แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Reminiscence แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Reminiscence แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565

Review: Reminiscence - Patchouli Homme

Reminiscence - Patchouli Homme

ต้นกำเนิดน้ำหอมที่โดดเด่นกับความเป็นพิมเสนหรือ Patchouli ทำให้กลิ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในกลิ่นที่น่าจดจำจนถึงทุกวันนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นรุ่น Patchouli ของ Reminiscence ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ยุค 70 กับกลิ่นที่ตราตรึงเหนือกาลเวลาเสมอในโลกน้ำหอม แต่แม้ว่าเนื้อกลิ่นจะมีความ Unisex แต่การวางตำแหน่งน้ำหอมตอนนี้คือสำหรับผู้หญิงนี่สิ

เช่นนั้นเมื่อมีการต่อยอดมาเรื่อยๆ ในการเป็น Patchouli ของแบรนด์ เพื่อให้เนื้อกลิ่นนี้ตอบโจทย์ทางฝั่งของผู้ชายที่อาจจะเกรงใจในการไปใช้น้ำหอมผู้หญิงด้วย เลยได้สร้างสรรค์กลิ่นอายที่จะดึงลูกค้าผู้ชายโดยตรงขึ้นมาในปี 2000 ด้วยกับการเป็น Patchouli Homme แบบเต็มตัว และที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้อีกด้วย เช่นนั้นเนื้อกลิ่นจะสร้างสรรค์ออกมาอย่างไร มาลงรายละเอียดกันหน่อยดีกว่า

พิมเสนจะเป็นหัวใจหลักที่จะอยู่ตั้งแต่ต้นยันจบ โดยที่จะยังมีลายเซ็นของการเป็นลักษณะแบบ Patchouli ที่เป็นสไตล์ Earthy + แอมเบอร์ก็ยังเป็นลายเซ็นหลักของ Patchouli ของแบรนด์นี้อยู่ ซึ่งนี่คือสิ่งที่จะจับต้องได้ในทุกช่วงของน้ำหอม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมและทำให้เกิดความแตกต่าง คือ

Top Notes - คือ Fresh Patchouli ที่จะมีกลิ่นพิมเสนที่แตะความเป็นสไตล์สากปร่าจมูกติดเขียวเข้มที่มีลูกโทนกลิ่นแบบ Earthy ติดกลิ่นชอคโกแลตนิดๆ แนวสมุนไพรแต่ไม่ได้เป็นโทนแห้ง ที่มีลายเซ็นกลิ่นอวลเข้าโทนแอมเบอร์หน่อยๆ จะโดยโทน Citrus เป็นตัวเกลากลิ่นทั้งหมดและให้ความชื้นๆ ในเนื้อกลิ่นเข้ามาร่วมด้วย อย่างแรกเลยนั่นคือกลิ่นมะนาวที่จะให้ความเปรี้ยวสดชื่นแบบกลางๆ ไม่ได้เปรี้ยวเด่นเพราะไปตัดทอนกับพิมเสน แต่จับต้องได้ว่าเป็นวูบกลิ่นติดมะนาวมาก่อนวูบแรกสุด แล้วจะตามด้วยกลิ่นออกทางส้มที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานเสริมให้กลิ่นพิมเสนเป็นโทนสดชื่นที่เข้าทางแบบสมุนไพรที่มีความชื้นแกมสะอาด แต่มีความ Dirty เนียนๆ แฝงแบบที่ควรจะเป็น ซึ่งถือว่าเปิดมาก็ได้เลยนี่แหละกลิ่นอายแบบที่เป็นพิมเสนแบบสุภาพขึ้น แต่แฝงความเป็น Patchouli ในสไตล์ Hippie บุปผาชนแบบเดียวกับต้นตระกูลได้เนียนได้ดีแท้

