แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Narciso Rodriguez แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Narciso Rodriguez แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Review: Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir Extreme


Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir Extreme

หลังจากที่ Narciso Rodriguez ได้สร้างปรากฎการณ์ให้น้ำหอมชายตัวเองกลับมาอยู่ในการเป็นแถวหน้าของสาย Designer อีกครั้งกับรุ่น For Him Bleu Noir ในปี 2015 แน่นอนว่ามีความฮิตตลาดแตกกันขึ้นมาทันทีกับการนำเสนอกลิ่นอายสาย Musky ที่ฉาบหน้าด้วยความเป็นโทน Woody Spicy ที่มีความ Modern แบบติดเมโทรนิ่งๆ แน่นอนการต่อยอดก็บังเกิดขึ้นกับการสานต่อความฮิตที่รุ่น EDP ในปี 2018 ที่ก็ยังคงอยู่ในแถวหน้าของการได้รับความนิยมอยู่เช่นเดิม และก็ไม่ได้จบแต่เพียงเท่านี้

เพราะในปี 2020 นี้ การต่อยอดยังไม่สุด เพราะว่าแบรนด์ได้ปล่อยความเป็น Bleu Noir ออกมาโดยห้อยท้ายด้วยคำว่า Extreme ซึ่ง Concept ของรุ่นคือการสร้างกลิ่นอายสาย Modern และสดชื่นในสไตล์ของ Bleu Noir ที่ต้องมีความน่าค้นหาและความเย้ายวนแบบมีระดับตามสไตล์เมโทรมีของ เช่นนั้น คำโปรยมาซะขนาดนี้ ก็ต้องมาลองซะหน่อยว่ากลิ่นของ Narcison Rodriguez for Him Bleu Noir Extreme นั้น จะมาในรูปแบบที่แปลกและแตกต่างจากต้นตระกูลมากขนาดไหน

เปิดต้นกลิ่นมาความคุ้นเคยแรกสุดของการเป็น Bleu Noir ก็มาทักทายเลยกับโทนกลิ่นนัวติดเครื่องเทศค่อนไปทางคล้ายโทนกระวานเจือไม้หอมอวลหน่อยๆ และมีความปร่ากำลังดีซึ่งจับได้ว่าเป็นโหระพาที่ทำให้กลิ่นมีความนวลปร่าเขียวเข้ามาร่วมด้วย แต่นี่เป็นแค่กลุ่มแรก เพราะในเนื้อกลิ่นจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายโทนสายสดชื่นที่เข้ามาซึ่งจะมีส้มที่แอบมีความขมเจือใสหน่อยๆ พร้อมกับกลิ่นออกทางเย็นๆ อารมณ์ไอเย็นน้ำแข็งที่เป็นตัวล้อมกลิ่นให้มีความเย็นเข้ามา แต่ทุกอย่าง ไม่ได้มีอะไรที่โดดจนแปร่งแต่อย่างใด เพราะโทนกลิ่นมีความสมดุลย์ที่ได้ทั้งความนัวอวลเคล้าความสดชื่นที่มาเจอกันตรงกลางพอดี โดยจะมีกลิ่นอายเย็นๆ คลออยู่ตลอด ซึ่งแม้ว่ากลิ่นจะมีลายเซ็นของความเป็น Bleu Noir ให้จับต้องได้ แต่กลิ่นเริ่มมีความเป็นเอกเทศของตัวเองให้รับรู้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกเลย

และเมื่อลายเซ็นหลักกลิ่นที่ต้องมี ไม่มีไม่ใช่ Narciso Rodriguez อย่าง Musk เริ่มเปิดตัวออกมากลิ่นโทน Icy เย็นๆ เคล้าความสดชื่นติดนวลอวลเครื่องเทศอ่อนๆ ก็จะเริ่มมีความนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งต้องบอกตามตรงเลยว่า Musk จะเป็นผู้เล่นหลักในช่วงนี้ที่จะให้โทนนุ่มนวลสะอาด แต่ยังไม่จบความอวลเพราะนอกจากโทนเครื่องเทศอวลอ่อนๆ ที่ตามมาจากจากช่วงต้นแล้ว จะมีกลิ่นโทนไม้หอมอย่างไม้ซีดาร์และกลิ่นออกทางไม้ติดปร่าขมนวลและมีความดาร์กอวลกำลังดีเสริมขึ้นมาด้วย ทำให้ช่วงนี้ถือเป็นคีย์หลักของน้ำหอมรุ่นนี้เลย เพราะกลิ่นจะให้ความนวลก็จริงแต่จะมีอารมณ์อวลดาร์กระเรื่อของโทนไม้หอมติดเครื่องเทศปร่านวลกำลังดีคลอไปอยู่ตลอด สร้างอารมณ์กลิ่นแนวๆ สีน้ำเงินกึ่งเทาที่ไม่ได้ทึบเกินไปในความรู้สึก และมีอารมณ์ออกทางเย้ายวนปนนวลผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้ฉีกเกินไปมาก เพราะกลิ่นไม้หอมจะเริ่มสลับกับ Musk ขึ้นมาเป็นตัวหลักแทนทำให้ช่วงท้ายจะเป็นโทน Woody Musky ที่ให้ความนวลเจือหวานอ่อนๆ ระเรื่อๆ โทนไอเย็นๆ กับความสดชื่นจะเริ่มจางเหลือเพียงวูบอ่อนๆ ให้จับต้องได้ประปราย ซึ่งพื้นฐานของกลิ่นจะเป็นแนวสะอาดเจือดาร์กออกทางสีน้ำเงินเจือเทาแบบซีทรูที่มองเห็นผ่านได้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซับซ้อน ซึ่งทั้ง 3 ช่วงกลิ่นจะให้อารมณ์เหมือนผู้ชายในชุดสีน้ำเงินที่ไม่ได้ถึงกับขั้นเนี้ยบ แต่ให้ความสมาร์ท นิ่ง Cool สะอาดสะอ้าน มีความน่าค้นหาเย้ายวนเนียนๆ และมีลูกเล่นความสดชื่นแบบที่ไม่ได้ดูพยายาม ให้ความเรื่อยๆ ตามที่ควรจะเป็นในลักษณะโทนออกทางสีน้ำเงินเจือเทาที่ถ้ามีความสดชื่นมันก็ควรเป็นไอเย็นๆ นี่แหละที่เติมเต็มได้ดีที่สุดแล้ว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นให้ความอวลและมีเสน่ห์แบบที่เน้นความซึมลึกเรื่อยๆ มากกว่าจะพยายามเรียกให้ทุกคนหันมอง เลยจะเข้ากับการใส่ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่การใส่ออกกลางแจ้งที่พอได้ แต่ถ้าใส่ออกกำลังกายเน้นให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยว่า ใส่แบบทั่วๆ ไปหรือออกงานจะเข้าทางที่สุดแล้ว เพราะถ้าใส่ไปท่องราตรี โดนกลบมิดแน่นอน

ความทน - ลงตัวที่ค่าเฉลี่ย 8 ชม. ซึ่งสามารถไปต่อได้อีกถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม ซึ่งที่เจอสูงสุดในการใช้งานคือราวๆ 12 ชม. กับ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางซักพักนึง ที่เหลือคืออร่ารอบๆตัวกันยาวๆ ไปตั้งแต่ชั่วโมงที่ 3 - 4 กลิ่นมาสายเรื่อยๆ ระเรื่อๆ ชวนพิศดมมากกว่าจะปล่อยพลังราวกับรมควันให้กลิ่นพุ่งๆ ประมาณนี้

