื่นที่มาสายแรงๆ ทั้งหลายจะกลบเรามิดแบบ 100%

ความทน - ราวๆ 4 - 6 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบที่ 2 ชม. อิงตามสภาพอากาศ สภาพผิวกายผู้ใช้ และจำนวนสเปรย์ ต่ำสุดในการใช้งานที่เคยเจอก็ 4 ชม. สูงสุดกับการอยู่ในห้องแอร์ทั้งวันก็ 8 ชม. กับจำนวนสเปรย์ 8 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีปานกลางในตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไวพอสมควรและลากยาวไปซักราวๆ 2 - 3 ชม. ก่อนจะกลายเป็นรุมๆ ติดผิว เข้าทางกลิ่นอายสายเบาๆ กระซิบๆ ขยับเนื้อตัวจะมาให้รับรู้จนค่อยๆ จางไป

สรุป - หนึ่งในกลิ่นวานิลลาที่มีความแตกต่าง เพราะไม่หนัก ไม่ขนม ไม่แป้ง จะให้ความรุมๆ เบาๆ สบายๆ ชูโรงกลิ่นโทนสมุนไพรรสผลไม้ได้อย่างน่าสนใจ และมีความ Unique แบบที่เน้นมุ้งมิ้งกับตัวเองไดดีลงตัวไม่น้อย แม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้ทนมากนัก แต่พกไปเติมระหว่างวันเพื่อเพิ่มความสดใส เรียบง่ายและเรียบหรู ก็เป็นทางเลือกอีกทางที่ดี

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/perfume/100-Bon/Davana-Vanille-Bourbon-44800.html


 

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2563

Review: 100 Bon - Cedre & Iris Soyeux

100 Bon - Cedre & Iris Soyeux

ที่ผ่านการเล่ากลิ่นไปก็นานมาก ห่างมาก็ยาวนานเลยทีเดียว เช่นนั้นเลยขอหวนมาเจอตัวที่สองของแบรนด์ 100 Bon จากเมืองน้ำหอมฝรั่งเศสกันซะหน่อย เพราะสนใจเนื้อกลิ่นและ Concept ที่นำเสนอเน้นที่กลิ่นอายธรรมชาติ ซึ่งจากรุ่นที่เคยเล่ากลิ่นกับโทนคู่หูสาย Citrus กับความเขียว ก็มาถึงต้องเอาคู่หูอีกคู่อย่างโทนกลิ่นไม้หอมที่จะมาเจอกับโทนดอกไม้เจือแป้งแล้ว
 ซึ่งแบรนด์จะสร้างสรรค์ออกมาอย่างไร ก็ว่ากันได้ตามนี้เลย 

Cedre & Iris Soyeux จะเปิดตัวกันด้วยความเป็นไม้หอมติดโปร่งสว่างที่ฟุ้งออกมาก่อนเลย ซึ่งอารมณ์กลิ่นจะค่อนข้างชัดเจนมากถึงการเป็นโทนไม้หอมติดขรึมแต่โปร่งและมีความปร่าหน่อยๆ ตามลักษณะของการเป็นกลิ่นอายสายไม้ซีดาร์ ซึ่งกลิ่นก็ไม่ได้มาแบบไม้ทื่อๆ โดดๆ เพราะจะมีโทนติดสดชื่นประปรายของโทนส้มที่ออกทางติดเปรี้ยวเจือขมแนวๆ เปลือกส้ม ที่มีกลิ่นออกทางติดเปรี้ยวเขียวเจือดอกไม้ขาวอ่อนๆ เบาๆ เนียนๆ อยู่ เลยทำให้ช่วงเปิดเป็นกลิ่นอายไม้หอมกึ่งสดชื่นที่ติดนิ่งๆ เรียบง่าย กำลังดีเลยทีเดียว 

