แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Jil Sander แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Jil Sander แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559

Review: Jil Sander – Sun Men

Jil Sander – Sun Men

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นจากเยอรมันที่น่าสนใจมากในแง่ของการทำน้ำหอมที่กลิ่นลงตัวและดีมากเลยทีเดียว อาจจะไม่ได้ดังในบ้านเรานัก แต่ในหมู่คนเล่นน้ำหอมแบรนด์นี้ก็ได้รับคำชมมามากมายเลยทีเดียว เช่นนั้นได้โอกาสกลับมาที่แบรนด์นี้อีกครั้งก็ได้เจอกับตัวกลิ่นดีใช้ง่ายทันที เช่นนั้นต้องมาดมกันหน่อยกับรุ่น Sun Men ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร

Top Notes เปิดตัวที่กลิ่นอายแบบ Citrus ของมะกรูดก็จริง แต่จะมีกลิ่นอายสมุนไพรของโรสแมรี่แบบซ่าๆ ติดเขียวเข้ามาแจม ทำให้ได้อารมณ์สดชื่นและสดใสกำลังดี แต่สิ่งที่รู้สึกได้กันตั้งแต่เริ่มเลยคือกลิ่นโทนนุ่มนวลจมูกของเครื่องเทศติดหวานกับกลิ่นนุ่มสะอาดเย้าๆ ของ Musk ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเสมือนตัวเอกของน้ำหอมรุ่นนี้เลยที่จะปล่อยของทีละสเต็ปจนกลายเป็นตัวเอกของกลิ่น โดยในช่วง Middle Notes กลิ่นเครื่องเทศโทนหวานจะชัดขึ้นมาจนจับได้ว่าเป็นเม็ดกระวานที่จะมีความหวานเย้าแบบกำลังดี ไม่ได้มาเข้มจัดแบบออกนอกหน้า มีความสดชื่นแบบเครื่องเทศแนวๆ โปร่งๆ ผสมผสานกับโทนสดชื่นที่ตามมาตั้งแต่ต้นเลยทำให้กลิ่นผสมผสานกันออกมาเป็นสดชื่นติดเย้ายวนกำลังดี ซึ่งแน่นอนความนุ่มจมูกนวลสะอาดของ Musk ยังคงอยู่ และก็จะเด่นแรงขึ้นเรื่อยๆ นำเข้าสู่ Base Notes ที่กลิ่นอายของ Musk จะหลายเป็นกลิ่นหลักที่ให้ความนุ่มสะอาดเย้ายวนกำลังดี กลิ่นเม็ดกระวานตอนกลางจะยังมาผสมผสานเสริมความเซ็กซี่ในเนื้อกลิ่นอยู่ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีความอบอุ่นเบาๆ ของโทนไม้หอมทำให้กลิ่นจะนุ่มสะอาดติดหวานแบบแมนๆ โดยกลิ่นจะมีความหวานโปร่งๆ นุ่มๆ หวานเย้าเบาๆ สดชื่นไปตลอด เรียกว่าภาพรวมเป็นอายที่ใช้ง่ายไม่พอ ยังแฝงไปด้วยความแอบเซ็กซี่เบาๆ ให้รู้สึกได้ว่ามันมีความไม่ธรรมดาให้สัมผัสได้ในความธรรมดาที่เห็นนั่นเอง

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นเข้าถึงได้ง่ายและแอบปล่อยของกำลังดี ไม่ได้แน่นไป และสดชื่นจัดๆ เกินไป สามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย แต่ถ้าออกงานรับแขกบ้านแขกเมืองอาจจะต้องข้ามไปนิดเพราะกลิ่นมันชิลล์ๆ ไปหน่อย แต่ถ้าใส่ทำงาน หรือแบบทั่วๆ ไปชีวิตประจำวันแบบอากาศบ้านเรา ตัวนี้จัดได้สบายๆ ออกกลางแจ้งก็สามารถ ออกกำลังกายก็พอได้ ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นอาจจะไม่ได้โดดเด่นนัก แต่ถ้าอัดสเปรย์หน่อยก็พอไปผับไปบาร์ได้อยู่ แต่ไว้ใส่สบายๆ ลั่นล้าเดินเล่นยามเย็นหรือค่ำคืนน่าจะดีกว่า เพราะแอบปล่อยของได้แบบไม่ต้องไปสู้กับใคร

ความทน เรียกว่าลงตัวและดีงามไม่น้อยกับ 8 ชม. กำลังดี ซึ่งถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสมจะลากยาวไปได้ถึง 12 ชม. เลย เพราะส่วนตัวจัดไปที่ 7 สเปรย์ รวมฉีดเสื้อที่ใส่ด้วย ลากไป 12 ชม. สบายๆ

การกระจาย ลงตัวและดีเสมอต้นเสมอปลายเลย เพราะเริ่มที่กระจายดีก่อน แล้วลดลงมาปานกลางแบบลากยาวไปเรื่อยๆ จนช่วงท้ายจะเป็นออร่ากึ่ง Skin Scent