สรุป - ถ้าคาดหวังว่าชื่อ Extreme กลิ่นจะแน่นขึ้นสร้างพลังกระจายรอบทิศมากขึ้น แต่จริงๆ เปล่าเลย อาจจะทำให้รู้สึกเฟลเอาได้เพราะออกแนวให้ความเรื่อยๆ เรียบหรูเสียมากกว่าที่จะปล่อยพลัง (เอาจริงๆ ให้ชื่อว่า L’Eau อาจจะเข้าท่ากว่า) ซึ่งถ้าใครที่ไม่ชอบความเป็นกระวานนัวๆ ของรุ่นปกติ หรือเป็นแป้ง Musk เจือไม้อวลอุ่นไปของรุ่น EDP รุ่นนี้แหละที่อาจจะตอบโจทย์ที่สุดในการใช้งานที่ให้ความเป็นผู้ชายที่มีความสมาร์ท ความสบาย และความน่าค้นหาในเวลาเดียวกันได้ไม่ยาก

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://cheezelooker.com/web/article/CHZ200300011


วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Review: Narciso Rodriguez - Musc for Her Oil Parfum 2013

Narciso Rodriguez - Musc for Her Oil Parfum 2013 

ถ้าบอกว่าแบรนด์ไหนในสาย Designer Brand ที่มี Signature ของน้ำหอมตัวเองในทุกรุ่นเป็นโทน Musk คงหนีไม่พ้น Narciso Rodriguez ซึ่งแต่ละรุ่นทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างใช้โทน Musky เป็นตัวชูโรงในมิติที่แตกต่างกันไปได้อย่างมีระดับและมีชั้นเชิงมาเสมอ โดยเฉพาะรุ่นที่ชูโรงในความเป็น Musk และการเล่ากลิ่นในครั้งนี้ จะมาที่ความเป็น Rare Item กันหน่อยกับรุ
่น 2013 ขวดดำที่เลิกผลิตไป (แต่นำมาปรับปรุงใหม่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดขวดชมพู ออกมาเมื่อปี 2018 อีกครั้ง) กับการเป็น Musc for Her Oil Parfum 2013 ว่ากลิ่นอาย Musky ที่ลุ่มลึกอย่างมีจริตจะเป็นอย่างไรบ้าง 

พื้นฐานดี มีชัยไปกว่าครึ่งประโยคนี้สามารถใช้ได้กับน้ำหอมรุ่นนี้ได้เลย เพราะกลิ่นที่เป็นตัวเอกหลักและเป็น Center Note อย่าง Musk ที่มีคุณภาพดีมากจะเป็นตัวแสดงความงดงามของกลิ่นได้อย่างครบถ้วนในด้านความหอมนวล ความละมุนคลอผิว และความพลิ้วไหวที่ทำให้รู้สึกหลากหลายมิติอารมณ์ได้อย่างชัดเจนมาก ซึ่งเนื้อกลิ่นในแต่ละช่วงของน้ำหอมตัวนี้จะค่อนเป็นเส้นตรงพอสมควร เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงให้สัมผัสความลุ่มลึกในแต่ละอารมณ์ไปตามแต่ละช่วงเวลาที่มีลูกคู่กลิ่นนั้นๆ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งการเปิดตัวของ Musc for Her Oil Parfum 2013 จะมาชัดเจนถึงกลิ่นอายโทร Musk ที่จะมีความนุ่ม ความนวล ความละมุนที่ชัดเจน แต่จะแฝงด้วยกลิ่นอายสายปลุกเร้า Animalic ตุ่ยหน่อยๆ แต่ไม่ได้ติดสาบจ๋าเด่นเลย เพราะมาแบบให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ควรจะต้องมีและเป็นของ Musk แบบกลิ่นที่สะกิดจมูกบางๆ แล้ววูบถัดมาจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของโทนดอกไม้ที่มีกลิ่นผลไม้เนียนๆ แนวแอปริคอตให้จับต้องได้ ซึ่งเดาไม่อยากว่าเป็นดอกหอมหมื่นลี้ที่จะให้ความรู้สึกหอมติดหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ เย็นๆ นวลจมูก ตามด้วยกลิ่นโทนดอกไม้ขาวแนวๆ มะลิเจือกลิ่นโทนสะอาดติดเปรี้ยวปลายกลิ่นของดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลาย (Orange Blossom) ซึ่งทำให้ช่วงต้นจะได้อารมณ์ของ Musk ที่แตกต่างแต่ส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดีระหว่างความเป็น Animalic และ Floral สร้างกลิ่นอายที่มีเสน่ห์ทั้งดูอ่อนโยนก็ได้ เย้ายวนดึงดูดในความนวลนุ่มละมุนก็ดี แอบค่อนไปทางนวลอบอุ่นหน่อยๆ ก็ด้วย

ซึ่งช่วงที่แอบค่อนไปทางนวลอบอุ่นนี่แหละ ที่จะเป็นตัวปูทางไปสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะเริ่มเป็นกลิ่นอายสาย Musk ที่อบอุ่นขึ้น แต่ไม่ได้หนักจนฮอตฉ่าแต่อย่างใด ซึ่งโทน Animalic จะเริ่มเบาลงไปจนเหลือน้อยนิดเสริมให้กลิ่นโทน Musk กลายเป็นเสมือนกลิ่นผิวกายอบอุ่นติดนวลกลิ่นดอกไม้ที่ยังคงคุมโทนความขาวสว่างสะอาดนุ่มติดกลิ่นโทนผลไม้หวานบางๆ ซึ่งกลิ่นแม้จะรู้สึกว่ามันนวลนุ่มสว่าง แต่เอาเข้าจริงพื้นเพของ Musk มีความ Sexy แบบสายมินิมัลอยู่แล้ว เช่นนั้นอารมณ์กลิ่นเลยแบ่งเค้กกันได้อย่างน่าสนใจมากระหว่าง โทนอ่อนโยนที่ให้ความนุ่มสว่างและโทนเย้ายวนปนอบอุ่นที่เป็นธรรมชาติและไม่โจ่งแจ้ง มีความเรียบง่ายแต่เซ็กซี่เนียนๆ ในทีไปตลอด แล้วจะมีกลิ่นโทนออกทาง Earthy ที่ติดดินหน่อยๆ ค่อยๆ เนียนเสริมเข้ามาทีละนิดๆ จนกลายเป็นช่วงท้ายของน้ำหอม ที่กลิ่นจะเริ่มจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นพิมเสนเบาๆ สะอาดๆ กลิ่นติดดินปนไม้แห้งนิดๆ ซึ่งน่าจะมาจากหญ้าแฝก ที่มาเป็นสายสนับสนุนโทน Musky ที่ให้มิติที่น่าค้นหาปนเย้ายวนดึงดูดเสียด้วย และยังมีโทนแป้งอ่อนๆ อบอุ่นของวานิลลาที่ทำให้กลิ่นมีความนวลอุ่นกำลังดีเข้ามาอีก เลยจะเป็น 2 เลเยอร์ที่ได้กลิ่นอาย Musk ที่ติด Earthy ปนสะอาดเย้าระเรื่อๆ พอดมใกล้ๆ จะมีกลิ่นอุ่นกรุ่นอ่อนๆ คลอผิวกายจาก Musk ที่เจือวานิลลา ซึ่งกลิ่นจะมีความเรียบง่ายแต่มีชั้นเชิงที่มีความเย้ายวนเซ็กซี่ตามธรรมชาติ มีจริตที่กำลังดีปนอ่อนโยนอยู่ในทีไปตลอดเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใส่ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นมีความเป็นผู้หญิงที่ได้หลากหลายมิติอารมณ์ในความเป็นสีขาวสื่อสารถึง Sex Apppeal ที่ลงตัวมากอีก 1 กลิ่นเลย สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เพราะให้ความเรียบง่ายและเรียบหรูเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จะมีก็แต่การใส่ออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายๆ น่าจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนไม่แนะนำกับการใส่ไปท่องราตรี เพราะโดนกลบมิดแน่นอน แต่ถ้าใช้ใส่ไปดินเนอร์ โรแมนติค หรือใส่ก่อนนอนให้ดูน่ากอด อันนี้จัดไป ส่วนผู้ชาย บอกเลยว่าใช้ได้สบายมาก กลิ่นอาจจะไม่ได้แตะ Unisex แต่เพราะกลิ่นไม่ได้เป็นสายปล่อยพลัง มเลยจะเสริมให้มีเสน่ห์แบบโทนขาวนวลและระเรื่อๆ อ่อนๆ แบบเรียกร้องความสนใจคนยืนใกล้ๆ ได้ดีเลยทีเดียว 