เพียงชั่วครู่กลิ่นอายโทนดอกดอกไม้กึ่งแป้งที่ติดอับบางๆ ของโทนดอกไอริสจะเปิดตัวออกมาลดบทบาทของโทนส้ม Citrus ในตอนต้นลงไป และเข้าสู่ช่วงกลางโดยแทรกขึ้นมาตีคู่กับกลิ่นอายไม้ซีดาร์ และมีโทนแป้งติดจืดๆ ที่ตามมาติดๆ จนผสมผสานกันเป็นกลิ่นแป้งไม้หอมที่จะมีเลเยอร์กลิ่นไล่สเต็ปจากไม่หอมปร่าติดโปร่งๆ ตามด้วยแป้งผสมผงไม้หอมที่ให้ความกึ่งนวลกึ่งหอมปร่าไม้หน่อยๆ แต่มีความบางเบาติดจืดหอมอับแนวๆดอกไอริสให้จับต้องได้ซึ่งเนื้อว่าเป็นการเล่นโทนกลิ่นระหว่างความเป็นแป้งดอกไม้ติดอับบางๆ กับไม้ซีดาร์ปร่าสะอาดโปร่งๆ มีความขรึมได้ลงตัวเลยทีเดียว และจะดำเนินไปยาวพอสมควรก็จะเริ่มได้กลิ่นโทนไม้แห้งๆ เคล้ากลิ่นยางไม้ออกทางธูปติดสว่างเจือพริกไทยหน่อยๆ ซึ่งน่าจะเป็นโทนของยางไม้อย่าง Frankincense ที่ค่อยมาแบบเบาๆ ไม่หนักหน่วงมากนัก ค่อยๆ เสริมโทนไม้ซีดาร์ให้มีมิติสุขุมมากขึ้น พร้อมกับมีโทนออกทางอบอุ่นมีความหวานเบาๆ กึ่งวานิลลาคล้ายๆ ที่เข้ามาร่วมด้วย ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะให้โทนออกทางไม้แป้งหอมอบอุ่นเบาๆ ติดหวานอ่อนๆ คลอผิวที่เรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่เน้นพีค เน้นเรียบง่ายและมีระดับแบบนิ่งๆ จนสมควรแก่เวลาก็จางไปในในที่สุด 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นมีความกลางๆ ที่แตะได้ทั้งหญิงและชาย ซึ่งอาจจะไปชายมากกว่าหน่อยเพราะโทนไม้ซีดาร์ค่อนข้างเด่น แต่เพราะกลิ่นไม่ได้กระจายมากนัก ผู้หญิงเลยใช้ได้สบายมาก ซึ่งกลิ่นนี้เข้าได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วไป ใส่ได้สบายมาก จะมีก็แต่ออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายจะดีกว่า เพราะโทนไม้หอมและแป้งไม่เข้าทางกับความสดชื่นมากนัก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบสบายๆ ทั่วไป เรื่อยๆ มาเรียงๆ หรือออกงานจะดีกว่า เพราะกลิ่นมาสายสุขุมเลยจะไม่เข้าทางกับการใส่เพื่อสร้างออร่าดึงดูดยามท่องราตรีแต่อย่างใด

ความทน - อยู่ระหว่าง 4 - 6 ชม. เป็นสำคัญ เพราะกลิ่นไม่ได้หนักมากด้วยส่วนหนึ่ง กลัวไม่ทนพกไปเติมระหว่างวันโลด

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และลดลงมาที่ออร่ารอบๆ ตัวเร็วหน่อย พอเข้าช่วงท้ายก็ Skin Scent เต็มๆ สามารถเป็นสาย Safe Scent ในโซนกลิ่นไม้หอมเจือแป้งได้เลย

สรุป - กลิ่นมาสายเรียบง่ายและมินิมัลกันอย่างเต็มๆ ซึ่งไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมาก แต่ก็มีมิติกลิ่นที่น่าสนใจในการให้โทนหลักตามชื่อรุ่นที่มีทั้งกลิ่นไม้หอมจากไม้ซีดาร์ และกลิ่นโทนแป้งจากดอกไอริสที่คุมโทนได้ดี เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นหนักๆ แต่อยากได้ความแตกต่างในการเป็นสร้างออร่าโทนสุขุมติดเรียบหรูด้วยไม้หอมและแป้งเบาๆ ซึ่งแน่นอนไม่เหมือนใครด้วยนะเออ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://www.parfumdreams.ie/100BON/Unisex-fragrances/Cedre-Iris-Soyeux/Eau-de-Parfum-Spray/index_86077.aspx

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Review: 100 Bon - Neroli & Petit Grain Printanier

100 Bon - Neroli & Petit Grain Printanier 

100 Bon เป็นแบรนด์ฝรั่งเศสใหม่ใสกิ๊งที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 โดยชูโรงแบรนด์ว่าส่วนผสมมาจากธรรมชาติ 100% ซึ่งก็ว่ากันไปตามแนวทางและคอนเซปท์ของแบรนด์ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากอย่างหนึ่งคือ ลักษณะของน้ำหอมจะมีความใกล้เคียงกับสไตล์ของ Jo Malone พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อรุ่นและโทนกลิ่นที่เป็นทั้งสไตล์ Cologne และ Concentre ในพื้นฐานความเข้มข้นที่เป็น
 Eau de Parfum ทั้งคู่ ซึ่งแน่นอนว่าราคาไม่ได้รุนแรงมาก แถมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเสียด้วย 

เช่นนั้นได้มีโอกาสมาเจอะเจอและได้จัดหามาใช้งาน ก็ต้องเล่ากลิ่นกันหน่อยกับรุ่นแรกที่ได้ลองในสไตล์ของCologne อย่าง Neroli & Petit Grain Printanier 

