แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Calypso Christiane Celle แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Calypso Christiane Celle แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Review: Calypso Christiane Celle - Calypso Rose

Calypso Christiane Celle - Calypso Rose

เพราะ Calypso Christiane Celle เริ่มที่จะหายไปจากตลาดเรื่อยๆ หลังจากไปรวมกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Calypso Sr. Barth นานแล้ว และออกน้ำหอมในนามแบรนด์ใหญ่ไปหมดแล้ว เช่นนั้นมีโอกาสเลยรีบหามาครอบครองเท่าที่จะหาได้ก่อนที่จะหายไปจากตลาดทั้งหมด ซึ่งจากที่ผ่านงานคุณภาพของแบรนด์นี้มาไม่ว่าจะเป็น Calypso Homme, Calypso Tangerine, Calypso Ambre และ Calypso Figue ต่าง
ก็มีความดีงามในตัวสูงหมดทุกตัวและดึงเสน่ห์กลิ่นอายที่มีคุณภาพออกมาได้อย่างดีงาม ก็ได้เวลามาถึงสายดอกไม้ยอดฮิตอย่างกุหลาบบ้าง และแบรนด์นี้จะเล่ากลิ่นออกมาในลักษณะไหนว่ากันตามนี้เลย 

Calypso Rose คุมโทนการเป็นน้ำหอมกุหลาบที่เน้นมาสายสดชื่นติดน่ารักกำลังดี โดยถ่ายทอดความเป็นกุหลาบตั้งแต่ต้นยันจบได้อย่างลงตัวโดยกลิ่นค่อนข้างจะเป็นเส้นตรงและมาสายมินิมัลที่มีลูกเล่นแทรกมาเนียนๆ แบบไม่โจ่งแจ้ง ซึ่งจะเปิดตัวกับกลิ่นอายกุหลาบที่มีความกึ่งฉ่ำกึ่งแห้งปนเขียวติดชื้นอากาศแบบมีสายหมอกยามเช้า และมีความหวานใสอ้อยอิ่งกำลังดีที่จับต้องได้ว่ามาจากกลิ่นโทนดอกกระดิ่งที่ให้ความหวานปนเขียวใสธรรมชาติ แต่กลิ่นจะไม่ได้หนักไป หรือแน่นอวลมากเกินไป ซึ่งในวูบถัดมาจะเริ่มจับต้องความเป็นกลิ่นโทนแยมติดเปรี้ยวเลมอนหน่อยๆ ที่เป็นลักษณะแบบแยมกุหลาบอ่อนๆ เคล้ากับกลิ่นนวลเจือเขียวซึ่งจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของดอกเจอราเนียมที่ให้ลักษณะกลิ่นอายสายกุหลาบติดเลมอนปนปร่ามินต์เบาๆ ทำให้ความเป็นกุหลาบในช่วงต้นจะเป็นกุหลาบสายสดชื่นที่กลิ่นชัดเจนมาก ถ้านึกไม่ออก ให้นึกภาพเหมือนเรานั่งอยู่ในสวนกุหลาบสีชมพูที่บานยามเช้าที่มีหยาดน้ำค้างเกาะท่ามกลางอากาศสดชื่นเป็นฉากหลังนั่นแหละ อารมณ์นั้นเลย

เมื่อเข้าช่วงกลางกลิ่นจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงต้นมาก เพราะยังคุมโทนความเป็นกุหลาบสีชมพูที่ชัดเจนปนสดชื่นอยู่ แต่จะจับต้องได้กว่ากลิ่นมีความนวลปนปร่า Spicy เครื่องเทศสายเผ็ดสดชื่นที่มี 2 มิติคือ ค่อนไปทางดอกไม้ติดเขียวปนเผ็ดนุ่มซึ่งน่าจะมาจากดอกฟรีเซียและกลิ่นโทนปร่าเผ็ดซ่าของกานพลูที่เข้ามาเป็นตัวสนับสนุน ทำให้กลิ่นกุหลาบในช่วงกลางจะมีมิติกลิ่นให้รับรู้ คือ มีความปร่าซ่าๆ ชัดเจนก่อน แล้วตามด้วยความหอมปนนวลเจือเขียวแต่ก็ยังมีความเป็นกุหลาบสีชมพูเพียงแต่กลิ่นจะมีความนวลโรแมนติคและกลิ่นก็เริ่มแห้งมากขึ้นด้วย ผ่านไปซักระยะโทนลักษณะปร่าๆ จะเริ่มเบาลงไปตามลำดับจนกลายเป็นฉากหลัง แต่จะให้โทนกลิ่นอายสายแป้งเบาๆ อ่อนๆ เสริมเข้ามา ทำให้กลิ่นเริ่มเปลี่ยนโทนเป็นกลิ่นอายสายแป้งหอมกุหลาบทีละหน่อยๆ จนเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะเป็นกลิ่นอายสายกุหลาบนวลเบาๆ ปนกลิ่นสะอาดของ Musk ที่ให้ความนุ่มสะอาด ซึ่งทำให้ได้อารมณ์สไตล์โทนโลชั่นหรือแป้งหอมกุหลาบกำลังดีคลอผิว รวมถึงยังมีมิติกลิ่นโทนไม้หอมโปร่งๆ ที่ทำให้กลิ่นมีความสว่างๆ ไม่ได้ไปสายนวลข้นแน่นเกินไป โดยที่ยังคุมโทนความเป็นกุหลาบ แต่เสริมความนุ่มนวลอ่อนโยนลงไป จนเป็นลักษณะแบบแป้งหอมเจือโลชั่นนวลกุหลาบระเรื่อๆ คลอผิวกายสะอาดๆ ไปเรื่อยๆ ให้ความโรแมนติค อ่อนโยน มีระดับไปเรื่อยๆ จนค่อยๆ จางไปตามเวลาที่เหมาะสมในที่สุด 

เหมาะสำหรับ - มีความเป็นผู้หญิงชัดเจนทุกสโตรกของน้ำหอมเลย ก็กุหลาบสีชมพูนี่นา ซึ่งเข้าได้กับผู้หญิงทุกเพศที่ชอบกุหลาบ ตั้งแต่วัยเรียน ม.ปลายเป็นต้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นได้ทั้งน่ารักและโรแมนติค เพียงแต่กลิ่นไม่ได้ไก่กา มีความเป็นธรรมชาติและคุณภาพดีเลยทีเดียว ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่ออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายๆ จะดีที่สุด ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่เพื่อออกงานหรือว่าแนวโรแมนติคทั่วไปจะดีกว่าใส่ไปท่องราตรีเพราะจะโดนกลบเข้าให้ถ้าเจอสายแน่นๆ อวลๆ รายล้อม 

ความทน - กลิ่นค่อนข้างแกว่งพอสมควรเพราะบางครั้งก็ไม่ได้ถึงกับทนมาก บางครั้งก็ทนเกินคาด ว่ากันที่สภาพอากาศและสภาพผิวผู้ใช้เป็นสำคัญ ซึ่งถ้าเฉลี่ยก็ราวๆ 4 - 8 ชม. ซึ่งส่วนตัวเจอมาหมดแล้วกับความทนที่อยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณนี้ สูงสุดก็ 8 ชม. สวยๆ กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ฺ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่ากุหลาบสดชื่นเต็มปอดกันเลยทีเดียว แล้วจะลดลงมาที่ปานกลางแล้วผ่อนลงไปเรื่อยๆ จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปจนถึงช่วงท้าย ที่จะเปลี่ยนเป็น Skin Scent แล้วจางไป

สรุป - หนึ่งในกลิ่นกุหลาบที่มาสายสดชื่นและให้ความชัดเจนในความสดใส น่ารัก และโรแมนติคได้ดีมากเลยทีเดียว ที่สำคัญ ส่วนตัวน้ำหอมรุ่นนี้เป็นกลิ่นกุหลาบที่ใช้แล้วเข้ากับผิวได้ดีเกินคาด ไม่ทำให้มีกลิ่นติดยูรีนในช่วงท้าย สร้างอะโรม่าที่ดีจนฟินยาวไปได้เลย 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://www.amazon.com/CALYPSO-ROSE-Christiane-Celle-SPRAY/dp/B004KBIGBA


วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Review: Calypso Christiane Celle – Calypso Fique


Calypso Christiane Celle – Calypso Fique

หลังจากที่แบรนด์นี้กลับไปเป็นหนึ่งเดียวกับเครือใหญ่อย่าง Calypso St. Bart เรียกว่าการเป็น Calypso Christiane Celle ก็ค่อยๆ จางหายไปจากตลาดเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่หลายตัวของแบรนด์นี้คือ Masterpiece เลยทีเดียว สบโอกาสได้มาครอบครองเพราะเห็นว่าเป็นโทนกลิ่นที่ชอบเป็นการส่วนตัว จัดแล้วเลยต้องบอกเล่าว่า

#คุณหลอกดาว

ก็ชื่อรุ่นนี้ คือ Calypso Figue แต่กลิ่นที่ฉีดออกมา Fig ช่างหลบๆ ซ่อนๆ มาก แต่ไม่รู้สึกแย่เลยแม้แต่นิดเดียวเพราะ

น้ำหอมรุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในกลิ่นพิมเสนที่งดงามมากเลยตัวหนึ่ง มีความเป็นโทน Earthy ที่มาสายกลิ่นออกทางสมุนไพรที่มีสาปตามธรรมชาติ มีความ Dirty อมหวานรื่นจมูกติดโทนแห้ง แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นโทน Modern ออกทางสะอาดรื่นจมูกตามสไตล์น้ำหอมพิมเสนสาย Designer เรียกว่ามีความสมดุลที่เข้าทางการเป็นน้ำหอม Niche ที่มีความลุ่มลึกเลยทีเดียว ซึ่งพิมเสนจะอยู่ตั้งแต่ต้นยันจบ แล้ว Fig ล่ะ อยู่ไหน?