ความทน - เพราะน้ำหอมตัวนี้เป็น Oil พื้นฐานกลิ่นจะทนเลยทีเดียวกับราว 8 ชม. ได้เลย 

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่าที่ให้ความอ่อนโยนปน Sexy ที่ขับ Sex Appeal ได้ดีมาก แล้วเป็น Skin Scent ไวพอสมควร เพราะ Oil Perfume กลิ่นมักจะจมติดผิวเป็นเรื่องปกติ 

สรุป - หนึ่งใน Masterpiece เลยก็ว่าได้ เพราะให้ความเรียบง่ายแต่เรียบหรูและเย้ายวนแบบเรื่อยๆ ที่เอาอยู่ได้เสมอทุกสถานการณ์ไม่แปลกใจที่มีแต่คนรักกลิ่นนี้ และเสียดายกันหมดที่กลิ่นนี้เลิกผลิต แต่มีการปรับสูตรใหม่และสีขวดใหม่ออกมาแล้ว เช่นนั้นว่ากันอีกทีถ้ามีโอกาสได้ลอง ที่สำคัญกลิ่นนี้ไม่ใช่หัวสเปรย์ เป็นการแต้มเน้นๆ จึงควรแต้มจุดตามชีพจร และจุดที่สเปรย์น้ำหอมลงบนผิวประจำจะดีที่สุด ตัดการแต้มลงเสื้อผ้าไปได้เลย เพราะมันเป็น Oil ไม่ควรโดนเสื้ออยู่แล้ว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://i.pinimg.com/originals/58/07/ba/5807ba13dc3dd59ce2c28482c2776b30.jpg


วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Review: Narciso Rodriguez - Narciso Rouge

Narciso Rodriguez - Narciso Rouge 

เมื่อไลน์ Narciso ขวดสี่เหลี่ยมลูกบากศ์ ในส่วนของฝั่งน้ำหอมผู้หญิงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Narciso EDP ขวดขาว & Narciso Musc --> Narciso EDT ขวดดำ --> Narciso Poudree ขวดชมพู ก็ได้เวลาต่อยอดกันอีกแล้ว เพราะแบรนด์ Narciso Rodriguez ได้เปิดตัวลูกหลานใหม่ของไลน์นี้มาเพิ่มอีก 1 รุ่นแล้วกับความเป็นสีแดงแรงฤทธิ์อย่าง Narciso Rouge ซึ่งคราวนี้จะนำเสนอโทนกลิ่นในลักษณะไหนและจะให้ความร้อนแรงหรือไม่ ว่ากันตามนี้เลย

เพราะความเป็น Narciso ในน้ำหอมจะต้องมีลายเซ็นหลักทางกลิ่นแบบที่ขาดไม่ได้แน่ๆ นั่นคือ Musk และกุหลาบ ซึ่งเราจะเจอ 2 โทนนี้เด่นในน้ำหอมทุกกลิ่นของไลน์นี้เลย แต่ Narciso Rouge เองก็ไม่พลาดที่จะนำเอา 2 โทนนี้มาชูโรง รวมถึงเอาความดีงามของความเป็นโทนแป้งหอมละมุน Narciso Poudree มาต่อยอดผสมผสานเข้าไปอีกด้วย ซึ่งเปิดตัวขึ้นมาก็ทำเอานึกถึงกลิ่นอายสไตล์เครื่องสำอางค์หรือลิปสติกกลิ่นกุหลาบกันก่อนเลย เพราะความเป็นไอริสที่ให้โทนแป้งแบบติดอับสไตล์แป้งฝุ่นเจือความ Buttery หน่อยๆ ผสมผสานกับกลิ่นกุหลาบ ทำให้ได้ความรู้สึกเป็นแป้งหอมกลิ่นกุหลาบที่มีความ Modern สูงมากและกลิ่นบอกเลยว่าสร้างออร่าความสวยมาก่อนเลย เพราะเพียงแค่ช่วงนี้ก็บอกได้ถึงภาพในหัวได้เลยว่าเหมือนนั่งดูผู้หญิงคนหนึ่งแต่งหน้าแบบลุคนวลๆ ไม่หนักที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แป้งปนกุหลาบลอยมา แต่สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดทำให้เรามองและสะดุดตาจังๆ เลยคือ ริมฝีปากที่ทาสีแดงสดที่ Mix & Macth กับลุคทั้งหมดบนใบหน้า เพียงแค่นี้ก็บอกกันชัดเจนว่ากลิ่นตอบโจทย์ที่ความเป็น Rouge ได้ชัดเลยทีเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมาแบบพุ่งแหลมคมหรือดูพยายามเปรี้ยวแสบสันต์แต่อย่างใด 

และเมื่อกลิ่นเริ่มจะมีความนุ่มนวลของโทน Musk เสริมเข้ามาเรื่อยๆ จนทำให้กลิ่นอายแป้งหอมจากช่วงแรกมีความนวลในกลิ่นมากขึ้น ก็ถือเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางกันอย่างชัดเจน ที่กลิ่นอายแป้งหอมนวลกลิ่นกุหลาบจะให้ความละเมียดปนหรูหรามีระดับกำลังดีเป็นฉากหน้า แต่สิ่งที่เสริมโทนให้จับต้องได้ถึง Sex Appeal ที่บอกถึงความเย้ายวนและเซ็กซี่ที่เป็นฉากหลังแบบไม่โจ่งแจ้ง เพราะจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายติดครีมมี่ปนดอกไม้ขาวที่รองพื้นอยู่ให้ลักษณะที่อยู่ระหว่างกลิ่นอายนุ่มนวลกับกลิ่นเย้ายวนได้อย่างลงตัว แบบที่ผู้หญิงคนเดิมที่พึ่งแต่งหน้าเสร็จแล้วเลือกสวมชุดเดรสสีขาวนวลพอดีตัวเข้าโทนสว่างตัดกับริมฝีปากแดงสดได้อย่างมีเสน่ห์มาก ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปยาวพอสมควรจนเมื่อความเป็นโทนแป้งเริ่มที่จะลดทอนตัวเองลงไป ให้กลิ่นอายติดไม้หอมโปร่งๆ ปนขรึมรองพื้นด้วยความครีมมี่บางๆ อบอุ่นหน่อยๆ โดนที่ยังมีความเป็นแป้งหอมอ่อนๆ อยู่ของวานิลลาและถั่วตองก้า ซึ่งกลิ่นจะมีความรู้สึกที่แตะได้ทั้งความนวลและความ Cool ขรึมวางตัวดีมีความมั่นใจในความละมุน ให้ความรู้สึกมีระดับแบบไม่ต้องพยายามกับภาพลักษณ์สีขาวนวลสว่างหรูหราปนเย้ายวนเนียนๆ กำลังดี แต่ไม่ละทิ้งความแซ่บจากริมฝีปากแดงที่ตัดกันอย่างน่าดูชมนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นให้ความมีระดับมีคลาสแบบที่ไม่ต้องหนักหน่วงแต่เอาอยู่สร้างออร่าออกมาแบบวางตัวดีละมุนปนเย้ายวนมีเสน่ห์ได้ดีมาก ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายออกไปได้เลย กลิ่นไม่เข้าทางทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แนวๆ ออกงานหรือว่าแนวๆ โรแมนติคจะลงตัวมาก ซึ่งจริงๆ แม้ว่าจะสามารถใส่ไปท่องราตรีได้ แต่กกลิ่นไม่ได้เป็นสายปล่อยพลังนัก อาจจะโดนกลิ่นอื่นๆ ของชาวบ้านกลบมิดเอาได้ 

ความทน - กลิ่นทนลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. อาจจะมีบวกลบบ้างอิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวกับการใช้งาน 6 สเปรย์ เจอไปที่ 8 ชม. ได้สบายๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ให้ความเป็นแป้งหรือลิปสติกกลิ่นกุหลาบมาเลย ก่อนที่จะลดลงมากระจายแบบปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ ตัว ในโทนแป้งหอมละมุนปนเเย้ายวน ก่อนปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัวซักระยะ พอพ้นไปซัก 6 ชม. แล้ว จะเป็น Skin Scent ชัดเจน 

ทิ้งท้าย - ใครว่าเมื่อเป็นกลิ่นอายที่สื่อถึงสีแดงแล้วจำเป็นต้องเปรี้ยว ต้องแสบ ต้องหนัก ต้องปล่อยพลัง และต้องแย่งซีนแบบโจ่งแจ้งไม่แคร์ใคร เพราะสามารถทำให้สีแดงมีความละมุนฉาบหน้าความร้อนแรงที่มีชั้นเชิงแบบไม่จำเป็นต้องเปิดเผยมาก ให้รู้สึกน่าค้นหาและดึงดูดได้ด้วยเช่นกัน นี่แหละ Narciso Rouge 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - Fragrantica -https://fimgs.net/images/secundar/o.53651.jpg

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

Review: Narciso Rodriguez - Narciso Eau de Toilette

Narciso Rodriguez - Narciso Eau de Toilette 

หลังจากที่เปิดตัวไลน์ Narciso ในปี 2014 กับขวดขาวนวลทรงสี่เหลี่ยมลูกบากศ์ที่หอมละมุนแฝงความเซ็กซี่ได้อย่างน่าดมกลิ่นแล้วกับการเป็น Narciso EDP และในปี 2015 ต่อมาก็ปล่อยต่อเนื่องมากับ Narciso EDT กับลูกบาศก์ดำที่ข้ามไปก่อน ไปที่รุ่น Narciso Poudree ขวดลูกบากศ์ชมพูที่วางจำหน่ายในปี 2016 เช่นนั้นได้เวลาย้อนมาเก็บตกกับไลน์นี้ก็ขอมาซึมซับเลยว่ากลิ่นอายรุ่นที่เคยข้ามไปเป็นยังไง 

Narciso Eau de Toilette เรียกว่าเป็นตัวกลางระหว่างความเป็น EDP และ Poudree ได้ลงตัวมาก เรียกว่าใครที่เก็บไลน์นี้จะมีเลเยอร์กลิ่นที่เชื่อมโยงกันได้เป็นอย่างดีจริงๆ โดยคงความเป็น Narciso Rodriguez กับเสน่ห์ของกลิ่น Musk ที่เป็นลายเซ็นหลักของแบรนด์ได้ลงตัวมาก เปิดตัวกับ Top Notes ที่เป็นกลิ่นอายดอกไม้ที่สดชื่นกันก่อนเลย โดยที่ในเนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ว่ากลิ่นไม่ได้มาแบบสดชื่นใสๆ เพราะแม้จะมีกลิ่นดอกโบตั๋นที่จะมาสายกุหลาบใสๆ อยู่เป็นตัวเด่น แต่กลิ่นโทนนุ่มของ Musk ที่เป็นลายเซ็นหลักของแบรนด์จะเจืออยู่ในเนื้อกลิ่นชัดเลย และจะยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นออกทาง Citrus บางๆ เสียด้วยในช่วงนี้ ถือว่าเป็นการเปิดตัวได้ดีมีความสมดุลย์ระหว่างความสะดชื่นโทนสว่างและความหวานหอมของดอกไม้แนวกุหลาบติดนวล ที่บอกเลยว่ากลิ่นมีความสาวกันอย่างชัดเจนมาก จนเมื่อกลิ่นอายของ Musk เริ่มดันขึ้นมาและชัดเจนมากขึ้น นั่นถือว่าเข้าสู่ Middle Notes กันชัดเจน ซึ่งกลิ่นอายของโทนดอกไม้ของโบตั๋นจะมีกลิ่นอายกุหลาบมาเสริม ซึ่งมาแทนที่กลิ่นอายดอกพุดที่เป็นตัวเด่นที่สุดในรุ่น EDP โดยในรุ่นนี้จะปรับให้มีความหวานใสติดนวลเคล้ากลิ่น Musk ที่มีความเซ็กซี่ติดนุ่มนวลและมีความสะอาดเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว กลิ่นจะมี 3 โทนให้จับต้องได้คือ นุ่มนวล เย้ายวน ละมุนดอกไม้ใสๆ ปนหวาน กลิ่นจะผสมผสานกันได้ลงตัวและมีเสน่ห์มาก ปรับโทนหวานข้นในรุ่น EDP มาเป็นหวานนวลติดใสสดชื่นแทน ในพื้นฐานกลิ่นที่เป็น Musk เย้ายวนแบบไม่โฉ่งฉ่างแต่เอาอยู่ จนเมื่อเริ่มมีกลิ่นไม้หอมสว่างๆ ติดแห้งๆ เจือเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะนำไปสู่ Base Notes ที่จะเป็นกลิ่นออกโทนสว่างจากไม้ซีดาร์ที่ผสมผสานกับกลิ่น Musk ที่ยังคงเด่นอยู่ โดยที่จะมีติดติดเขียวบางๆ และมีกลิ่นหวานจางๆ เจือไปตลอด ที่สำคัญจะแอบจับได้นิดๆ ว่ามีกลิ่นโทนคล้ายวานิลลาที่ให้ความเป็นแป้งอบอุ่นเย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้งผสมผสานอยู่ข้างใน ทำให้ยังมีความเซ็กซี่เย้ายวนยังคงที่ ปล่อยของได้ดีไม่หนีไปไหนอยู่ด้วยเช่นกัน 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานได้สบายๆ กลิ่นไม่ได้ข้นมากเกินไป มีความใสกลั้วนวลติดเย้ายวนกำลังดีไปตลอด เลยเป็นตัวที่ใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันได้เลย ครอบจักรวาลพอสมควร แต่งดเรื่องการใส่เพื่อออกกำลังกายจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนกับอากาศบ้านเราถือว่าจัดไป กลิ่นใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์เช่นกันรวมถึงการท่องราตรี ที่อันนี้อัดสเปรย์หน่อยก็พอไปสู้เขาได้พอสมควร แต่เอาเข้าจริงถ้าใส่เพื่อท่องราตรี จัด EDP กับ Poudree น่าจะโดนกว่าในเรื่องการปล่อยพลังและเสน่ก์ส่วนตัว 

ความทน - ดีงามแม้เป็น EDT เพราะว่าอยู่ที่ราวๆ 8 ชม. ขึ้นไป อิงตามสภาพผิว จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. สบายๆ เลย กับจำนวนสเปรย์ 5 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าชัดเจนและสามารถทำให้ฟินได้ไม่ยากเลย แล้วจะลดลงมาที่กระจายปานกลาง ก่อนปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นซัก 8 ชม. กลิ่นเริ่มผันเป็นติดผิวหอมเรื่อๆ กำลังดี

ทิ้งท้าย - กลิ่นมาครบเลยกับการเป็น Woody Floral Musk มีครบทุกโทนให้เลือกจับและดม โดยที่มีพื้นฐานกับการเป็นกลิ่นนุ่ม Musk เย้ายวนเป็นหลัก ปรับความข้นนวลเป็น หวานใสในความนุ่มนวล แต่ก็ไม่ได้เป็นแป้งจ๋าแบบรุ่น Poudree แต่เชืิ่อมโยงด้วยกลิ่นอายติดแป้งปนวานิลลา เรียกว่าเป็นการไล่เรียงและเชื่อมโยงกันได้ดีทั้ง 3 รุ่นของไลน์ Narciso นี้เลยทีเดียว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - Website: Woolworths


วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Review: Narciso Rodriguez - Narciso Poudrée

