แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Fresh แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Fresh แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Review: Fresh - Fig Apricot

Fresh - Fig Apricot

เพราะไม่เคยหนีจากกลิ่น Fig (มะเดื่อฝรั่ง) ไปไหนได้ง่ายๆ เวลาเจอน้ำหอมกลิ่นไหนที่มีชื่อว่า Fig อยู่ในนั้นหรือมี Note ของ Fig ไม่ว่าจะมาทั้งลูก กิ่งก้าน ใบ หรือมาแบบเป็นต้นมาเลย ก็เรียกว่าจะโดนตกอยู่ร่ำไป เพราะหลงเสน่ห์กลิ่นเขียวเข้มทึบที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและแน่นอนกลิ่นไม่ค่อยเหมือนใคร ซึ่งก็เรียกว่าเก็บกลิ่น Fig มาเพียบจนเมื่อได้มาเจอกับแบรนด์ Fresh ที่เดิมทีสนใจแต่กลิ่นสาย Sugar หรือว่าตัวเด่นของแบรนด์อย่าง Cannabis Santal แล้วเห็นว่ามีกลิ่น Fig กับเขาด้วย เอาล่ะสิ ดมแว้บเดียวก็โดนตก จัดมาในทันทีแบบที่ BA ถึงกับยิ้มเลยทีเดียวว่าไม่ต้องบิลด์อะไรมาก

เช่นนั้นเมื่อซึบซับกลิ่นนี้จนได้ที่ ก็มาขยายความกันหน่อยว่าความเป็น Fig ของ Fresh จะเป็นลักษณะไหนกันบ้างกับรุ่นนี้ Fig Apricot

เปิดต้นกลิ่นมาแบบที่ทำเอาทึ่งไปเลย เพราะ Fresh นำเสนอกลิ่นอายที่เป็นโทน Fruity ผลไม้ของพีชและแอปริคอตออกมาแบบที่เป็นธรรมชาติเป็นลูกสุกๆ ที่ไม่ได้ปอกเปลือก ทำให้จะได้กลิ่นสุกติดหวานหอมอ่อนๆ เคล้ากลิ่นเปลือกผลที่ฟุ้งออกมาแบบกำลังดี และต้องยกความดีงามให้กลิ่นเขียวใบ Fig ที่เปิดตัวเป็นสายสนับสนุนให้ช่วงต้นของกลิ่นมีความธรรมชาติมาก อารมณ์แบบยืนในดงกลิ่นแอปริคอตและพีชที่สุกคาต้น เคล้ากลิ่นใบไม้เขียวๆ ซึ่งเลเยอร์กลิ่นจะไม่ได้ซับซ้อนมาก แต่ก็แยกได้ชัดเจนเลยว่า นี่คือกลิ่นอมหวานหอมของพีช และนี่คือกลิ่นติดครีมมี่เปรี้ยวอมหวานของแอปริคอต ที่จะมีกลิ่นเขียวขมเข้มใบ Fig เสริมอยู่ แกมมีความเปรี้ยวฉ่ำหน่อยๆ เบาๆ สดชื่นที่น่าจะมาจากลิ้นจี่ปลายกลิ่น เรียกว่าเปิดมาก็สร้างโทนผลไม้ที่เป็นธรรมชาติเกินคาด

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นในการเข้าสู่ช่วงกลางจะสลับโทนกันแล้ว เพราะคราวนี้จะเป็นความเขียวขมเข้มทึบของใบ Fig ที่จะเป็นตัวเด่น ความเขียวเข้มนี่แหละมาชัดมาเต็มเลย แต่ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วงเน่นเกินไปนัก เพราะกลิ่นโทนออกทาง Milky หรือ Lactonic ที่มาจากพื้นเพของ Fig เองและมาจากแอปริคอตจะมาตัดทอนให้กลิ่นมีความนวลๆ ครีมมี่เคล้าคลอความเขียวได้อย่างลงตัว ไม่ใช่แค่นั้น กลิ่นยังมีกลิ่นโทนเขียวติดเปรี้ยวหอมที่มีลูกผสมของ Citrus และกลิ่นเขียวๆ ของกิ่งก้านส้มที่มาเสริททำให้มิติของกลิ่นไม่ได้เขียวเข้ม Fig จัดจ้านเกินไป รวมถึงกลิ่นโทนผลไม้ในช่วงต้นที่ลดระดับตัวเองมาสร้างอารมณ์สดใสเบาๆ เสริมอยู่ด้วย กลิ่นเลยอะโรม่ากันเต็มๆ แบบที่ได้ทั้งเขียวทึบเข้ม แต่มีความครีมมี่ Milky เจือหวานอ่อนๆ ของผลไม้ โดยในช่วงนี้ชัดเจนมากเพราะว่าทั้ง Fig และแอปริคอตต่างๆก็เป็นตัวเล่นหลักที่ส่งเสริมกันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

จนเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควรแก่เวลา การเข้าสู่ช่วงท้ายโทนผลไม้จะหายไปหมดแล้วเหลือเพียงโทนเขียวใบ Fig และกิ่งก้านส้มหน่อยๆ ที่ยังอยู่ แต่จะเบาลงมาพอสมควร แต่มีความเขียวที่เป็นมิติอะโรม่ารื่นรมย์จมูกใสๆ เข้ามาเพิ่มอย่างชาเขียว ที่มาลดทอนความขมเข้มลงให้รื่นจมูกมากขึ้น รวมถึงมีกลิ่นออกทางลมทะเลติดเค็มอ่อนๆ อารมณ์ Sea Breeze นะแต่มีความเค็มอ่อนๆ ที่สร้างความเป็นธรรมชาติอยู่ด้วยอารมณ์แบบมาเบาๆ ทำให้ได้มิติเขียวที่เป็นสภาพบรรยากาศอารมณ์แบบสวนมะเดื่อไม่ไกลจากทะเลมากนัก และพอดมเข้าไปใกล้ผิวจะจับได้เพิ่มอีกถึงโทนนุ่มๆ สะอาดของ Musk ที่เป็นตัวรองพื้นปลายกลิ่นแกมกลิ่นออกทางไม้หอมโปร่งๆ ซึ่งน่าจะมาจากสารหอมอย่าง ISO E Super ที่ให้โทนกึ่งไม้ซีดาร์โปร่งๆ เนียนๆ ในกลิ่นอยู่ด้วย กลิ่นจะสร้างอารมณ์แบบเขียวอะโรม่าหลากมิติแต่นำทีมโดยใบ Fig ที่มาแบบสบายๆ คลอผิวกายสร้างออร่ากลิ่นเป็นธรรมชาติและรื่นรมย์ได้ลงตัวและพอเหมาะ แล้วจะค่อยๆ จางไปในที่สุด

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน ได้หมดทุกเพศถ้าต้องการความเขียวและความสดชื่นในลักษณะที่เอาเขียวเข้าสู้และไม่เหมือนใครนักในท้องตลาด ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไปและกิจกรรมกลางแจ้งสบายๆ แต่ถ้าเอาไปใส่ทางการอาจจะแปลกๆ หน่อยๆ เพราะกลิ่นมันเขียวมาเลยอาจจะไม่เข้ากับลุคทางการที่จะสื่อ (แต่ถ้าใส่ไปทำงาน Office อันนี้ได้อยู่) และแม้ว่ากลิ่นจะเข้ากับกลิ่นเหงื่อ ที่ตอบโจทย์การออกกำลังกายอยู่บ้าง แต่มันเขียวน่ะ เกรงว่าพอมาเจอเหงื่อแล้วฟุ้งกระจายออกมาคนจะทักเอาว่าเหม็นเขียวเอาแทนจะหอม เลยให้ข้ามไปน่าจะดีว่า ส่วนยามค่ำคืนเน้นชิลล์ๆ เถอะลงตัวที่สุดแล้ว   

ความทน - ราวๆ 6 - 8 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะไปต่อได้อีกก็ว่ากันตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. พอดีๆ ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหนก็ตาม

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางซักพักราวๆ 4 ชม. ก่อนจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ จนเป็น Skin Scent เอาตอนราวๆ 6 - 8 ชม. ไปแล้ว

สรุป - ต้องยกให้เลยว่ากลิ่นนี้นำเสนอความเป็น Fig และแอปริคอตได้แบบชัดเจนและเป็นธรรมชาติมาก โดยที่ไม่ได้พยายามน้ำเสนอกลิ่นสาย Fruity แบบเค้นเอาความเป็นไซรัปผลไม้หวาน แต่เอาความเป็นธรรมชาติแบบผลสุกที่เราได้กลิ่นอ่อนๆ ทะลุเปลือกออกมาเคล้ากับกลิ่นเขียวใบ Fig ที่ตรงไปตรงมาและชัดเจน เสียดายมากจริงๆ ที่ทุกวันนี้กลิ่นนี้เลิกผลิตไปแล้ว เก็บที่มีไว้แน่นเลยงานนี้

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.pinterest.co.uk/pin/442760207108462394/

 

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

Review: Fresh - Cannabis Santal


Fresh - Cannabis Santal

ห่างหายจากแบรนด์เครื่องสำอางค์อันโด่งดังอย่าง Fresh ที่สร้างความฟินกับผู้ใช้มานักต่อนัก หลังจากเล่ากลิ่นความหอมหวานโปร่งในรุ่น Brown Sugar เมื่อนานมากมาแล้ว ก็ได้เวลากลับมาซึมซับความหอมกันต่อ ซึ่งในครั้งนี้ก็ขอมากับตัว Top ที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ มาเสมอและเป็นน้ำหอมชายหนึ่งเดียวของแบรนด์กันซะหน่อยว่าจะเป็นอย่างไร กับรุ่นนี้ Cannabis Santal

เปิดต้นกลิ่นมาก็ทำเอาตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะ สิ่งที่มาทักทายกันก่อนเลยคือ กลิ่นอายโทนผลไม้ที่ให้ความรู้สึกดาร์กปนเย้าลึกอย่างลูกพลัมที่มีติดโทนเปรี้ยวปนขมปร่าแบบมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) และปลายกลิ่นจะติดส้มเบาๆ ให้พอรู้สึกได้ ตามมาติดๆ ด้วย กลิ่นพิมเสนที่เกลามาแบบไม่ดิบสมุนไพรยาจีนและไม่สากคมเกินไป รวมถึงไม่ได้ดูหวานสะอาดระเรื่อแบบใสๆ ด้วย ซึ่งกลิ่นจะมีความกึ่งกลางที่สมดุลย์กำลังดี มีความแมนกึ่งเย้ายวนที่ลงตัวมาก และจะมีพื้นกลิ่นที่ดมใกล้ๆ ผิวแล้วจะรู้สึกถึงกลิ่นออกทางชอคโกแลตปนไม้หอมที่ซ้อนเป็นเลเยอร์ล่างสุดให้ดูน่าค้นหาเข้ามาอีกสเต็ป ทำให้ช่วงต้นเรียกว่ามิติกลิ่นมีความน่าสนใจมากเลยทีเดียวกับความสมดุลย์ที่ไล่เรียงโทนกลิ่นส่งต่อรับช่วงกันอย่างดีไม่พอ ยังเป็นผสมผสานกันได้ลงตัวมาในความเป็นโทนดึงดูดและน่าค้นหากันตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว ที่สำคัญกลิ่นนี้สร้างความคุ้นเคยและตะหงิดๆ ว่ามีความคล้ายอะไรซักอย่าง จนมาถึงบางอ้อเมื่อเปลี่ยนช่วงกลิ่นในไม่นานต่อมา

