แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Technique Indiscrete แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Technique Indiscrete แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Review: Technique Indiscrete - Monarchy

Technique Indiscrete - Monarchy

จากการเห็นภาพวาดที่สื่อสารถึงความเป็นเขตชนบทของประเทศเบลเยี่ยม แล้วมาต่อยอดพระราชวังหรือปราสาทต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้น และมีพระราชวงศ์อยู่อาศัยตามปกติโดยมีรั้วรอบขอบชิดเป็นต้นไม้หนาทึมห้อมล้อมพื้นที่ภายในกันกว้างขวางและมีพื้นที่สีเขียวรายล้อม เพื่อมาเป็นน้ำหอมที่สื่อสารถึงคำว่า Monarchy = สถาบันกษัตริย์ และถ่ายทอดออกมาเป็นกลิ่นอายที่บ่งบอกถึงชีวิตประจำวันของพระราชวงศ์เหล่านั้น

นี่ก็คืออีกหนึ่งในผลงานของแบรนด์ Niche จากฝรั่งเศสอย่าง Technique Indiscrete ที่ดึงดูดให้เกิดความสนใจไม่น้อยว่าจะถ่ายทอดกลิ่นออกมายังไงจากแรงบันดาลใจในการสื่อความถึงคไว่า Monarchy เช่นนั้น เมื่อลอง แล้วรู้ จึงเล่าต่อแบบนี้ว่า

เป็นกลิ่นที่เล่นโทนระหว่างความสดชื่นเรียบง่าย ความหอมละมุนแบบสวยแบบนิ่งๆ กับความอบอุ่นให้ความผ่อนคลายแบบขรึมๆ ที่ไล่เรียงกันอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากช่วงต้นที่จะให้ความสดชื่นของความปร่าแกมเขียว ซึ่งหลักที่จับต้องได้เลยคือ กลิ่นของใบ Clover ที่จะให้ความเขียวติดหวาน ที่จะแซมด้วยมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่ให้ความเปรี้ยวขมสร้างบรรยากาศสดชื่นในยามเช้า แต่จะมีความปร่าซ่าแกมสะอาดของตะไคร้เข้ามาคลอให้มีความรู้สึกสดชื่น ซึ่งช่วงเปิดจะได้ความรู้สึกแบบความเขียวแนวสวนที่มีกลิ่นเขียวยามเช้าที่ลอยมาได้พอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว

เมื่อกลิ่นช่วงต้นเริ่มเบาลงไปตามลำดับ ก็เข้าสู่ช่วงกลางที่จะปรับให้กลิ่นโทนลาเวนเดอร์ที่ติดนวลสะอาดเด่นขึ้นมาเคล้ากับกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ นวลหวานละมุนแกมสะอาดเข้าทางโทนแป้งแบบชัดเจน โดยมีความเขียวกึ่งกุหลาบของเจอราเนียมเสริมให้รับต่อมาจากช่วงต้นอยู่แบบกำลังดี แต่สิ่งหนึ่งคือ พื้นฐานกลิ่นมีความอวลๆ สูงมาก และมีลูกผสมระหว่างโทนไม้หอมแกม Musk อวลๆ ที่ทำให้กลิ่นโทนแป้งดอกไม้มีความหอมละมุนๆ ไล่โทนสีกึ่งม่วงอ่อนแกมชมพูบางๆ ที่มีความเขียวเบาๆ แบบบรรยากาศคลอ และที่สำคัญแอบจับได้ถึงกลิ่นวานิลลาหน่อยๆ ที่เป็นฉากหลังอีกด้วย ซึ่งเป็นการปูทางที่ดีไปสู่ช่วงท้ายนั่นเอง