Narciso Rodriguez - Narciso Poudrée

จากรุ่นขาว Narciso EDP ที่เรียกว่าเป็นน้ำหอมโทนขาวก็จริงแต่มีความเซ็กซี่แบบน้ำนิ่งไหลลึกของ Narciso Rodriguez แน่นอนว่าไลน์นี้ก็มีการต่อยอดออกลูกหลานออกมาเพื่อให้เห็นแง่มุมต่างๆ ของกลิ่นอายนิ่งๆ แบบมินิมัลลิสม์แต่มีความแซ่บให้ค้นหาอย่างเช่นรุ่นล่าสุดคือรุ่นนี้เลย Narciso Poudrée 

เมื่อเห็นสีขวดและภาพจากสื่อต่างๆ รวมถึงชื่อรุ่นบอกได้ไม่ยากแน่ๆ ว่ามากับโทน Poudrée หรือ Powdery ที่เป็นโทนแป้งหอมแน่นอน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้เลยคือความคุมโทนแป้งหอมที่มีความเป็นสีชมพูอ่อนตามสีขวดและโฆษณาได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ โดยเริ่มจาก Top Notes ที่ให้ความเป็นดอกไม้กันเต็มก่อนเลย ซึ่งจะมีมิติของความสดชื่นผสมดอกไม้จากดอกส้มให้พอจับได้ และมีกุหลาบที่นวลจรุงจมูกแบบนุ่มๆ ให้รู้สึก แต่ที่เด่นจริงจังเลยคือ มะลิ ที่จะอยู่แบบสง่างามยาวไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเลยทีเดียว ซึ่งเนื้อกลิ่นของมะลิที่มาในตัวนี้จะไม่ได้มาแบบเข้มข้นแบบดอกไม้ขาวแน่นๆ แต่จะมาแบบนวลๆ รื่นจมูกแต่มีความ Modern สูงมาก โดยที่กลิ่นจะสื่อถึงสีชมพูอ่อนกันตั้งแต่ตอนนี้เลยกับการผสมผสานระหว่างมะลิและกุหลาบ ที่สำคัญกลิ่นมีความนุ่มให้รู้สึกได้และจะชัดเจนแบบเปิดตัวว่านี่แหละคือนางเอกของรุ่นนี้นั่นคือ Musk พร้อมนำเข้าสู่ Middle Notes ที่คราวนี้กลิ่นจะมีความนุ่มนวลแบบแป้งหอมคล้ายกลิ่นแป้งในเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า กลิ่น Musk ที่ได้ถือว่าสมดุลย์มากในแง่ของการเป็น Musk ที่ทั้งนุ่มสะอาด เซ็กซี่ รัญจวน และแป้งนวล ซึ่งกลิ่นดอกไม้ในช่วงต้นจะเป็นตัวทำให้เกิดความเป็นสีชมพูอ่อนติดโทนนู้ดเสริมความเป็นแป้งหอมที่ชัดเจนมากขึ้นและตีคู่กันไปตลอด และกลิ่นจะเริ่มมีความครีมมี่มากขึ้นให้รู้สึกได้ จนเมื่อเข้า Base Notes จะกลายเป็นกลิ่นอายแบบนุ่มนวลติดครีมมี่ โดยจะมีถั่วตองก้าที่กลิ่นอายติดวานิลลาเล็กๆ เอามาผสมผสาให้มีความนุ่มนวลแบบแป้งหอมชั้นดีและทันสมัยเสริมไปด้วยตลอด และจะมีกลิ่นไม้หอมอย่างซีดาร์มาตัดโทนไม่ให้กลิ่นออกทางแป้งจัดจ้านจนจะแน่นเอา เลยจะสัมผัสได้ว่าความเป็นแป้งหอมติดดอกมะลิรองพื้นด้วMusk ในช่วงนี้จะหอมรื่นจมูกและโปร่งกำลังดีมากกว่าจะแน่นข้น ซึ่งกลิ่นจะลากยาวไปเรื่อยๆ แยกชั้นชัดเจนว่ากลิ่นที่ลอยขึ้นมาจะเป็นแป้งหอมครีมมี่ที่มีดอกไม้นวลๆ แต่ที่ผิวจะเป็น Musk นุ่มติดไม้หอมสะอาดเซ็กซี่แบบที่ถ้าซุกอาจจะลืมไม่ลงเอาได้ 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นไม่โฉ่งฉ่าง มีความเรียบหรูดูดีอ่อนหวานนุ่มนวลแบบแป้งหอม แต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่แบบมีคลาสและมีระดับให้ลืมไม่ลงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเรียบหรูที่ว่า กลิ่นจะเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นยามทางการและทั่วๆ ไป จะภูมิฐานก็สามารถ หรือจะสบายๆ แบบมีชั้นเชิงก็ทำได้ เพียงแต่ไม่เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายนัก เดี๋ยวตีขึ้นจนมึนเอาได้ นอกจากนี้ยามค่ำคืนกลิ่นนี้จะเหมาะกับการใส่เผื่อออกงานดินเนอร์ หรือจิบเบาๆ แบบมีระดับเสียมาก ซึ่งจะเอาไปสู้เขาในการท่องราตรีก็ได้บ้าง แต่อาจจะสู่โทนหวานเย้าจัดๆแบบกวาดผู้ชายมาหาไม่ได้แน่ๆ ยกเว้นว่าอยากให้รู้สึกแบบซึมลึกว่าเห็นนิ่งๆ อ่อนหวานแต่จริงๆ เผ็ดใช่ย่อยนั่นก็อีกเรื่อง

ความทน - ยกนิ้วให้เลยเพราะกลิ่นทนดีงามจริงๆ กับ 8 ชม. ขึ้นไป อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. แบบไม่ได้อยู่ห้องแอร์และอากาศแบบร้อนๆ เสียด้วย 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น เรียกว่าปล่อยของกันก่อน แล้วจะลดลงไปที่กระจายปานกลาง ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไป ซึ่งเมื่อผ่านราวๆ 8 ชม. ไปแล้วจะเป็น Skin Scent ที่ตีขึ้นยามขยับเนื้อตัว และกลิ่นที่ติดผิวมีความเซ็กซี่น่าซุกมากเลยล่ะ 

ทิ้งท้าย - เป็นอีกหนึ่งผลงานของ Narciso Rodriguez ที่แม้เป็นน้ำหอมผู้หญิงแต่ผมไม่ผิดหวังเลย ทำได้ดีจริงๆ กับการใส่ Signature ของแบรนด์อย่าง Musk กับความเป็นมินิมัลลิสม์ ที่สำคัญฉีกตัวเองออกมาจากความเป็นครีมมี่เซ็กซี่โทนขาวของต้นตระกูลในไลน์แบบที่ไม่ทิ้งความเชื่อมโยงได้ดีงามมาก อีกหนึ่งกลิ่นที่คนชอบ Musk และโทนแป้งหอมไม่ควรพลาดครั 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้ามผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://asia.be.com/wp-content/uploads/sites/2/2016/05/imgpsh_fullsize-1.jpeg

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Review:Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir

Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir

Cartier already released your "Bleu Noir" some years ago under the name "Declaration". Do something really new next time.