ช่วงกลางนี่แหละ ใช่เลย ลักษณะโทนกลิ่นที่เด่นกับความเป็นพิมเสน มีความเป็นโทนผลไม้เย้ากึ่ง Citrus ปลายกลิ่น และมีโทนชอคโกแลตเข้มที่เริ่มชัดมากขึ้น นี่แหละลักษณะโทนกลิ่นใกล้เคียงกับ Sex in the Bottle หรือ Sexy ฝ่ายชายเรียกพ่อ อย่าง Mugler - A*Men ไม่น้อย เพียงแต่สิ่งที่มาฉีกโทนออกไป ไม่ได้ทำให้กลิ่นนี้ดูจงใจเซ็กซี่เกินกว่าเหตุ แต่ยังคุมโทนที่นิ่งได้อยู่ โดยที่มีความเย้ายวนเนียนๆ ไปตลอดนั่นคือ หญ้าแฝกและไม้จันทน์หอม ที่มาแบบโทนไม้หอมแห้งกึ่งนวลสอดรับกับกลิ่นดาร์กชอคโกแลตทำให้กลิ่นมีความนิ่งและมีมาดแบบผู้ชายแมนๆ มีเสน่ห์น่าค้นหามากกว่าจะชวนมากินให้หมดทั้งตัว รวมถึงการมีกลิ่นออกทางติดเปรี้ยวเขียวติดขื่น Dirty บางๆ เนียนๆ ที่เป็นกลิ่นลักษณะของ Cannabis หรือโทนแบบกัญชาอ่อนๆ ทำให้กลิ่นนี้ได้อารมณ์ที่ Contrast อย่างมีเสน่ห์ เพราะจะได้ความเท่ห์อย่างมีชั้นเชิงที่มีความ Dirty เซ็กซี่เนียนๆ โดยที่ไม่ออกทางหวานฉ่ำเกินไป เลยทำให้เส้นทางการเดินของกลิ่นจะไม่ได้ไปบรรจบที่การเป็นตัวเหมือนหรือตัวคล้าย เพราะมีเอกเทศและอารมณ์กลิ่นที่คุมโทนความมีเสน่ห์แบบผู้ชายนิ่งๆ แต่ดู Nice ปนน่าค้นหาเสียมาก และเมื่อกลิ่นเริ่มมีความอบอุ่นเข้ามาให้รู้สึกได้ตามลำดับ ก็จะเป็นการเปลี่ยนโทนในการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่ตอนนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงที่ทำกลิ่นได้อย่างลงตัวมากกับการให้ลักษณะโทนกลิ่นแบบผู้ชายอบอุ่นและน่าค้นหา ซึ่งจะเป็นการเล่นโทนดาร์กน่าค้นหาที่ยังมีความเป็นดาร์กชอคโกแลตเคล้ากลิ่นโทน Cannabis เบาๆ ที่เป็นเลเยอร์บนสุดให้จับต้องได้ กับโทนสว่างนวลของกลิ่นโทนวานิลลาที่ไม่ขนม แต่ให้ความอบอุ่นกำลังดีตีคู่กับไม้จันทน์หอมและ Musk ที่ให้ความนวลกึ่งไม้กึ่งนุ่ม เลยทำให้อารมณ์กลิ่นจะไล่โทนได้อย่างลงตัวมากจากดึงดูดน่าค้นหาสู่นวลนิ่งวางตัวดี ซึ่งแน่นอน ความมีเสน่ห์ของกลิ่นจากกลิ่นพิมเสนที่เป็นตัวสร้างความระเรื่อประปรายยังคงมีอยู่แบบกำลังดีไปตลอด สร้างลักษณะทางกายภาพของผู้ใส่ได้เลยว่าเป็นผู้ชายที่วางตัวดีแต่ก็มีเสน่ห์น่าค้นหาในเวลาเดียวกันชัดเจนมากจริงๆ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ตัวนี้ได้ เพียงแต่อย่างน้อยต้องผ่านน้ำหอมโทนพิมเสนและไม้หอมมาบ้าง หรือถ้าเคยผ่าน A*Men มาก่อนบอกเลยว่าตัวนี้ใช้ได้สบายมาก ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป เพียงแต่จะไม่ค่อยเข้ากับการใส่แบบกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายนัก เพราะกลิ่นอาจจะตีขึ้นจนจุกเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนถ้าเน้นสายโรแมนติคหรือว่าออกงาน บอกเลยว่าดีงาม รวมถึงการใช้เพื่อท่องราตรีก็ลงตัวได้อยู่ อาจจะไม่ได้ยั่วเย้าโจ่งแจ้ง แต่ก็สร้างออร่าผู้ชายมีเสน่ห์น่าค้นหาได้ดีเลยทีเดียว

ความทน - งดงาม เพราะ 8 ชม. คือ พื้นฐานของกลิ่นนี้ และไปได้มากกว่านั้นได้สบายมาก ซึ่งสูงสุดที่เคยเจอคือ 15 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นอยู่ให้รับรู้ได้ กับการใช้งานที่ 5 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางมีเสน่ห์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายที่จะคงตัวกันยาวพอสมควร พอพ้นซัก 8 ชม. แล้วถึงค่อยๆ เป็น Skin Scent

สรุป - ถ้าจะพยายามจับลงเทียบความคล้ายให้ได้ ก็บอกได้อยู่ว่า Cannabis Santal คือ A*Men ภาคสุภาพบุรุษอบอุ่นที่ยังคุมโทนมีเสน่ห์น่าค้นหาแบบที่ไม่ได้จงใจให้ไปในสายยั่วยวนและหวานจัด แต่ถ้ามองกันแบบความเป็นเอกเทศ กลิ่นนี้สร้างลักษณะของผู้ชายที่มีเสน่ห์และมีมิติที่ดึงดูดและสร้างความประทับใจไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้จงใจในเรื่องยั่วเยได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดและมีดีในตัวสูงมาก อันนี้ยอมในความสมดุลย์อย่างยอดเยี่ยมเลย

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”

Photo Credithttps://www.fresh.com/th/cannabis-santal-eau-de-parfum-H00001050.html


วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Review: Fresh - Brown Sugar


