แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Boucheron แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Boucheron แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

Review: Boucheron pour Homme Collector Eau de Parfum


Boucheron pour Homme Collector Eau de Parfum 

สำหรับแบรนด์เครื่องประดับที่โด่งดังอย่าง Boucheron กับการปล่อยของทางด้านน้ำหอมแน่นอนว่านอกจากรุ่น Jaipur ที่เป็นตัวเทพทางด้านกลิ่นอบอุ่นกลั้วความหวานนุ่มแล้วทางฝั่ง pour Homme ก็ไม่ได้น้อยหน้าในเรื่องนี้นักเพราะเป็นน้ำหอมโทนสุภาพบุรุษยุค 90 ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเช่นกัน เมื่อผ่านพ้นไปในแต่ละยุคก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาปรับปรุงจนได้เป็น Edition ใหม่ๆ ที่เป็นลูกหลานออกมาดังเช่นรุ่นนี้เลย Boucheron pour Homme Collector Eau de Parfum

รุ่นนี้ได้วางตลาดในปี 2013 ซึ่งแน่นอนว่า หลายๆ คนจะคิดถึงความเป็นเทพด้าน Old School ของต้นตำรับ และคิดว่ารุ่นนี้อาจจะไม่แตกต่าง ซึ่งใช่เลย ความเป็น Old School แบบสุภาพบุรุษมาดหล่อเท่ห์ยังคงอยู่เป็นลายเซ็นที่ชัดเจน แต่จะปรับโทนให้มีกลิ่นอายที่มีความสดชื่นควบคู่กับความหรูหราตามสเต็ปที่แตะความร่วมสมัยได้มากขึ้น เปิด Top Notes กันที่ความเป็น Citrus ติดสมุนไพรกันเต็ม ซึ่งเรียกว่ากลิ่นจะชัดมากในแง่ของเลมอนและมะกรูดกับส้ม กลิ่นมาแบบแตะจมูกแล้วเราจะรู้ได้เลยถึงกลิ่นอายตามธรรมชาติเลย ซึ่งเรียกว่าเปิดมาก็ประทับใจกันเต็มๆ แต่แน่นอนตัวซ่อนรองพื้นด้านหลังคือกลิ่นของเม็ดผักชีที่จะออกปร่าซ่าเสริมให้กลิ่นเป็นโทน Citrus ที่ไม่ได้มาสายน้ำเปรี้ยวๆ เพียงอย่างเดียว ซึ่งกลิ่นกุหลาบจะแทรกตัวเข้ามานำไปสู่ Middle Notes ที่จะเป็นโทน Citrus Rose แบบลงตัว กลิ่นไม่ได้ออกทางแป้งมากนัก เน้นใสโปร่งนวลกุหลาบกลั้วความสดชื่นที่ไม่สาว มีเครื่องเทศติดหวานจางๆ รองพื้นด้านหลัง ช่วงนี้คือกลิ่นกุหลาบแบบแมนๆ มีมาดอย่างชัดเจน ซึ่งเพียงไม่นานกลิ่นอายของหญ้าแฝกที่มาแบบติดฉ่ำหน่อยSmoky จางๆ กับ Oak Moss ที่เขียวสากจะเสริมขึ้นมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ Base Notes กับกลิ่นอายแบบสะอาดสะอ้านสุภาพบุรุษมาเต็ม โดยจะมีกลิ่นของพิมเสนมาทำให้ออกหอมนวลเข้าโทนสมุนไพร รองพื้นด้วยกลิ่นอายของ Musk นุ่มๆ โดยที่โทน Citrus กับกุหลาบยังตามมาในช่วงนี้ให้รู้สึกได้ว่ายังสดชื่นอยู่ไม่หนีหายไปไหนนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัย 25 ปี หรือวัยทำงานขึ้นไป เพราะกลิ่นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ความเป็น Modern อะไรมาก แต่คาบเกี่ยวความเป็น Old School และความ Modern ได้อยู่ เอาตรงๆ ก็คือความคลาสสิคแบบไม่จำกัดโมงยามในการใช้งานนั่นแล โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ใส่ออกกลางแจ้งก็ได้ ออกกำลังกายก็สามารถแต่ให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนกับอากาศแบบบ้านเราจัดได้สบายๆ ไม่ว่าจะอยู่กับครอบครัว หรือออกเดทเพราะเนื้อ เพียงแต่ไม่ได้มาสายยั่วยวนก็เท่านั้นเอง 

