แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Robert Piguet แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Robert Piguet แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

Review: Robert Piguet - Calypso

Robert Piguet - Calypso 

Calypso ชื่อนี้หลายๆ คนคงนึกถึงเรื่อง Pirates of the Caribbean ที่นางคลั่งแล้วตัวใหญ่สุดท้ายแตกตัวเป็นปูไปซะงั้น แต่จริงๆ แล้วชื่อนี้เป็นหนึ่งในเรื่องราวของเทพปกรณัมกรีก ที่เป็นนางไม้บนเกาะแห่งความฝัน ซึ่งหลังจากที่ Odysseus ชนะศึกที่เมืองทรอย ก็โดนเทพเจ้ารังควานทำให้เรือแตกไปติดเกาะนี้ แล้วได้พบกับนางไม้ Calypso เข้าให้ นางก็หลงผู้ชายหัวปักหัวปำ เปย์ทุกอย่าง ยั่วทุกดอก และให้พรทำให้ผู้ชายเป็นหนุ่มไปตลอด และพร้อมจะทำให้เป็นอมตะถ้าตกลงอยู่กับนางถาวร ซึ่งก็อยู่ด้วยถึง 7 ปีเลยทีเดียว แต่เพราะคนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้ แม้รักและเปย์แค่ไหน ถ้าผู้ชายเขาไม่เอารั้งไว้ไม่อยู่ก็ต้องจบและจากกัน ซึ่งหลังจากที่จบกับ Odysseus นางก็ตรอมใจจนตายไปในที่สุด

แน่นอนว่าไม่ได้มาวิพากษ์เรื่องปรัมปรากรีก แต่จะมากล่าวถึงน้ำหอมของแบรนด์ Robert Piguet ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยมีแรงบันดาลใจในการบอกเล่าความเป็นนางไม้อย่าง Calypso ซึ่งกลิ่นจะสร้างสรรค์ออกมาอย่างไร และให้อารมณ์แบบไหน ว่ากันได้ตามนี้เลย

เปิดตัวมาวูบแรกก็จับได้ถึงกกลิ่นอายกุหลาบที่ติดทางเขียวเหมือนน้ำแจกันกุหลาบหน่อยๆ ที่เดาได้ไม่ยากว่าเป็นกลิ่นของเจอราเนียมที่จะให้วูบกลิ่นลักษณะนี้ และแน่นอนมีกลิ่นกุหลาบเจือๆ ที่ให้ความระเรื่อโรแมนติคในเนื้อกลิ่นด้วย รวมถึงมีโทนพิมเสนสร้างออร่ากึ่งพืชล้มลุกที่ให้โทนปร่ากึ่งดินๆ Earthy กำลังดีเสริมแบบเนียนๆ ในเนื้อกลิ่น รวมถึงได้ความรู้สึกกึ่งเปรี้ยวหอมค่อนไปทางกึ่งเปลือกส้มหน่อยๆ ที่จะสร้างบรรยากาศของโทน Citrus เข้ามาร่วมด้วยแบบกำลังดี ที่สำคัญกลฃิ่นพุ่งฟุ้งหน่อยๆ ที่เหมือนมี Aldehydes ให้ลักษณะกลิ่นออกทางกึ่งสบู่คมๆ เนียนๆ อยู่แบบอ่อนๆ สไตล์สายสนับสนุนอยู่ด้วยแบบไม่ได้เด่นนัก อารมณ์ดันดาราเสียมากกว่า ซึ่งอารมณ์กลิ่นจะไม่ได้ออกทางคุณนายเกินไปแบบสไตล์กุหลาบกึ่งพิมเสนที่มักจะเจอ แต่จะให้ความเขียวของเจอราเนียมเข้ามาทำให้กลิ่นมีความสดใสและเยาว์วัยมากขึ้น โดยที่เนื้อกลิ่นมีความเป็นธรรมชาติไม่จงใจให้ดูนางพญากรุยกรายแต่อย่างใด