ช่วงท้ายกลิ่นจะชัดเจนมากในการเป็นโทนวานิลลาแบบ Lite Version ติดหวานแบบสมดุลย์มีความเป็นแป้งลาเวนเดอร์กุหลาบเบาๆ ผสมนวลเนียนในเนื้อกลิ่นที่ไม่ข้นเกินไปและไม่หนักเกินไป + มีความเป็นไม้หอมสีครีมนวลเข้ามาเป็นตัวเด่นในการเดินกลิ่นร่วมด้วย นั่นก็คือ ไม้จันทน์หอม รวมถึงการมีไม้ซีดาร์เข้ามาผสมผสานทำให้ได้อารมณ์กลิ่นโปร่งสะอาดกึ่งกระดาษสีถนอมสายตาคลอไปกับวานิลลา โดยมีความอบอุ่นและนุ่มนวลสะอาดของ Musk ที่มีความโปร่งเบาๆ กำลังดี ติดเขียวหน่อยๆ ซึ่งน่าจะเป็น Ambrette ที่เป็น Musk ที่มาจากพืชมาเป็นตัวเชื่อมโทนให้มีกลิ่นเขียวบางๆ รวมถึงกลิ่นมีคล้ายหญ้าแห้งกึ่งหวานที่มาจากสารหอมที่สกัดจากถั่วตองก้าอย่าง Coumarin ร่วมด้วย ซึ่งเป็นการช่วงต่อมาสร้างมิติให้มีความเขียวคลอๆ ทำให้การปิดท้ายของกลิ่นจะได้ความอบอุ่น แกมหวานนวลอ่อนๆ ติดกลิ่นออกทางกระดาษที่มีความเขียวแห้งบางเบาในบรรยากาศ สร้างความเรียบหรูและผ่อนคลายได้ลงตัว

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่กลางๆ ครอบคลุมการใช้งานทุกเพศได้กำลังดี และยังครอบคลุมการใช้งานยามกลางวันแบบเก็บเกือบหมดอีกด้วย จะมีนิดหน่อยคือถ้าใส่ออกกำลังกาย ก็อาจจะไม่ได้เข้าทางเท่าไหร่ เพราะกลิ่นมีความนิ่งและสุขุมอยู่พอตัว เลยไม่ได้มาสาย Activity สลายพลังงานจ๋าๆ นัก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไปหรือออกงานจะดีกว่า เพราะกลิ่นมีความนิ่งเรียบหรูที่ส่งเสริมให้ดูมีการวางตัวที่ดีตามคาแรคเตอร์กลิ่นได้ไม่ยาก   

ความทน - กลิ่นทนได้น่าพึงพอใจที่เฉลี่ย 8 ชั่วโมงในการใช้งานได้สบายมาก และไปต่อได้อีกด้วยจนถึงราวๆ 12 ชม. ก็บ่อยครั้งที่ใช้งาน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางไปซักราวๆ 3 ชม. ก่อนที่คงตัวที่ออร่ารอบๆ ตัวยาวๆ ไปจนถึงชั่วโมงที่ 8 ก่อนจะเป็๋นกลิ่นอวลๆ ไม่หอมแกมวานิลลาสุขุมนุ่มลึกติดผิว

สรุป - แตะคำว่า Monarchy ไหม ก็ได้อยู่แง่ของการเป็นกลิ่นที่เป็นสถานที่ตากอากาศหรือพักผ่อนของพระราชวงศ์อะไรแบบนี้ ซึ่งกลิ่นให้ความเป็นธรรมชาติที่ดีเลยทีเดียว ก่อนจะค่อยๆ ปรับจากธรรมชาติเข้าสู่ความสุขุมนุ่มลึกและเรียบหรูแบบกำลังดี ใช้ง่ายและมีคลาส

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://techniqueindiscrete.com/en/fragrance/8-144-mug-today-is-a-good-day.html

 

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2565

Review: Technique Indiscrete - Safran Nobile

Technique Indiscrete - Safran Nobile

กลิ่นที่มีเสน่ห์ที่ให้ความหวานกึ่งขมแปร่งมีลูกโทนแบบกลิ่นหนัง มีความเป็นโทรเครื่องเทศแบบอบอุ่นในตัว และมีลักษณะเป็นกลิ่นออกทางยา รวมถึงมีลูกเอื้อนเกือบจะเมทัลลิคในบางวูบ คงนีไม่พ้นกลิ่นอายของหญ้าฝรั่นหรือ Saffron ที่ถือเป็นเครื่องเทศที่มีราคาสูงมากที่โดดเด่นทั้งในด้านอาหารและน้ำหอม ซึ่งโดยส่วนใหญ่จากที่สัมผัสการจับคู่โทนกลิ่นของหญ้าฝรั่นกับกลิ่นอายสาย Oriental อบอุ่นในโทนวานิลลา มักจะเป็นตัวใดตัวหนึ่งที่เด่นทะลุไปเสียมากกว่า แล้วกลิ่นที่มีความสมดุลย์ที่แบ่งเค้กกันเป็นอย่างดีในการเป็นลูกครึ่งผสมสาย Oriental กับหญ้าฝรั่นล่ะ มีไหม?

มีสิ กับหนึ่งในแบรนด์ Niche Perfume ที่ประจำการที่ฝรั่งเศสอย่าง Technique Indiscrete ที่ได้สร้างสรรค์ความหรูหราแบบยกระดับกลิ่นอายหญ้าฝรั่นกับสายวานิลลาได้ลงตัวมากๆ จนทำให้กลายเป็นหนึ่งในกลิ่นยอดนิยมของแบรนด์ได้เลย เช่นนั้นไม่เกริ่นต่ออะไรให้มากความ มาว่ากันที่ความหอมของกลิ่นนี้ดีกว่า Safran Nobile

ช่วงเปิดแม้ว่าจะมีความเป็นโทน Citrus ที่พุ่งออกมาซึ่งจะเป็นที่ค่อนไปทางติดขมแกมเปรี้ยวอ่อนๆ ที่มีความชื้นหน่อยๆ ที่น่าจะมาจากเลมอนเป็นตัวหลัก โดยจะมีความรู้สึกเย็นๆ แบบสร้างบรรยากาศเสียมากกว่า แต่สิ่งที่กลบความเป็นโทน Citrus ไปได้เกือบ 100% เลยคือ หญ้าฝรั่น ที่จะให้โทนออกทางยาที่มีกลิ่นเครื่องเทศติดโทนหนังแกมไม้หอมแปร่งๆ ซึ่งคาดว่าจะมีกลิ่นไม้หอมเนียนๆ รวมอยู่ด้วยในนี้ ซึ่งกลิ่นแปร่งหญ้าฝรั่นที่ให้ความขมแกมหวานเข้าทางยาสมุนไพรจะเป็นผู้เล่นหลักตั้งแต่ช่วงนี้ ให้เสน่ห์ในการเป็นกลิ่นหญ้าฝรั่นได้ดีมากจริงๆ

จนเมื่อเริ่มสัมผัสได้ในเวลาไม่นานว่าเนื้อกลิ่นเริ่มมีความอบอุ่นเพิ่มมากขึ้นตามลำดับและเนื้อกลิ่นมีความหนาอวลมากขึ้นกว่าเดิม จนโทน Citrus ทั้งหลายหายไปจนเกือบจะหมดเหลือเพียงเบาบางมากๆ กลิ่นจะมีลูกผสมของเครื่องเทศที่มีมากขึ้นและให้อารมณ์กึ่งเครื่องเทศแห้งหวานโปร่งของ Anise หรือเมล็ดเทียนสัตตบุษย์ แกมนวลติดมะลิปลายกลิ่น แต่มีความหวานเย้าของกระวานเสริมอยู่ตลอดแบบที่กลิ่นของหญ้าฝรั่นเองก็ยังเป็นตัวเอกอยู่เช่นเดิม ซึ่งต้องยกความดีความชอบในการประสานโทนเครื่องเทศเลยเพราะหญ้าฝรั่นแม้จะโดนเกลากลิ่นลดความแปร่งลงแต่มีความเย้าลึกมีเสน่ห์ดึงดูดสูงมากจากตัวเสริมที่เหลือได้ดีมาก และที่สำคัญเมื่อดมใกล้ผิวจะสัมผัสได้ด้วยว่าเนื้อกลิ่นมีโทนกลิ่นแบบวานิลลาค่อนไปทางอบอุ่นนวลๆ กึ่งแป้งอ่อนๆ เสียด้วย เรียกว่าเป็นการท่ยอยเปิดตัวได้อย่างน่าสนใจและสร้างความหรูหราทางกลิ่นได้ไม่ธรรมดา

