แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Christian Audigier แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Christian Audigier แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

Review: Christian Audigier – Ed Hardy: Villain for Men

Christian Audigier – Ed Hardy: Villain for Men 

ลวดลายแบบ Graffiti ที่เป็นเอกลักษณ์ของไลน์ Ed Hardy จากแบรนด์ Christian Audigier จะเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดสายตาได้เสมอ ซึ่งขวดน้ำหอมก็เช่นกัน เมื่อขวดสวยก็ต้องพิสูจน์ ยิ่งขวดเป็นลายงูผงาดด้วยก็อยากรู้เลยว่ากลิ่นจะทำให้ผงาดขนาดไหน ผลที่ออกมาคือ 

Villain for Men เปิดต้นกลิ่นมาด้วยความคมของโทน Citrus ผสมผสานกับสมุนไพรที่จะมีความนัวบาดรองพื้นด้วยความอบอุ่นที่สัมผัสได้กันตั้งแต่ตอนนี้กันก่อนเลย ได้อารมณ์แบบมาร้ายๆ แรงๆ กันเต็มๆ อาจจะพาลเอาฉุนได้ ซึ่งกลิ่นของมะกรูดจะเป็นตัวเด่นนำแต่กลิ่นจะเสริมความแมนกันตั้งแต่ช่วงนี้ตรงสมุนไพรติดปร่าและอวลจากโหระพาและเซจ ซึ่งในความอบอุ่นที่เป็นตัวรองพื้นจะค่อนข้างชัดและกลิ่นสร้างความเย้ายวนกันตั้งแต่ต้น ซึ่งความนวลอวลจะเริ่มชัดขึ้นโดยที่กลิ่นปร่าๆ สมุนไพรในตอนต้นจะเริ่มจางลงไป ก็จะเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นโทน Citrus จะเริ่มลดระดับมาผสมผสานกับกลิ่นนวลๆ ของลาเวนเดอร์ที่ให้ความแมนๆ เคล้ากลิ่นหอมหวานเย้าติดเผ็ดของเม็ดกระวานทำให้กลิ่นเข้าทางเซ็กซี่ดึงดูดกันเต็มๆ โดยเนื้อกลิ่นจะมีความเผ็ดสดชื่นเข้มหน่อยๆ ของพริกไทยเจือแบบแย่งซีนไปด้วยตลอดแต่ก็มีความนุ่มเจือให้รู้สึกได้บ้าง กลิ่นเลยจะบอกอารมณ์แนวๆ เท่ห์อุ่นแต่มีความเก๋าแบบ Bad Boy พอสมควร โดยที่กลิ่นอบอุ่นของไม้หอมที่อวลๆ นัวๆ จะยังคุมโทนหลักแบบตัวรองพื้นที่ไม่ให้ใครแย่งซีนและจะเริ่มนำเข้าสู่ช่วงท้ายโดยกลิ่นของแอมเบอร์ที่มาแบบไม้หอมติดอบอุ่นนัวๆ กลิ่นอยู่ระหว่างความติดเปรี้ยวนิดๆ อุ่นติดวานิลลาบางๆ โดยที่จะมีกลิ่นไม้หอมอย่างซีดาร์ที่ให้ความขรึมแทรกไปตลอด ซึ่งเนื้อกลิ่นจะไม่ได้คมแบบตอนต้นเพราะกลิ่นมีความนวลๆ ของ Musk ที่ตัดทอนความคมออกไปได้เสียหมด เลยจะได้ความนัวอุ่นเร้าใจและเซ็กซี่กำลังดีไปตลอด ซึ่งภาพรวมกลิ่นจะออกทางเย้ายวนเซ็กซี่ โดยไม่ได้เน้นสายหวาน แต่มาสายอบอุ่นติดคมแมนนัวร้ายนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะมาสายคมอุ่นแหลมกันนิดนึงในตอนต้น ที่เหลือจะเริ่มเป็นกลิ่นนัวๆ แมนๆ อุ่นๆ ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไป หรือถ้าใส่ทำงานก็พอได้ แต่ถ้าออกงานทางการจัดๆ หรือรับแขกบ้านแขกเมืองอาจจะดูนัวไปนิด ออกกำลังกายและกิจกรรมการกลางไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่เดี๋ยวอึดอัด ยกเว้นออกกำลังกายในร่มบนเตียงกับใครนั่นอีกเรื่อง ส่วนยามค่ำคืนจัดไปกลิ่นถือว่าทำหน้าที่ได้ดีในการสร้างความแมนและลุค Bad Boy และเย้ายวนชวนอุ่นนัวได้น่าสนใจแบบที่ไม่ได้ดูลั่นล้าจัดๆ ออกแนวมีของซ่อนคมประมาณนั้นเลย 

