แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ TokyoMilk แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ TokyoMilk แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: TokyoMilk Parfumerie Curiosite - Bulletproof

TokyoMilk Parfumerie Curiosite - Bulletproof

สิ่งแรกยามที่ได้เห็นขวด คือ “หง่อวววว อย่างเท่ห์” ซึ่งพอเห็นชื่อแบรนด์อย่าง TokyoMilk (ขอเรียกย่อๆ) และรุ่นน้ำหอมอย่าง Bulletproof ที่กันกระสุนกันมาเลย โดยเป็นหนึ่งใน Dark Collection ของแบรนด์ แต่น้ำหอมไม่ใช่สิ่งที่สายมูเตลูจะเอามาป้องกันเป็นเสื้อเกราะอะไรได้ ความน่าสนใจเลยอยู่ที่ว่าจะสร้างสรรค์กลิ่นออกมาอย่างไรได้ตอบโจทย์

เช่นนั้น มาเจอกันหน่อยเลยแล้วกัน

Bulletproof เปิดตัวมาด้วยกลิ่นอายสายอะโรม่าหน่อยๆ ชัดเจนพอสมควร นั่นก็คือ กลิ่นชาดำ ที่จะมีลูกผสมออกทางกลิ่นอายคล้ายโทน Smoky หน่อยๆ แกมกลิ่นโทนสบู่ติดหวานหอมเนียนๆ ครีมมี่อ่อนๆ แทรกตัวอยู่ ซึ่งเมื่อจับต้องกลิ่นเข้าไปใกล้ๆ จะมีกลิ่นไม้ติดโปร่งขรึมกำลังดีมาสายสนับสนุน กลิ่นโดยรวมจะไม่ได้เข้มข้นหนักมาก มีความอะโรม่าติดหวานเนียนๆ แกมดาร์กแบบซีทรูกำลังดีอยู่ตลอด ถือว่าเป็นช่วงเปิดที่ให้ความดาร์กแบบมีชั้นเชิงและชูโรงความเป็นกลิ่นชาที่น่าสนใจมาก

เมื่อกลิ่นเริ่มมีลักษณะเป็นกลิ่นไม้หอมติดขมๆ และมีความเข้มในเนื้อกลิ่นเข้ามามากขึ้นในฟากของโทนไม้หอม ซึ่งเป็นลักษณะกลิ่นของไม้ Ebony ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะเป็นเป็นการแบ่งภาคคนละครึ่งที่กำลังดีระหว่างกลิ่นชาดำที่ยังคงให้โทนอะโรม่าเจือหวานอยู่ แต่จะเริ่มมีโทนครีมมี่ที่มากขึ้นมาอีกสเต็ป โดยที่จะได้อารมณ์กลิ่นออกทางกะทิอ่อนๆ สร้างความครีมมี่ในชาดำขึ้นมาอีกหน่อย เคล้ากับกลิ่นอายสายไม้หอมติดเข้มดาร์กปน Smoky ที่ได้กลิ่นโทนแบบเนื้อไม้สีดำ ทำให้กลายเป็น 2 ประสานโทนดาร์กที่ยังคงคุมโทนกลิ่นที่กำลังดีไม่หนักข้นเกินไป แถมมีวูบกลิ่นอายคล้ายหนังที่เสริมขึ้นมาด้วย เลยทำให้ช่วงนี้อารมณ์กลิ่นจะได้ลักษณะคล้ายกลิ่นเสื้อแจ็คเกตหนังที่ไม่ได้กลิ่นหนัก แต่มีความอะโรม่าของกลิ่นไม้และกลิ่นชาที่คลออยู่อย่างมีเสน่ห์และมีความแมนในเนื้อกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจนพอสมควร ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของโทนกลิ่นหลักในน้ำหอมรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเสน่ห์ของแต่ละโทนมาเจอกันตรงกลางพอดีอย่างมีชั้นเชิงมาก แต่ไม่พอเพราะเนื้อกลิ่นมีโทนหวานคลอความเข้มให้ความรู้สึกเซ็กซี่เย้ายวนแบบดึงดูดเข้ามาร่วมด้วย จนเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควร การปรับเปลี่ยนในการเข้าสู่ช่วงท้ายก็มีความชัดเจนขึ้นในการเป็นกลิ่นอายโทนหนังเนียนๆ เคล้ากลิ่นชาและมีโทนไม้หอมโปร่งๆ ของไม้ซีดาร์มารับช่วงต่อโดยที่กลิ่นไม้ Ebony จะลดทอนลงมาระดับหนึ่งแต่ยังให้อารมณ์ไม้ติดขมๆ โทนออกทางสีดำอยู่แต่ไม่ได้เข้มเท่าช่วงกลาง โดยที่กลิ่นชาจะเหลือเพียงประปราย ให้โทนออกทางครีมมี่เบาๆ ของกะทิกึ่งวานิลลามาคลอกับกลิ่นโทนหนังสร้างเลเยอร์ของกลิ่นที่มีชั้นเชิงพอสมควรระหว่างความเป็นหนังเจือไม้หอมติดควันบางๆ ที่มีความหวานครีมมี่นวลๆ คลอกลิ่นชาดำเบาๆ ในโทนหวานระเรื่ออย่างมีชั้นเชิง มีเสน่ห์และแอบโรแมนติค โดยมีความอบอุ่นมาเป็นแกนหลักในการเดินกลิ่นแบบเนียนๆ กำลังดีไปเรื่อยๆ ปิดท้ายการเป็น Bulletproof กันยาวๆ ไป

เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่า Unisex แต่เนื้อกลิ่นไพล่ไปทางผู้ชายราว 75 - 80% ได้เลยทีเดียว เพราะความเป็นไม้หอมติดดาร์กและมีความ Smoky ที่มาสายเท่ห์ปนหวานประมาณนั้น กลิ่นเลยเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์พอเหมาะ ไม่ว่าจะทั้งทางการและทั่วๆ ไป แบบเสื้อผ้านโทนสีเข้มหรือโทนดำคลาสสิคก็ย่อมได้ หรือถ้าจะใส่กับแจ็คเกตหนังก็จะมีเสน่ห์หล่อเท่ห์เย้ายวนแบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเลยก็เข้าทาง แต่ให้ตัดการใส่เพื่อการออกกำลังกายไปน่าจะดีกว่าหรือว่ารอช่วงท้ายๆ ยังนี้พอไหว ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงาน ใส่ท่องราตรีได้หมด กลิ่นเท่ห์มีเสน่ห์ที่ครอบคลุมทั้งอบอุ่น เย้ายวน น่าค้นหา และดึงดูดได้ไม่ยากเลยล่ะ 

ความทน - กลิ่นทนราว 8 ชม. เป็นสำคัญ แต่จะไปต่อได้หรือไม่ ก็อยู่ที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 - 15 ชม. เป็นประจำกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ คงตัวเสถียรพอสมควรจนถึงราวๆ 6 ชม. ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลงมาที่ออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ จนกลายเป็น Skin Scent อีกทีหลัง 10 ชม. ไปแล้ว

สรุป - พยายามนึกถึงเสื้อกันกระสุนหรืออะไรที่สร้างบาเรียกันกระสุนก็ตาม กลิ่นก็ไม่ได้ชี้ไปทางนั้นเลย แต่ถ้ามองเป็นว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นอายสายชาดำติดครีมมี่นิดๆ กลั้ว Woody ที่มีความดาร์กของกลิ่นหนังแบบไม่โจ่งแจ้งปนหวานระเรื่อเย้าๆ ให้ความกึ่งกลางระหว่างความเท่ห์ เซ็กซี่ และความโรแมนติคเนียนไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี อันนี้สิใช่เลย กลิ่นนี้มีดีและมีเสน่ห์ในตัวสูงมากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://margotelena.com/products/bulletproof-perfume

 