Middle Notes - โทนกลิ่นของสาย Citrus ต่างๆ จะเริ่มจางตามลำดับ เนื้อกลิ่นจะเริ่มแห้งมากขึ้น ซึ่งทำให้กลิ่นพิมเสนกลายเป็นโทนสมุนไพรแห้งๆ ที่กลางๆ กำลังดี ไม่ได้แห้งจนกลายเป็นยาจีน เพราะยังมีลูกเอื้อนโทน Citrus ประปรายที่ทำให้รู้สึกได้ว่ายังมีโทนสว่างอยู่ แต่ความแห้งที่ว่ามีโทนติดเขียวที่มีปลายกลิ่นเป็นกุหลาบอ่อนๆ อารมณ์น้ำในแจกันกุหลาบที่แห้งๆ แล้วจนมีกลิ่นเขียวกึ่งกุหลาบแห้งอ่อนๆ วูบมาแต่ไม่ได้ไปสาย Dirty และที่สำคัญมีโทนไม้แห้งๆ โปร่งๆ สว่างๆ ที่เป็นกลิ่นอายสไตลไม้ซีดาร์เข้ามาเสริมด้วย เลยทำให้กลายเป็น Woody Patchouli ที่ให้โทนกลิ่นแบบ Earthy แห้งๆ ติดหวานปร่าระเรื่อที่มีลูกโทนแบบแอมเบอร์แกมอบอุ่นเนียนๆ รองพื้นอยู่ ซึ่งนี่แหละคือความเป็นพิมเสนที่ให้โทนน่าค้นหาตามที่ควรจะเป็น กลิ่นเลยมาทางสายกลางชัดเจนที่ให้ความสว่างรื่นรมย์ก็ได้ น่าค้นหาก็ดี และสมาร์ทอบอุ่นหน่อยๆ ก็สามารถ

Base Notes - ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงท้ายเต็มตัว ในการเป็นรอยต่อระหว่างช่วงกลิ่นจะเริ่มสัมผัสได้เลยว่าความเป็น Patchouli แบบสไตล์ต้นตระกูลเริ่มชัดขึ้นตามลำดับ เพราะความเป็นโทนแนวแอมเบอร์ที่มีความเป็นยางไม้ที่ให้ความอบอุ่นต่างๆ เริ่มเสริมเข้ามาชัดขึ้นตามลำดับ จนเมื่อได้ที่ก็เป็นช่วงท้ายเต็มตัว ซึ่งอย่างแรกเลยคือกำยาน Benzoin ที่ให้ความเป็นโทนอบอุ่นติดหวานแหลมวานิลลา แต่มีลูกผสมของกลิ่นโทนกึ่งหญ้าแห้งกึ่งยางไม้ที่มีอบเชยอ่อนๆ เนียนรวมอยู่ของ Tolu Balsam และกลิ่นแบบแอมเบอร์ที่ติดโทนหนังและมีความลึกในเนื้อกลิ่นอย่าง Labdanum ที่จะมาแท็กทีมกันทำให้ความเป็นพิมเสนมีความรุ่มรวยและอวลแอมเบอร์แบบสไตล์ต้นตระกูลมากขึ้น แต่กลิ่นจะไม่ได้ไปสายฮิปปี้จ๋าๆ แต่จะเป็นการผสมผสานจนให้ความอบอุ่นอวลหวานปร่าแกมน่าค้นหามีเสน่ห์แบบสุขุมแทน เพราะความเป็นไม้หอมในช่วงกลางยังตามมาและมีกลิ่นกึ่งอัลมอนด์กึ่งยาสูบติดเขียวของถั่วตองก้าเข้ามาเสริมให้กลิ่นมีความรื่นรมย์อยู่ด้วย ทำให้ช่วงท้ายได้ความมีเสน่ห์ หรูหราแบบสุขุม และเป็นเอกเทศแบบที่คงความเป็นพิมเสนได้ครบถ้วนและสมดุลย์ในแบบที่ผู้ชายใช้แล้วเป็นสุภาพบุรุษที่ร่วมสมัยและมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป เพราะเนื้อกลิ่นสไตล์นี้จะมีความร่วมสมัยมากกว่าจะทันสมัย แต่จะให้ออร่าที่มีเสน่ห์และแตกต่างแบบที่ไม่ได้ดู Modern จ๋า แต่ชวนพิศและสร้างความน่าสนใจรู้สึกได้เรื่อยๆ ที่เข้าทางกับการใช้งานในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ในแบบทางการหรือทั่วๆ ไปที่เน้นการสร้างบุคลิกที่สุขุม Nice และมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ ไปได้เลย ไม่เข้าทางทุกประการ รวมถึงถ้าจะใส่ท่องราตรีกลิ่นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องความเย้ายวนเซ็กซี่นัก เพราะกลิ่นมาสายแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้มาแบบดมแล้วต้องมีความฟูพร้อมรบทันที เช่นนั้นข้ามไปน่าจะดีกว่า