ความทน กลิ่นทนน่าสนใจมากที่ราวๆ 8 ชม. อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าจะคมๆ แมนๆ อุ่นๆ กันก่อน เรียกว่าอาจจะตกใจกันนิดนึง พอเข้าช่วงกลางแล้วจะกระจายปานกลางกำลังดีนัวๆ แล้วจะลดลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกึ่ง Skin Scent ติดผิวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - ซึ่งถ้า D&G The One for Men เป็นตัวที่ให้ความเย้ายวนแบบกรุ้มกริ่มเจ้าเสน่ห์แบบเมโทร ตัวนี้จะมาสายใกล้เคียงกันเพียงแต่ว่าแค่ไม่มียาสูบเป็นตัวเด่น เพราะเน้นอุ่นนัวฮอตฉ่า Bad Boy ติดดิบเท่ห์กว่านั่นแล 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตก่อนหน้านี้แล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Credit ภาพ - https://i5.walmartimages.com/asr/82597019-1a59-43d3-abdd-a269e70c7bba_1.53a6a7a6b2c690adeed569b734542997.jpeg

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Christian Audigier – Ed Hardy: Love & Luck for Men



Christian Audigier – Ed Hardy: Love & Luck for Men 

กลับมาแบรนด์นี้อีกครั้งในโซนของ Ed Hardy ที่มากับแฟชั่นแบบ Street และลาย Art เท่ห์ๆ แนวๆ น้ำหอมก็เช่นเดียวกันที่จะมาในรูปแบบที่ออกทางสดชื่นแบบเท่ห์ๆ ตอบโจทย์กับแฟชั่นของแบรนด์ชัดเจน แถมขวดสวยมากกกกก และครั้งนี้จะมากับรุ่น Love & Luck for Men ครับ ว่าจะมาในลักษณะไหน และจะโดนใจหรือเปล่า? 

เว่ากันซึ่งๆ น้ำหอมตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวแทนของ Creed Millesime Imperial และ Sean John Unforgivable (กลับมาผลิตวางขายอีกครั้งหลังเลิกไปพักนึงแล้ว) ในรูปแบบที่ใสๆ ออกทางวัยรุ่นชัดเจนเลยครับ เปิดตัว Top Notes ด้วยกลิ่นซิตรัสออกทางผลไม้มากกว่าจะเป็นซิตรัสแบบคมๆ เพราะมีกลิ่นของเม็ดกระวานมาทำให้กลิ่นเปิดออกทางสดชื่นนุ่มนวล ซึ่งถือว่าเป็นข้อแตกต่างจาก 2 ตัวดังๆ ชัดเจนเพราะ MI จะมาแบบซิตรัสเด่นไม่ออกนุ่มมาก แต่ Unforgivable จะออกทางซิตรัสกึ่งเหล้าเจ้าชู้ขาดใจ เมื่อเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นจะออกทางเหล้ากลั้วกับสมุนไพรติดเขียว มีโทนแป้งนุ่มๆ หน่อยๆ กลิ่นอยู่ระหว่างความเท่ห์แนวและเจ้าชู้นิดๆ แต่ยังคุมโทนชัดเจนถึงความนุ่มในกลิ่นที่กำลังดีมากมายให้อารมณ์แบบเยาว์วัยกำลังดี จนเมื่อเข้าถึงช่วง Base Notes กลิ่นจะเป็นโซนวู้ดดี้ชัดเจน มีความเย้ายวนในเนื้อกลิ่นกำลังดีมากกับไม้ซีดาร์และ Oud: กฤษณา (เก๋ตรงนี้เพราะใจถึงกับการเอากลิ่น Oud มาใส่ในน้ำหอมโซนสดชื่น) แต่จะมี Musk และหญ้าแฝกมาตัดให้กลิ่นไม่ออกทางแขกอาหรับราตรีเลย ออกทางแน่นๆ และยังสดชื่นสะอาดมากมาย ซึ่งตั้งแต่ช่วงกลางจนถึงช่วงท้าย ต้องบอกเลยครับใกล้เคียงกับ 2 รุ่นดัง ข้างต้นมาก เพียงแต่ Love & Luck จะมีความเป็นวัยรุ่นมากกว่า โดยไม่เน้นยั่วยวนแบบ Unforgivable และหรูหราเท่า MI ครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยตั้งแต่เรียน ม.ปลาย เป็นต้นไป กลิ่นใช้ง่าย เข้าถึงง่ายมากกกก สร้างเสน่ห์กำลังดีเลยทีเดียว ซึ่งสามารถใส่ไปเรียน ทำงาน เดินเล่นเดินเที่ยว ไปหาแฟน หรือออกกำลังกายได้หมด รวมถึงใส่ไปเที่ยวกลางคืนยังได้เลยครับ