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2564

TokyoMilk Parfumerie Curiosite - Let Them Eat Cake

TokyoMilk Parfumerie Curiosite - Let Them Eat Cake

เห็นชื่อรุ่นครั้งแรกถึงกลับต้องคิดตามเลยว่ากลิ่นมันต้องเค้กจ๋าๆ เป็นขนมเค้กเดินได้แน่ๆ ที่สำคัญกลิ่นนี้ถือว่าได้รับคำชมเป็นลำดับต้นๆ ของแบรนด์นี้เสียด้วย เช่นนั้นจะพลาดได้อย่างไรที่จะหาน้ำหอมรุ่นนี้ของแบรนด์ TokyoMilk มาลองซะหน่อย เผื่อถ้าโชคดีมีอากาศเย็นๆ หลั่งไหลเข้ามาเราจะได้เป็นขนมเค้กที่ใครๆ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกน่ากินขึ้นมาอีกสเต็ป

และเมื่อได้มาแล้วซึมซับกลิ่นจนหนำใจแล้ว ก็ขอถ่ายทอดกลิ่นการเป็น Let Them Eat Cake ได้แบบนี้เลย

เปิดต้นกลิ่นมาความหอมหวานติดครีมมี่จะฟุ้งออกมาก่อนเลย แต่แปลก ไม่ได้หนักหน่วงมากจนกลายเป็นโทนหวานเลี่ยนแต่อย่างใด แต่จะออกทางครีมมี่มากกว่า ซึ่งอารมณ์กลิ่นจะเป็นแบบครีมวานิลลากึ่งกะทิอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกหอมมันอารมณ์แนวเลเยอร์เค้กครีมวานิลลามะพร้าวอะไรประมาณนี้ ซึ่งแน่นอนเป็นกลิ่นที่สร้างความพึงพอใจในการรับรู้ตั้งแต่ต้นได้เลยสำหรับคนที่ชอบกลิ่นออกทางขนม แต่ไม่ต้องการความหวานเลี่ยนจัดๆ อารมณ์แบบกลิ่นลอยมาเย้าๆ ให้ชวนพริ้ม (แกมหิวอยากกินเค้ก) มากกว่าที่จะตะบี้ตะบันยัดเยียดความเป็นเค้กให้ผู้ใช้

ซึ่งเนื้อกลิ่นจะไม่ได้ถึงกับเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ ออกทางเป็นเค้กครีมวานิลลามะพร้าวกันยาวๆ ไปแหละ เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงจะมีแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเป็นการผ่อนกลิ่นลงให้มาให้มีความสมดุลย์และเป็นธรรมชาติของกลิ่นเค้กที่ลอยมาเสียมาก ซึ่งในช่วงกลางอารมณ์กลิ่นโทนวานิลลาจะผ่อนลงมาหน่อยแต่ให้ความเป็นครีมมะพร้าวจะเด่นกว่าขึ้นมาอีกระดับ ทำให้จากเลเยอร์เดิมที่ได้รับกลิ่นคือ ครีมวานิลลามะพร้าว → กลายเป็นครีมมะพร้าววานิลลา ประมาณนี้ ซึ่งจะมีความหวานหอมออกทางน้ำตาลอ่อนๆ คลอแบบเรื่อยๆ ไม่ได้สาดความหวานข้นเข้ามาจนจุกคอหอยแต่อย่างใด กลิ่นจะให้ความระเรื่อหอมครีมปนหวานน้อยกำลังดี และมีเลเยอร์กลิ่นที่เป็นกลิ่นเนื้อเค้กที่เข้าทางสปันจ์เค้กที่ผสมมะพร้าวนวลๆ เข้าไปด้วย เลยทำให้กลิ่นมีความสมดุลย์ไม่หนัก และสร้างความรื่นรมย์ในความเป็นโทน Gourmand มากกว่าหนักข้นปล่อยพลังแน่นหนา