ความทน - ลงตัวที่พื้นฐาน 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกอิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ โดยส่วนตัวเจอบ่อยมากที่ 12 ชม. กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้นสร้างบาเรียบร้อบตัวในระดับหนึ่ง แล้วจะลดลงมาปานกลางแบบยาวพอสมควรราวๆ 4 ชม. ถึงจะลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ก็เสถียรไปต่อถึงชั่วโมงที่ 8 ได้เลย แล้วจะผ่อนลงตามลำดับจนเป็น Skin Scent

สรุป - เป็นการปรับในเนื้อกลิ่นสไตล์ Patchouli กรุยกรายเดิม ให้มีเสน่ห์และมีโทนสว่างมากขึ้น โดยใส่โทนสุภาพบุรุษร่วมสมัยด้วยโทนสดชื่นและไม้หอมโปร่งๆ เข้าไป โดยไม่ทิ้งลายเซ็นเดิมที่ยังมีให้จับต้องได้ตลอด ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่เป็นเสมือนตัวเชื่อมให้กับคนที่จะเข้าสู่การใช้น้ำหอมกลิ่นพิมเสนที่รุ่มรวยเสน่ห์แบบดั้งเดิมที่มีความ Classic เก๋ๆ ได้มาลองจับต้องเป็นเสต็ปแรกๆ ก่อนไปสู่ความเข้มข้นที่มากขึ้นในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนตัวได้รับความกลางๆ ที่ให้ได้ทุกอารมณ์ทั้งพิมเสนแบบแตะโทนสมัยใหม่และโทนพิมเสนอวลกรุยกรายแบบย้อนยุคที่ดึงดูดความสนใจกำลังดี เลยมีความสุขกับการใช้กลิ่นนี้มากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.ajhvipshop.top/ProductDetail.aspx?iid=174313631&pr=58.88

 

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Reminiscence - Eau de Patchouli / Patchouli L’Eau

Reminiscence - Eau de Patchouli / Patchouli L’Eau 

ถ้าให้เอ่ยถึงว่าแบรนด์ไหนเป็นตัวเปิดและสร้างชื่อชูโรงให้กลิ่นอายที่มีเสน่ห์ของพิมเสนนั้นโลดแล่นมาจนถึงทุกวันนี้หนึ่งในนั้นต้องมี Reminiscence กับการปล่อยความเป็น Patchouli ออกมาในปี 1970 ซึ่งเป็นกลิ่นที่บอกเล่าความเป็นยุค 70 แห่งบุปผาชนหรือจะว่าไปก็คือสไตล์ฮิปปี้ผ่านความเป็นพิมเสนที่เต็มและชัดเจน รวมถึงมีเสน่ห์ในความเป็นโทน Earthy ปน Herbal ที่ฟุ้งกระจายมีระดับได้อย่างงดงาม

แน่นอนว่าจุดตั้งต้นเป็นที่นิยมอย่างมากจนกถึงปัจจุบัน มีหรือที่แบรนด์จะไม่แตกหน่อมีลูกมีหลานออกมามากมายเพื่อต่อยอดความสำเร็จ ซึ่งมีทั้งแบบที่วางเป็นตัวหลักคู่ต้นตระกูลและเป็น Limited Edition และหนึ่งในกลุ่มหลังที่ออกมาเมื่อหมดแล้วก็หมดเลย ก็มีการนำเสนอกลิ่นพิมเสนที่ใส่ความเป็นโทนใสและสว่างเข้ามาด้วยนั่นก็คือ Eau de Patchouli ที่วางในปี 2009 แล้วไม่นานก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อรุ่นและเปลี่ยนลายขวดมาเป็น Patchouli L’Eau ในเวลาต่อมา และตอนนี้ก็เลิกผลิตไปแล้ว (งงจัง จะเลิกผลิตทำไม) เช่นนั้น เมื่อเลิกผลิต ก็ต้องมาเล่ากลิ่นเก็บไว้นิดนึงว่ามันมีความดีงามหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะถ่ายทอดออกมาได้แบบนี้เลย