Fresh - Brown Sugar 

หนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอางค์ต้นกำเนิดมาจาก USA ซึ่งโด่งดังในเรื่องสบู่มาก่อนครับ จนได้มีการแตกไลน์มามีเครื่องสำอางค์อื่นๆ ที่มาจากส่วนผสมธรรมชาติ จนถึงการมีน้ำหอม ซึ่งกลิ่นน่าสนใจมากเลยทีเดียว ไหนได้มีโอกาสใช้งานก็ขอจัดรีวิวซะเลยกับรุ่น Brown Sugar ครับ 

ต้องกวักมือเรียกกันเลยทีเดียวว่าใครที่อยากได้น้ำหอมโทนเปรี้ยวอมหวาน เคล้าคลอกันไปมาตลอดเวลาโดยกลิ่นออกทางสดใสไม่หนักหน่วงแต่ประการใด ต้องได้มีโอกาสลองดมรุ่นนี้ล่ะครับ เพราะ Top Notes เปิดต้นกลิ่นแบบโทนซิตรัสแบบคมๆ อย่างกับน้ำ Lemonade ผสมน้ำส้ม กลิ่นจะออกทางซ่าๆ นิดๆ เปรี้ยวๆ สดชื่นมากมาย โดยจะจับได้ถึงโทนหวานที่แทรกอยู่ด้วยตลอด จนเมื่อเข้าช่วง Middle Notes โทนหวานที่ว่าจะมาชัดเลยคือกลิ่นของน้ำตาลทราย ซึ่งจะมีโทนดอกไม้กลั้วผลไม้หวานๆ จางๆ ไปตลอด โดยกลิ่นซิตรัสตอนต้นก็ยังมีอยู่ผสมผสานกันจนเป็นหวานอมเปรี้ยวนแบบโปร่งๆ สบายๆ ซึ่งกลิ่นหอมใสลงตัวมาก และปิดท้ายที่ Base Notes กลิ่นของคาราเมลจะมารับช่วงต่อความหวาน แต่ไม่ได้มาแบบหนักหน่วงหวานเยิ้ม โดยจะมาแบบไลท์เวอร์ชั่นใสๆ กลั้วกับกลิ่นน้ำตาลทรายที่ยังคงอยู่จางๆ และมีกลิ่นอายอบอุ่นเบาๆ รองพื้นไปตลอด ซึ่งกลิ่นออกโทนสีน้ำตาลจางๆ กลั้วขาวได้ดีมากเลย แถมใช้งานได้ง่ายมากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex ครับ กลิ่นนี้ใช้ได้หมดทั้งผู้ชายและผู้ชายวัยเรียน ม.ปลายขึ้นไปก็ได้แล้ว เพราะกลิ่นเข้าถึงได้ง่าย และใช้ง่าย แม้จะหวานและออกทางใสสดชื่น เลยจะไม่หนักหน่วงถ้าเจอกับอากาศบ้านเรา สามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ที่ไม่ได้ทางการจัดๆ ประมาณว่าเสริมความหวานใสให้ชีวิตบ้าง ไรบ้าง แต่ถ้าจะใส่ไปออกกำลังกายรอช่วงท้ายๆ จะดีที่สุดนะครับ ส่วนยามเย็นหรือค่ำคืน กลิ่นจะไม่ค่อยเอื้อนัก ถ้าชิลล์ๆ โรแมนติคอยู่กับแฟนน่ะพอได้ แต่ถ้าหาเหยื่ออาจจะเบาไปมากเลยล่ะครับ

ความทน - 6 ชม. โดยประมาณ แต่จะทนมากกว่านี้ไปถึง 8 ชั่วโมงได้ อยู่ที่การอัดสเปรย์ครับ ซึ่งหลังจากทดลองส่วนตัวอัดที่ 6 สเปรย์กดมิด + ฉีดใส่เสื้อด้านหน้า 2 lgxipN กลิ่นติดทนถึง 8 ชม. ได้อยู่แบบ Skin Scent ครับ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และลดลงมากระจายหวานใสกลางๆ ปิดท้ายด้วย Skin Scent แบบคาราเมลใสๆ อบอุ่นเบาๆ

ทิ้งท้าย - Fresh เข้ามาเปิด Shop ในไทยแล้วนะครับ ที่ EmQuartier ราคาน้ำหอมถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับเคาน์เตอร์แบรนด์อื่นๆ ซึ่งมีข้อเสียอย่างนึงครับ เข้า Shop นี้ไประวังเสียตังค์ ก็เท่านั้นเอง 5555555

Credit ภาพ: http://www.sephora.com/productimages/sku/s1310168-main-zoom.jpg