แน่นอนอยู่แล้วว่ากลิ่นนำเสนอความเป็นดอกส้มและกิ่งก้านส้ม Top Notes ก็เลยมากันแบบชัดเจนของการเป็นโทน Citrus ติดซ่าหน่อยๆ ซึ่งจะเด่นที่ความเป็นส้มสีเลือดกับเปลือกส้มและให้ความสว่างติดปลายหวานของเลมอนที่กำลังดีให้ความสดชื่นปนรื่นรมย์กันเต็มๆ กลิ่นจะไม่ได้ดาวรุ่งพุ่งแรงแบบบาดคมอะไรนัก มีความเป็น Citrus กึ่ง Spicy อ่อนๆ ที่เบาๆ ติดฉ่ำหน่อยๆ สไตล์ Cologne เสริมด้วยกลิ่นเขียวสดชื่นของกิ่งก้านส้ม (Petit Grain) กำลังดี แต่สิ่งที่แทรกตัวมาไวมากเลยคือโทนกลิ่นดอกไม้ขาวที่เด่นด้วยโทนกลิ่นของดอกส้มที่มาแบบเบาๆ เรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่มีมิติให้จับต้องได้ทั้งกลิ่นอายติดโทนเขียวปนสดชื่นกึ่งนวลบางๆ ของดอกส้มที่สกัดแบบไอน้ำ (Neroli) ที่มาแบบเบาๆ เคล้ากลิ่นอายอีกเลเยอร์ที่ซ้อนและตัดทอนกันอยู่ของดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลาย (Orange Blossom) ที่ให้ความนวลสะอาดติดหวานหน่อยๆ ที่เสริมกลิ่นโทน Citrus และนำเข้าสู่ Middle Notes ที่กลายเป็นโทน Soft White Flower เต็มตัว โดยที่จะมีกลิ่นอายจากพรรคพวกที่มาร่วมด้วยช่วยกันอย่างมะลิมาสร้างกลิ่นอายโทนดอกไม้ขาวเบาๆ หอมนวลๆ สะอาดๆ ปนหวานติดตุ่ยๆ Indolic ตามธรรมชาติเจือๆ อยู่ในนั้น ซึ่งมะลินี่แหละจะกลายเป็นตัวแย่งซีนชั้นดีที่ทำให้กลิ่นเข้าโทนการเป็นดอกไม้ขาวเต็มๆ ลดทอนการเป็นโทน Citrus ที่เด่นในช่วงต้นกลายเป็นสายสนับสนุนรองใจดี ให้มีความสดชื่นประปรายแทรกความหวานนวลสว่างอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนโทน Citrus โบกมือลา ก็จะเป็นการผันตัวเข้าสู่ Base Notes ที่จะเป็นกลิ่นอายดอกส้มนวลปนหวานสะอาด เจือเขียวที่ไม่ได้ค่อนไปทางสดชื่นแล้ว ออกทางติดขมอ่อนๆ เสียมา ซึ่งกลิ่นจะรองพื้นด้วยวานิลลาอ่อนๆ Lite Version เจือด้วย Musk เบาๆ สนับสนุนแบบสายเบื้องหลังที่พอจับต้องได้บ้าง ทำให้กลิ่นจะมีความนวลหอมปนหวานแบบเบาๆ แทรกด้วยเขียวขมอ่อนๆ ให้ความรื่นรมย์สบายๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปจากผิว 

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศเลย มีค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่านิดหน่อย แต่ยังไงผู้ชายก็ใส่ได้สบายมากยิ่งถ้าชอบกลิ่นอายสบายๆ สว่างๆ ไม่ได้เน้นปล่อยพลังสไตล์แบบ Jo Malone น่าจะเข้าถึงได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนจัดไป ไม่รบกวนใคร ได้กลิ่นติดหวานหน่อยๆ เขียวเบาๆ สะอาดๆ กำลังดี มาสายปลอดภัยชัดเจน ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่เพื่อความรื่นรมย์สบายๆ จะดีกว่า และให้ตัดการใส่เพื่อท่องราตรีไปได้เลย กลิ่นเบาเกินไป ไม่เกิดทางด้านนี้ยามราตรีใน Party แน่นอน 

ความทน - อยู่ราวๆ 4 - 6 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ซึ่งกลิ่นมีความแกว่งด้านนี้พอสมควร ถ้าอากาศร้อนๆ มักจะไปไวหน่อย แต่ถ้าอากาศกำลังดีสบายๆ ไม่ร้อนไม่หนาว ไปที่ 6 ชม. ได้สบายๆ วัดจากการใช้ที่ 7 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะลดลงไปที่ออร่ารอบๆ ตัวไวหน่อย ก่อนจะเป็น Skin Scent ยาวไป 

ทิ้งท้าย - ใครชอบน้ำหอมที่ไม่ได้เน้นปล่อยพลัง ไม่รบกวนใคร แต่ก็มีลูกเล่นอะไรให้จับต้องได้อยู่บ้าง และเป็นสายมินิมัลในสไตล์ดอกส้มและกิ่งก้านส้มที่ให้ความสดชื่นแนรื่นรมย์แบบกำลังดี ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจเลยล่ะ

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - Fragrantica - https://fimgs.net/mdimg/secundar/o.47705.jpg