ความทน - มากกกกกกกก คือ 12 ชม. กลิ่นยังหอมแตะจมูกอยู่ ซึ่งอิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญ โดยส่วนตัวเจอที่ 15 ชม. กับการยังคงอยู่ของกลิ่น ซึ่งน่าพึงพอใจมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นแบบว่าสดชื่นกับกลิ่นน้ำเลมอนกันเลย แล้วค่อนลดลงมากระจายปานกลางแบบ Citrus Rose ก่อนจะเป็นกลิ่นสะอาดสะอ้านสุภาพบุรุษติดสมุนไพรแบบออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - หลายๆ คนอาจจะมองว่ากลิ่นนี้เหมาะกับคนมีอายุแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ยามใส่จริงกับผิวมันหอมแบบสะอาดสะอาดติดนวลของ Citrus กุหลาบแบบแมนๆ เลย ไม่ได้ดูแก่มากนัก ออกแนวสร้างความภูมิฐานและสุขุมนิ่งแบบสุภาพบุรุษที่หวีผมเปียกๆ ด้วย Pomade แต่งตัวดีๆ เสียด้วยซ้ำไป 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - เข็มขัดสั้น

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Review: Boucheron – Jaipur Homme EDT


Boucheron – Jaipur Homme EDT

ได้เวลาของความอบอุ่นกับแบรนด์ Boucheron ที่เขาดังมากในเรื่อของเครื่องประดับ และถือว่าเป็นแบรนด์ที่ทำน้ำหอมออกมาได้มีระดับมากมายสมกับเครื่องประดับของเขานี่แหละ ซึ่งหนึ่งใน Masterpiece ที่แบรนด์นี้ได้ปล่อยของออกมาในฝั่งน้ำหอมผู้ชายหลายๆ คนต้องนึกถึงรุ่นที่กำลังจะบอกเล่าแน่นอน เช่นนั้นขอเชิญพบกับ Jaipur Homme แบบ EDT ได้เลย

เปิดต้นกลิ่นที่ Top Notes ก็ได้ความรู้สึกกันแล้วว่า กลิ่นนี้มาในโทนอบอุ่นชัดเจน เพราะเนื้อกลิ่นที่มีจะขึ้นต้นด้วยซิตรัสของเลมอนและมะกรูดกลั้วกับกลิ่นกระวานในลักษณะแบบน้ำหอมชายหลายๆ ตัว แต่มีกลิ่นอายของโทนดอกไม้ที่อบอุ่นแนวกลิ่นแบบอัลมอนด์อย่างดอกเฮลิโอโทรเป้ดันขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นอบเชย ได้ความรู้สึกชัดเจนว่าเป็นโทนอบอุ่นก็จริงแต่โปร่งและสว่างไม่ข้นครีมมี่ ซึ่งพอเหล่าซิตรัสได้สละเรือ กลิ่นอบอุ่นของเครื่องเทศและดอกไม้ทั้งหลายจึงได้นำเข้าสู่ Middle Notes อย่างเต็มตัว โดยกลิ่นจะมีความนุ่มอบอุ่นและครีมมี่ยืนพื้นจากวานิลลากลั้วแอมเบอร์ โดยมีกลิ่นของดอกไม้นวลๆ เป็นองค์ประกอบให้กลิ่นออกทางมีคลาสและ Sexy มากขึ้น โดยแอบมีความเซ็กซี่ประปรายจากเครื่องเทศโทนหวานที่มาจากกระวานกับอบเชยที่ยังร่วมหัวจมท้ายกันอยู่ จนโทนอบอุ่นครีมมี่เริ่มดันขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ได้เวลาปล่อยของกันเต็มๆ ในช่วง Base Notes ที่กลิ่นวานิลลาจะยังมาเด่นอยู่โดยจะดึงกลิ่นอายอบเชยมาให้รู้สึกอบอุ่นเย้ายววเสริมกับกลิ่นถั่วตองก้าที่ให้ความครีมมี่หอมนุ่มเ ไม่พอกำยานยางไม้โทนหวานก็มาผสมผสานเข้าไปด้วยกลิ่นเลยกลายเป็นหอมอบอุ่นเคล้าหวานแบบไม่หนักหน่วง แถมเสริมความมีภูมิและความน่าเชื่อถือของกลิ่นไม้ซีดาร์ที่ให้ความขรึมแมนลงไปอีก มีพิมเสนประปรายให้ดูมีคลาส ภาพรวมเลยเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่บ่งบอกถึงสุภาพบุรุษที่มีลุคน่าเชื่อถือ อบอุ่น และมีความเป็นแฟมิลี่แมนที่แอบเซ็กซี่เย้ายวนขวนอยากให้มาเป็นพ่อบ้านที่ดี ชัดเจนกันตรงนี้ ซึ่งสมแล้วที่เป็นรุ่นที่ยอดนิยมมาอย่างยาวนาน