การเปลี่ยนแปลงก็ยังมีอยู่แต่เปลี่ยนเนียนๆ เพราะหัวใจหลักของกลิ่นยังคงเป็นกลิ่นเค้กมะพร้าววานิลลาอยู่ แต่จะมีความเบาลงมาอีกสเต็ป โดยจะมีกลิ่นนุ่มๆ ของ Musk เข้ามาร่วมด้วยพร้อมกับโทนแป้งที่ให้ความละมุนๆ ผ่อนคลายกำลังดี ที่สอดรับกับโทนมะพร้าวและวานิลลาที่ยังมีอยู่ อารมณ์กลิ่นจะได้ลักษณะแบบเนื้อแป้งเค้กที่นวลๆ ละมุนๆ หวานหอมกำลังดี มีกลิ่นครีมอ่อนๆ คลออยู่บางๆ ปลายกลิ่น ซึ่งอารมณ์แบบเหมือนเค้กคำสุดท้ายที่เป็นเนื้อเค้กเพียวๆ ซึมซับเอาสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของเค้กเข้าไป ถือเป็นการปิดท้ายความรื่นรมย์ทางกลิ่นที่ให้ความเป็นเค้กมะพร้าววานิลลาที่มีความหอมอบอวลและอบอุ่นแบบกำลังดีทิ้งค้างในความรู้สึกได้อย่างลงตัวมากจริงๆ   

เหมาะสำหรับ - แบรนด์ลงไว้ว่า Unisex ซึ่งใช่เลย เพียงแต่จะไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่าราว 70% แต่ก็อย่าได้แคร์ เพราะกลิ่นขนมแบบไม่หนักแบบนี้ผู้ชายใส่ได้สบายมากและใส่เถอะกลิ่นจะทำให้พึงใจทั้งตัวเองและคนอื่นรอบตัวที่รับรู้ได้ไม่ยากเสียด้วยซ้ำ ซึ่งสามารถใช้งานได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไป ใส่ทำงาน Office ได้ ใส่สบายๆ ผ่อนคลายก็ได้ แต่อาจจะไม่เข้าทางการใส่ยามทางการหรือออกกำลังกายนัก ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยใส่ตัวนี้ออกงาน ปาร์ตี้ หรือโรแมนติคอันนี้ได้ความหอมเย้าได้ดีไม่พอ ยังมีความอบอุ่นแบบที่กำลังดีและมีเสน่ห์อีกด้วย แต่ถ้าเอาไปใส่เพื่อท่องราตรีต้องอัดสเปรย์หน่อย หรือเน้นการคลุกวงในจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลังและหนักหน่วงมากนัก

ความทน - กลิ่นทนได้น่าสนใจมากราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะมีบวกลบบ้าง แต่ก็ถือว่าตรงตามค่าเฉลี่ยความทนที่พอดีๆ เลยล่ะ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ส่งต่อความครีมมี่ที่หอมน่ากินก่อนจะลดลงมาปานกลางซักพัก จนเมื่อผ่านไป 3 - 4 ชม. ถึงจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยอย่างมีเสน่ห์ ก่อนจะติดผิวในช่วงราวๆ 6 - 8 ชม. เป็นต้นไปแล้วค่อยๆ จางไปตามเวลา 

สรุป - ใช่เลยนี่คือกลิ่นเค้กจริงๆ มาเป็นเลเยอร์เลยจากหน้าเค้ก สู่ชั้นครีมสลับเนื้อเค้ก และปิดท้ายที่เนื้อเค้กเพียวๆ แต่ไม่ใช่การยัดเยียดในการเป็นขนมเค้กเดินได้ให้กับผู้ใช้แต่อย่างใด แต่ให้อารมณ์แบบที่เราเห็นเค้กวานิลลาหอมๆ อยู่ตรงหน้า แล้วเค้กส่งกลิ่นเชิญชวนเราอย่างเป็นธรรมชาติกำลังดีเรื่อยๆ จนเราโดนตกขอซักคำแล้วกัน แต่ท้ายที่สุดคือหมดไป 2 ชิ้น เพราะมันอร่อย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าทำกลิ่นออกมาได้สมชื่อว่าำ Let Them Eat Cake จริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://margotelena.com/products/let-them-eat-cake-parfum-boxed