ความทน – 8 ชม. สบายๆ อาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับการฉีด จำนวนสเปรย์ และเคมีของคนใส่ด้วยส่วนหนึ่งครับ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top จะลดลงมานิดหน่อยเป็นกระจายกำลังดีในช่วง Middle และเป็นออร่ารอบตัวเข้ามาใกล้ๆ จะได้กลิ่นในช่วง Base ครับ

ทิ้งท้าย – ทั้งนี้นั้นอยู่ที่ความชอบครับ หลายๆ คนจะบอกว่า MI สุดยอดที่สุดแล้ว นั่นไม่เถียงด้วย เพราะเป็นเรื่องจริง แต่หลายๆ คนจะบอกว่า Unforgivable เด็ดดวงกว่าเพราะกลิ่นมันน่ากอด อันนี้ก็ไม่เถียงครับ เพราะจริงเหมือนกัน แต่สำหรับ Love & Luck สำหรับผม ถือว่าเป็นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกในแบบวัยรุ่นกำลังดีมากกว่าที่จะออกทางหรูจัดเต็มหรือเจ้าชู้ขาดใจ เช่นนั้นแม้กลิ่นจะคล้าย แต่มีดีในอารมณ์ที่แตกต่างแน่นอนครับ

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review: Christian Audigier - Ed Hardy Hearts & Draggers for Him

Christian Audigier - Ed Hardy Hearts & Daggers for Him


ว่ากันด้วยเรื่องของ Graffiti และรอยสักที่มีความ Cool อย่าบอกใครก็ต้องยกให้ตำนานอย่าง Don Ed Hardy ที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะแขนงนี้ออกมาได้อย่างเท่ห์และเก๋มากมาเสมอ จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเรื่องรอยสักสู่วงการแฟชั่นเน้นทางด้านสายสตรีท ผ่านการช่วยเหลือของ Designer อย่าง Christian Audigier ที่มาต่อยอดให้ จนกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกในทุกวันนี้

แน่นอนว่าเราไม่ได้มาในเรื่องแฟชั่น เรามาในเรื่องน้ำหอมที่แบรนด์ Christian Audigier ได้ต่อยอดให้กับ Ed Hardy อีกด้วย เช่นนั้นเมื่อมาเจอกับกลิ่นที่ได้มีโอกาสใช้เป็นตัวแรกของแบรนด์นี้กับฝาครอบขวดที่เท่ห์เก๋ด้วยลายสกรีนในชื่อรุ่นว่า Heart & Daggers for Him เช่นนั้นจัดไปอย่าได้เสีย ใช้แล้วบอกต่อได้แบบนี้เลย