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ที่ต้องการกลิ่นอายอบอุ่นเสริมลุคของตัวเองให้น่าเข้าหาและน่าเชื่อถืออย่างมีระดับ ซึ่งจะเหมาะมากกับงานทางการทั้งจัดและไม่จัด หรือใส่ทำงาน Office ปกติแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม ส่วนในยามชิลล์ๆ ทั่วไป ก็จัดได้สบายมาก ให้ลุคผู้ชายอบอุ่นติดเย้ายวนเซ็กซี่เสียด้วย เพียงแต่ให้งดใส่เพื่อออกกำลังกายหรือว่าออกกลางแจ้ง กลิ่นจะกระจายจนหนักหน่วงเอาได้ นอกจากนี้ยามค่ำคืนจัดไป กลิ่นน่ากอดไม่น้อยเลยนะ

ความทน – 8 ชม. ได้สบายๆ และมากกว่าเสียด้วยซ้ำถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว

การกระจาย กลิ่นนี้มีความเป็น Sillage Scent สูงเลยทีเดียวโดยจะกระจายดีมากในช่วงต้นเป็นบาเรียรอบตัวเลย ก่อนที่จะลดลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ    และเป็นกึ่งปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย ซึ่งตรงนี้แล้วแต่ประเภทผิวด้วยว่าจะออกมาในรูปไหน เพราะบางคนกลิ่นจะตีขึ้นดีมาก และบางคนเหมือนได้กลิ่นเบาๆ แต่คนรอบข้างนี่รับเต็มๆ

ทิ้งท้าย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกลิ่นนี้ถึงขึ้นหิ้งไปแล้ว กลิ่นเขาดีจริงและมีความร่วมสมัยอย่างมากมายจนออกลูกออกหลานที่เป็น Limited Edition เต็มไปหมด ก็ยังไม่มีตัวไหนสู้ต้นตำรับได้เลยแม้แต่นิดเดียว ยกนิ้วให้เลย  

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ


วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review: Boucheron - Jaipur Homme Fraicheur (Limited Edition)


Boucheron - Jaipur Homme Fraicheur (Limited Edition)

ขึ้นชื่อว่า Boucheron หลายๆ คนต้องรู้จักเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่สวยและแพงของแบรนด์ฝรั่งเศสนี้กันบ้าง แน่นอนว่าผมตาปริบๆ เพราะไม่มีตังค์ซื้อ ซึ่งก็หันมาลงตลาดน้ำหอมกันตั้งแต่ปี 1988 กันเลยทีเดียว ซึ่งในโซนน้ำหอมผู้ชายต้องบอกว่าหลายๆ คนที่รักน้ำหอมต้องนึกถึงรุ่น Jaipur กันไม่มากก็น้อย ซึ่งส่วนตัวไม่เคยได้มีโอกาสใช้ เพราะดันได้ตัว Limited Edition ของโซน Fraicheur มา เสียก่อน เลยมาขอบอกเล่ากันก่อนซะเลย

Jaipur Homme Fraicheur แบบ Limited Edition ตามรูปเป็นรุ่นที่ผมเองก็ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าออกมาเมื่อตอนไหนอย่างไร แต่เมื่อไปได้มาใช้แบบแบ่งขายจึงจัดให้รู้กันหน่อยว่า รุ่น Fresh ของโซน Jaipur ที่จะเด่นเรื่องหวานอบอุ่นเป็นยังไง ก็เปิด Top Notes กันที่กลิ่นออกโทนแป้ง แต่ไม่ได้มาในโทนแป้งหอมแน่นๆ แต่มาในแบบแป้งหอมหวานเบาๆ ของดอกเฮลิโอโทร์เป้ (Heliotrope) ที่จะออกทางแป้งติดกลิ่นอัลมอนด์ กลั้วกลิ่นของซิตรัสทำให้ออกทางโปร่งๆ ลงตัวมาก สดชื่นติดหวานกำลังดี ส่งต่อให้ Middle Notes กลิ่นจะเริ่มแน่นขึ้นกับโทนอบอุ่นโดยยังคงความเป็นแป้งหอมอยู่เพราะจะมีกลิ่นของวานิลลาและอบเชยแบบโปร่งๆ ไม่มาแบบข้นหนักมากลั้วกับกลิ่นอายเย็นติด Spicy ของจันทน์เทศ โดยยังคงมีกลิ่นอายแป้งจากตอนต้น ทำให้กลิ่นออกทางอบอุ่นแบบปลอดโปร่งลงตัวมากกว่าจะมาแบบอุ่นแน่น จนปิดท้ายที่ Base Notes กับโทนกลิ่นของวานิลลาและแป้งเบาๆ ยังคงตามมาอยู่ แต่จะมีโทนของไม้หอมเข้ามาทำให้กลิ่นออกทางอบอุ่นแบบปลอดโปร่งแมนๆ เข้าไปอีก เพิ่มความมีระดับแบบนุ่มเย้าของพิมเสน เลยทำให้ภาพรวมของกลิ่นในช่วงนี้จะเป็สุภาพบุรุษที่อบอุ่น มีระดับ กลิ่นเสริมภูมิในน่าเชื่อถือแบบที่ไม่หนักหน่วงหรือหวานจัดแต่ประการใด

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปครับ กลิ่นมาในทางเสริมภูมิและยกระดับผู้ใส่ให้เป็นสุภาพบุรุษที่อบอุ่น น่าเชื่อถือ และติดผ่อนคลายได้กำลังดีมาก เพราะกลิ่นไม่ได้หนักหน่วงเกินไป กลิ่นเข้ากับอากาศบ้านเราในระดับที่ดีเลยทีเดียวตามชื่อที่บอกว่า Fraicheur หรือ Freshness ซึ่งเหมาะกับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการ ยกเว้นออกกำลังกายที่ไม่ควรใส่ตัวนี้เท่าไหร่ ส่วนยามกลางคืนใส่ออกงานน่ะใช่เลย กลิ่นเอื้อให้เป็นสุภาพบุรุษอบอุ่นติดสดชื่นกำลังดี ดูมีภูมิเสียอีกด้วยครับ

ความทน – 8 ชั่วโมงสบายๆ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะกระจายกลางๆ ไปตลอดจนเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – เพราะการใช้รุ่นนี้ทำให้ผมอยากลองรุ่นขึ้นชื่อของแบรนด์นี้อย่าง Jaipur กันเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงใครอยากใช้น้ำหอมกลิ่นวานิลลาที่ไม่หนักเกินไป ตัวนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียวล่ะครับ แต่ปัญหาคือ จะหาจากไหนล่ะนั่น 55555