เพราะมีคำว่า L’Eau การเปิดตัวเลยจะไม่ได้มาสไตล์น้ำหอมที่ชูโรงความเป็นพิมเสนที่ออกแนวเข้ม เปียก Earthy จัดจ้าน และมีอารมณ์กลิ่นออกทางคล้ายโทนชอคโกแลตที่พิมเสนดิบๆ มักจะมีลูกผสมให้รู้สึกนัก แต่จะมาแบบโดนเกลากลิ่นมาแล้วมากกว่า กลิ่นเลยจะมีความใส แต่ไม่ได้ใสแจ๋วจนเข้าทางสไตล์กลิ่นสารหอมแนว Clearwood ที่เป็นพิมเสนในสะอาดเจือหวานระเรื่อปนไม้ แต่คิดว่ามีโทนสารหอมนี้ผสมอยู่บ้างแหละ เพราะมีลูกกลิ่นพิมเสนติดโทนน้ำใสๆ เจือไม้หอมอยู่ค่อนข้างชัดแฝงอยู่ตลอด โดยกลิ่นจะให้ความเป็นพิมเสนที่จะมีความดิบอ่อนๆ สากบางๆ และมีโทน Earthy แบบติดพืชล้มลุกดินๆ ปนสมุนไพรปร่าระเรื่อกำลังดีค่อนไปทางใสนิดๆ แทน ซึ่งถือว่ายังคุมโทนได้ดีกับการชูโรงกลิ่นที่ชัดเจน และไม่พอการที่มีกลิ่นออกทางไม้ซีดาร์โปร่งๆ เข้ามาผสมเลยทำให้กลิ่นมีความสว่างเข้ามาร่วมด้วย เปิดตัวการเป็น Patchouli L’Eau กันอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงในช่วงกลางจะมาแบบค่อยเป็นค่อยไปและมาแบบสนับสนุนโทนกลิ่นในช่วงต้นให้มีลูกเล่นมากขึ้นเสียมากกว่า ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีอารมณ์โทนไม้หอมที่เข้ามาเสริมสร้างความนวลรองพื้นกลิ่นเคล้ากับกลิ่นติดอบอุ่นหน่อยๆ กำลังดีในลักษณะโทนแบบแอมเบอร์ลึกๆ กึ่งหนังหน่อยๆ ทำให้เวลาดมกลิ่นจะไม่ได้ใสแบบช่วงต้นเท่าไหร่แล้ว แต่จะไล่เลเยอร์กลิ่นที่มีความลึกมากขึ้นมากกว่าเดิมจากพิมเสนเจือไม้หอมสว่างติดดิบสากอ่อนๆ และแห้งมากขึ้น สู่ความนวลอวลอุ่นหน่อยๆ ซึ่งบางวูบจะจับได้ถึงกลิ่นแนวแป้งวานิลลาหน่อยๆ เข้ามาให้รู้สึกได้ด้วย และก็ใช่เลยเพราะว่าโทนแป้งอบอุ่นนวลติดหวานของวานิลลานี่แหละที่จะเป็นกลายเป็นตัวเอกในช่วงท้ายของน้ำหอม เพราะจะเสริมเข้ามาเรื่อยๆ จนตีคู่และคลุกเคล้าเข้ากันได้ดีจนกลายเป็นกลิ่นโทนแป้งหอมนวลๆ นมๆ หน่อยที่ทำให้รู้ว่ามีกลิ่นถั่วตองก้าเข้ามาเสริม และมีกลิ่นนวลสะอาดที่ลงตัวพอดีกับโทนแป้งอย่าง White Musk ที่เข้ามาแท็คทีมด้วย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีความอวลติดหวานหน่อยๆ และกลิ่นมีความลึกหน่อยๆ ลักษณะแบบเดียวกับกลิ่นยางไม้ติดหวานซึ่งจะเป็นตัวรองพื้นที่ฉาบหน้าด้วยกลิ่นพิมเสนหอมรื่นจมูก สร้างอารมณ์แป้งหอมอบอุ่นนุ่มๆ เจือพิมเสนที่ติดสากบางๆ ที่ทำให้เกิดมิติที่ Mix & Match ได้อย่างลงตัวและเรียบหรูปิดท้ายคลอผิวได้อย่างละมุนและมีลูกเล่นเนียนๆ ได้เข้าทีและลงตัว

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายมาก แถมให้กลิ่นที่ดูเรียบง่ายแต่แอบมีมิติที่ไม่ธรรมดาแบบวางตัวหรูหราเนียนๆ เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ไม่ค่อยเข้าท่ากับการใส่ไปออกกำลังกายนัก ยกเว้นรอช่วงท้ายๆ จะดีที่สุด ส่วนยามค่ำคืน ใส่ออกงานจะลงตัวที่สุด เพราะใส่ท่องราตรีเกรงว่าจะเบาไป   

ความทน - เรียกว่าจัดจ้านไม่น้อย เพราะว่า 8 ชม. แล้วกลิ่นยังคงทำหน้าที่ได้ดีอยู่ และไปต่อได้ถึง 12 ชม. ได้ไม่ยากถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสมและสภาพผิวเอื้อมากพอ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาที่ปานกลางไปซักพัก พอพ้นไปซัก 4 ชม. ถึงลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เป็น Skin Scent ในที่สุด