 

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Review: TokyoMilk Parfumarie Curiosite - Arsenic

TokyoMilk Parfumarie Curiosite - Arsenic

จุดแรกเริ่มของการเป็น TokyoMilk ก็เป็นการต่อยอดของสุคนธกรอย่าง Margot Elena ที่จริงๆ มีแบรนด์ทั้งน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ต่างสไตล์ตามรูปแบบของแต่ละแบรนด์ซึ่งก็ว่ากันไปตาม Concept อยู่แล้ว แต่เมื่อร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา จึงเพิ่มเติมด้วยการขยับขยายสาย Niche โดยการสร้างกลิ่นอายสไตล์เก๋ไก๋และไม่ธรรมดากับเขาบ้างจนออกมาเป็น Tok
yoMilk ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่น่าสนใจมากในทุกวันนี้ เช่นนั้นได้โอกาสลองตัวแรกของแบรนด์นี้ เลยต้องมาบอกเล่ากลิ่นกันเสียหน่อยว่าจะมาสายแปลกเก๋มากน้อยแค่ไหน 

Arsenic เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่รวมอยู่ใน Dark Collection ของแบรนด์ ซึ่งแค่ชื่อก็ถึงกับอุทานออกมาว่า เอากันแบบนี้เลยหรือ -สารหนู- เลยนะและกลิ่นเองก็ตอบโจทย์ความดาร์กแบบมีความร้ายอยู่ข้างในไม่เหมือนใครได้ครบถ้วนมากเสียด้วย เปิดตัวกันเต็มๆ ในช่วงต้นด้วยกลิ่นอายลักษณะแบบมะรุมมะตุ้มรุมความคม เขียว บาด แปลก เมทัลลิค แปร่ง ขื่น นวล ขม เมาเบื่อแบบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แรงๆ และมีความเป็นกลิ่นอายคล้ายสารเคมีกันอย่างชัดเจน สามารถทำเอาผงะได้เลยเพียงแค่ในสเปรย์แรก แต่สิ่งที่มันเร้าใจคือ กลิ่นอายแบบนี้ไม่ได้มีในน้ำหอมปกติทั่วไปนัก มันกระทำความอาร์ตที่แตกต่างมากเลยทีเดียว แล้วสิ่งที่จับต้องได้คือโทนกลิ่นที่ออกทางเขียวปนขื่นเมาๆ ซึ่งน่าจะมาจากตัว Wormwood หรือ Artemisia ในชื่อไทยเรียกว่า โกฐจุฬาลัมพาที่กลิ่นจะออกทางเขียวขมติดขื่นแปร่ง ที่มักจะเอามาหมักเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เรียกว่าAbsinthe กลิ่นเลยจะค่อนข้างพุ่งและคมพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งในความพุ่งจะมีโทนกลิ่นออกทางสมุนไพรเขียวๆ กึ่งสดกึ่งปร่าๆ ติด Spicy บาดๆ ปนเมทัลลิคผสมผสานเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นเหมือนโทนกลิ่นที่เป็นศูนย์กลางหลักให้จับต้องได้ไปตลอดท่ามกลางความรู้สึกมะรุมมะตุ้มออกทางกึ่งกลิ่นสารเคมีที่ติดเขียว จนเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางความผสมปนเปในช่วงต้นเริ่อมลดทอนลงไปใมห้ความเขียวแบบติดเฝื่อนสมุนไพรปนเครื่องเทศหวานเผ็ดโปร่งเริ่มจะเป็นตัวนำอย่างแท้จริง ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นของ Wormwood