เมื่อโทนกลิ่นสดชื่นออกทางกึ่งเปลือกส้มกึ่งสบู่เริ่มค่อยๆ บางลงไปตามลำดับ สิ่งที่ขึ้นมาแทนที่แบบเต็มๆ เลยคือ กุหลาบ แต่กลิ่นจะไม่ได้มาแบบกุหลาบจ๋าๆ แบบเอาหน้าซุกลงไปที่ช่อกุหลาบหรือยืนในสวนกุหลาบรายล้อมอะไรแบบนั้น แต่จะมาแบบโทนแป้งเสียมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่แป้งหอมกุหลาบที่จดจ้านแต่อย่างใด แต่มาแนวๆ ติดหอมนวลกึ่งเซ็กซี่เย้ายวนมีเสน่ห์นิดๆ ไม่ได้ดูจงใจทำให้โปร่ง แต่ให้อารมณ์แบบแป้งที่มาแบบติดอับหน่อยๆ ของหัวเหง้าใต้ดินของต้นไอริสหรือหัวเหง้าออริส ซึ่งเมื่อมาเจอกับกุหลาบที่ให้ความนวลโรแมนติค จะทำให้ได้อารมณ์แบบแป้งนวลกุหลาบติดอับอ่อนๆ ที่มีเสน่ห์ ตามด้วยกลิ่นที่ตามมาจากช่วงต้นอย่างเจอเราเนียมที่ยังให้ความเขียวติดแบบกลิ่นก้านกุหลาบอ่อนๆ กลิ่นเลยมีมิติที่ให้ความเป็นธรรมชาติของกุหลาบได้ดีเข้ามาร่วมด้วย และแน่นอนว่าพิมเสนยังไม่หนีไปไหนยังอยู่แบบมให้ความระเรื่ออ่อนๆ ประปรายในเนื้อกลิ่นอย่างมีจริตและชั้นเชิงอีกด้วย ซึ่งเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควรจนโทนกลิ่นเริ่มมีความนวลอนอบอุ่นเข้ามามากขึ้น จนจับได้ว่าเป็นกลิ่นโทนออกทาง Musky อวลแบบผิวกายสะอาดนวลของหนังกลับ (Suede) ที่เริ่มเข้ามาอิทธิพลในเนื้อกลิ่นจนกลายเป็นตัวหลักของช่วงท้าย กลิ่นจะเริ่มให้อารมณ์กึ่งผิวกายติดแป้งหอมกุหลาบ โดยมีพิมเสนที่จากแอบแผ่วในช่วงกลางกลับมาเป็นตัวที่จับต้องได้และล้อมกลิ่นให้ความระเรื่อปนหวานกึ่งสากปร่าบางๆ แบบกำลังดีเสียด้วย ซึ่งเมื่อสัมผัสกลิ่นเข้าไปใกล้ผิวหนังจะจับได้ถึงกลิ่นกึ่งอบอุ่นของทางแอมเบอร์เนียนๆ เคล้ากลิ่นกึ่งเค็มอ่อนๆ ติดไม้หอมแห้งๆ เบาๆ ให้สัมผัสได้ซึ่งเดาได้อีกต่อเลยว่าในนี้ในสารหอมที่ช่วยทำให้กลิ่นของหนังกลับมีมิติติดเค็มอ่อนๆ คล้ายผิวกายจริงมากขึ้นนั่นคือ Ambroxan ที่ให้ความสมดุลย์แบบสายสนับสนุนที่ดีมากกว่าจะมาแบบเด่นๆ กลบทุกสิ่ง ทำให้ช่วยท้ายอารมณ์กลิ่นจะมีความหรูหรา ระเรื่อ เย้านวลกึ่งหวานปนอบอุ่นกำลังดีให้ความติดกรุยกรายเล็กๆ ที่ให้ความเรื่อยๆ อย่างมีระดับและเรียบหรู ปิดท้ายในการคลอผิวกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปในที่สุด

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นไม่ได้ออกทางคุณนายหรือนางพญาอะไร ออกทางกลิ่นให้ความเยาว์วัยแต่มีจริตกึ่งเย้ายวนเนียนๆ เสียมากกว่า ซึ่งสามารถใช้ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายที่ไม่เข้าทางเท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืน เน้นแบบทั่วๆ ไปหรือออกงานจะดีกว่าใส่ไปม่องราตรี เพราะกลิ่นแม้จะมีโทนเย้ายวนแต่ถ้าไปเจอสายหวานหนักข้นอวลจัดจ้านทั้งหลาย ก็โดนกลบได้เหมือนกัน และที่สำคัญกลิ่นนี้แอบมีความเป็นโทน Unisex มากเลยทีเดียวโดยเฉพาะช่วงท้าย เช่นนั้นถ้าผู้ชายไม่ถือ ใส่ได้ เผลอๆ สร้างเสน่ห์ได้ดีอีกด้วย 

ความทน - ลงตัวที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกอิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังอยู่กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ ถือว่าเยี่ยม

การกระจาย - กลิ่นกระจานดีในตอนต้นแล้วจะค่อยๆ ลดลงมาที่ปานกลางกันยาวๆ พอเข้าช่วงท้ายจะลดลงมาเป็นออร่าอ่อนๆ ก่อนจะติดผิว

สรุป - กลิ่นไม่ได้มาสายดราม่าเล่าเรื่องราวอัตชีวประวัติของนางไม้ Calypso แต่อย่างใด แต่ให้ลักษณะของความเป็น Calypso ที่ควรจะเป็นแบบยามอยู่เกาะแห่งความฝันกับ Odysseus ที่มีทั้งความสดชื่น ความเย้ายวน และเสน่ห์ตามธรรมชาติปนกรุยกรายเนียนๆ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งที่กลิ่นของ Robert Piguet ที่ทำออกมาได้ลงตัวมากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ 

Photo Credit - https://www.emartja.com/fragrance/calypso-robert-piguet-eau-de-parfum-spray-robert-piguet

 

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562

Review: Robert Piguet - Futur

Robert Piguet - Futur 

Robert Piguet เป็นหนึ่งในตำนานสายแฟชั่นที่โด่งดังมากในช่วงยุค 30 กลางๆ ซึ่งเขาได้เสียชีวิตในปี 1953 ทำให้หลังจากนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยจนทุกวันนี้เน้นทางด้านน้ำหอมเป็นหลัก เพราะได้รับความนิยมอย่างสูงมากตั้งแต่ยังเป็นแบรนด์แฟชั่น เลยมุ่งชัดเจนสร้างตำนานทางด้านกลิ่นหอมมาก็มากมายที่เหนือกาลเวลาจนทุกวันนี้ทั้งรุ่น Bandit และ Fracas เป็นต้น 

แต่การเล่ากลิ่นแบรนด์นี้ครั้งแรก ก็ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะได้ลองอย่างเป็นจริงเป็นจังในรุ่นเหนือกาลเวลาที่ยกตัวอย่างดังกล่าว แต่กลับมาได้เจอรุ่นที่เป็นสายคลาสสิคเหนือกาลเวลาอีกกลิ่นที่มาในสายโทนเขียวอย่าFutur ที่สร้างความประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียวกับการเป็นโทนสดชื่นสไตล์ Vintage ที่มีความ Modern เหนือกาลเวลาแบบมั่นใจและมีระดับ เช่นนั้นก็ต้องมาเล่ากลิ่นกันหน่อยว่าจะเป็นอย่างไร

Futur เปิดตัวด้วยความเป็นโทน Green Aldehydes ที่ชัดเจนมากตั้งแต่ต้น กลิ่นจะมีความคม พุ่ง ชัดเจนและจัดเต็มด้วยความเป็นโทนสบู่คมๆ เจือ Citrus ของ Aldehydes ผสมผสานกับกลิ่นโทนเขียวที่ให้ความกึ่งฉ่ำติดชื้นหน่อยๆ กำลังดีมีลักษณะของโทนกลิ่นดอกไม้สดชื่นสไตล์ดอกส้มที่ให้ความเขียวติดเปรี้ยวลักษณะเป็นโทนดอกส้มที่สกัดด้วยไอน้ำ (Neroli) และมีกลิ่นออกทางปร่าซ่าติดเขียวในสไตล์แบบน้ำมันหอมระเหยมะกรูดฝรั่ง (ฺBergamot) ที่จะให้โทน Fresh Spicy ให้กับกลิ่นช่วงต้นปนกับวูบกลิ่นเขียวติดเมือกๆ Oily ลื่นๆ ของไฮยาซินท์ ทำให้ช่วงเปิดนี่เรียกว่ามาชัด มาเต็ม กับการเป็นลักษณะโทนสบู่เคล้าความเขียวที่อวลคมให้ความสดชื่นจัดเต็มค่อนไปทางคลาสสิคได้ดีเลยทีเดียว 

เพียงไม่นานจะเริ่มจับโทนคลาสสิคในสาย Floral เด่นที่ดอกไม้เสริมขึ้นมาเรื่อยๆ กับการเป็นมะลิที่ให้ความขาวนวลเจือโทน Indolic ที่ตุ่ยๆ หน่อยตีคู่ไปกับกลิ่นของกระดังงาที่ให้โทนเย้ายวน ซึ่งความคมในตอนต้นจะเริ่มผ่อนลงมาเป็นสบู่อวลสะอาดเจือเขียวกำลังดี มีโทนแป้งหน่อยๆ และมีความโปร่งในเนื้อกลิ่นมากขึ้น ซึ่งก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางเต็มตัว ซึ่งผสมผสานกันเป็นโทนออกทางสบู่เคล้าไปกับความเขียวเจือดอกไม้ที่มีความ Vintage แต่ไม่ถึงกับกรุยกรายมาก ออกทางอวลเย้ายวนแบบไม่โจ้งแจ้งปนมั่นใจและมีความสะอาดเจือเขียวเป็นที่ตั้ง จนค่อยๆ มีกลิ่นอายของโทนไม้หอมแห้งๆ น่าค้นหาที่ค่อยๆ เปิดตัวเข้ามาในกลิ่นแบบเรื่อยๆ คลอไปซักระยะ ก็เข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นโทนสบู่จะลดทอนลงมาหน่อยยังมีความเป็นโทนดอกไม้ ที่เด่นกับกระดังงาปนมะลิอยู่ ซึ่งกลิ่นจะมีความสะอาดมากขึ้น นวลปนหวานหน่อยๆ แบบสายสนับสนุนให้กลิ่นของโทนไม้หอมอย่างหญ้าแฝกเป็นตัวเด่นขึ้นมาคุมโทนแทน โดยจะเป็นกลิ่นไม้แห้งๆ สะอาดๆ และมีความโปร่งไม้ซีดาร์แบบไม้ดินสอหน่อยๆ ให้กลิ่นมีมิติคลอไปกับกลิ่นสบู่ติดเขียวหอมซ่าอวลเจือนวลดอกไม้แบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ซึ่งภาพรวมของกลิ่นเลยเป็นลักษณะโทน Fresh Classic มีความ Vintage กำลังดี แบ่งภาคกับความร่วมสมัยที่ใช้ได้แบบยาวไปได้ลงตัวมากจริงๆ 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้สบาย แม้จะมีโทนค่อนไปทางสบู่คมๆ อยู่ แต่ยังไงก็ยังมีความร่วมสมัยที่ใช้งานได้ไม่ยาก จึงใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย เรียกว่ากวาดได้หมดไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นแตะได้ทุกมุมไม่ว่าจะ Classic หรือปัจจุบัน โดยให้ความสดชื่นมั่นใจเป็นที่ตั้ง กิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายยังใส่ได้เลย ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบให้ความสดชื่นสะอาดคมๆ ในวันอากาศร้อนๆ จะเหมาะกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายท่องราตรีเลยแม้แต่น้อย ตลอดจนกลิ่นนี้เอาจริงๆ ผู้ชายใช้ได้สบายมาก เพราะกลิ่นไม่ได้ถึงกับสาวจ๋ามากขนาดนั้น จะมีแค่ช่วงกลางที่สาวมากกว่าชาวบ้านเขาหน่อย แต่ถ้าไม่มายด์ ใส่เถอะ สดชืิ่นมากจริงๆ 

ความทน - ดีงามกับราวๆ 8 ชม. ได้เลย ซึ่งก็อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวเป็นสำคัญ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมาก ในสไตล์น้ำหอมออกทางคลาสสิคด้วยโทน Aldehydes กลั้วเขียว แล้วจะลดลงมากระจายปานกลาง ก่อนจะดรอปลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวให้ความสะอาดเจือโทนไม้หอมแห้งๆ มีเสน่ห์มากๆ ยาวไป 

ทิ้งท้าย - ถ้าคุณใช้ Chanel No.5 L’Eau ได้ คุณก็ใช้ Robert Piguet - Futur ได้สบายมาก แถมกลิ่นมีความมั่นใจแบบหรูหรามีระดับสไตล์เขียวดมๆ ได้ดีอีกด้วย 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - http://www.sniffapaloozamagazine.com/MARCH15ISSUE2009SPRINGFLING.html