ก็ไม่ได้ไปไหน แต่ออกแนวแทรกซึมอยู่กับพิมเสนเสียมากเพราะในช่วง Top Notes กลิ่นอายพิมเสนที่มาเต็ม มาหนัก มาพุ่ง มีความ Dirty จัดเต็ม และมีกลิ่นโทนสมุนไพรติดแห้งอื่นๆ ที่ให้ความเป็นโทนกึ่งๆ ยาจีนผสมยาไทยกลั้วแนวๆ ยานัตถุ์กันในระดับหนึ่งเลย แต่จะมีแทรกความความหวานโปร่งๆ ติดเขียวขมและแห้งติดอับๆ เขียวบางๆ ของ Fig เนียนอยู่กำลังดี จนเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes ความเป็นพิมเสนจะเริ่มลดลงมาเป็นกลิ่นหอมสมุนไพรแห้งหวาน เคล้าความเป็นกลิ่นลูก Fig ที่ติดหวานปนขมที่เริ่มโปร่งมากขึ้น กลิ่นจะเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างพิมเสนกับ Fig โดยที่ให้ความเป็นตัวเอกแก่พิมเสน และตัวรองคือ Fig นั่นเอง จนเมื่อผ่านไประยะหนึ่งความเป็นกลิ่นอายไม้หอมติดครีมมี่จางๆ จะเริ่มดันขึ้นมาให้รู้สึกได้ กลิ่นจะมีความอบอุ่นมากขึ้นแบบนวลๆ ที่รองพื้นอยู่ แต่กลิ่นที่ออกมายังคงมีความเป็นพิมเสนกับ Fig ที่หอมหวานโปร่งอยู่ตลอดจนถึง Base Notes ที่ความอบอุ่นเริ่มผสมผสานกับความเป็นกลิ่นหอมหวานโปร่งจนเป็นเนื้อเดียวกัน ยืนพื้นที่โทนอบอุ่นเป็นสำคัญซึ่งจะมีความเป็นกลิ่นอายคล้ายชอคโกแลตเบาๆ กับเคล้าความเป็นกลิ่นไม้หอมอบอุ่นที่กึ่งนวลกึ่งโปร่งเคล้ากับกลิ่นพิมเสนที่ยังเด่นอยู่ แต่ให้ความหวานจางๆ เจือกลิ่น Fig เบามากด้วย แต่จะรองพื้นด้วยกลิ่นอายติดเค็มนิดๆ คล้ายผิวกายตามธรรมชาติสไตล์นวลๆ ทำให้กลิ่นมีความอบอุ่นหอมมีชั้นลึกและมีความลุ่มลึกใน 3 โทนที่มีกลิ่นอบอุ่น กลิ่นหวานสมุนไพรแห้งโปร่ง และกลิ่นไม้หอมมีระดับ ภาพรวมเลยจะได้ความรู้สึกมีภูมิ น่าค้นหา และมีความดึงดูดในแบบที่แตกต่าง และมีระดับติดเรียบหรูมีชั้นเชิงอย่างลงตัวเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย เพราะกลิ่นนี้เรียกว่าแตะได้ทุกเพศ เพียงแต่อาจจะผ่านน้ำหอมโทนพิมเสนมาซักหน่อยจะเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดจำนวนสเปรย์ เพราะกลิ่นแบบนี้ถ้าใส่ลงตัวจะมีชั้นเชิงด้านกลิ่นแบบแตกต่างได้ แต่ถ้ามากเกินไปอาจจะเป็นร้านยาจีนเคลื่อนที่เสียก่อน ไม่ว่าจะใส่แบบทางการหรือทั่วๆ ไป แต่งดใส่เพื่อออกกำลังกายไปได้เลย กลิ่นไม่ได้เอื้อด้านนั้นเลย เดี๋ยวคนจะมองหน้าเอาก่อนได้ ส่วนยามค่ำคืน เรียกว่าใส่ออกงานได้เลย เพราะกลิ่นสร้างออร่าภูมิฐานได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะใส่ไปร่อนราตรีก็พอได้บ้าง สู้คนอื่นได้อยู่ เพียงแต่กลิ่นอาจจะไม่ได้มาสายเนื้อเดียวพิมพ์นิยมอะไรมากขยาดนั้น หรืออาจจะทำให้คนได้กลิ่นงงไปเสียก่อนว่าทำยาสมุนไพรหกใส่หรือเปล่าเอาได้ 

ความทน - อันนี้ยกนิ้วให้จริงๆ เพราะกลิ่นทนดีงาม เฉลี่ยที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และมากกว่านั้นได้สบายๆ อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กับจำนวนสเปรย์ 5 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น เรียกว่าจะมาชัดมาคมมาพุ่งกันก่อนเลย อาจจะมีผงะกันได้ แล้วจึงค่อยลดลงมาเป็นกระจายปานกลาง ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไปในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - ถ้าบอกว่าน้ำหอมตัวนี้เป็นกลิ่น Fig ที่ดีที่สุดหรือไม่ ไม่ใช่แน่ๆ เพราะแม้ชื่อจะเป็น Figue แต่กลายเป็นพิมเสนที่ฆ่าตายหมู่ทั้งหมดแทน ซึ่งชื่อรุ่นคุณหลอกดาวมากมาย แต่ถ้าบอกว่าน้ำหอมตัวนี้ดีงามหรือไม่ มันคืออีกหนึ่งน้ำหอมที่เด่นด้วยโทนพิมเสนที่มีความเป็Masterpiece ในการส่งกลิ่นที่หอมลุ่มลึกและงดงามในความเป็นธรรมชาติได้ดีมากจริงๆ 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Photo Credit - http://perfumedepot.net/christiane-celle-calypso-figue-eau-de-toilette-spray-3-4-oz/ 

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Review: Calypso Christian Celle – Calypso Ambre