การเข้าสู่ช่วงท้ายบทความของหญ้าฝรั่นและพรรคพวกเครื่องเทศจะลดลงไปเป็นตัวเสริมชั้นดีที่สร้างความเย้ายวนให้เนื้อกลิ่นแฝงอยู่ตลอด แต่กลิ่นที่เด่นขึ้นมาจะเป็นวานิลลาแกมกลิ่นกำยาน Benzoin ที่จะให้กลิ่นโทนวานิลลาแบบหวานแหลม แต่จะโดนเกลามาอย่างสมดุยน์ที่ทำให้ได้โทนกลิ่นแบบวานิลลาที่มีต้นหวานปลายอวลอุ่นเป็นพื้นฐานกลิ่นได้ลงตัว พอเสริมด้วยหญ้าฝรั่นที่เย้าดึงดูดยิ่งทำให้กลิ่นมีเสน่ห์ขึ้นมาชัดเจนอีกระดับ แถมยังเสริมด้วยกลิ่นพิมเสนที่ทำให้กลิ่นมีความปร่าระเรื่อหวานเย้าอ่อนๆ และมีระดับสมชื่อว่า Nobile เรียกว่าเป็นโทนกลิ่นที่สร้างความ Addictive หรือว่าล่อลวงให้เข้ามาดมใกล้ๆ เลยก็ย่อมได้  

เหมาะสำหรับ - Unisex เลยที่เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานไม่ว่าจะเพศไหน ช่วงวัยน่าจะมหาลัยขึ้นไป ซึ่งอย่างน้อยถ้าเคยผ่านกลิ่นหญ้าฝรั่นมาบ้างจะอินกับกลิ่นนี้ได้ไวและเข้าถึงได้อย่างฟินๆ ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะเนื้อกลิ่นมีโทนเย้ายวนแบบนิ่งแต่เอาจริงและเอาอยู่สูงมาก เลยอาจจะต้องเลือกสถานการณ์นิดนึงว่าจะแอบปล่อยของได้หรือไม่ร่วมด้วย รวมถึงยามค่ำคืนที่บอกเลยใช้แล้วไม่ผิดหวัง แต่อาจจะไม่ได้กระจายหนักจัดจ้านถ้าเทียบกับกลิ่นแนวเล่นใหญ่นัก แต่บอกเลยถ้าคลุกวงในมีโอกาสสูงมากกับกลิ่นนี้ ส่วนที่ให้ตัดไปได้เลยคือใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายที่อาจจะตีขึ้นจนมึนเอาได้

ความทน - ลงตัวที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และมีไปต่อได้อีกอิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งว่วนตัวเจอไปที่ 12 - 15 ชม. เป็นเรื่องปกติมากในการใช้งาน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ให้ความเป็นหญ้าฝรั่นที่เย็นๆ และมีเสน่ห์แบบโทนยาชัดเจนมาก ก่อนที่จะลดลงมาปานกลางเสถียรกันยาวๆ จนเมื่อแตะชั่วโมงที่ 6 ถึงค่อยๆ เป็นออร่ารอบๆ ตัว แล้วจะติดผิวเมื่อผ่านไปแล้ว 10 ชม.

สรุป - เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ชูโรงความเป็นหญ้าฝรั่นแบบที่ไม่จำเป็นต้องให้ความรู้สึกแบบสายตะวันออกกลางจัดจ้าน แต่เป็นการแบ่งเค้กกันเป็นอย่างดีที่มาเจอกันตรงกลางได้อย่างสมดุลย์และสวยงามทางกลิ่นให้ทั้งความเป็นเครื่องเทศสายเย้า และเป็นสายอบอุ่น Oriental จากวานิลลาได้อย่างพอเหมาะและมีระดับหรูหราสมชื่อกลิ่นมาก อยู่เป็นตัว Top ของแบรนด์ไปยาวๆ เนาะ กลิ่นแบบนี้ไม่ควรเลิกผลิตจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

 

Photo Credit - https://techniqueindiscrete.com/en/fragrance/6-142-eaudeparfum-safran-nobile-uk.html

 

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Review: Technique Indiscrete - Veloutine

Technique Indiscrete - Veloutine 

หลังจากที่เคยผ่านการเล่ากลิ่นรุ่น Paname Paname ที่สื่อสารถึงความเป็นปารีส ที่ให้ความร่วมสมัยแกม Retro กึ่งขนม และกลั้วเย้ากลิ่นดอกไม้ที่สื่อสารถึงผู้หญิงปารีสแนวสตรอง ในการลองครั้งนั้นก็เรียกว่าสร้างความสนใจในเนื้อกลิ่นที่สื่อสารที่อิงขนบน้ำหอมสไตล์ฝรั่งเศส แต่ก็แอบฉีกให้ดูมีความนอกกรอบในการสร้างสรรค์ไม่น้อย เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และการกลับมาเจอน้ำหอมของ Technique Indiscrete อีกครั้ง ก็เจอกับกลิ่นที่มีความน่าสนใจเพราะคราวนี้จะมาเจอและลองกลิ่นอายสายเย้ายวนดึงดูดดูบ้าง เพียงแต่มีความสะดุดอยู่นิดนึงคือที่มาที่ไป มีความเก๋แกมขำดีไม่น้อย เพราะ

มาจากการดูนิยายแนวโรแมนช์ในยุควิคตอเรียนที่เขียนโดย Barbara Cartland ที่สร้างขึ้นมาเป็น Series ของช่อง BBC 1 ที่เอาคาแรคเตอร์ตัวละครผู้หญิงในเรื่องราวเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นน้ำหอม โดยจะเอาความเป็นกุหลาบและดอกไวโอเล็ตมาสื่อสาร ซึ่งชัดเจนว่างานแป้งกุหลาบก็มาแล้ว 1 เลยมาลองหน่อยซิ ว่าผลงานการสร้างสรรค์จะออกมาในลักษณะไหน  

Veloutine เปิดตัวมาก็ให้ความรู้สึกถึงความเป็นโทนแป้งกุหลาบกันเลย เพียงแต่ว่าจะฉาบหน้าด้วยโทนกลิ่นสดชื่นชื้นๆ กึ่ง Aquatic แกมแตงกวาติดเขียวหน่อยๆ ของใบไวโอเล็ต ที่มีกลิ่นโทนอารมณ์เปลือกเบอร์รี่สีแดง (ที่ไม่ใส่สตรอเบอร์รี่) แต่จะแนวๆ กึ่งแครนเบอร์รี่ ที่จะมีกลิ่นติดเปรี้ยวมีลูกเอื้อนปร่าๆ ออก Spicy หน่อยๆ ซึ่งจะมาตัดทอนกันจนโทนเปรี้ยวจะมาแบบจางๆ เลยจะได้ความชื้นๆ กึ่งปร่าให้ความเป็นสตรีเพศแบบวันสะออนแบบซ่อนอารมณ์ลั่นล้าหน่อยๆ ไว้ภายในได้ดี ซึ่งเปิดมาก็มีความเป็นตัวละครหญิงในนิยายสายโรแมนช์ย้อนยุคชุดฟูๆ สไตล์วิคตอเรียนได้เลย (อาจจะเป็นเพราะอ่านที่มาที่ไปก่อนจะเขียนด้วย เลยทำให้เทความรู้สึกและเห็นภาพในลักษณะนี้) แต่ถ้าจะไม่ได้อิงกับความเป็นสไตล์ย้อนยุค ก็ถือว่าเป็นโทนแป้งที่มีความสดชื่นอารมณ์แบบอาบน้ำยามเช้าที่ยังมีความชื้นคลอผิวแล้วทาแป้งหอมกุหลาบอ่อนๆ ทับก็ได้อยู่ ซึ่งถือว่ามีความ Nice และใช้ง่ายแบบมีเสน่ห์ตั้งแต่แรกเลย

การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเลยเมื่อโทนชื้นๆ ของไวโอเล็ตจะเริ่มเบาลง เนื้อกลิ่นจะมีความแห้งขึ้นมาอีกสเต็ป โดยที่ทุกอย่างในช่วงต้นจะผ่อนลงไปอีกสเต็ป ช่วงนี้แหละก็จะชัดเจนในการเป็นโทนแป้งที่มี 2 เลเยอร์ชัดขึ้นมาเลย นั่นก็คือ แป้งหวานโปร่งกึ่งชื้นเบาๆ ของดอกไวโอเล็ต และแป้งที่ติดทึบอ่อนๆ กึ่งแป้งเครื่องสำอางค์บางๆ ของดอกไอริสที่จะทำให้โทนแป้งในช่วงนี้มีเสน่ห์แบบกำลังดี ซึ่งแน่นอนมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ คลออยู่ตลอด ซึ่งตรงนี้กลิ่นจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ค่อนข้างตรงไปตรงมาในการเป็นโทนแป้งที่ติดหวานแกมกลิ่นแบบแป้ง Make up นิดๆ แต่ข้อดีที่รู้สึกได้เลยคือ กลิ่นมีความเป็นธรรมชาติแบบที่โทนนี้ควรจะเป็น ไม่ได้พยายามยัดเยียดให้แป้งจ๋าๆ จัดๆ ใส่ดอกไม้เข้าไปเยอะ ๆแต่ให้ความหอมอวลแป้งอ่อนๆ แกมหวานที่เหมือนจะนิ่งๆ แต่จริงๆ มีเสน่ห์ติดรุ่มรวยแกมเย้ายวนสร้าง Sex Appeal แบบไม่ต้องดูพยายามเน้นที่ความ Nice คือถ้าจะนึกถึง Series ย้อนยุคก็นางเอกของเรื่องที่อารมณ์ชอบพระเอก แต่แสดงออกนอกหน้าไม่ได้ ต้องวางตัวอ่ะค่ะ เน้นส่งสายตาพลางจงใจเข้าใกล้ให้พระเอกประทับใจอะไรประมาณนี้

และช่วงท้ายที่เข้ามาเยือนเมื่อสมควรแก่เวลา โดยที่จะมีตัวแปรสำคัญที่ให้อารมณ์กึ่งจะ Sexy เนียนๆ ในสาย Animalic หน่อยๆ ที่เกลากลิ่นตัดความดิบห่ามออกไปเกือบหมดของโทนหนัง ที่แน่นอนว่าสอดรับกับทั้งโทนแป้งและกุหลาบอ่อนๆ ซึ่งโทนกนังจะกลายเป็นผู้เล่นหลักเลยในช่วงท้ายที่ให้ความเย้ายวนแบบอารมณ์ผิวกายติดแป้งหอมอ่อนๆ มีความนุ่มของ Musk มาตัดทอน และใส่กิมมิคกลิ่นโทนคล้ายโทนกึ่งผลไม้บางๆ กึ่งรูทเบียร์อ่อนๆ ที่มีความเย้ายวนเนียนๆ ลงไปด้วย (ซึ่งน่าจะเป็นตัว Salicylate) ช่วงท้ายเลยจะออกแนวเย้ายวนแบบนิ่งๆ แต่มีจริตในทีเสริมอยู่ตลอด ซึ่งแน่นอนกลิ่นไม่ได้ซับซ้อน แต่มีความรุ่มรวยแกมกรุยกราย กึ่ง Retro เนียนๆ อยู่ตลอดจากโทนแป้งแกมหนังที่ขับความเย้าของผิวกาย ซึ่งชัดเจนกับกลิ่นอายแบบคาแรคเตอร์นางเอกในนวนิยายโรแมนซ์ย้อนยุคแบบอังกฤษที่ไม่หลุด Concept เลย

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว แม้ว่าเนื้อกลิ่นจะมีอารมณ์ Vintage ย้อนยุคอยู่ก็จริง แต่มีแบบเบาๆ สร้างอารมณ์ที่กรุยกรายอ่อนๆ เป็นกิมมิคเสียมากกว่า เลยถือว่าเป็นโทนแป้งแกมสดชื่นที่มีเสน่ห์และให้ความเป็นธรรมชาติที่กำลังดี ไม่ได้ยัดเยียดให้แป้งจ๋าจนดูเป็นคุณนายแต่งหน้าเยอะแบบจงใจมาจากไหน เลยเข้าได้กับการใช้งานในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบเกือบกวาดหมด ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป มีเพียงแค่ที่อาจจะไม่เข้าทางเท่าไหร่ก็ใส่ไปออกกำลังกาย ส่วนค่ำคืนไม่ว่าจะโรแมนติค ทั่วๆ ไป ออกงาน ได้หมด แต่ไม่ควรเลยคือใส่ไปท่องราตรี เพราะโดนกลบหมดแน่นอนจากโทนหวานแน่นทั้งหลาย

ความทน - ลงตัวเกินคาด ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะทนมาก แต่ก็ลากไปถึง 12 ชม. ได้สบายๆ กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ เช่นนั้น 8 ชม. ได้ไม่ยากในหลายๆ สภาพผิว

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น ไม่ได้ดูเล่นใหญ่อะไรมาก มีความกรุ่นๆ อวลๆ เสียมาก และคงตัวพอสมควรไปจนถึงราวๆ 4 ชม. เลยก็ว่าได้ แล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปถึง 8 ชม. ถึงค่อยเป็น Skin Scent ตามลำดับ

สรุป - เป็นกลิ่นแป้งที่ดูเหมือนไม่หวือหวา แต่ให้เนื้อกลิ่นที่พอเหมาะพอเจาะและคาแรคเตอร์กลิ่นที่น่าสนใจมากกับอารมณ์นางเอกสาวใน Series โรแมนติคย้อนยุค ที่ได้ความสดชื่นหอมนวลมีเสน่ห์แบบซ่อนความเนียนเย้าเอาไว้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ทำออกมาได้ลงตัวและเข้าถึงได้ไม่ยากในสไตล์ Niche Perfume ใช้ง่ายได้เลย

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://techniqueindiscrete.com/en/fragrance/2-130-brown-bear-printed-sweater.html

 

วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Review: Technique Indiscrete - Paname Paname

Technique Indiscrete - Paname Paname

ตอนที่ได้ยินชื่อแบรนด์นี้ครั้งแรก เรียกว่ามีความอยากเป็นการส่วนตัวตามประสาคนที่อยากรับรู้กลิ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่นนั้นเลยหาข้อมูลกันเลยเพื่อเตรียมตัวจัดมาลอง ซึ่ง Technique Indiscrete ก่อตั้งขึ้นโดย Perfumer อย่าง Libertin Louison ที่เป็นชาวเบลเยี่ยมเมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นแบรนด์ของตัวเองไปเลย และมีน้ำหอมที่ปล่อยออกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งแน่นอนสาย Niche กันเต็มๆ ซึ่งเมื่อได้มีโอกาสได้ลองรุ่นที่ชื่อ Paname Paname ที่แปลว่า Paris Paris เลยต้องมาบอกเล่ากันหน่อยว่ากลิ่นนี้น่าสนใจมากแค่ไหน 

กลิ่นเปิดมาในวูบแรกกลิ่นโทนซิตรัสของส้มที่นำเด่นจะแว้บมาทักทายก่อน แต่เพียงแค่แว้บเดียวกลิ่นยี่หร่าแขกจะเสริมเข้ามาเร็วมาก กลิ่นจะผสมผสานกันจนได้อารมณ์ของเครื่องเทศที่กลิ่นค่อนไปทางมัสมั่นที่เราจะได้กลิ่นยี่หร่ามาเต็มทำนองนั้น แต่ว่ากลิ่นจะไม่ได้แรงจนกลายเป็นแขกตะวันออกกลางหรืออินเดีย มาสายแบบกำลังดี ออกทางเป็นกลิ่นยี่หร่าที่ไม่หนักมากนักเสียด้วยซ้ำไป ทำให้ได้เสน่ห์ไปอีกแบบและไม่ทำให้ตกใจมากนัก ซึ่งไม่นานกลิ่นอายของความเป็นกลิ่นแอปเปิ้ลที่กลั้วกับความเป็นขนมติดวานิลลาจะเสริมเข้ามาตัดทอนความเป็นยี่หร่าลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ทำให้กลิ่นที่ได้มันมีเสน่ห์แบบความเป็นกลิ่นขนมหวานๆ มีผลไม้เจือๆ มีเครื่องเทศผสมผสานไปในตัวซึ่งในเนื้อกลิ่นแม้จะจับได้ถึงโทนดอกไม้จางๆ จากมะลิเบาๆ แต่มาแบบเสริมให้กลิ่นมีมิตินวลดอกไม้บ้าง ไม่ได้เป็นของกินจัดๆ เกินไป ที่สำคัญจะได้กลิ่นที่ค่อยๆ ปล่อยของเข้ามาทีละนิดของ Oak Moss จนเป็นหนึ่งในกลิ่นที่มาเต็มชัดมาก และนำเข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นจะมีลักษณะของกลิ่นโทนหรูหราติดความเป็น Retro แบบกรุยกรายมีระดับแต่จะไม่ได้มาแบบแน่นหนักหน่วง เพราะในเนื้อกลิ่นจะมีความนุ่มจมูกเคล้าในความเป็นลักษณะแบบเขียวสากของ Oak Moss กลั้วพิมเสนจางๆ กับกลิ่นอายๆ ลึกๆ อุ่นๆ ของแอมเบอร์มันเลยจะออกทางละมุนสมดุลมาก แต่เพราะกลิ่นอายของความเป็นโทนติดขนมเครื่องเทศในช่วงกลางยังตามมาในช่วงนี้ เลยทำให้กลิ่นไม่ได้ออกทาง Old School เกินไป ออกทางร่วมสมัยที่แตะความรู้สึกแบบจะหวานก็ได้ จะเก๋ก็ดี และจะกรุยกรายก็สามารถนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป เรียกว่ากลิ่นนี้สร้างความรู้สึกมีระดับแบบเก๋ๆ ฉีกความรู้สึกแบบที่คิดนอกกรอบ แต่ไม่ทิ้งกรอบเดิมที่ควรจะเป็น เรียกว่าเป็นกลิ่นสาวเก๋ Working Woman แบบมีชั้นเชิงเลยก็ว่าได้ เลยจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วๆ ไป กลางแจ้งพอได้ เพราะกลิ่นมาแบบหรูๆ เสียด้วย เลยจะไม่ปล่อยพลังมากขนาดนั้น แต่ไม่เหมาะกับการใส่เพื่อออกกำลังกายเพราะกลิ่นไม่ได้มาสายนี้ ส่วนยามค่ำคืนถ้าใส่แบบสบายๆ เก๋ๆ หรือออกงาน หรือดินเนอร์กับแฟนถือว่าได้หมด แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรีข้ามจะดีกว่า เพราะมันมีมาดในเนื้อกลิ่นที่ไม่ได้ออกทางจะเน้นเซ็กซี่นัก เน้นมีคลาสและแอบถือตัวประมาณนั้น ส่วนผู้ชายทั้งหลาย เอาจริงๆ ก็ใส่กลิ่นนี้ได้ เพราะกลิ่นมีความเป็น Unisex ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และไม่ได้สาวจ๋าจัดจ้านเกินกว่าเหตุเสียด้วย 

ความทน - อยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. กำลังดีกับ 6 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีกึ่งกลางๆ ในตอนต้น เรียกว่าอาจจะตกใจกับกลิ่นยี่หร่ากันหน่อย แต่แค่ไม่นานก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงกลาง แล้วเปลี่ยนเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย เรียกว่า ไม่ได้มาสายปล่อยพลังรอยทิศ และปล่อยพลังแบบมีระดับที่เดินเข้ามาใกล้ๆ สิ แล้วจะได้กลิ่น 

ทิ้งท้าย - เดิมทีไม่ได้ถึงกับปลื้มกลิ่นยี่หร่าแขกเท่าไหร่ เพราะมันจะนึกถึงกลิ่นตัวแขกที่กินพวกเครื่องเทศแบบนี้เยอะ แต่แปลกที่ตัวนี้ทำออกมาได้ดีและสมดุลแกมนุ่มนวลและ Modern มากกว่าที่คิด แถมแตะความรู้สึกแบบเหมือนอยู่ในขนบ แต่แอบฉีกความรู้สึกออกมานอกกรอบจนเป็นลักษณะผสมผสานได้น่าสนใจมาก ซึ่งถือว่าเป็นอีกแบรนด์ Niche ที่น่าลองในอีกหลายๆ ตัวในอนาคตเลยทีเดียว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - https://fimgs.net/images/perfume/nd.11282.jpg