ยังคงเด่นเป็นสง่าอยู่เพียงแต่จะลดทอนความคมลงมาผสมผสานกับกลิ่นออกทางวานิลลาติดเค็มๆ ในเนื้อกลิ่น เพราะจับได้ว่ามีกลิ่นเค็มๆ ออกทางเกลือผสมผสานอยู่ จนได้อารมณ์ลักษณะแบบกลิ่นนวลๆ วานิลลาที่มีความเขียวขมแห้งๆ ปนเค็มรองพื้น แต่มีความเขียวติดเผ็ดปร่าลอยอ้อยอิ่งล้อมไปตลอด แบบกลิ่นที่แปลกแต่เก๋และมีพลัง มีโทนดาร์กออกทางสีเขียวเข้มจัดแล้วซ่อนพิษที่กลิ่นออกทางสารเคมีหน่อยๆ กำลังดีเสียด้วย จนได้เวลาของช่วงท้ายที่ความเขียวคมๆ เริ่มผันมาเป็นลักษณะของกลิ่นออกทางเขียวสมุนไพรขมๆ แห้งๆ ให้วานิลลาเด่นขึ้นมาแต่บอกเลยว่า ไม่มีความหวานในเนื้อกลิ่นมีความเป็นโทนออกทางไม้หอมเข้มดาร์กหน่อยๆ แฝงอยู่ให้รู้สึกได้ และกลิ่นเค็มๆ ของเกลือยังมีอยู่ให้รู้สึก เลยทำให้กลิ่นในช่วงนี้เป็นวานิลลาที่ออกทางขมๆ ติดเขียวเข้มแห้งๆ กลั้วไม้หอมโปร่งแต่เข้ม สร้างออร่าความดาร์กแบบชัดเจนแบบที่ไม่เหมือนใครและคุมโทนได้ดีในความแปลกเก๋ตั้งแต่ต้นยันจบจริงๆ 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นมันมีความกลางๆ แบบที่ไม่ว่าเพศไหนก็ใช้ได้ เพียงแต่อาจจะต้องผ่านน้ำหอม Niche หรือโทนเขียวสมุนไพรสไตล์ขมติดขื่นของ Absinthe หรือว่า Wormwood มาบ้าง จะเข้าใจและจับต้องกลิ่นนี้ได้ง่ายขึ้นมากกว่าจะตกใจว่าฉันใส่ไบก้อนหรือชิลด์ท้อกซ์มาหรือเปล่า เพราะชื่อและขวดมันบิลด์ เอาจริงๆ กลิ่นก็ไม่ได้ไปสายยาฆ่าแมลงอะไรนัก เพียงแค่มีวูบแบบสารเคมีมารับรู้เท่านั้นเอง ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ทั้งยามกลางวันและกลางคืนแบบเลือกใส่หน่อย รวมถึงจำนวนสเปรย์เหมาะสมด้วยจะเป็นเรื่องดี ให้ตัดการใส่ในยามทางการไปได้เลย เพราะกลิ่นมันค่อนข้างเฉพาะ แต่ใส่แบบทั่วๆ ไปสร้างออร่าความดาร์กปนร้ายนิ่งได้ดีมาก (ชอบเป็นการส่วนตัวออร่าแบบนี้ 55555) หรือถ้าจะใส่ไปเที่ยวกลางคืนแบบเอาให้แตกต่างแบบสุดๆ เพื่อความเก๋ของตัวเองก็ได้นะ 

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 6 - 8 ชม. อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ส่วนตัวใช้ไป 5 สเปรย์ กลิ่นทนไปได้ถึง 8 ชม.

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น เรียกว่ามีความอึ้งกันได้ แล้วค่อยๆ ผ่อนลงมากระจายปานกลาง ปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นไปซัก 4 - 6 ชม. แล้ว จะเป็น Skin Scent ชัดเจน 

ทิ้งท้าย - กระทำความอาร์ตอย่างชัดเจนมาก และมีความเป็น Niche Perfumerie ที่ชัดเจน แปลก เก๋ และไม่เหมือนใคร ที่สำคัญกลิ่นนี้ได้ความรู้สึกร้ายนิ่งติดดาร์กไหลลึกได้น่าสนใจมากจริงๆ ปรบมือให้ ณ จุดนี้ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit -