แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tocca แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tocca แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Review: Tocca - Emelia

Tocca - Emelia

เมื่อน้ำหอมต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น Tocca จึงได้เปิดตัวน้ำหอมต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดร่วมอย่างหนึ่งนั่นคือ การตั้งชื่อกลิ่นจะอิงตามชื่อของผู้หญิงและคาแรคเตอร์ของผู้หญิงที่กำหนดขึ้นมาเป็น Story หลักในการสร้างสรรค์โทนกลิ่น ซึ่งเป็นข้อดีอย่างมากในการสร้างคาแรคเตอร์กลิ่นให้ผู้ใช้สามารถมาจับ Match กับตัวเอง และสื่อสารออกไปตามคาแรคเตอร์ที่ตนเองต้องการ

และ Emelia ก็เป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์กลิ่นอายสายลุยในสไตล์ Bohemian ที่ให้ความ Cool ก็ได้ เก๋ก็ดี เรียบง่ายก็เหมาะ แต่แน่นอนว่าอิงที่ความสดชื่นเป็นสำคัญ อารมณ์สาวติสต์ฮิปปี้สบายๆ อะไรประมาณนั้น เช่นนั้นกลิ่นจะสื่อคาแรคเตอร์ออกมาอย่างไร ต้องพิสูจน์

เปิดตัวมากับการเป็นกลิ่นของใบมะเดื่อฝรั่ง (Fig) ที่ให้ความเขียวขมทึบๆ มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ชัดเจนขึ้นมาเลย เพียงแต่ว่าเนื้อกลิ่นไม่ได้เอาความเขียวนำเด่นเพียงอย่างเดียว เพราะว่ามีความเป็นโทน Citrus ของส้มกึ่งผลไม้ที่มีความหวานอ่อนๆ ปร่าการบูรเล็กๆ ที่ให้ความสดชื่นรายล้อมอยู่ ทำให้กลิ่นจะมีแบบเขียวทึบที่มีความเปรี้ยวอมหวานสดชื่นและสว่างแบบมีความเป็นบรรยากาศที่ชัดๆ ในความรู้สึกให้รับรู้ เรียกว่าช่วงเปิดมาแบบน่าสนใจมากในการเป็นกลิ่นสาย Fig ที่มีความสดชื่นเป็นตัวแปรในการสร้างความรู้สึกรื่นรมย์ชัดเจน

การเข้าสู่ช่วงกลางเรียกว่ายกแกงค์มาจากช่วงต้นทั้งหมด เพียงแต่จะเพิ่มความเขียวด้วยกลิ่นหญ้าสดเข้าไป + มีกลิ่นของมาเตที่เอามาทำชาดื่มที่ให้ความเขียวนุ่มเข้ามาร่วมด้วย และไม่พอจะมีกลิ่นออกทางเขียวปร่ากึ่งนมๆ แกมหวานหอมของลูกมะเดื่อ (Fig) ที่ทำให้กลิ่นมีความครีมมี่อ่อนๆ เป็นศูนย์กลางของกลิ่นท่ามกลางความปร่าเขียวแกมเปรี้ยวอมหวานสดชื่น และที่สำคัญจับต้องได้ถึงกลิ่นออกทางดอกไม้แกมกุหลาบกึ่งแป่งฝุ่นอ่อนๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งถือว่าให้มิติของการเป็นโทนเขียวและสภาพบรรยากาศได้กำลังดีเลยทีเดียว

เมื่อการเปลี่ยนแปลงของเนื้อกลิ่นเริ่มจะมีความเป็นโทนออกทางกึ่งเขียวผักกึ่ง Musk ที่เป็นลักษณะของโทน Musk ที่มาจากพืชอย่าง Ambrette เข้ามาทำให้กลิ่นยังคุมโทนความเขียวแต่มีความนุ่มอ่อนๆ อยู่มากขึ้น ก็จะนำไปสู่การเป็นช่วงท้ายของน้ำหอมที่มีความเป็นลูกผสมในการเป็นโทนเขียวสดชื่นที่ยังมีกลิ่นหญ้าขึ้นมาแทนที่ Fig แต่ก็จะยังมีกลิ่นโทนครีมมี่มิลค์กี้ของ Fig อยู่ให้จับต้องได้เพราะลดทอนลงไปเป็นสายสนับสนุน และที่สำคัญมีกลิ่นน้ำมะพร้าวมาเป็นตัวหลักตีคู่กับโทนเขียวด้วย อารมณ์มาทำให้มีความสดชื่นแบบกลิ่นน้ำมะพร้าวที่มีความเปรี้ยวเขียวเนียนๆ อยู่ในนั้น โดยที่พื้นกลิ่นจะมีกลิ่นกึ่ง Musk กึ่งผัก และมีความเป็นโทนออกชอคโกแลตเนียนๆ รวมอยู่ด้วยหน่อยๆ สร้างออร่ากลิ่นสดชื่นมีเสน่ห์เล่นโทนระหว่างความเขียว ความเป็นน้ำมะพร้าว และความสดชื่นที่มีตั้งแต่ต้นยันจบได้อย่างพอเหมาะมากจริงๆ

เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิง แต่จริงๆ Unisex อยู่พอสมควรที่ผู้ชายก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่เคอะเขินและเผลอๆ หอมมากๆ อีกด้วย โดยเฉพาะคนที่ชอบโทนเขียวหญ้าและเขียว Fig เป็นทุนเดิมอาจจะฟินได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไป กลางแจ้ง ชิลล์ๆ พักผ่อน หรือใส่ทำงาน Office เอาจริงๆ ก็ใส่กับงานทางการจัดๆ ได้ เพียงแต่อาจจะดูชิลล์ไปไม่เหมาะกับลุคก็เท่านั้นเอง ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีที่สุด เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายพลังร้อยแรงม้าปล่อยเสน่ห์จัดจ้านอบอวลขนาดนั้น ก็ Concept มาสายฮิปปี้สบายๆ นี่นา

ความทน - ลงตัวกับพื้นฐานที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. ในการใช้งาน ถือว่าไม่ธรรมดา

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นและค่อนข้างคงตัวยาวไปราว 2 ชม. ก่อนจะลงมาที่ปานกลางจนถึงชั่วโมงที่ 5 ก็ค่อยๆ ลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป แล้วเป็น Skin Scent ชัดเจนเมื่อผ่านไปราวๆ 8 ชม.  

สรุป - กลิ่นเขียวที่ลงตัวมีความสบายๆ ผ่อนคลาย ซึ่งจับเข้าทีมเดียวกับกลิ่นอายสาย Fig สดชื่นต่างๆ ได้ไม่ยาก เพียงแต่กลิ่นนี้จะเด่นที่อารมณ์กลิ่นเขียวหญ้าและมีความ Fruity ติดเปรี้ยวที่ชัดเจนกว่าซึ่งทำให้มีความแตกต่างในการใช้งานและอารมณ์ชิลล์ๆ เก๋ๆ ได้ดีมากเลยทีเดียว

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.tocca.com/products/eau-de-parfum-bianca-100ml

 

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Review: Tocca – Florence

Tocca – Florence

จากแบรนด์สาย Sport Fashion สู่การได้รับความนิยมทางด้านน้ำหอมที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมผู้หญิงที่หลายๆ คนชื่นชอบและติดตามอยากได้กลิ่นใหม่ๆ มาครอบครองอย่าง Tocca ซึ่งได้เคยผ่านการเล่ากลิ่นมาแล้วรุ่นหนึ่งก่อนหน้านี้อย่าง Cleopatra ก็ได้เวลามาสู่รุ่นอื่นๆ บ้าง ซึ่งได้เห็นกลิ่นอายโซนดอกไม้ขาวที่น่าสนใจอยู่หนึ่งกลิ่นที่ชื่อรุ่นว่า Florence ที่ไม่แน่ใจว่าจะสื่อ
สารถึงเมืองหนึ่งของอิตาลีหรือไม่ เช่นนั้นต้องลอง

เปิดตัวกันอย่างชัดเจนกับหัวใจหลักของกลิ่นในรุ่นนี้เลยคือกลิ่นของดอกพุดซ้อน (Gardenia) ที่จะมาชัดเจนกันตั้งแต่ช่วงต้นและอยู่ยาวไปถึงช่วงท้ายเลย ซึ่งในแต่ละช่วงของน้ำหอมจะให้ความเป็นพุดซ้อนครีมมี่ติดอึนเจือกลิ่นตุ่ยๆ ค่อนไปทางเห็ดบางๆ แต่มีความหวานนวลที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ค่อนข้างจะเดินทางเป็นเส้นตรงพอสมควร เพียงแต่จะเป็นการไล่เรียงกันไปจากสดชื่นสู่ความนวลละมุนแทน ซึ่งช่วง Top Notes จะเป็นช่วงที่ให้ความรู้สึกแบบดอกพุดซ้อนติดเขียวสดชื่น ซึ่งจะมีโทนติด Aquatic หน่อยๆ เคล้าความเขียวติด Citrus และผลไม้ที่ออกทางฉ่ำหวานเจือจืด เลยให้อารมณ์แบบดอกพุดซ้อนยามเช้าที่ฉ่ำน้ำค้างและกลิ่นใบไม้ใบหญ้ากำลังดีเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะไม่ได้มาสายข้นคลั่กแต่อย่างใด ออกทางอะโรม่าติดฉ่ำปนเขียวสดชื่นได้อย่างดี ซึ่งในเนื้อกลิ่นนอกจากพุดซ้อนที่เด่นให้จับต้องได้ จะมีลูกแพร์ที่ให้ความหวานเจือฉ่ำปนจืดอ่อนๆ ของลูกแพร์และติดเปรี้ยวค่อนไปทางแอปเปิ้ลเขียว รวมกลิ่นออกทาง Green Note แนวๆ คล้ายกิ่งก้านส้มที่ทำให้กลิ่นมีความสดชื่นปูทางกันก่อนเลยตั้งแต่แรกเริ่ม

ผ่านไปชั่วอึดใจกลิ่นอายของดอกซ่อนกลิ่นที่ให้ความครีมมี่เย้ายวนและหวานครีมมากขึ้นได้เสริมเข้ามา รวมถึงจะมีโทนมะลิที่ได้ความใสหอมหวานชื่นใจเข้ามาร่วมด้วย แต่ทั้งซ่อนกลิ่นและมะลิจะไม่ได้มาแบบเทคโอเวอร์หรือแย่งซีนอะไรพุดซ้อนนัก แต่จะมาเสริมความเป็นโทนครีมมี่ปนหอมชื่นใจให้พุดซ้อนมีความชัดเจนมากขึ้น โดยที่กลิ่นตุ่ยๆ ติดเห็ดที่ควรจะมีเริ่มหายไป ความอึนๆ ของกลิ่นแบบพุดซ้อนจ๋าๆ และกลิ่นโทนติดฉ่ำๆ น้ำค้างหวานก็จางไปกับเขาด้วย เพราะจะมีไอริสมาเกลาให้กลิ่นมีโทนติดแป้งอ่อนๆ กึ่ง Airy ลอยตามลม เสริมทัพด้วยความเขียวนวลของใบไวโอเล็ตที่เป็นตัวทำให้ดอกพุดซ้อนนั้นมีความนวลหอมละมุนสว่างปนครีมมี่ชื่นใจเข้าโทนที่แห้งนวลมากขึ้น เสริมด้วยโทนเขียวอมหวานบางๆ ที่ทำให้ได้อารมณ์แบบพุดซ้อนบานหอมละมุนลอยมานวลๆ ระเรื่อๆ ได้ดียาวไปจนถึงช่วงท้าย ที่กลิ่นจะเริ่มเบาลงมาหน่อย เพราะกลิ่นจะมีความนุ่มนวลสะอาดของ Musk ที่เริ่มเปิดตัวมาแจม ทำให้กลิ่นยังคุมโทนความนวลละมุนระเรื่อๆ เข้าโทนแป้งหอมหวานดอกไม้ขาวคลอผิวกายอยู่ตลอด ซึ่งจะให้ความผ่อนคลาย สบาย และสว่างนวลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปจากผิว

เหมาะสำหรับ ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นมีความเป็นธรรมชาติที่สร้างความสว่างนวลและละมุนแบบกำลังดี ไม่ได้ดูเป็นดอกไม้ขาวมาข้นหนักหน่วงจัดเต็มคุณนายคุณหญิงจ๋าๆ มาจากไหน มีความสดชื่นติดเขียวที่ได้ความอะโรม่าผ่อนคลายกำลังดีให้ความเป็นผู้หญิงสบายๆ กึ่งอ่อนโยนได้ดีเสียด้วย ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นให้ความนวลสบายๆ ครีมสว่างเป็นที่ตั้ง จะมีก็แต่ไม่ค่อยเข้าทางการใส่เพื่อออกกำลังกายนัก เพราะเดี๋ยวตีขึ้นจนร้องขออากาศหายใจเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีที่สุด และเว้นการใส่เพื่อท่องราตรีปล่อยเสน่ห์ดีกว่า เพราะกลิ่นอาจจะสู้พวกสายหวานขนมจ๋าๆ ไม่ค่อยได้

ความทน ดีงามเลยทีเดียวกับราวๆ 8 ชม. กำลังดี อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 10 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นอ่อนๆ ให้รับรู้ได้อยู่

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้นให้ความสดชื่นติดนวล ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลางแล้วจะค่อยๆ ลดลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวรุมๆ อวลๆ พ้นไปซัก 6 - 8 ชม. ก็เป็น Skin Scent

สรุป อีกหนึ่งในกลิ่นดอกพุดซ้อน (Gardenia) ที่ทำออกมาได้ลงตัวมาก ไม่ได้หนักไป และไม่ได้ใสแจ๋วจนกลายเป็น lily-of-the-valley ไป ให้ความพอเหมาะพอเจาะพอดีของโทนกลิ่นที่ให้ความระเรื่อละมุนและผ่อนคลายปนสดชื่นได้ดีมากเลยทีเดียว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit https://www.amazon.com/TOCCA-Eau-Parfum-Florence-1-7/dp/B000PT739W


วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

Review: Tocca – Cleopatra

Tocca – Cleopatra

Tocca เป็นแบรนด์ทางด้าน Sport แฟชั่นที่มีชื่อพอตัวเลย ที่สำคัญเน้นทางด้านผู้หญิงเป็นหลักเสียด้วยซึ่งเรื่องนี้ต้องขอข้าม มาที่เรื่องของน้ำหอมดีกว่า เพราะมีโอกาสได้มาจากการแบ่งปันแบบที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อน แถมเห็นชื่อรุ่นว่า Cleopatra เสียด้วย เอาล่ะสิ ใส่แล้วมีสวยสง่าหรือเปล่านั่น เลยต้องลอง ผลที่ออกมาคือ 

Top Notes เรียกว่าได้ความรู้สึกสาวกันเลยทีเดียวเพราะความเป็น Fruity กลั้วซิตรัสมันเด่นตีขึ้นมาจากแบลคเคอแรนท์กับเกรฟฟรุต แต่สิ่งที่เด่นกว่าคือการแทรกตัวของกลิ่นโทนเขียวแบบสดชื่นที่ทำให้รู้สึกได้เรื่อยๆ และจะรู้สึกชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes ที่กลิ่นจะหอมแบบดอกไม้กลั้วผลไม้แบบนวลจมูกมากโดยมะลิจะมาเด่นแบบโปร่งๆ มีกลิ่นครีมมี่จางๆ จากโทนดอกไม้ขาว และกลิ่นหวานๆ ของพีชที่มาแบบไม่ได้ฉ่ำ เพราะกลิ่นอายเขียวๆ ที่แทรกมาเต็มตัวในช่วงนี้ อารมณ์เลยจะได้กลิ่นนวลๆ ของดอกไม้ติดแป้งกลั้วความเขียวแบบดึงดูด ซึ่งจะเริ่มรู้ตัวการชัดเจนขึ้นตามลำดับคือ พิมเสน ที่จะแทรกมาเรื่อยๆ และมาแบบเขียวๆ เสียด้วย เลยทำให้กลายเป็นความเย้ายวนและมีระดับมากพอแบบสง่าๆ ส่งต่อให้ช่วง Base Notes ที่จะมีกลิ่นอายของพิมเสนกลั้ว Musk หอมนวลนุ่มจมูกแบบที่ยังมีกลิ่นอายของความเขียวอยู่ รองพื้นด้วยกลิ่นโทนแป้งอบอุ่นที่มีวานิลลามาเป็นตัวเด่น แต่มาแบบไลท์เวอร์ชั่นบางเบาให้ Musk ปล่อยความนุ่มนวลเย้ายวนกลั้วกลิ่นอายมีระดับจากพิมเสนไปตลอด ภาพรวมเลยเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่มีระดับกลิ่นแบบมีของโดยไม่ทิ้งความสดชื่น ความเย้ายวน และความนุ่มนวลนั่นเอง

เหมาะสำหรับ ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป จริงๆ น้องๆ มหาลัยก็ใส่ได้ แต่ต้องเลือกสถานการณ์นิดนึง เพราะกลิ่นมันมีของที่ระดับในเรื่องความสง่าพอสมควร ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณฺยามกลางวันได้ทั้งงานทางการและทั่วๆ ไป แบบที่เน้นสร้างภาพลักษณ์แบบดีๆ ไม่ใช่กิงก่องแก้วเต้นบัลเล่ต์กลางทุ่งลาเวนเดอร์ ยิ่งออกกำลังกายขอให้งด เพราะกลิ่นไม่เข้าเลย แม้แบรนด์นี้จะออกทาง Sport Fashion ของผู้หญิงก็เถอะ ส่วนยามค่ำคืนแบบออกงานกาล่า หรืองานสำคัญตัวนี้เหมาะสมมาก แต่ถ้าไปเที่ยวแล้วไม่เน้นเย้ายวนแบบโต้งๆ เน้นเริ่ดๆ เชิ่ดๆ แบบชั้นจะเป็นคนคุมเกมตัวนี้ก็เข้าทางอยู่เลยทีเดียว 

ความทน น่าพึงพอใจมาก เพราะลากยาวไปที่ 8 ชม. ได้สบายๆ ซึ่งส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. กับการใช้ตัวนี้ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมีระดับมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายกลางๆ และลดลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย ก่อนจะจางลงไปเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป 

ทิ้งท้าย กลิ่นงามเลยทีเดียว คือ เพราะส่วนตัวผมชอบพิมเสนอยู่แล้ว เจอกลิ่นแบบนี้สู้ตาย น้ำหอมหญิงก็จะใส่ ใครจะแซวหาแคร์ไม่ครับ ชิส์ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://www.bonsreves.com/wp-content/uploads/2013/05/Tocca-Cleopatra-Eau-de-Parfum-from-Bons-Reves.jpg