สรุป - เป็น Patchouli ที่ใช้ง่าย แต่กลิ่นไม่ได้ดูง่าย เพราะความเป็นพิมเสนที่ใส่ลูกเล่นแบบติดดิบอ่อนๆ นี่แหละที่ยังคงสร้างความน่าค้นหาได้ดี โดยเนียนไปกับกลิ่นที่ดูเรียบหรู ที่สำคัญอันนี้ต้องยอมเขาเลยว่าการเบลนด์กลิ่นในช่วงท้ายที่เป็นแป้งหอมอบอุ่นกลั้วพิมเสน มันมีเสน่ห์ชวนคลุกวงในเนียนๆ ได้อย่างเกินคาดมาก

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.leprofumeriegaetano.it/prodotto/tester-eau-de-patchouli-reminiscence-edt-100ml-donna-no-tappo/ และ https://www.cosma-parfumeries.com/reminiscence-l-eau-de-patchouli-eau-de-toilette-vaporisateur-100-ml.html

 

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Review: Reminiscence - Tonka

Reminiscence - Tonka 

Reminiscence เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ทางด้านเครื่องประดับ Jewelry ที่มีชื่อเสียงมากเลยทีเดียวของฝรั่งเศสและมีประวัติมายาวนานพอสมควรเลยทีเดียวตั้งแต่ช่วงยุค 70 โดยเน้นที่เรื่องของเครื่องประดับเป็นหลักก่อน โดยมีน้ำหอมเสริมทัพบ้างจากการไปร่วมกับแบรนด์อื่น จนมาในช่วงยุค 80 จึงได้เปิดตัวเป็นแบรนด์ของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งก็เกิด Masterpiece ของแบรนด์ขึ้นมาทันทีที่ทำให้ผู้ที่ชอบน้ำหอมหลายๆ คนจะนึกถึงได้ในทันทีถ้าพูดถึงน้ำหอมของแบรนด์นี้อย่างรุ่น Patchouli ที่กลายเป้นหนึ่งในกลิ่นอายที่เหนือกาลเวลาของแบรนด์นี้ไปในทันทีจนถึงทุกวันนี้

แต่การเล่ากลิ่นในครั้งนี้จะไม่ได้มาที่รุ่นดังรุ่นนั้น แต่จะขอมาในตัวอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันแทนและเน้นสายหวานกันซักหน่อยกับรุ่นนี้เลย Tonka 

กลิ่นเปิดตัว Top Notes ในช่วงแรกกันด้วยความหวานโดยมีน้ำผึ้งเป็นตัวเด่นเคล้ากับเครื่องเทศโทนโปร่งหวานหอมปนเผ็ดอ่อนๆ กันก่อนเลยอย่างเมล็ดเทียนสััตตบุษย์ (Anise) ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นโทนปร่าเสริมเข้ามาด้วยจากกานพลูทำให้กลิ่นในช่วงแรกจะพุ่งชัดพอสมควร โดยที่ความหวานที่ได้รับเต็มๆ นั้นจะได้ความรู้สึกติด Dirty ออกทางดิบๆ หน่อยๆ และมีความเป็นโทนกลิ่นอายที่เป็นผู้หญิงชัดเจนในลักษณะ Dirty ปนหวานน้ำผึ้งอวลๆ ติดกรุยกรายระดับหนึ่งได้เล 