เพราะผมเห็นประโยคนี้ ใน Comment ของเวบ Fragrantica ที่ถือเป็น Directory ที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องของน้ำหอมที่ได้ Comment เกี่ยวกับ Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir รุ่นนี้ นอกจากจะฮากร๊ากกกกกลั่นไม่พอ ยังสงสัย มันจริงเหรอที่เหมือนขนาดนั้น เช่นนั้นมาลองกันหน่อยเถอะว่าเป็นยังไง

เอิ่มมมมมม ยังไงดีทีมลูกเกดต้องบอกว่า #พี่อึ้งเลยอะ เพราะเปิด Top Notes มานี่มัน มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรงชัดๆ แอบเป็นน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะนิดๆ ด้วยแหละ ซึ่งมันก็คือ กลิ่นเปิดแบบ Cartier Declaration เลยอ่ะ เพราะกลิ่นเปลือกส้มขมผสมผสานกับยี่หร่า เม็ดผักชี และเม็ดกระวานมาเต็มกับความเป็นเครื่องเทศเต็มๆ อาจจะมีมีกลิ่นอายแบบเมทัลลิคเล็กๆ ของเม็ดจันทน์เทศที่มาทำให้กลิ่นออกโทนเย็นๆ วาบๆ บ้าง แต่มันก็พุ่งเข้าประเด็นความเป็นกลิ่นเครื่องเทศนำเด่นแบบ Declaration อยู่ดี แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่หอมนะครับ หอมเลยล่ะ เพียงแต่นะ เหมือนเกินไปนิดนึงนะตะเองในช่วงนี้ พอเข้า Middle Notes งานนี้กลิ่นเครื่องเทศยังทำหน้าที่อยู่แต่จะนุ่มขึ้นมากเพราะ Signature Note ของแบรนด์นี้อย่าง Musk จะดันขึ้นมาทำให้กลิ่นอายเครื่องเทศตอนต้นนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งในช่วงนี้กลิ่นของพริกไทยกับเครื่องเทศติดโทนหวานหน่อยๆ จะมาเบาๆ คลอๆ รับช่วงเสริมเพิ่มเข้ามาด้วย แน่นอนยังเหมือนอยู่ แต่ก็นะมันก็ยังหอมมาก เพราะมีความเป็น Musk นี่แหละที่มาให้ความต่าง แล้วจะเริ่มมีโทนวู้ดดี้เสริมเข้ามาเรื่อยๆ จนเข้า Base Notes ที่กลิ่นเครื่องเทศจางไปหมด Musk ก็จางไปอยู่เบื้องหลังแบบเบาๆ ดันให้กลิ่นโทนไม้หอมอย่างซีดาร์กลายเป็นกลิ่นเหมือนกระดาษสาสะอาดๆ หอมนวลๆ มีความคล้ายกลิ่นอายแบบไม้ดินสอหน่อยๆ มีกลิ่นอาย Smoky จางๆ ติดโทนดาร์กมีระดับ ซึ่งกลิ่นช่วงนี้หอมนวลจมูกมากเลยทีเดียว แม้จะแอบติดๆ ความเป็นอีกตัวที่คล้ายมาบ้าง แต่ไม่ได้มากแล้วเพราะตัวนั้นกลิ่นชาจะเด่น แต่ตัวนี้ไม้หอมเด่น เริ่มแยกเป็นเอกเทศชัดเจน และน่าสนใจมากก็ช่วงนี้เลย

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นถือว่ามาในโทนภูมิฐาน ติดดาร์กนิดๆ เข้าถึงได้กำลังดี ไม่ยากไม่ง่าย สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน งานทางการก็ได้อยู่ในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม หรืออยู่ในห้องแอร์ฉ่ำๆ กลิ่นนี้จะดีงามมากจริงๆ นอกนั้นโอกาสทั่วไปก็ได้หมดกับจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม งดใส่ออกกำลังกายไม่งั้นจุกคอหอยตายก่อน ส่วนยามค่ำคืนจัดไปจ้า กลิ่นเรียกแขกแบบมีระดับเลยล่ะ

ความทน – 8 ชั่วโมงสบายๆ ซึ่งอาจจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ อิงที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย กลิ่นกระจายดีและแอบแน่นในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายกลางๆ ไปเรื่อยๆ ปิดท้ายด้วยออร่าไม้หอมรอบๆ ตัว

ทิ้งท้าย เหมือนไหม? คงไม่ต้องถามอะไรให้มาก ข้างบนอธิบายแล้ว 5555 เพียงแต่มันก็มีความต่างไม่ใช่ไม่มี ถ้า Declaration เน้นความเป็นเครื่องเทศกลั้วชาและวู้ดดี้แบบหรูๆ Bleu Noir ก็เป็นเครื่องเทศกลั้ว Musk และไม้หอมติดดาร์กมีระดับนั่นเอง

Credit ภาพ - http://cdncf-au.fluidretail.net/customers/c1467/26/96/-5/18/31/2696-51831_detail/zoom_variation_NOTRELEVANT_view_01_990x1290.jpg


วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Review: Narciso Rodriguez – Narciso


Narciso Rodriguez – Narciso

ได้เวลาของน้ำหอมแบรนด์ที่เรียบนิ่งแต่หรูหราแบบ Minimalist อย่างแบรนด์ Narciso Rodriguez อีกครั้ง ซึ่งรอบก่อนๆ จะเน้นไปที่น้ำหอมผู้ชายเสียก่อนใหญ่ มาครั้งนี้ได้โอกาสลองของใหม่เป็นโซนผู้หญิงบ้างอย่างรุ่น Narciso ผลสรุปที่ออกมา ทำเอาปลื้มปริ่มในแบรนด์นี้เข้าไปอีก เพราะ

เพราะขวดสีขาว กลิ่นที่ได้เลยจะเข้าทาง Concept สีขาวทุกประการจริงๆ โดยเริ่มที่ Top Notes จะบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง โดยเริ่มที่โทนดอกไม้อย่างการ์ดิเนียและกุหลาบขาว กลิ่นจะนุ่มนวลชวนฝันและให้อารมณ์สีขาวมาก ซึ่งตัวการ์ดิเนียมันจะหอมแบบโทนกุหลาบบางๆ หวานจางๆ ติดกลิ่นออกทางเห็ดหน่อยๆ และมีความสะอาดในเนื้อกลิ่น พอมาผสานกับกุหลาบขาว มันเลยไปกันได้ดีและงามมากกับกลิ่นที่ได้ทั้งความนุ่มนวลและเซ็กซี่ ติดสดชื่นจางๆ เพียงไม่นานกลิ่น Musk จะเริ่มดันขึ้นมาจนเข้าสู่ช่วง Middle Notes เต็มๆ และกลายเป็น Unisex ที่จะมาในรูปแบบนุ่มนวลผสมกับกลิ่นโทนดอกไม้ในตอนต้น จนได้ความรู้สึกสีขาวนุ่มๆ ไปตลอด กลิ่นมีความเย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้ง เพราะคาบเกี่ยวกับความสว่างของเนื้อกลิ่นที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลชวนไว้วางใจไปด้วย จนส่งต่อให้ช่วง Base Notes กับการส่งต่อความ Unsiex ที่ติดโทนแมนๆ แบบผู้ชายขึ้นมานิดนึง เพราะกลิ่นโทนไม้ซีดาร์จะมาให้ความขรึมออกทาง Smoky จางๆ ให้ความน่าค้นหาอย่างลงตัว โดยที่ต้องบอกเลยว่ากลิ่นของโทนดอกไม้กับ Musk ยังคงตามมาเด่นอยู่ ไม่หายไปไหน เรียกได้เลยว่า Signature ของแบรนด์อย่างกลิ่น Musk ก็ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เสริมด้วยโทนสีขาวจนนุ่มนวลและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกันนั่นเองล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปครับ กลิ่นนี้เป็นโทนสว่างสีขาวแบบเซ็กซี่ จะเสริมบุคลิกคนใส่ในรูปแบบที่มีชั้นเชิงทั้งอ่อนโยน นุ่มนวลก็ได้ เย้ายวนเซ็กซี่ก็ดีเลยล่ะครับ ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งงานทางการและไม่ทางการ ขอยกเว้นการใส่เพื่อออกกำลังกาย ส่วนใส่ออกงานยามค่ำคืน บอกเลยลงตัวสุดๆ แต่ถ้าจะเน้นเมาข้ามตัวนี้ดีกว่าครับ ลุคจะเสียหมด ส่วนผู้ชาย บอกตรงๆ ใส่น้ำหอมตัวนี้ได้สบายๆ เลยครับ เพราะนอกจากจะมีความ Unisex ในเนื้อกลิ่นสูงแล้ว กลิ่นช่วงท้ายๆ นี่เรียกว่าติดแมนๆ ได้เลยล่ะครับ

ความทน – เอาไปเลย 8 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติ และมากกว่านั้นมากเสียด้วยซ้ำไป เพราะส่วนตัวจัดไป 6 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อด้านหน้า อยู่ยาวถึง 15 ชม. เลยจ้า