Calypso Christian Celle – Calypso Ambre

พอเห็นคำว่า Ambre หรือยางไม้ที่จับตัวแข็งตามธรรมชาติหลายๆ คนที่ชอบกลิ่นของตัวนี้อาจจะตาวาวก็เป็นได้ เพราะกลิ่นจะมาในโทนอบอุ่นสบายๆ ติดหวาน และสุขุมนุ่มลึกได้เลยทีเดียว ซึ่งพอมาในแบรนด์คุณภาพจัดเต็มอย่าง Calypso Christian Celle ได้มาเล่นที่ Notes นี้จะเป็นเหมือนแบรนด์อื่นๆ หรือไม่ ต้องมาลองดมกัน ซึ่งผลออกมาคือ

นี่คือแอมเบอร์ที่กลิ่นอายติดสาปดิบตามธรรมชาติมาเลย และจะอยู่ตั้งแต่ต้นยันจบผสานกับกลิ่นเด่นๆ ในแต่ละช่วงได้น่าดอมดมมาก เพราะ Top Notes แอมเบอร์จะมาแบบติดดิบแบบยางไม้แรกทะลักออกมาจากต้นผสานกับกลิ่นอายของโทนซิตรัสสดชื่นของเลมอนและมะกรูด เลยจะได้กลิ่นอายแบบดิบๆ กลั้วกับกลิ่นของตัวเอกของรุ่นนี้อย่างพิมเสนที่จะโดดเด่นไม่แพ้กัน กลิ่นช่วงนี้ถ้าคนไม่ชอบกลิ่นเจื่อนๆ ดิบๆ ของยางไม้ที่ติดเปรี้ยวๆ มีกลิ่นสาปไม้จะเบือนหน้าหนีกันได้เพราะมาแรงไม่น้อยเลยทีเดียว จนเมื่อเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นอายแบบติดสาปดิบๆ เริ่มจะหายไปทีละน้อยกจนกลายเป็นแอมเบอร์ที่เริ่มมีความอบอุ่นมากขึ้น เพราะกลิ่นของวานิลลาจะเข้ามากลั้วจนเป็นโทนอบอุ่นชัดเจน โดยมีโทนดอกไม้อ่อนๆ เบาๆ และพิมเสนที่มาแบบนุ่มนวลติดสดชื่นรายล้อม กลิ่นจะเริ่มนุ่มและมีความหวานกำลังงามดั่งสีอันอบอุ่นของแอมเบอร์ที่จะเป็นเหลืองกึ่งส้มและน้ำตาลตามธรรมชาติ จนปิดท้ายที่ Base Notes กับการเป็นแอมเบอร์ที่มีกลิ่นไม้นวลๆ ขรึมๆ ติด Smoky อย่างชัดเจน โดยกลิ่นอายของพิมเสนก็ยังคงรายล้อมให้ความรู้สึกแบบ Earthy หรือกลิ่นอายโทนธรรมชาติ โดยที่กลิ่นของวานิลลาจะดรอปลงไปเป็นลักษณะโทนอบอุ่นแบบติดแป้งรองพื้นไว้ เรียกว่ากลิ่นในช่วงนี้จะมาเป็นในเรื่องความสุขุมนุ่มลึก เย้ายวนนุ่มนวลแบบมีชั้นเชิงมาก สร้างลุคทางกลิ่นให้ดูน่าเชื่อถือ โดยคงความเป็นโทนอบอุ่นติดหวานของแอมเบอร์ไว้ได้อย่างดีใม่มีผิดเพี้ยนเลย

เหมาะสำหรับ – กลิ่นตัวนี้เขาตราเอาไว้ว่าเป็น Unisex แต่เอาเข้าจริงโทนกลิ่นมาในทางผู้ชายพอสมควร เพราะโทนอบอุ่นแบบสุขุมนุ่มลึกและติดสาปดิบตามธรรมชาติจางๆ นี่แหละ แต่เอาเข้าจริงผู้หญิงก็ใส่ได้ โดยใช้ได้กับบางสถานการณ์ยามกลางวัน ยิ่งถ้าออกงานทางการยิ่งเข้าที เพราะกลิ่นแบบนี้มันเสริมบุคลิกภาพให้น่าเชื่อถือและอบอุ่น ส่วนใส่ทั่วๆ ไปก็ใส่ได้ ยิ่งทำงานในห้องแอร์ยิ่งเข้าที แต่ขอยกเว้นใส่ออกกลางแดด อากาศร้อนจัดๆ หรือออกำลังกาย เดี๋ยวจะตีขึ้นจนแน่นจุกคอหอยไม่พอ กลิ่นแบบนี้ไม่เข้าทางกับเหงื่อเสียด้วย ส่วนยามค่ำคืนจัดไป กลิ่นสร้างความอบอุ่นแบบลงตัวเรียกร้องความสนใจได้ดีเลยทีเดียว

ความทน – บอกเลยว่ากลิ่นนี้อิงที่เคมีด้วย เพราะหลังจากแบ่งกับคนอื่นเทสกลิ่น บางคนได้แค่ 4 ชม. ก็หายไป บางคนก็ลากไปได้ 6 ชม. ส่วนตัวผมจัดไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังอยู่ ฟินไปเลยจ้า เช่นนั้นลองก่อนดีที่สุด

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าถ้าไม่ชอบจะเกลียดไปเลยก็ตอนนี้แหละ แล้วจะลดลงมากระจายกลางๆ อบออุ่นไปตลอดยาวไปจนถึงกลางๆ ช่วงท้ายก่อนจะกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัว ซึ่งอันนี้วัดจากตัวเองเน้นๆ เลย

ทิ้งท้าย – ส่วนตัวบางทีถ้าเจอกลิ่นสาปไม้แปร่งๆ หรือแอมเบอร์ที่ดิบมากๆ มักจะไปไม่ไหว แต่แปลกตัวนี้นอกจากจะเข้าเคมีกับผมมากแล้ว ยังหอมละมุนกรุ่นอบอุ่นไปตลอด เรียกว่าได้มาไม่มีผิดหวังเลย และที่สำคัญคนชอบกลิ่นอายของแอมเบอร์ได้ลองซักครั้งก็น่าสนใจมากนะนั่น

Credit ภาพhttp://www.parfemy.cz/photos/p/v/CP/calypso-christiane-celle-ambre-toaletni-voda-s-rozprasovacem.jpg

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Calypso Christiane Celle - Calypso Tangerine



Calypso Christiane Celle - Calypso Tangerine 
(ref. Calypso The & Calypso Homme) 

เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่น้ำหอมหายากมากกกกกกกก ไม่รู้จะหายากไปไหน ตัว Calypso Homme ที่เป็นน้ำหอมของผู้ชายที่เคยได้มาก่อนแบบแบ่งขายก็เทพมากๆ อยู่แล้วในเนื้อกลิ่นที่ทั้งสดชื่นและนุ่มนวลแบบทนจัดๆ แต่ก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดีหรือเลิกผลิตไปหรือยังเพราะหาไม่ได้อีกเลย หลายแหล่งก็บอกกันว่ามีการนำมาประยุกต์ใหม่เข้ากับรุ่น Calypso The ของผู้หญิงจนกลายเป็น Calypso Tangerine ในปัจจุบันในรูปแบบ Unisex ที่ยังก็หายากอยู่ดี เพียงแต่โทนกลิ่นนั้นไม่ได้แตกต่างกันเพียงแค่เปลี่ยนกลิ่นที่นำเด่นก็เท่านั้นเองครับ

Calypso Homme โทนกลิ่นจะเด่นที่ชาเขียวกลั้วซิตรัสเปลี่ยนถ่ายช่วงกันดีมากอย่างชาเขียวเลมอนและส้ม เป็นชาเขียวแบล็คเคอเรนท์ และเป็นชาเขียวสดชื่ดแกมอบอุ่นและทนมากมาย เมื่อผสมกับ Calypso The ที่เน้นกลิ่นชามะนาว กลายเป็น Calypso Tangerine ผลออกมาคือ