แต่ความรู้สึกจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเข้าสู่ Middle Notes เพราะความ Dirty จะเริ่มลดระดับลงมาเป็นกลิ่นที่มีความนวลมากขึ้นเนื้อกลิ่นจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นอายออกทางถั่วตองก้าที่มีความครีมนวลปนกึ่งแป้งหอมปนหวานอ่อนๆ แถมเสริมทัพด้วยกลิ่นของอัลมอนด์ที่ทำให้ช่วงนี้มีความนวลที่เป็นตัวเดินเรื่องหลักมาเจือความหวานที่ตามมาจากตอนต้นของน้ำผึ้งและเครื่องเทศหวานโปร่ง ทำให้จะได้ความหวานปนนวลที่กำลังดีลดทอนความใหญ่ที่มาในตอนแรกลงไปได้เยอะมากจนกลายเป็นเข้าสู่โทนรื่นรมย์ปนแป้งนวลครีมมี่ที่ลงตัว ซึ่งกลิ่นจะไม่ได้มีเพียงเท่านี้เพราะเนื้อกลิ่นจะมีโทนอบอุ่นเป็นตัวรองพื้นให้ความอวลออกทางคล้ายแอมเบอร์ลึกๆ หน่อยๆ และมีกลิ่นอายวานิลลาเจือไม้หอมนิดๆ เลยทำให้กลิ่นมีความสว่างหวานหอมเหมือนเจอกันครึ่งทางระหว่างน้ำผึ้งและถั่วตองก้าเคล้าอัลมอนด์ได้พอดีเลย แล้วเมื่อดำเนินไปซักระยะจะเริ่มจับได้มากขึ้นว่าถั่วตองก้าจะเริ่มเด่นขึ้นมาตามลำดับเจือกับโทนแป้งอบอุ่นของวานิลลา กลิ่นก็เริ่มพัฒนาเข้าสู่ Base Notes ที่จะเริ่มเป็นช่วงเวลาของโทนถั่วตองก้าที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่นปนนวลมีความขมบางๆ เจือไม้หอมก็ได้ มีลักษณะนวลค่อนไปทางวานิลลาก็ได้ เพราะกลิ่นวานิลลาก็มีความเด่นอยู่พอสมควรในช่วงนี้แต่ออกทางแป้งอบอุ่นหน่อยๆ รวมถึงเนื้อกลิ่นมีโทนนุ่ม Musk บางๆ เสริมให้กลิ่นมีมิตินวลละมุนปนเย้ายวนเนียนๆ ให้ครบ โดยที่ความหวานน้ำผึ้งยังมีอยู่อ่อนๆ ให้จับต้องได้ไม่ทิ้งลายความเป็นโทนหวานในเนื้อกลิ่นที่ยังมีอยู่ ซึ่งภาพรวมของน้ำหอมจะได้อารมณ์ที่ไล่เรียงกันมาจาก หวานติด Dirty กรุยกรายมาสู่ความละมุนนวลอบอุ่นที่รื่นรมย์หรูหราและมีระดับ เล่นโทนหวานและนวลรับส่งต่อกันได้อย่างดีเลย 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป เพราะกลิ่นเปิดมีความกรุยกรายติดดิบ Dirty บ้าง เลยจะค่อนข้างเสริมความหวานปนนัวพอตัว ยิ่งถ้าใครชอบกลิ่นอายน้ำผึ้งและนวลละมุนของตองก้ากับวานิลลาจะเข้าถึงตัวนี้ได้ไวมาก ซึ่งกลิ่นสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำกัดสเปรย์หน่อยก็ดี เพราะกลิ่นหวานๆ ถ้าเจอกับอากาศร้อนๆ อาจจะทำให้มีอาการตึ้บจุกเอาได้ ซึ่งเข้าได้กับทั้งทางการและทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืนเรียกว่าจัดไปได้หมดทั้งออกงานและท่องราตรีแบบที่มีระดับหน่อย เพราะกลิ่นมีความหรูหรามากกว่าจะเซ็กซี่จัดจ้านนั่นเองส่วนผู้ชาย เอาจริงๆ กลิ่นนี้มีความ Unisex ได้อยู่ตั้งแต่ช่วงกลาง เช่นนั้นถ้าไม่ถือผ่านช่วงแรกได้ผู้ชายที่ชอบกลิ่นออกทางโทนหวานเองก็สามารถฟินกับกลิ่นนี้ได้สบายมาก 

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. อาจจะมีบวกลบบ้างก็ประมาณ 2 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าปล่อยของเรียกร้องความสนใจกันก่อนเลย แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาที่ปานกลางในช่วงกลาง ก่อนจะปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นซัก 6 ชม. จะเป็น Skin Scent 

ทิ้งท้าย - กลิ่นเปิดอาจจะทำให้รู้สึกเอียนๆ ปน Dirty ไปบ้าง ซึ่งถ้าใครที่ไม่ชอบอะไรหวานๆ อาจจะผงะเอาได้ แต่ที่เหลือคือความดีงามได้เลย ซึ่งถือว่า Reminiscence นำเสนอกลิ่นอายของถั่วตองก้าได้งามเลยทีเดียว เล่นโทนหวานน้ำผึ้งและโทนต่างๆ ที่เอื้อให้ความเป็นถั่วตองก้ามีความโดดเด่นได้อย่างน่าสนใจและลงตัวจริงๆ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ” 

Photo Credithttps://kremchik.ua/item-13212/comments