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีงามแบบนุ่มนวลด้วยความเป็นสีขาวในช่วงต้น ลดระดับลงมากระจายดีในช่วงกลาง มีช่วงท้ายที่เป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบหอมแบบมีชั้นเชิงและมีระดับคุมโทนสีขาวตั้งแต่ต้นยันจบไม่มีผิดเพี้ยน

ทิ้งท้าย – กลิ่นดีงามมากเลยทีเดียว และเป็นอีกหนึ่งน้ำหอมที่แบรนด์ Narciso Rodriguez ไม่ทำให้ผิดหวังครับ

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

Review: Narciso Rodriguez For Him EDP Intense


Narciso Rodriguez For Him Eau de Parfum Intense

เรียกได้ว่าขนมาหมดทั้งความเป็น EDP ไม่พอ ยังจ่อต่อเนื่องด้วยความ Intense เอาให้แน่นกันไปเลยทีเดียวกับหนึ่งใน Flanker น้ำหอมผู้ชายของ Narciso Rodriguez ที่รุ่น for Him ปกติความดีงามมันช่างล้นเหลือ แถมรุ่น Musc ก็จัดเต็มแน่นเซ็กซี่สุดช่วงตัว ซึ่งพอมาเป็นตัวนี้จะออกรูปไหน เลยมาบอกเล่ากันครับกับ Narciso Rodriguez for Him EDP Intense

หลายๆ คนมักจะบอกว่าตัวนี้กลิ่นใกล้เคียงกับรุ่น For Him Musc มากพอสมควร เปลี่ยนแค่กลิ่นต้นนิดหน่อย ซึ่งใช่ไหม ก็ใช่เลยล่ะครับ เพียงแต่ในรุ่น EDP Intense มันจะออกโทนเครื่องเทศมากกว่า เพราะเปิดตัวด้วยกลิ่นออกทางไวโอเล็ตผสานกับพริกไทยสีชมพู โดยมี Musk ที่เป็น Signature Note ของแบรนด์นี้หนุนหลังอยู่เต็มๆ กันตั้งแต่ช่วงนี้ ซึ่งกลิ่นของพริกไทยสีชมพูจะเด่นมากเลยทีเดียวให้ความรู้สึกหวานกำลังดี มีโทนแป้งนุ่มๆ ของไวโอเล็ตดันดาราให้อยู่ข้างหลัง จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางโทนแป้งหอมยังคงอยู่เพราะไอริสจะมาร่วมด้วยช่วยกัน ที่สำคัญกลิ่นที่ตีคู่และชัดขึ้นจนเต็มเหนี่ยวอย่าง Musk จะเริ่มปล่อยของกันเต็มๆ ผสานกับจนกลายเป็นทำให้แป้งหอมคลาสสิคติดโทนหวานเครื่องเทศและโทนปลุกเร้า Animalic ที่เข้มข้นไม่น้อย ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะเซ็กซี่เย้ายวนแบบติดทางดาร์กน่าค้นหาอย่างมาก ต้องยอมรับเลยว่าปรุงออกมาได้สื่อถึงความยวนใจแกล้มความหวานได้ลงตัวไม่น้อย จนเมื่อเข้าถึงช่วงท้ายคราวนี้ Musk จะมาจัดเต็มแบบไม่แคร์สื่อ มาเต็ม มาแน่น โดยมีโทนวู้ดดี้เป็นผู้สนับสนุนรองอยู่ด้านหลังให้มีความอบอุ่นจางๆ ในเนื้อกลิ่น แน่นอนว่ายังคงความเซ็กซี่ไม่ลดราวาศอกใดๆ ทั้งสิ้น แถมบ่งบอกชัดเจนถึงความน้อยแต่ได้มากแบบ Minimalist ที่เอาอยู่เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นค่อนข้างต้องผ่านน้ำหอมตัวอื่นๆ มาพอสมควรครับ เพราะเพียงแค่ดมผ่านๆ ก็แน่นมากเลยทีเดียวจนอาจจะผงะไปเลยได้ สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม และอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ฉ่ำๆ เสียส่วนใหญ่ สามารถใส่ได้ทั้งงานทางการและทั่วไป แต่อย่าได้ใส่ออกกำลังกายเลยจะฆ่าผู้คนรอบตัวเอาได้นะครับ ส่วนเที่ยวกลางคืนแบบแต่งตัวดีๆ เมโทร ก็จัดไปจ้า กลิ่นเย้าแบบนิ่งๆ ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายอาจจะมีคนเข้ามาสีเกินความจำเป็นก็ได้นะนั่น ส่วนคุณผู้หญิงตัวนี้พอใส่ได้นะครับ เพราะมีโทนหวานหน่อยๆ แต่ Musky แน่นๆ ดาร์กๆ ที่น่าค้นหาแตะโจทย์ Unisex ได้อยู่ครับ

ความทน – เอาไปเลย 12 ชม. กับจำนวนสเปรย์เพียง 3 สเปรย์ ถ้าอัดหนักกว่านี้ คงนับต่อไม่ได้ว่าจะทนไปถึงไหน อาจจะแน่นจนจุกคอหอยตายไปก่อนได้

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมาก แน่น และหนักเลยทีเดียวตั้งแต่ช่วงต้น โดยจะคงการกระจายดีไปตลอดจนถึงช่วงท้ายที่จะเป็นบาเรียล้อมเราไว้เลยและลดลงเรื่อยๆ เป็นออร่ารอบๆ ตัวยามปลายๆ ช่วงท้ายครับ

ทิ้งท้าย – ใครชอบกลิ่นออกทาง Musky กลั้วติดเครื่องเทศโทนหวานจางๆ จะฟินกับตัวนี้มากครับ แต่ถ้าชอบ Musky หนักๆ เซ็กซี่แบบเน้นๆ ไม่เอาโทนหวานอาจจะปลื้มรุ่น for Him Musc มากกว่า อันนี้แล้วแต่ความชอบจริงๆ ส่วนผม “ชอบทั้งคู่คร้าบบบบบ”

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

Review: Narciso Rodriguez for Him Musc


Narciso Rodriguez for Him Musc

ตัว For Him ของ Brand นี้เรียกว่าหอมคลาสสิคสุดๆ และเคยกล่าวถึงไปแล้วกับกลิ่นของไอดินยามฝนตกกลั้ว Musk ที่หรูหราและมีระดับ คราวนี้ได้เวลาของการข้ามขั้นมาที่ความเป็น EDP: Musk Collection กันบ้าง แน่นอนครับ Advance กว่าเดิมเพิ่มความเทพของกลิ่นเข้าไปอีก กับตัวนี้เลยครับ Narciso Rodriguez for Him Musc

เปิดตัวกันต้นกลิ่นก็มี Musk ขึ้นมากันเลย กลิ่นนุ่มเย้ายวนชัดเจนมาแบบแน่นๆ มา แต่จะมาในรูปแบบที่ผสมผสานกับกลิ่นโทนเบอร์รี่ ติดออกทางแป้งหอมคลุ้งกระจายแบบมีชั้นเชิง ซึ่งช่วงนี้อาจจะออกทางผู้หญิงนิดหน่อย แต่เป็นกลิ่นที่อย่างน้อยผ่านน้ำหอมอะไรมาพอสมควรหรืออาจจะผ่านรุ่น EDT ปกติมาก่อน เพราะไม่งั้นจะถือว่าหนักและทำให้แน่นกับกลิ่นเอามากจริงๆ จนมึนไปเลย เพราะความเข้มข้นมันสูงมาก จนเมื่อเข้ามาสู่ช่วงกลางๆ คราวจะมาในโทนของดอกไม้แน่นๆ แบบแมนๆ ความเป็นหญิงในช่วงต้นหายไปหมด ที่สำคัญ Musk ที่รองพื้นในช่วงต้น มาในช่วงนี้จะเริ่มเด่นแน่นเข้มขึ้น ซึ่งมันเซ็กซี่มากกกกกกกกก เพราะมันให้หมดเลยทั้งความเย้ายวนแบบมีคลาส หรูหรา แอบลึกลับ และมีความเป็นผู้ดีในเนื้อกลิ่นสุดๆ ช่างเด็ดดวงเหลือทนจริงๆ จนปิดท้ายด้วยความเป็น Musk กลั้วกลิ่นหนัง มีโทนเย้ายวนแบบมีระดับกลั้วไปกับความนุ่มสะอาด ที่สำคัญความเซ็กซี่นั้นไม่มีคำว่าจางหายไปไหน มากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีกเสียด้วยซ้ำไป แบบว่านี่แหละเขาเรียกว่า “เช็กซี่จัดๆ แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้า”