ฟินมากกกกกกกกอ่ะ แน่นอนว่าโทนกลิ่นสดชื่นของตัวนี้จะค่อนข้างเหมือน Bvlgari Extreme ที่กลิ่นชาซิตรัสสดชื่นเด่นแต่ลักษณะของกลิ่นละเมียดละไมชิลล์ๆ และคลาสสิคกว่ามากจริงๆ ในการให้ความรู้สึกใช่วง Top Notes คือ ส้มเขียวหวาน ที่กลิ่นสดชื่นและชิลล์มาก มาแบบอ้อยอิ่ง ชั้นไม่รีบ กลิ่นกระจายให้ความรู้สึกส้มธรรมชาติมากจริงๆ เหมือนนั่งแกะส้มแล้วป้อนตัวเอง (เพราะไม่มีคนให้ป้อน -_-") ในสวนยามเช้าที่อากาศดีมากๆ โดนจะมีโทนซิตรัสอื่นๆ เป็นฉากหลังให้ส้มเขียวหวานเด่นไปตามชื่อรุ่นซึ่งช่วงนี้ถือว่าค่อนข้างนานกว่า Top Notes ตัวอื่นๆ เลยทีเดียวถึงจะเปลี่ยนถ่ายความเป็นส้มจ๋าๆ มาเป็น Middle Notes ที่เป็นชาเขียวนำกับเขาบ้าง มีกลิ่นส้มลอยอ้อยอี๋เอียงตามเคย มีกลิ่นของแบล็คเคอเรนท์มาแซมๆ ให้สดชื่น ที่สำคัญผมจับโทนกุหลาบได้ด้วย กลิ่นในช่วงนี้หอมมากกกกกให้ความรู้สึกทั้งสดใส สบายๆ นุ่มนวล และชิลล์จริงๆ ยังกับนั่งเล่นในสวนต่อพลางจิบชาเขียวและแกะส้มป้อนตัวเอง โดยมีกลิ่นกุหลาบในสวนลอยมาจางๆ ดูชิลล์และว่างอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งแน่นอนกลิ่นโทนชานี่จะลากตามมาที่ Base Notes กันซึ่งๆ โดยจะกลายเป็นชาเขียวออกสมุนไพรหน่อยๆ ที่ออกโทนสดชื่นแกมอบอุ่น กลิ่นสะอาดสะอ้าน แน่นอนส้มเขียวหวานยังอยู่แต่เป็นฉากหลังเบาๆ ให้ยังชิลล์ต่อได้ ประมาณว่ากลิ่นจากเปลือกส้มที่แกะหมดเกลี้ยงแล้วลอยมาบางๆ และยังนั่งเล่นอยู่ในส่วนจิบชาแบบสบายๆ แบบว่าไม่อยากลุกไปไหน เพราะอากาศมันดีเลยทีเดียวครับ

เหมาะสำหรับ - กลิ่นโทนส้มเขียวหวานและชาของตัวนี้ ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและชายเลยครับ เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสบายๆ มากมายก่ายกอง ใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย เพราะเหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นใส่ไปเดินเล่นชมนกชมไม้ ใส่ไปเที่ยวห้าง เดินเล่นชิลล์ๆ ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ออกกำลังกายก็ได้ (แต่เปลืองไปป่ะ ของหายากนะ) ที่สำคัญเป็นกลิ่นที่ใส่ไปทำงานหรือพบลูกค้าได้สบายๆ เพราะกลิ่นค่อนข้างมีคลาส สุภาพ เข้าถึงได้ง่ายจริงๆ แต่ไม่เหมาะกับใส่เที่ยวกลางคืนเลย เพราะกลิ่นจะค่อนข้างอ่อนยวบมาก

ความทน - เป็นกลิ่นแนวสดชื่นที่ทนมากเลยทีเดียว 8 ชม. สบายๆ ครับ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top และ Middle แต่ในช่วง Base จะทำให้คนอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นสดชื่นเบาๆ จากเราแทน

ทิ้งท้าย - ใครหาที่ซื้อขวดเต็มได้บอกทีคร้าบ ผมอยากได้มากกกกกกกก (*_*)