ทิ้งท้าย เรียกว่าเป็นน้ำหอมที่ใช้ง่ายและไม่โหล เพราะครอบคลุมทุกสถานการณ์ไม่พอ ยังไม่เหมือนใครอีกด้วย เรียกว่าถ้าฉีดตัวนี้เดินเข้า BTS บอกเลยว่าเด่นกว่า Cool Water, Bvlgari Aqva และ CK One แน่นอน    

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ


วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review: Jil Sander – Sander for Men


Jil Sander – Sander for Men

เป็นแบรนด์แฟชั่นจากเยอรมันที่เรียกว่าทำน้ำหอมได้ดีและน่าสนใจมากแบรนด์นึงเลยทีเดียวนะครับกับ Jil Sander หลายๆ ตัวเรียกว่าคุณภาพจัดเต็มมาก เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันนักในบ้านเรา เช่นนั้นสบโอกาสเลยมาแนะนำตัวน่าสนใจผ่านรีวิวกันดีกว่าว่าน้ำหอมแบรนด์นี้เป็นยังไงบ้างกับตัวนี้เลย Sander for Men 

ต้องบอกว่า Sander for Men เป็นน้ำหอมโทนสดชื่นที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรหวือหวา แต่เอาเข้าจริงกลิ่นมีอะไรให้รู้สึกได้ถึงความน่าสนใจฉาบไปด้วยความดูเรียบๆ นิ่งๆ ธรรมดามากเลย เพราะ Top Notes มาเต็มกับกลิ่นของตำลึง ที่จะมาโทนเขียวๆ แต่มีความนุ่มในเนื้อกลิ่นเพราะมีโทนเครื่องเทศสดชื่นมาผสานแบบหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ กลิ่นเลยนวลกว่าที่คิด ไม่ได้มาเขียวปี๊ดแบบที่เรารู้สึกได้เวลาเราเด็ดมาดมหรือเคี้ยวในปากยามกินต้มเลือดหมูแน่ๆ ที่สำคัญทีกลิ่นอายเขียวเย็นๆ ของมินท์มาแซมด้วยทำให้กลิ่นตอนต้นนี้เป็นเขียวสดชื่นนวลๆ สบายจมูกเลยทีเดียว และเมื่อเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นของเครื่องเทศสดชื่นจึงได้เปิดตัวออกมาชัดขึ้น โดยเฉพาะพริกไทยที่จะมาเด่นออกทางสะอาด โดยมีกลิ่นอายซ่าๆ ของเม็ดผักชี แต่มันไม่ได้สดชื่นเพียงอย่างเดียว เพราะมีโทนหวานเย้าๆ ของเม็ดกระวานที่จะมานวลๆ นัว และยังมีกลิ่นอายเขียวๆ ของตำลึงจากตอนต้นตามมาอยู่ เรียกว่าช่วงนี้คือช่วงสุขุมสะอาดสดชื่นติดหวานเย้าแมนๆ แบบลงตัว และปิดท้ายที่ Base Notes กับการย้ำถึงความสุขุมนิ่งขรึมในเนื้อกลิ่นเข้าไปอีกจากกลิ่นไม้ซีดาร์ และโทน Smoky จากธูปและยางไม้ และมีกลิ่นอายเขียวๆ เบาๆ ติดโทนหนังจางๆ ให้รู้สึกได้ ซึ่งโดยภาพรวมน้ำหอมในแต่ละช่วงมันจะหอมแบบแบ่งเป็นโทนผสมผสานมีมิติกันอย่างชัดเจน และมีระดับมากพอให้รู้สึกได้ แต่ยังคง Concept ของการเป็นน้ำหอมที่บอกถึงผู้ชายเท่ห์ๆ สุขุม และ Modern แบบไม่ได้ต้องสื่อด้วยกลิ่นแมนเขียวจัดๆ แต่ประการใด

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปก็ใช้ได้แล้วครับ กลิ่นออกทางสดชื่นและสุขุม ที่สำคัญเนื้อกลิ่นมีระดับมากพอเสียด้วย ไม่ใช่เพลนๆ ทั่วไป สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน งานทางการหรือทำงานพบปะผู้คน กลิ่นจะเข้าทางมาก ส่วนชิลล์ๆ ก็สบายจมูกฟินๆ ได้เลย เพียงแต่ถ้าจะออกกำลังกายแนะนำช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน ถ้าใส่ออกงานได้อยู่ แต่ถ้าไปเที่ยวอาจจะสู้คนอื่นไม่ได้ในแง่เย้ายวน และกลิ่นอาจจะโดนกลบบ้างก็เท่านั้นเอง

ความทน – โดยประมาณที่ 6 – 8 ชม. ซึ่งจะมากหรือน้อยอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีหอมเขียวสดชื่นนวลๆ ในช่วงต้น แล้วจะลดลงมากระจายกลางๆ ก่อนปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัวแล้วผันเป็น Skin Scent ในลำดับต่อมา

ทิ้งท้าย – กลิ่นดูนิ่งๆ สดชื่นแบบเขียวๆ แต่มีอะไรดีแฝงด้านหลังตลอด ที่สำคัญใช้ง่ายเสียด้วย ออกทาง Safe Scent ได้อยู่ ซึ่งสำหรับผมก็คงต้องมอบตำแหน่งนี้ให้เลยครับ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง

Credit ภาพhttp://cdnmc.sexshop51.eu/media/catalog/product/0/9/090027.jpg