การเปิดตัวด้วยกลิ่นที่เด่นด้วยโทนค็อกเทลมาร์ตินี่ที่ให้อารมณ์ปร่าสดชื่นติดแห้งๆ พุ่งมาก่อนเลย แล้วสิ่งที่ตามมาคือกลิ่นโทนลูกแพร์ติดออกทางกลางๆ อยู่ระหว่างมีความฉ่ำติดโทนชื้นอ่อนๆ กลั้วกับใบโหระพาที่ให้ความปร่านวล ซึ่งช่วงต้นนี้กลิ่นจะพุ่งฟุ้งมาเต็ม แต่ก็แฝงไปด้วยความสดชื่นและเท่ห์แบบแมนๆ ติดอวลๆ ได้ดีแบบได้กลิ่นก็บ่งบอกชัดเจนว่านี่เป็นน้ำหอมผู้ชายเต็มๆ จนเมื่อกลิ่นพัฒนาเข้าสู่ช่วงกลาง สิ่งที่สร้างอารมณ์แมนๆ ติดผลไม้กึ่งเขียวของมะละกอดิบก็แทรกตัวออกมาร่วมด้วยช่วยกันกับกลิ่นลูกแพร์ ทำให้กลิ่นโทนผลไม้ที่มีในน้ำหอมรุ่นนี้จะไม่ได้ไปสายผู้หญิงแม้แต่นิดเดียว แถมเสริมด้วยพริกไทยนวลปร่าเผ็ดสะอาดและกลิ่นออกทางกึ่งมินต์กึ่งสมุนไพรของโรสแมรี่ที่ให้ความเขียวนวลซ่าอ่อนๆ ที่มาเสริมโทนกลิ่นปร่าของมาร์ตินี่ที่ยังชัดเจนอยู่ในช่วงนี้ยิ่งทำให้กลิ่นมีความแมนอวลปร่าเข้าไปอีก โดยสิ่งหนึ่งต้องยอมรับเลยว่าน้ำหอมรุ่นนี้เล่นโทนกลิ่นมาร์ตินี่และลูกแพร์เคล้ามะละกอดิบบนพื้นฐานกลิ่นอายแบบแมนๆ ได้ลงตัว

เมื่อกลิ่นดำเนินไปจนถึงช่วงท้าย ความอวลปร่าเริ่มลดทอนลงมาให้กลิ่นแนวไม้หอมติดปร่าขรึมปนไม้แห้งที่น่าจะเป็นลูกผสมของโทนไม้ซีดาร์และหญ้าแฝกค่อยๆ เปิดตัวออกมาเป็นตัวเด่นแทน ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นพิมเสนอ้อยอิ่งประปรายให้ความระเรื่อใสๆ โดยที่ยังมีอิทธิพลจากช่วงกลางที่ยังมีอยู่เป็นสายสนับสนุนให้ความแมนเท่ห์อยู่ให้จับต้องได้ และเมื่อดมเข้าไปใกล้ผิวจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายโทน Musky ของหนังกลับ (Suede) ที่ให้ความอวลอวลละมุและสะอาดเนียนๆ แบบไม่ได้ติดสาบแบบปลุกเร้า Animalic แบบกลิ่นอายหนังแบบทั่วๆ ไป ภาพรวมให้อารมณ์ผู้ชายเท่ห์ๆ มีความ Cool อารมณ์กึ่ง Biker ได้เลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็ใช้งานได้แล้ว กลิ่นให้ความแมนและ Cool ในลักษณะสดชื่นติดอวลได้ลงตัว โยที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ลามไปถึงออกกำลังกายก็ใส่ได้ แต่รอช่วงท้ายๆ ถ้าจะเอาไปออกเหงื่อจะดีกว่า เพราะเดี๋ยวกลิ่นจะตีขึ้นหนักหน่วงเอาเสียก่อน ส่วนยามค่ำคืนใส่ได้หมดถ้าต้องการความเท่ห์ อัดสเปรย์หน่อยก็เที่ยวกลางคืนได้แล้ว

ความทน - เฉลี่ยที่ 8 ชม. เป็นหลัก แต่ก็อิงที่เคมีส่วนบุคคลและสภาพผิวด้วยที่จะต่ออายุความหอมไปได้อีกนานขนาดไหน ซึ่งส่วนตัวที่ได้มีโอกาสใช้รุ่นนี้ความทนลากไปที่ 12 ชม. ได้สบายมาก

การกระจายตัว – กระจายดีมากในช่วงต้น แล้วจะลดหลั่นลงไปไปเรื่อยแบบปานกลาง แล้วปิดท้ายที่เป็นออร่ากำลังดีรอบตัวคนใส่

สรุป – กลิ่นนี้ใส่แล้วจะได้อารมณ์ 2 มุม เพราะจะมองว่าเป็นกลิ่นโทนแมนๆ Biker ใช่เสื้อหนังเท่ห์ๆ หรือใส่เสื้อ Screen ลาย Graffiti ของ Ed Hardy มีรอยสักอะไรแบบนี้ก็ได้ หรือจะเป็น Daily Scent ที่สร้างความแมนๆ หอมแบบมหาชนเข้าถึงได้ไม่ยากก็ย่อมได้ ที่แน่ๆ กลิ่นนี้มาแนวเดียวกับ Tommy Hilfiger - Est. 1985 ที่เน้นกลิ่นอายเท่ห์แมนสไตล์ Biker ได้เลย