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป และบอกได้เลยว่ากลิ่นหนักแน่นมาก ซึ่งจะเหมาะกับใส่ยามกลางวันในสภาพอากาศเย็นๆ หรือทำงานห้องแอร์มันจะลดความหนักของกลิ่นลงไปได้มากโขอยู่ แต่ถ้าเจออากาศร้อนๆ หรือออกกำลังกายจะอึดอัดได้ง่ายๆ เลยต้องลดจำนวนสเปรย์ให้เหมาะสมเพราะกลิ่นหนักจริงอะไรจริง ส่วนใส่เที่ยวกลางคืนนี่สบายๆ เลยครับ แต่วางมาดนิดนึงนะครับ ไม่ใช่เมาหยำเปลุคทางด้านกลิ่นมันจะเสียหายหลายแสนเลยน

ความทน – คือ ดีงามมมมมมมมมมม ผมใส่ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยาวไปถึงเที่ยงคืน กลิ่นยังตีขึ้น ยิ่งตอนอาบน้ำแล้วผิวโดยน้ำกลิ่นจะฟุ้งกระจายเหมือนระเหยออกมาจากผิวเลยทีเดียว ฟินนนนนนน สรุปง่ายๆ คือ เกิน 12 ชม. สบายๆ ครับ

การกระจาย – กลิ่นมันแน่นหนักอยู่แล้วการกระจายเลยไม่ลดราวาศอกเลยแม้แต่น้อย แน่ๆ เลยคือคนใส่จะได้กลิ่นตีขึ้นตลอด แต่คนรอบข้างอาจจะได้กลิ่นเย้ายวน เซ็กซี่ หรูหราและสะอาดมีคลาสหนักบ้างเบาบ้าง หรืออาจจะทิ้งกลิ่นไว้ตรงที่คนใส่เดินผ่านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะอิงกับยามร่างกายทำความร้อนด้วยในการกระจายของกลิ่น

ทิ้งท้าย – นี่คือหนึ่งในตัวเทพด้าน Musk เลยล่ะครับ อาจจะไม่ได้เป็น Musk ที่เต็มเหนี่ยว มีผสมผสานบ้าง แต่ยังไงมันก็ยังเทพอยู่ดีแหละ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับ

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Narciso Rodriguez for Him



Narciso Rodriguez for Him

พูดถึง Narciso Rodriguez แม้แบรนด์นี้จะไม่ได้มีประวัติมายาวนานอะไรมากเหมือนหลายๆ แบรนด์ (เกิดมาได้ประมาณ 10 กว่าปี) แต่ถือว่าผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้เป็น Fashion Designer ที่เก่งฉกาจหาตัวจับได้ยากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมถึงน้ำหอมที่ทำออกมาได้ล้ำลึกมากโดยที่ปล่อยน้ำหอมผู้หญิงออกมาก่อนและได้รับความนิยมไม่ใช่น้อยๆ เลย และน้ำหอมผู้ชายที่เป็นตัวแรกของแบรนด์นี้อย่าง Narciso Rodriguez for Him ก็ล้ำลึกไม่ต่างกันเลยทีเดียว

Narciso Rodriguez for Him ถือว่าเป็นน้ำหอมที่ต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจพอสมควร เพราะกลิ่นของน้ำหอมตัวนี้จะให้อารมณ์คลาสสิค Timeless ย้อนยุคไปในรูปแบบของ Aromatic Fougere แม้จะดูโบราณก็จริง แต่โทนกลิ่นมันให้ความร่วมสมัยได้ดีไม่ใช่น้อย Top Notes จะเปิดตัวกันด้วยกลิ่นของไวโอเล็ตและวู้ดดี้แบบลึกลับหน่อย แอบมีโทนกลิ่นเขียวๆ ออกทางถั่วนิดๆ ในวูบแรก แล้วจะกลายเป็นกลิ่นไอดินยามฝนตกหรือบางครั้งเป็นกลิ่นคอนกรีตที่เปียกน้ำฝน มันให้ความรู้สึกแปลกและสุดยอดมากในความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นแบบที่ใกล้ตัว แถมยังอยู่ยาวนานกว่าที่คิดประมาณ 30 นาทีบนผิวผม และกลิ่นโทนดอกไม้นวลๆ จะเริ่มมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ Middle Notes ที่ละมุนเต็มขั้นในรูปแบบแป้งหอมโบราณๆ หน่อย โดยมีกลิ่นของพิมเสนที่ทำให้โทนในช่วงนี้จะออกทางนุ่มและเย้ายวนกำลังดีมากขึ้นด้วย โดยมีกลิ่นในช่วงต้นเป็นฉากหลังบางๆ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะบ่งบอกถึงความคลาสสิค ย้อนยุค Timeless ได้ดีจริงๆ เพราะนุ่มนวลชวนฝันในรูปแบบของดอกไม้หอมๆ ที่ไม่ได้สาวมีกลิ่นแมนๆ ออกดาร์กอยู่ในเนื้อกลิ่นเสียด้วยซ้ำ ทำให้น่าค้นหา ลึกลับด้วย จนเมื่อเข้าสู่ Base Notes แป้งหอมดอกไม้ยังมีอยู่แต่กลิ่นโทนที่ขึ้นมาแทนคือความสะอาดของ Musk ที่เด่นมากเลย กลิ่นไม่หนักเกินไปมีโทนอบอุ่นอยู่พอสมควร โทนพิมเสนยังตามมาเด่นในช่วงนี้อยู่ แต่ให้อารมณ์นวลๆ อากาศหอมเย็น ทั้งหมดสื่อได้ถึงความเป็นผู้ชายร่วมสมัย คลาสสิค สุภาพบุรุษ น่าค้นหา และเนี้ยบกำลังดีเลยครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป เพราะกลิ่นนี้อาจจะต้องผ่านการใช้น้ำหอมมาพอสมควร แถมยังต้องทำความเข้าใจกับมันไม่ใช่น้อย บางคนไม่ชอบเลยก็มี กลิ่นจะเหมาะกับยามอากาศเย็นๆ หน่อยครับ ถ้าจะใส่แบบอากาศบ้านเรา จำนวนสเปรย์ที่เหมาะสมจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันและกลางคืน แต่จะไม่เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายเพราะกลิ่นจะกระจายจนคนอื่นตกใจได้ครับ ส่วนคุณผู้หญิง สามารถใช้กลิ่นนี้ได้สบายๆ เลย เพราะกลิ่นโทนดอกไม้ของตัวนี้แม้จะออกดาร์ก ลึกลับ แต่ก็เข้ากับผู้หญิงไม่น้อยนะครับ

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ครับ

การกระจาย - กระจายได้ดีมากเลยในช่วง Top และ Middle แถมทิ้งกลิ่นให้ค้างอยู่ในสถานที่ฉีดได้หลายชม.เลยทีเดียว ส่วน Base จะออกแนวกระจายได้ในระดับที่กำลังดีแทนครับ

คหสต. - ตอนที่ใช้ครั้งแรก ผมแทบจะถอดใจกับตัวนี้ เพราะไม่ชินกับกลิ่นและโดนคนหลายๆ คนทักว่ากลิ่นผัวแขกไปไหม 55555 แต่หลังจากนั้นลองอีกหลายครั้งจนเริ่มเข้าใจกับกลิ่นมากขึ้น และเริ่มสัมผัสเสน่ห์ของกลิ่นได้เต็มๆ จนปลื้มปริ่มไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวครับ