แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Givenchy แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Givenchy แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

Review: Givenchy - Insense Ultramarine

Givenchy - Insense Ultramarine

น้ำหอมชายของ Givenchy ที่เราๆ น่าจะรู้จักกันดีและได้รับความนิยม เรียกว่ามีหลาย Collections เลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น pour Homme, Pi, Gentleman, Gentleman Only, Xeryus, Play และสาย Classic แต่มีอยู่อีกหนึ่งที่ได้รับความนิยมแบบเรื่อยๆ และได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียวในช่วงปี 90 ถึง 2000 นั่นก็คือ Insense Collection ที่เปิดตัวในปี 1993 กับการเป็นสาย Classic Aromatic Fougere กับรุ่นเบิกทางอย่าง Insense 

แต่เหตุหักมุมก็เกิดขึ้นในปีต่อมา (1994) เพราะรุ่นที่เป็น Flanker ออกมาอย่างต่อเนื่องอย่าง Insense Ultramarine ที่แตกหน่อ ออกมาเข้าสู่โทนการเป็นสายสดชื่นแบบกลิ่นอายทะเลตามยุคสมัยนิยมผสมผสานกับโทนทีมของรุ่นบุกเบิกดันออกมาแล้วได้รับความนิยมเกินหน้าเกินตารุ่นบุกเบิก จนกลายเป็นรุ่นที่แตกสายเป็นของตัวเองด้วยการมีลูกหลานสาย Ultramarine ตามมาอีกเพียบ ทิ้งให้รุ่นบุกเบิกค่อยๆ หายไปจากตลาดซะงั้น เช่นนั้น รุ่นนี้มีดีอย่างไงต้องเล่าแล้วล่ะ 

เปิดตัวด้วยกลิ่นอายสดชื่นกันก่อนเลย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะไม่ได้เอาความเป็นโทน Citrus เด่นนำนัก แต่ให้ความเป็นโทนผลไม้ติดฉ่ำๆ อย่างแตงโมเป็นตัวเดินกลิ่นแทน โดยจะให้ความเป็นโทนลูกผสมที่จับต้องความเป็นแตโมออกทางติดฉ่ำสดชื่นหอมแต่ไม่ได้ถึงกับหวานฉ่ำ เพราะจะมีกลิ่นออกทางเขียวติดขมคมๆ ผสมกับกลิ่นออกทางผลไม้เบอร์รี่สีเข้มที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานติดแอมโมเนียนิดๆ ที่สร้างออร่าความเป็นน้ำหอมกลิ่นออกทางแมนๆ อย่างแบล็คเคอร์แรนท์ ที่ทำให้กลิ่นในช่วงต้นสร้างออร่าของความสดชื่นที่เด่นกับความเป็นผลไม้และมีความเป็นน้ำหอมผู้ชายกันอย่างชัดเจน ที่สำคัญให้โทนกลิ่นออกทางสีฟ้าสว่างๆ ติด Aquatic ตั้งแต่เริ่ม แอบติดโทน Sport หน่อยๆ เสียด้วย

เพียงไม่นานจะเริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายโทนเขียวติดปร่าที่สร้างความสว่างให้เนื้อกลิ่นเข้ามาอีกอย่างมินต์ที่จะสร้างความสดชื่นติดเขียวปร่าแบบพอเหมาะสอดรับกับกลิ่นโทนสดชื่นผลไม้ฉ่ำแมนได้อย่างลงตัว แล้วกลิ่นจะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนอย่างน่าสนใจมากในการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอม นั่นคือ กลิ่นเริ่มจะมีโทนดอกไม้เข้ามามากขึ้นตามลำดับ จนเทคโอเวอร์เต็มตัวในช่วงกลางได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ถีบหัวส่งโทนสดชื่นสีฟ้า เพียงแต่ลดบทบาทลงมาเป็นสายสนับสนุนที่ยังคงสร้างโทนสดชื่นในเนื้อกลิ่นอยู่ตลอดยาวไปจนถึงต้นช่วงท้ายเลยเสียด้วยซ้ำ ซึ่งกลิ่นโทนดอกไม้ที่กลายเป็นตัวนำโทนในช่วงกลางคือ ดอกไอริส ที่เสริมด้วยกลิ่นอายของคาร์เนชั่นที่ให้โทนปร่าติดเขียวนุ่ม ทำให้กลิ่นไม่ได้ไปเป็นโทนแป้งแต่อย่างใด และเนื้อกลิ่นมีลักษณะของเครื่องเทศโทนหวานเผ็ดเย้าอ่อนๆ มาเร้าๆ จมูกรวมอยู่ด้วย เมื่อมาเจอกับโทนสดชื่นผลไม้ที่ตามมาจากจอนต้น กลิ่นเลยจะให้ความ Airy กึ่ง Aquatic ที่ให้โทนสีฟ้าแต่มีความเซ็กซี่ประปรายในเนื้อกลิ่นอยู่ตลอด เรียกว่าตรงนี้แหละ ที่มีความแตกต่างจากโทนน้ำหอมสายกลิ่นอายติดทะเลที่มักจะได้แต่ความสดชื่นทะเลมันเข้าไป แต่ไม่ได้อารมณ์อื่นๆ ที่สร้างมิติอารมณ์อื่นๆ เท่าไหร่ ถือเป็นไฮไลท์ของน้ำหอมรุ่นนี้ได้เลย และเมื่อโทนความสดชื่นผลไม้แมนๆ กับความเป็นแตงโมเริ่มหลงเหลือเพียงเบาบาง แต่เป็นการเปิดตัวเอากลิ่นอายโทนหญ้าแฝก และยาสูบขึ้นมามีบทบาทแทน ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นโทนดอกไม้ไอริสและความปร่านุ่มจะกลายเป็นสายสนับสนุนรองใจดีที่ให้ความนวลติAiry แต่กลิ่นยังชัดและจับต้องได้อยู่ แถมแอบค่อนไปทางสายสบู่สะอาดๆ ติดทึบมีเสน่ห์เสียด้วย ซึ่งจะเป็นตัวดันดาราให้กลิ่นอายโทนหวานอะโรม่าสบายๆ ของยาสูบเคล้ากับกลิ่นติดไม้หอมแห้งๆ ของหญ้าแฝกและไม้ซีดาร์โปร่งๆ มีความเรื่อยๆ สบายๆ แต่เย้ายวนในทีแบบที่ไม่โจ่งแจ้ง ซึ่งช่วงท้ายเรียกว่าเป็นการปรับโทนความแมนจากตอนต้นที่เป็นมาสู่ความเป็นโทนผู้ชายทันสมัยที่มีเสน่ห์ แถมด้วยกลิ่นอายบรรยากาศสบายๆ ล้อมอ่อนๆ ได้อย่างลงตัวและดีงามเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปสามารถใช้ตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นมีลูกเล่นไล่เรียงโทนกลิ่นที่ไม่เหมือนน้ำหอมสดชื่นทะเลตัวไหนเลย แถมยังมีเสน่ห์เฉพาะมากอีกด้วย ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นมีทั้งความ Sport ก็ได้ ทะเลสดชื่นก็ดี ติดมีเสน่ห์ปนเนี้ยบหน่อยๆ ก็เหมาะ เรียกว่าขวดเดียวได้แทบทุกงานลามไปถึงออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้งได้สบายมาก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีกว่า เน้นเรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่เอาอยู่ เพียงแต่จะไปสู้กับพวกอวลแน่นปล่อยพลังจัดเต็มได้ยากหน่อยก็เท่านั้นเอง 

ความทน - ดีเลยทีเดียวกับราวๆ 8 ชม. ซึ่งจะมีบวกลบบ้างก็ว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายด้วยส่วนหนึ่ง 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมากลางๆ เรื่อยๆ ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในที่สุด พอพ้นซัก 8 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป็น Skin Scent ในที่สุด

สรุป - Insense Ultramarine เปรียบเสมือนเป็นน้ำหอมที่ Unique มากในยุคนั้น แต่ถ้ามองจากมุมในยุค 2010 นี้ น้ำหอมตัวนี้เหมือนบอกเล่าอนาคตโทนกลิ่นจากสดชื่นสไตล์ 90 มาสู่กลิ่นอายสไตล์ยุค 2000 ที่เริ่มมีโทนเซ็กซี่กำลังดี ตามด้วยยุค 2010 ที่สร้างออร่าความเย้ายวนทันสมัยแบบเนียนๆ สบายๆ ในกลิ่น ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมกลิ่นนี้ยังคงอยู่ยืนหนึ่งใน Collection - Insense ที่ยังคงได้รับความนิยมมาเสมอ แบบที่รุ่นตั้งต้นกับรุ่นหลานๆ สาย Ultramarine ก็ค่อยๆ หายไปตามลำดับ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://www.amazon.com/Givenchy-Insense-Ultramarine-Ounce-Spray/dp/B00021AWV4

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Review: Givenchy - Eaudemoiselle de Givenchy Ambre Velours

Givenchy - Eaudemoiselle de Givenchy Ambre Velours 

เห็นมาก็นานมากเลยทีเดียวกับหนึ่งใน Collection น้ำหอมยอดนิยมของ Givenchy กับ Eaudemoiselle de Givenchy แต่เพราะสิ่งหนึ่งที่ทำให้คลาดกันมาตลอด เพราะว่าไลน์นี้เป็นน้ำหอมผู้หญิง แต่เมื่อคนจะได้เล่ากลิ่น ก็ได้มีมาให้ได้ใช้งานจนได้ แต่ไม่ใช่ตัวต้นตระกูล เพราะข้ามมาที่ตัวลูกอย่าง Eaudemoiselle de Givenchy Ambre Velours ที่ได้วางจำหน่ายเมื่อปี 2013 กันก่อนเลย (ถ้ามีโอกาสจะไปลองตัวต้นตระกูลภายหลัง) เลยทำให้รู้ว่า

เปิดตัวด้วยโทนผลไม้ติดเย้ายวนกึ่งดาร์กกึ่งฉ่ำของลูกพลัมล้อและตีคู่กับกลิ่นกุหลาบที่เด่นเด้งออกมาอย่างชัดเจนกันก่อนเลย เพียงแต่ในเนื้อกลิ่นจะไม่ได้ดิ่งลึกจัดจ้านอะไรนัก จะได้ในลักษณะสีแดงกับสีม่วงมาเจอกัน ให้อารมณ์น่ารักก็ได้ เย้ายวนก็ดี มีสายสนับสนุนที่ดีเสริมให้ความเป็นกุหลาบไม่ได้ออกทางคลาสสิคเลย มีความทันสมัยเจือความมั่นใจกึ่งน่ารักเนียนๆ กำลังดีเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่กี่อึกใจถัดมาจะเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางที่กุหลาบจะกลายเป็นตัวเด่นนำคุมโทนความเป็นกุหลาบสไตล์ทันสมัยอยู่เช่นเคย มีความเป็นสีแดงเจือม่วงที่ยังชัดเจนจากพลัมที่ให้โทนผลไม้อยู่เหมือนเดิม แต่จะมีพิมเสนที่มาเสริมความหรูหราของโทนกลิ่นที่ให้ความ Earthy ติดหวานปนดิบบางๆ ทำให้กลิ่นมีความกรุยกรายและมีจริตปนเย้ายวนดึงดูดกำลังดี ซึ่งกลิ่นจะไม่ได้ออกทางข้นแน่นเกินไป เพราะจะจับได้ถึงกลิ่นโทนไม้หอมอ่อนๆ โปร่งๆ ติดเครื่องเทศบางๆ ร่วมอยู่ด้วย แต่นี่แค่ฉากหน้าของช่วงกลางเท่านั้นเพราะความอวลลึกปนอบอุ่นเริ่มเข้ามาผสมผสานแบบเนียนๆ ในลักษณะโทนยางไม้ที่ออกทางวานิลลากับเครื่องเทศอุ่นๆ สไตล์อบเชยแต่ไม่หนักหน่วง และมีกลิ่นอายออกทาง Incense เนียนลึกผสมผสานอยู่ ทำให้กลิ่นจะมีลักษณะแบบค่อนไปทางไซรัปหรือโทนยางไม้ที่ให้ออร่าออกมาเป็นกลิ่นอายกุหลาบติดหวานลึกอุ่น เย้ายวน และมีจริตปนเซ็กซี่ที่ไม่ได้ดูพยายาม ได้ความรู้สึกเหมือนเห็นผู้หญิงในชุดราตรีสีแดงกุหลาบกำมะหยี่ที่มีระดับและดึงดูดสายตา ซึ่งกลิ่นจะเริ่มมีความอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับจนเข้าสู่ช่วงท้าย ซึ่งคราวนี้จะจับได้อย่างชัดเจนในลักษณะกลิ่นอายแบบแอมเบอร์ที่คาบเกี่ยวทั้งโทนแบบไม้หอมอบอุ่นปนยางไม้ที่มีโทนวานิลลาค่อนไปทางหวาน รวมถึงมีลักษณะกลิ่นอายติดยางไม้ Incense ค่อนฝุ่นหน่อยๆ ทำให้กลิ่นมีความ Dirty นิดๆ ตัดทอนไม่ให้กลายเป็นกุหลาบหวานเชื่อมวานิลลาเกินไป ซึ่งคุมโทนกลิ่นอายยางไม้เจือวานิลลาที่อุ่นหอม on top ด้วยความเป็นกุหลาบเจือพิมเสนแบบที่กลิ่นเบาลงมาจากช่วงกลางได้อย่างลงตัว ให้ความหวาน หรูหราและเย้ายวนแบบไม่ต้องพยายาม โดยสร้างอารมณ์ไล่สีแดงไปสู่แดงเจือม่วงลุ่มลึกอวลอบอุ่นอย่างมีชั้นเชิง โดยที่การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นมีเนียนๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป คุมโทนทั้งแต่ต้นยันปลายได้ดีมากเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นสร้างออร่ามีระดับและวางตัวอย่างมีชั้นเชิงในการนำเสนอ Sex Appeal และความมั่นใจโดยให้ความรู้สึกสีแดงเจือม่วงปนอบอุ่นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่ไม่ได้ทางการจัดๆ เกินไปนัก ใส่แบบทำงานออกแนวสาวมั่น หรือใส่ทั่วๆ ไปได้อยู่แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม แต่ให้เว้นการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและการออกกำลังกายไปจะดีกว่า ไม่เข้าทางนัก แต่เมื่อเข้ายามค่ำคืนบอกเลยจัดไป กลิ่นนี้ใส่ได้ทั้งออกงาน หรือท่องราตรีแบบมีระดับสร้างความ Hot ที่มีชั้นเชิงแบบผู้หญิงมั่นใจติดหวานลึกได้เลยทีเดียว อารมณ์สาวในชุดแดง Velvet ที่ดึงดูดด้วยเสน่ห์และบุคลิกเสียมาก ไม่ใช่ตะบี้ตะบันแดงเลือดแจ๊ดแจ๋เรียกร้องความสนใจแต่ประการใด อ้อ กลิ่นนี้แอบ Unisex ช่วงท้ายๆ เสียด้วย เช่นนั้นถ้าไม่มายด์กลิ่นกุหลาบทันสมัยในตอนต้น ผู้ชายก็พอใส่ได้อยู่ 

ความทน - ดีมากกกกก 8 ชม. เป็นพื้นฐาน และมากกว่านั้นได้เลยถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว เพราะเมื่อใช้เองก็ลากไปที่ 12 ชม. ได้สบายมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลาง ค่อนลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายยาวไป ซึ่งไม่ถึงกับรบกวนใครแบบหนักหน่วงมากนักถ้าดูในภาพรวม 

สรุป - นี่คือหนึ่งในกลิ่นอายสายอบอุ่นเย้ายวนที่มีกุหลาบเจือพิมเสนเป็นฉากหน้าอย่างมีจริต มั่นใจ และหรูหราในโทนสีแดงออกทางแดง Vetvet กำมะหยี่ที่งามมากเลยทีเดียว จนทำให้รู้สึกพลาดในใจไปไม่น้อยว่าไม่ทำไม่ลองมาก่อนหน้านี้หนอ กลิ่นออกจะดีขนาดนี้ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://www.neimanmarcus.com/en-th/p/givenchy-eaudemoiselle-ambre-velours-prod162400269

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

Review: Givenchy - Gentlemen Only Casual Chic

Givenchy - Gentlemen Only Casual Chic 

ผ่านการบอกเล่าถึงตัวปกติแลIntense ของฝั่ง Gentlemen Only ของแบรนด์ Givenchy มาแล้วก็ได้เวลามาแตะตัวลูกหลานอื่นๆ ที่ได้ปล่อยออกมากันหน่อย (ซึ่งคลอดออกมาเยอะเสียด้วย) และหนึ่งในตัวที่เรียกว่าเป็นตัวลูกที่ลดระดับความเข้มลงมาแต่ยังคุมเสน่ห์แบบความเป็นไลน์นี้ไม่หนีไปไหน แถมมีความน่าสนใจไม่น้อยที่จะมาบอกเล่ากันนั่นก็คือ Gentlemen Only Casual Chic นั่นเอง 

Top Notes เปิดตัวกันด้วยกลิ่นขิงผสมผสานกับจูนิเปอร์เบอร์รี่ที่ให้ความเป็นโทนซ่าอมหวานสดชื่น ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นเครื่องเทศติดเย้ายวนนวลๆ อย่างเม็ดกระวาน และมีกลิ่นอายติดเค็มๆ หน่อยๆ กลิ่นจะค่อนข้างอยู่ระหว่างความโปร่งกับนวลกำลังดี ส่งต่อให้ Middle Notes ที่โทนไม้หอมที่เด่นขึ้นมา กับกลิ่นอายสะอาดขรึมของซีดาร์ และมีความ Smoky จางๆ ของเบิร์ธที่ทำให้อารมณ์กลิ่นอายจะคล้ายหนังเบาๆ ซึ่งพอ มาผสมผสานกับกลิ่นอายในช่วงต้นที่ตามมา กลิ่นจะมีความนวลสลับโปร่งเข้าด้วยกัน ได้อารมณ์คล้ายๆ กลิ่นมิ้นท์ที่มำให้เกิดความโปร่ง และมีความนวลของเม็ดจันทน์เทศมาเกลาให้นุ่มด้วย กลิ่นไม่ได้มาสายแน่นและหนัก มีความสบายๆ พอสมควร แต่ก็ไม่ได้เบาจัด เพราะกลิ่นชัดเจนจนรู้สึกได้ โดยที่กลิ่นเค็มๆ ที่รู้สึกได้ในช่วงแรกจะเริ่มเด่นขึ้นมามากขึ้นจนนำเข้าสู่ Base Notes กับการเป็นกลิ่นอายคล้ายผิวกายที่ติดเค็มจางๆ ซึ่งมาจากสารสังเคราะห์ Ambroxan ที่ให้โทนกลิ่นติดเค็มแบบ Ambregris และมีกลิ่นไม้หอมอบอุ่นนวลๆ จากไม้จันทน์หอมเสริมเข้ามา โดยที่กลิ่นในช่วงก่อนหน้านี้จะลงมาผสมผสาน ช่วงนี้เลยจะกลายเป็นกลิ่นอายที่นวลสะอาด สบายๆ แต่มีความอบอุ่นติดหวานสดชื่นเบาๆ เคล้ากลิ่นออกทางโทนหนังกับผิวกายอวลๆ ไปเรื่อย ซึ่งภาพรวมกลิ่นมีความเบาขึ้น สดชื่นแต่ก็ยังอบอุ่นนวลๆ ไม่ได้ Smoky และเข้มข้นมาก ให้อารมณ์แบบผู้ชายอบอุ่นสบายๆ กำลังดีไปเรื่อยๆ เด่นที่กลิ่นอายของความเป็นเครื่องเทศโทนโปร่งและไม้หอม เน้นมาสายหนุ่มสุภาพบุรุษอบอุ่นติดสดชื่นนั่นแล 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้สบายๆ เพราะกลิ่นมาสายกลางๆ เข้าถึงง่าย อยู่ระหว่างความสดชื่นและความอบอุ่น เน้นที่กลิ่นนุ่มนวลเป็นตัวเชื่อม จึงสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ตัวนี้ใส่ออกกลางแจ้งได้สบายๆ แต่ถ้าจะใส่เพื่อออกกำลังกาย ให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายสดชื่นจัดเต็มนัก ส่วนยามค่ำคืน ถ้าอากาศบ้านเราก็จัดได้เลย กลิ่นสบายๆ ผ่อนคลาย แต่ชัดเจน เพียงแต่จะไม่ได้เน้นเรียกแขกยั่วสวาทนัก 

ความทน - ถือว่าทำให้เบาลงมาจากรุ่นปกติก็จริง แต่ความทนเรียกว่าน่าพึงพอใจมาก เพราะอยู่ที่ 8 ชม. โดยประมาณ จะมากหรือน้อยกว่านี้อิงตามจำนวนสเปรย์และจุกที่ฉีดเป็นสำคัญ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบปานกลาง ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย แล้วลดหลั่นจางลงไปตามเวลาเมื่อพ้น 8 ชม. ไปแล้ว 

ทิ้งท้าย - ตัวนี้กลายเป็นตัวที่ผมชอบมากที่สุดในไลน์ Gentlemen Only ซะงั้น เพราะมันไม่หนักเกินไป ไม่อุ่นเกินไป คือกลางๆ อยู่สายสดชื่นกลั้วอบอุ่นมีความเป็น Family Man ซึ่งถือว่าทำมาได้ดีเลยล่ะครับ ที่สำคัญนินทากันตรงนี้ว่า จากการลองเทียบรุ่นนี้กับรุ่นปกติและรุ่น Intense ทั้วจากการอ่านมาก่อนและทดลองจริง มันดันทนกว่าอีก 2 รุ่นที่กล่าวถึงซะงั้น เก๋ ไหมล่ะ 5555 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - https://fimgs.net/images/secundar/o.31674.jpg

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Review: Givenchy – Gentlemen Only

Givenchy – Gentlemen Only

จากที่เคยลัดคิวไป Review ตัว Gentlemen Only Intense ก่อน เพราะต้องการอะไรที่เจ้มจ้น ก็ได้เวลากลับมาที่รุ่นต้นไลน์กันบ้าง เพราะอยากรู้ว่ามีอะไรดีหนอ Givenchy ถึงได้มีการออกลูกออกหลานมากมายมาในทุกวันนี้ เช่นนั้น มาดมให้รู้กันเลยดีกว่า ว่า Gentlemen Only จะเป็นยังไงบ้าง

พื้นฐานของกลิ่นยืนพื้นที่ความเป็นโทน Smoky กลั้วความเป็นสบู่กลิ่นเนื้อไม้หอมแบบที่นุ่มนวลอบอุ่นเข้า Concept แบบที่ชื่อรุ่นสื่อไม่น้อย ซึ่งจะเริ่มจากความสดชื่นติดนวลๆ กันก่อนที่ Top Notes ซึ่งกลิ่นส้มจะมาให้โทนซิตรัสกลั้วความเขียวของใบเบิร์ธ แล้วกลิ่นของพริกไทยสีชมพูกับเครื่องเทศโทนสดชื่นนุ่มๆ จะล้อมเข้ามาให้กลิ่นอายติดเครื่องเทศกลั้วกับความเป็นซิตรัสติดเขียว ทำให้เกิดความหวานนุ่มติดสดชื่นกำลังดี โดยที่มีกลิ่นอาย Smoky จางๆ เนียนอยู่ด้านหลังนำเข้าสู่ Middle Notes ที่จะมีความเป็นสบู่กันอย่างชัดเจนเพราะกลิ่นอายของไม้ซีดาร์จะเด่นขึ้นมาแบบติดนุ่มอมหวานที่ตามมาจากตอนต้น ซึ่งกลิ่นจะไม่แน่นจนเกินไปคุมโทนระหว่างความนุ่มสดชื่นกับนุ่มไม้หอมแกมไปด้วยความอ้อยอิ่งของพิมเสนเบาๆ ให้รู้สึกมีเสน่ห์เย้ายวนนวลจมูก ซึ่งจะมีกลิ่นหญ้าแฝกจะมาเสริมความ Smoky ติดสะอาดๆ ที่เนียนมาตั้องแต่ต้นจนเด่นชัดขึ้นนำเป็นกลิ่นที่ลอยออกมาแบบ On top ให้รับรู้ได้ลากยาวไปเรื่อย จนถึง Base Notes ที่งานนี้ความเป็นกลิ่นอาย Smoky จะชัดเจนมาก เพราะหญ้าแฝกจะมาผสมผสานกับกลิ่นโทนธูปหอมอ่อนๆ ที่เปิดตัวชัดเจนหลลังจากเป็นตัวแย่งซีนเนียนมาตั้งแต่ต้น เลยทำให้เกิดความสุขุมนุ่มลึกในเนื้อกลิ่น กลั้วไปด้วยกลิ่นอายโทน Musky ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลสะอาดสะอ้าน ภาพรวมจึงเป็นกลิ่นที่ให้ความเป็นสุภาพบุรุษที่สุขุม นิ่ง อบอุ่น สะอาด และมีเสน่ห์ที่เจ้าถึงได้ง่ายเลยทีเดียว

เปรียบเทียบ ทั้ง 2 รุ่นทั้งปกติและ Intense ยืนพื้นที่โทน Smoky กลั้วสบู่ทั้งคู่ แต่รุ่นปกติจะให้ความเป็นซิตรัสติดเครื่องเทศไม่หนักหน่วงไล่เรียงมานุ่มนวล แต่ Intense จะเครื่องเทศมาแอบแน่นอบอุ่นกันตั้งแต่ต้น แล้วเพิ่มเติมความเป็นไม้หอมติดสบู่ขรึมๆ ไปตลอด

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นเข้าถึงง่ายและมีชั้นเชิงมากพอที่จะไม่เหมือนใคร แถมมีระดับจากกลิ่นอายแบบ Smoky นุ่มๆ ของ Incense และหญ้าแฝกเสียด้วย ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน กวาดหมดทั้งทางการและทั่วๆ ไป ส่วนยามออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้ง ก็ยังพอได้อยู่ แต่ให้ผ่านไปซักหน่อยอาจจะช่วงกลางๆ หรือท้ายจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน เอาจริงๆ ตัวนี้ถ้าอัดสเปรย์ ไม่ว่าจะออกงาน ดินเนอร์ หรือเที่ยวกลางคืนก็จัดได้สบายๆ เรียกว่าเป็นอีกตัวที่ครอบจักรวาลการใช้งานไม่น้อยเลยทีเดียว

ความทน น่าพึงพอใจกับที่ 8 ชม. อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลงลงมากลางๆ แล้วจึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย    

ทิ้งท้าย เป็นอีกกลิ่นที่มาในรูปแบบที่ไม่เน้นความสดชื่นนำเด่นอะไรนัก แต่ใช้ความมีระดับจากกลิ่นอาย Smoky และไม้หอมติดสบู่เป็นตัวชูโรงแบบไม่แน่นจนเกินไปเลยทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย เรียกว่าเป็นอีกตัวที่เข้าทาง #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ได้สบายๆ เลยทีเดียว แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ถนัดกับกลิ่นโทน Smoky อาจจะต้องเรียนรู้กับมันหน่อยก็เท่านั้นเอง 

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review: Givenchy – Dahlia Divine


Givenchy – Dahlia Divine

สิ่งแรกคือ ผมเองไม่เคยลองน้ำหอมผู้หญิงของ Givenchy มาก่อนเลย และ Dahlia Divine ก็เป็นตัวแรกที่ได้มีโอกาสลอง เพราะได้กลิ่นจากการเทสแบบไม่ได้ตั้งใจแล้ว เฮ้ย! กลิ่นโอเคนะ ก็สาวอยู่ แต่กลิ่นเปิดน่าสนใจมาก เพราะว่า 

Top Notes มากับกลิ่นอายของพลัมแบบที่ไม่ได้ออกทางสีม่วง กลิ่นจะออกทางสว่างเสียมาก ซึ่งจะมีความหวานและสดชื่นกำลังดีควบคู่กันไปในตัว เพียงชั่วแว้บนึงกลิ่นอายโทนดอกไม้สีขาวจึงได้มารายล้อมกลิ่นพลัมสว่างๆ เลยทำให้กลิ่นจะเริ่มออกทางอ่อนโยนติดหวานกำลังดี จนเข้า Middle Notes เต็มตัวกับกลิ่นอายของดอกไม้สีขาวนวลๆ มีมะลิให้รู้สึกได้ และมีดอกส้มจางๆ โทนดอกไม้ของตัวนี้จะดีอย่างคือไม่ได้ออกทางแป้งจนเกินไปนัก เพราะมีความสดใสในตัว กลิ่นจะนุ่มนวลๆ ละมุนกำลังดี มีความหวานจากพลัมสว่างๆ ตอนต้นมาตัดทำให้กลิ่นอายหอมน่านะนุถนอมและดูมีระดับขึ้นมาก จนปิดท้ายที่ Base Notes คราวนี้โทนอบอุ่นจะเริ่มมา โดยยังมีความเป็นกลิ่นอายของดอกไม้ขาวนวลๆ หอมนุ่มจมูกคลอเคลียไปตลอดอยู่ โดยจะมีกลิ่นอายเย้าๆ ของพิมเสนให้รู้สึกได้ ตีคู่มากับโทนวู้ดดี้เบาๆ ของไม้จันทน์หอมกำลังดี กลิ่นจะเป็นโทนวู้ดดี้ที่สะอาดนุ่มๆ หอมนวลๆ ไปตลอด เรียกว่ากลิ่นจะออกทางผู้ดีติดหวานมีระดับและกลิ่นออกทางมั่นใจ โดยไม่ได้ออกทางยั่วยวนเกินไปเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้หญิงเต็มๆ จ้า เพราะกลิ่นนี้บ่งบอกถึงความเป็นผู้ดีที่ดูอ่อนโยน และมีระดับ สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ที่ได้ทั้งงานทางการและทั่วๆ ไป ยกเว้นใส่ออกกำลังกายเถอะ กลิ่นไม่เข้ากัน แถมจะทำให้ขาดอากาศหายใจ อาจจะเหม็นเปรี้ยวได้นะ เพราะโทนดอกไม้สีขาวมัน 50-50 มากที่จะไปได้ดีกับเหงื่อ ส่วนยามค่ำคืนออกงานหรู หรือใส่แบบทั่วๆ ไปสังสรรค์ได้เลย แต่ไม่เหมาะกับการเมาปลิ้นแน่ๆ ครับ

ความทน – ยกให้เขาเลย 10 ชม. กลิ่นยังอยู่ให้รับรู้ แม้จะไม่ได้ใส่อยู่ในห้องแอร์ทั้งวันก็ตาม

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะกระจายปานกลางไปเรื่อยๆ จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – เรียกว่ากลิ่นมีระดับแบบผู้หญิงที่ได้ทั้งความอ่อนโยนน่าทะนุถนอม และมีความมั่นใจในตัวเองที่น่าสนใจได้เลยล่ะครับ แต่ว่าผมใส่แล้วโดยทักเลยกลิ่นส๊าวสาวนะ จ้ะ แหม มันหอมก็อยากลองบ้างไรบ้าง 55555

Credit ภาพhttp://www.bellachique.be/wp-content/uploads/2014/09/givenchy-dahlia-divin.jpg

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Review: Givenchy - Gentlemen Only Intense


Givenchy - Gentlemen Only Intense

เรียกว่าข้ามช็อตจากรุ่นปกติมารุ่น Intense เลยทีเดียว เพราะว่าไม่เคยลองรุ่นปกติจริงๆ และแทบหาโอกาสลองไม่ได้ เพราะจะโดนตัวอื่นที่น่าสนใจกว่าลากไปตลอด ประจวบเหมาะมีโอกาสสอยรุ่น Intense มาเสียก่อน เลยจัดซะหนำเลยทีเดียว ผลออกมาคือ 

Givenchy Gentlemen Only Intense จะเปิดตัวด้วยกลิ่นแอบแน่นก่อนเลยครับ เพราะกลิ่นอายจะมีโทนอบอุ่นรองพื้นอยู่ด้านหลังเต็มๆ แต่ฉากหน้าที่ปล่อยออกมาคือกลิ่นอายติด Spice มีโทนหวานติดเขียวหอมนวลๆ หน่อยของใบเบิร์ธ ซึ่ง 2 โทนจะผสานกันกลายเป็นโทนเขียวหวานอุ่นนุ่มกันตั้งแต่ต้น โดยโทนกลิ่นแน่นๆ จะเริ่มบางลงเป็นโทนนุ่มนวลเต็มๆ ในช่วงกลางที่จะเป็นกลิ่นหนังดันขึ้นมาทำหน้าที่เต็มๆ แบบไม่ม่ีติดสาป เป็นหนังนุ่มๆ เท่ห์ๆ มีกลิ่นอายไม้หอมขรึมๆ กลั้วพิมเสนโปร่งๆ เข้ามาทำให้กลิ่นจะออกติดโทนสบู่สะอาดๆ หน่อยๆ แต่กลิ่นจะไม่ได้โปร่งเบาเกินไป เพราะยังมีโทนอบอุ่นรองด้านหลังไปด้วยตลอด เรียกว่าเป็นกลิ่นนุ่มนวลที่มีระดับแบบเท่ห์ๆ ได้อยู่ ส่งต่อให้ช่วงท้ายโทนอบอุ่นเลยกลายเป็นตัวนำเด่นหลังจากอยู่เบื้องหลังมานาน โดยกลิ่นครีมมี่นุ่มๆ ของถั่วตองก้าจะมากลั้วกับกลิ่นนุ่มๆ ของหนังที่ยังตามมาเลยทำให้ได้กลิ่นอายแบบผิวกายนุ่มนวลแบบอบอุ่น แถมโทนธูปก็รับช่วงต่อจากโทนไม้หอมตอนกลางๆ มาทำให้ดูกลิ่นอายน่าค้นหา มีความขรึมนิ่งดึงดูดติด Smoky อบอุ่นไปตลอด เรียกว่าภาพรวมของน้ำหอมรุ่นนี้ มาแบบอบอุ่นเน้นๆ สุภาพบุรุษแบบนิ่งเท่ห์ ไล่เรียงจากแแอบแน่น มาเป็นนุ่ม และอบอุ่นได้เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยก็ใช้ได้แล้ว แต่เพราะว่ากลิ่นอายมันจะออกอบอุ่นแบบกำลังดี เลยจะค่อนข้างเหมาะกับการใส่แบบกึ่งทางการนิดๆ พอสมควร เช่นใส่ทำงาน ใส่ออกงาน หรือใส่แบบวันอากาศดีๆ ให้มีความรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางความสดชื่น ซึ่งจะใส่ชิลล์ๆ ก็ได้อยู่ ไม่มีปัญหาอะไรในการใช้น้ำหอมตัวนี้ เพียงแต่คนที่ชอบโทนสดชื่นอาจจะไม่ฟินนัก เพราะเปิดมาก็มีความแอบแน่นหน่อยๆ จะอึ้งๆ กันไปได้ งดใส่ออกกำลังกาย ส่วนยามค่ำคืนใส่ได้สบายๆ ครับ แต่ ต้องอัดสเปรย์หน่อยนะ ถึงจะไปสู้กับชาวบ้านได้ เพราะอะไรเดี๋ยวไปว่ากันที่เรื่องการกระจายต่อ

ความทน - ถึงเป็นรุ่น Intense ก็ใช่ว่าจะต้องทนจัดเสมอไป เพราะเน้นที่ความชัดเจนและเข้มของกลิ่นที่มากขึ้นแทนเสียนมาก ความทนจึงอยู่ราวๆ 8 ชม. ก็จางแล้ว อยู่ที่การอัดเสปรย์เน้นๆ ส่วนหนึ่ง อัดมากไปก็เดี๋ยวสะเทอืนจมูกเสียก่อน เพราะกลิ่นต้นแอบแน่นอย่างที่กล่าวไว้

การกระจาย - ถือว่าเป็นรุ่นที่ไม่ได้เน้นเรื่องการกระจายของกลิ่นมากครับ ออกแนวหอมมุ้งมิ้งกับตัวเอง หรือให้คนมาอยู่ใกล้ๆ ได้ดลิ่นแล้วจะอยากซบเสียมากกว่า จะมีกระจายดีก็ช่วงต้น แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวนุ่มๆ ก่อนจะเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - เพราะยังไม่เคยลองรุ่นปกติเลยเทียบไม่ได้นักว่าเป็นยังไง แต่ถ้าตอบโจทย์น้ำหอมว่าเป็น Gentlemen ไหม ใช่เลยล่ะ แถมมีความอบอุ่นกำลังดีด้วยแหละ

Credit ภาพ http://mallsandstores-kwt.com/site/wp-content/uploads/2014/04/Givenchy.jpg

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Review: Givenchy Pi


Givenchy Pi

ต้องเรียกว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้าเลยทีเดียวกับการเป็นน้ำหอมชายที่กลิ่นวานิลลานำเด่นเป็นสง่าที่สุด แถมเป็นวานิลลาที่จัดจ้านคมมากเลยทีเดียว แบบว่าใครไม่ชอบนี่คงเซ็งได้เลยนะ ถ้าเจอคนฉีดเยอะๆ 5555 ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นนี้ของ Givenchy ประสบความสำเร็จมากจนต่อยอดออกลูกออกหลานมาอย่างมากมายด้วยเช่นกัน นั่นคือ Pi ครับ 

ต้องบอกว่าน้ำหอมตัวนี้จะมี Hint ของวานิลลาซ่อนอยู่ในเนื้อกลิ่นให้พอจับต้องได้ตั้งแต่ช่วง Top Notes เลยแต่จะมาแบบหลบๆ ซ่อนๆ ผลุบโผล่ๆ ให้กลิ่นโทนเขียวติดสมุนไพรปร่าๆ กับซิตรัส นำขึ้นมาก่อน กลิ่นจะมีโทนสดชื่นจางๆ ท่ามกลางพื้นหลังออกทางเขียวติดหวานนุ่มของพอสมควร จนเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นวานิลลาเริ่มมาคู่กับกำยานเปิดตัวเล็กน้อยแบบว่าขออยู่ในซีนนะ ให้รู้ว่าชั้นมาแล้ว แต่ให้โทนเครื่องเทศกลั้วดอกไม้ที่จะมีกลิ่นอายไม้หอมแบบไม้แห้งมาแจม กลิ่นอายเลยจะออกโทนหวานอบอุ่นแบบแมนๆ ภูมิฐาน กลิ่นจะเริ่มออกโทนอุ่นขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่แปลกคือ กลิ่นอุ่นก็จริงแต่คมหน่อยๆ จนรู้สึกได้ จนเข้าช่วย Base Notes เต็มตัววานิลลาควงมากับกำยานมาเป็นเป็นพระเอกของเรื่องกันเลย กลิ่นอายที่จับได้ว่าคม ก็คมกันเต็มๆ มากขึ้น เพราะว่ามีกลิ่นออกทางน้ำตาลหน่อยๆ แม้ว่าจะมีกลิ่นครีมนุ่มๆ แบบอัลมอนด์เข้ามาเสริมก็ตาม ก็ยังคมหวานอยู่ ทำให้ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่หอมแบบสุภาพบุรุษที่อบอุ่นและหวานโรแมนติคด้วยวานิลลา และเย้ายวนแบบอุ่นๆ กันเต็มๆ กับกำยาน ซึ่งบอกเลยกลิ่นแน่นเลยทีเดียว สมแล้วที่ดังมาอย่างอย่างนานและเป็นหนึ่งในใต้หล้าทางด้านกลิ่นวานิลลานำเช่นนี้

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นมีความอบอุ่น น่าไว้วางใจ หวานโรแมนติค และภูมิฐานในเวลาเดียวกันทั้งหมด สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบจำกัดจำนวนสเปรย์จะลงตัวมากกับการเป็นหนุ่มอบอุ่นน่าไว้วางใจ ไม่งั้นแน่นหวานซะ จนชาวบ้านอาจจะด่าเพราะเวียนหัว ที่สำคัญงดใส่ออกกำลังกายเด็ดขาด ฆ่าตายหมู่นะนั่น ที่สำคัญใส่ยามกลางคืนได้สบายๆ ครับ กลิ่นอบอุ่นหวานและภูมิฐานเลยล่ะ

ความทน – 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ แถมเกินกว่านั้นเสียด้วยซ้ำเพราะผมเจอที่ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้อยู่ได้

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีและแน่นเลยล่ะ คงความกระจายดียาวมาจนถึงปลายๆ ช่วงกลาง แล้วจึงผันเป็นกระจายกลางๆ เรียกว่าเป็น Sillage Scent อีกตัวนึงที่เน้นการกระจายและตีขึ้นให้รับรู้ได้ดีตลอดเลย

ทิ้งท้าย – เรียกว่าใครรักวานิลลาจะฟิน เพราะมันไม่สาว มันหวานแบบแมนอบอุ่นเน้นๆ เลยล่ะครับ

Credit ภาพhttp://2ctil02q0em62rd6ir3vnkvj.wpengine.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2015/03/Givenchy-men.jpg

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Review: Givenchy - Very Irresistible Summer Cocktail: Fresh Attitude for Men


Givenchy - Very Irresistible Summer Cocktail: Fresh Attitude for Men

เป็นหนึ่งในรุ่น Limited Edition ของไลน์ Very Irresistible ที่กลิ่นหอมแบบว่าต้นฉบับก็ต้องยอมให้ เพราะโทนกลิ่นแม้จะออกทางรัญจวนเช่นเดียวกัน แต่ออกทางขี้เล่น สนุกสนานแกมน่าค้นหามากกว่าจะออกทางขรึมอบอุ่นติดหวาน เช่นนั้นมารู้จักกันกับรุ่นนี้ของ Givenchy นั่นคือ Very Irresistible Summer Cocktail: Fresh Attitude for Men ครับ (ชื่อรุ่นยาวได้อีก)

กลิ่นเปิดต้องยกให้เขาเลย เพราะกลิ่นออกโทนขี้เล่น สนุกสนาน เหมาะกับอากาศหน้าร้อนที่เด่นด้วย Cocktail แนวๆ เกรฟฟรุตหรือเลมอนกลั้วมิ้นท์ ที่จะได้อารมณ์สดชื่นก็ได้ สดใสก็ดี เฮฮาน่าเข้าใกล้ก็เหมาะกันตั้งแต่ตอนนี้เลย จนเมื่อเข้าช่วงกลางกลิ่นโทนสมุนไพรออกหวานอย่างโป๊ยกั๊กและเม็ดกระวานจะมาเข้าทางกับธีมของ Very Irresistible นั่นคือความรัญจวน แต่ไม่ได้มาแบบหวานจัด เพราะมีโทนสมุนไพรติด Spicy สดชื่นเขียวหน่อยๆ ของใบโหระพามาแซม แถมกลั้วกับกลิ่นค็อกเทลที่ยังตามมาจากช่วงต้นกลิ่นก็ยังคงความกรุ้มกริ่มกลั้วเซ็กซี่ได้อยู่ และปิดด้วยช่วงท้ายกับกลิ่นโทนวู้ดดี้เบาๆ ออกทางสะอาด มีกลิ่นอายแบบผิวกายอุ่นๆ กรุ่นโดนแดดกำลังดี ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะได้อารมณ์แบบหนุ่มเที่ยวทะเล ถอดเสื้อโชว์หุ่นมาจิบแอลกอฮอล์แบบดีๆ (ไม่ใช่เหล้าขาวหรือเบียร์ช้าง) และลุคเฮฮาสดใสกับเพื่อนฝูง แถมแอบมีหลิ่วตาเหล่โปรยเสน่ห์เป็นระยะ อะไรประมาณนี้เลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นใช้ง่ายเลยทีเดียว แต่ไม่ค่อยเหมาะกับงานทางการเท่าไหร่นัก แม้จะพอใส่ได้บ้างกรณีทำงานใน Office อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าชิลล์ๆ ทั่วไป กลิ่นเข้าทางมาก ส่วนเที่ยวกลางคืนก็ใส่ได้ แต่ถ้าอัดเหล้ามากไปก็กลบไปเยอะอยู่ เน้นแบบกลางคืนริมทะเลจะดีกว่า

ความทน – จะอยู่ที่ 6 ชม. โดยประมาณ อาจจะมากกว่ากว่านี้ถ้าอัดสเปรย์เยอะหน่อย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีงามในช่วงต้น บ่งบอกความกรุ้มกริ่มกันเต็ม ก่อนจะลดลงมาที่กระจายกลางๆ และเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – เลิกผลิตไปแล้วจ้า Limited Edition นี่นา แต่ถ้าหาได้ ก็บอกเลยครับว่ากลิ่นน่าสนใจและสดใสกรุ้มกริ่มแบบยามกลางวันได้ลงตัวมากเลยล่ะครับ 

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review: Givenchy - Very Irresistible for Men


Givenchy - Very Irresistible for Men

เรียกว่าเป็นหนึ่งในไลน์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียวของ Givenchy กับการปล่อยน้ำหอมรุ่นต้นตระกูลออกมา จนมีลูกหลานออกมากันให้ตรึมโดยเฉพาะฝ่ายน้ำหอมผู้หญิง และฝั่งน้ำหอมผู้ชายก็มีออกมาพอสมควร ซึ่งปัจจุบันรุ่นต้นตระกูลฝ่ายชายก็เลิกผลิตไปแล้วอีก จ้ะ เอาที่สบายใจนะจ้ะ เช่นนั้นก่อนจะหายาก ก็มารู้จักกันกับรุ่นต้นตระกูลฝ่ายชายกันหน่อยกับ Very Irresistible for Men ครับ

พูดเลยว่าน้ำหอมตัวนี้ ถ้าใครชอบกลิ่นออกทางโทนกาแฟแนวมอคค่ากับกลิ่นถั่วอบเนยใส่เกลือจะชอบได้ไม่ยาก แถมเป็นการผสมผสานและรับช่วงต่อกันได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มที่ช่วง Top Notes ที่มากับโทนซิตรัสด้วยเกรฟฟรุต เสริมความสดชื่นด้วยมินท์ก็จริง แต่ความสดชื่นตรงนี้จะไม่ได้อยู่นาน คือ มาเร็วเคลมเร็วนิดนึง เพราะกลิ่นของมอคค่าที่ดันขึ้นมาเร็วมากจนมาผสมผสานกันเป็นกลิ่นที่ออกโทนข้นๆ และเข้าช่วง Middle Notes ทันที กับกลิ่นที่ออกทางขนมติดหวานโดยมีกลิ่นมันๆ ของงาและถั่วฮาเซลนัทรองพื้นด้านหลัง ก่อนที่กลิ่นมอคค่าจะเริ่มเบาลงๆ ไม่ได้ปล่อยของหนักมาก เลยทำให้มีทั้งความหอมละมุนและความอบอุ่นกลั้วกันไปมาเรื่อยๆ และส่งต่อให้ช่วง Base Notes กับโทนวู้ดดี้ของไม้ซีดาร์ที่จะมาเพิ่มความหมอสะอาดติดขรึมแมนๆ มากขึ้น แต่กลิ่นที่จะเด่นขึ้นมาเต็มๆ คือ ถั่วฮาเซลนัทนี่แหละ เพราะจะมาแบบถั่วบดที่กลิ่นจะออกทางครีมมี่ ออกทางข้นก็กลิ่นแต่โปร่งละมุนไม่หนักและแน่นเลย ทำให้กลิ่นท้ายๆ จะผลุบๆ โผล่ๆ เป็นโทนไม้หอมกลั้วถั่วได้ทันสมัย และลงตัว แบบผู้ชายเท่ห์ๆ แต่แอบเก๋ด้วยการหยอดความหวานอบอุ่นละมุนผ่านกลิ่นยังไงยังงั้นเลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นไม่ได้ใช้ยากมากครับ ยิ่งคนชอบกลิ่นโทนขนมจะยิ่งปลื้มได้ไม่ยาก แต่ถ้าคนที่ชอบแต่สดชื่นเป็นหลัก อาจจะต้องทำความเข้าใจกับมันซักหน่อยเท่านั้นเอง (อาจจะมีอึ้งบ้างกับกลิ่นกาแฟกลั้วถั่วเค็ม แต่ไม่นานก็หายไป) โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งงานทางการและไม่ทางการ แต่งดเรื่องการใส่ออกกำลังกายจะดีที่สุด ส่วนยามกลางคืน จัดได้เลยครับ กลิ่นเข้าทางไม่น้อย

ความทน – อยู่ที่ 8 ชั่วโมงได้สบายๆ ซึ่งอิงตามจำนวนสเปรย์ จุดที่ฉีด และเคมีด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะลดมากลางๆไปตลอด จนเป็น Skin Scent ที่ติดผิวในช่วงท้ายครับ

ทิ้งท้าย – ก็น่าเสียดายทีเดียวที่เลิกผลิตไป แต่ตอนนี้ก็ยังพอหาได้อยู่บ้างนะครับ

วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Review: Givenchy pour Homme


Givenchy pour Homme

หนึ่งในน้ำหอมที่ถือว่าเป็นตัวเอกทางด้านน้ำหอมผู้ชายของแบรนด์ Givenchy (ไม่เช่นนั้นคงไม่ลงที่คำว่า pour Homme) ที่ถือว่าเป็นน้ำหอมโซนสดชื่น แมน เท่ห์ หอมมีมิติ และกลิ่นให้ความแตกต่างจากน้ำหอมแนวๆ เดียวกันอย่างป็นเอกเทศเลย เช่นนั้นมารู้จักกันกับรุ่นนี้ครับ Givenchy pour Homme

เพียงแค่ช่วง Top Notes ก็บอกได้แล้วว่าแตกต่างจากน้ำหอมสดชื่นที่มาแนวๆ เดียวกันเสียส่วนใหญ่ เพราะในความสดชื่นแบบโทนซิตรัสกลั้วเม็ดผักชีแบบซ่าๆ จะมีโทนแป้งนุ่มๆ ของดอกไวโอเลตมาตัดทำให้กลิ่นจะอยู่ในโซนกึ่งแป้งกึ่งสดชื่น ที่ไม่ได้ออกทางแป้งเย็นแต่ประการใด จนเมื่อเปลี่ยนเข้าสู่ช่วง Middle Notes จะได้เวลามาป่ะเท่งป้ะกับกลิ่นของลาเวนเดอร์รับช่วงต่อความนุ่มสะอาด กลั้วกับกลิ่นโทนเครื่องเทศหวานๆ ที่จะมาแบบเย้าๆ เบาๆ และกลิ่นของโทนผลไม้จางๆ จะบอกได้ถึงความเซ็กซี่เย้ายวนในเนื้อกลิ่นแบบกลั้วสดชื่นได้ดีมากแบบไม่ต้องพยายาม ก่อนจะปิดท้ายด้วยช่วง Base Notes ที่จะเปลี่ยนโทนเป็นความภูมิฐานและสุภาพบุรุษในเนื้อกลิ่นเพราะหญ้าแฝกจะมาเป็นตัวนำเด่นเป็นสง่าตีคู่กับกลิ่นไม่ซีดาร์ที่จะสะอาดแบบขรึมๆ มีกลิ่นหนังบางๆ นุ่มๆ พอให้รู้สึกได้ ซึ่งภาพรวมของน้ำหอมตัวนี้จะไล่เรียงกันมาอย่างชัดเจนเลย คือ ผู้ชายสดชื่น ผู้ชายเย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้ง และผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ครบเลย จบข่าว

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นเข้าถึงได้ง่าย และไม่โหล ให้ความรู้สึกแตกต่างจากน้ำหอมโซนสดชื่นทั่วไปอย่างชัดเจน สามารถใส่ได้ทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวัน รวมถึงยามกลางคืนได้อยู่แต่ต้องอัดสเปรย์หน่อย

ความทน – ทนดีเลยทีเดียว ประมาณ 8 ชม. กำลังงาม

การกระจาย – กลิ่นนี้บอกเลยเป็นประเภทคุณหลอกดาว กลิ่นหอมสดชื่นตอนต้นจะเหมือนดูเบาๆ แต่พอไล่โทนมาช่วง Middle กลิ่นจะกระจายดีมาก และคงตัวไปจนถึงช่วงเบสที่จะกระจายดีเสมอต้นเสมอปลายจนกว่าจะหมดฤทธิ์และหายไปจากผิว

ทิ้งท้าย – สำหรับผม นี่คือหนึ่งใน #ของดีเทคนิคไม่ต้อง อีกหนึ่งตัวครับ และถ้าใครชอบน้ำหอมโซนสดชื่นที่ไม่ออกทางเหมือนคนอื่นมากเกินไป ออกแนวมีระดับทางเนื้อกลิ่นมากกว่า ตัวนี้ตอบโจทย์แน่ๆ ครับ

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Review: Givenchy – Play



Givenchy – Play 

ได้เวลาของต้นฉบับน้ำหอมขวด MP3 ของ Givenchy หลังจากที่เคยบอกเล่ารุ่น Play Intense ไปเมื่อนานมาแล้ว กับความเข้ม เท่ห์ และเมโทรที่หอมหาตัวจับได้ยากกับตัวนำอย่างกาแฟที่เข้มข้น เช่นนั้นเลยมาขอแตะกับรุ่นปกติกันบ้างกับความเมโทรในอีกรูปแบบนึงนั่นคือ Play ครับ 

ถ้าจะให้สรุปใจความง่ายๆ Play Intense จะเป็นเวอร์ชั่นดาร์กหรือกลางคืน ส่วน Play จะเป็นเวอร์ชั่นสว่างหรือกลางวัน เช่นนั้นความสว่างจะเริ่มต้นที่กลิ่นโทนซิตรัสสดชื่นกันมาเลยตั้งแต่เริ่มต้นขนมาเลยทั้งเลมอน มะกรูด ส้ม กลิ่นจะสร้างความสดใสด้วยในระดับนึง แต่ไม่ออกทางสาวเพราะมีโทนแน่นๆ รองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโทนแน่นๆ นี้จะเปิดตัวกันมาในช่วงกลางที่มาเต็มเลยทั้งกาแฟ พริกไทย ที่จะโดดเด่นมาก โดยมีกลิ่นโทนหนังและวู้ดดี้บางๆ รองพื้นด้านหลัง ซึ่งแน่นอนกลิ่นของซิตรัสตอนนต้นก็มาเป็นผู้สนับสนุนรองในช่วงนี้ด้วย เลยทำให้กลิ่นช่วงนี้จะหอมเท่ห์แบบมีความสดชื่นเสริมไปตลอด ซึ่งจะเป็นช่วงที่เรียกคำชมและเรียกแขกได้ดีมากเลยทีเดียว จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้าย กลิ่นกาแฟกลั้วพริกไทยยังไม่ไปไหนยังคงเด่นเป็นสง่าเป็นผู้สนับสนุนหลักให้คนใส่ตัวหอมเท่ห์อยู่เช่นเคย แต่จะมีกลิ่นของหญ้าแฝกมาเสริมทำให้กลิ่นออกทาง Smoky มากขึ้น ยิ่งเท่ห์หนักขึ้นไปอีก ตามด้วยพิมเสนที่ให้ความเย้ายวนและดึงดูด เช่นนั้นในเมื่อมีทั้งความเท่ห์แบบสดชื่นโดยมีความดึงดูดเย้ายวนเข้ามาเสริม ได้อารมณ์แบบผู้ชายดูแลตัวเองและทันสมัย จะเอาอะไรไปมากกว่านี้ได้ล่ะนั่น มาครบขนาดนี้

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป เพราะกลิ่นใช้ง่าย เข้าถึงได้ง่ายแบบมีชั้นเชิง ไม่ได้แบบว่าเอะอะก็เหมือนชาวบ้านไปเสียทั้งหมด สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ในยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทำงาน เรียน เดท ปล้ำแฟน แก้ผ้าเดินเล่น เล่นกีฬา หรือชิลล์ๆ ที่ไหนก็ตาม และแทบทุกสถานการณ์ในยามกลางคืน ซึ่งก็ใส่เที่ยวกลางคืนได้นะครับ แต่ต้องอัดสเปรย์หน่อย แต่จะออกทางเข้มเท่ห์สดชื่นแทนมากกว่าจะเข้มเท่ห์เย้ายวนเท่านั้นเอง

ความทน – 8 ชม. เป็นเรื่องปกติ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านี้อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมาก เรียกคำชมได้เต็มๆ ตั้งแต่ Top ยัน Base เพียงแต่ช่วงท้ายๆ กลิ่นจะกระจายกำลังดีเป็นออร่ารอบๆ ตัวแทนมากกว่า

ทิ้งท้าย – สำหรับผมนี่คือ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง สบายๆ แถมใส่ทีไร คำชมจากคนรอบข้างมาตรึมตลอด ก็กลิ่นมันดีแบบมีชั้นเชิงจริงๆ นี่นา ^^