แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Armaf แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Armaf แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Review: Armaf - Club de Nuit Milestone

Armaf - Club de Nuit Milestone

จากตัวยอดฮิตสุดติ่งอย่าง Club de Nuit Intense ไม่ว่าจะเป็นของผู้ชายที่หลายๆ คนต้องมี แถมเล่นกันอย่างหนักหน่วงสอยเป็น Batch ไปอี๊ก กับการที่เป็นหนึ่งในตัวแทนของ Creed Aventus ที่มีความ Smoky เด่น หรือของฝั่งผู้หญิงที่มีลูกล่อลูกชนคล้าย Tom Ford - Noir de Noir แต่ไม่ได้เข้มหรือหนักหน่วงเท่า แน่นอนว่า Armaf ไม่ได้หยุดแค่นี้ อารมณ์แบบมีตัวไหนที่เจ๋ง ข้าจะเอาแรงบันดาลใจมาเติมเต็มแบรนด์ให้หม๊ด!

และคราวนี้เมื่อออกตัวใหม่ในสาย Club de Nuit ออกมา + พ่วงคำว่า Milestone กลิ่นจะมีแรงบันดาลใจอย่างไรก็ว่ากันตามนี้เลย

เปิดต้นกลิ่นมาในช่วง Top Notes อาจจะมีความแปร่งๆ งงๆ กันก่อนเพราะเนื้อกลิ่นที่มีความเข้มของแอลกอฮอล์ชัดเจนพอสมควร แถมเจือกลิ่นโทน Citrus แปร่งๆ เจือเมทัลลิคโลหะที่อารมณ์บาดๆ กึ่งผลไม้นิดนึงจะวูบขึ้นมาก่อน ซึ่งใช่แหละ กลิ่นสังเคราะห์กันอย่างชัดเจนในตอนแรก แต่เมื่อรอให้ความแปร่งจางลงแบบใช้แวลาไม่นาน การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรอยต่อระหว่างช่วงแรกกับช่วงกลางจะเป็นการเซทตัวที่น่าสนใจและคุ้นเคยมาก เพราะเนื้อกลิ่นจะมีโทนติดขมของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่ผสมผสานกับกลิ่นโทนผลไม้เคล้ากลิ่นส้มที่ติดหวานอมเปรี้ยวสดชื่นเคล้าความสว่างหวานปลายกลิ่นของเลมอนหน่อยๆ แถมแอบมีกลิ่นโทนผลไม้หวานโปร่งกึ่งเมล่อนนิดๆ ซ้อนกับกลิ่นเหล้ารัมเบาๆ ให้พอจับต้องได้ด้วย ซึ่งปลายกลิ่นจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอเกลืออ่อนๆ ติดสะอาดที่ไม่ได้แย่งซีนจนทำให้กลิ่นเค็มปี๋แต่อย่างใด แต่มีไอหอมติดเค็มเล็กๆ ให้รู้สึกผ่อนคลายเข้ามาสร้างมิติ ซึ่งแน่นอนเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เลยจับแรงบันดาลใจได้ไม่ยาก เพราะกลิ่นมีความคล้ายมากกับรุ่นที่ได้ฉายาว่า King of Citrus อย่าง Creed - Millesime Imperial

แน่นอนว่าความคล้ายไม่ได้ลดราวาศอกลงไป ยังคงมีความใกล้เคียงให้จับต้องได้อยู่เรื่อยๆ เพราะเนื้อกลิ่นโทน Citrus ที่ให้ความหรูหรา สดชื่นแกมนุ่มนวลที่มีความลั่นล้าหน่อยๆ จะคุมโทนเป็นอย่างดีมากในการเดินเข้าสู่ Middle Notes  เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีความเป็นโทนดอกไม้ติดแป้งบางๆ อย่างไอริสและมีกลิ่นลาเวนเดอร์มารองรับต่อแบบเป็นตัวสร้างความนวลเย้าบางๆ รองพื้นกลิ่น ให้เป็นโทนที่มีเสน่ห์แบบกรุ้มกริ่มรองพื้นด้วยความนุ่มนวล ถอดองค์ประกอบคุณชายเจ้าเสน่ห์สไตล์ Creed MI มาได้ชัดและใกล้เคียงเกินคาดมาก ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปแบบที่สร้างเสน่ห์และออร่าเย้ายวนโปร่งๆ ติดกลิ่น Fruity Citrus ที่หวานอมเปรี้ยวนวลมีไอเกลืออ่อนๆ ที่ยังคงความเสถียรอยู่ไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีโทนกลิ่นออกทาง Musk ขึ้นเสริมขึ้นมาสร้างความนวลของกลิ่นให้นุ่มมากขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป และเนื้อกลิ่นมีโทนติดเค็มกึ่งทะเลที่ออกทาง Sea Breeze หน่อยๆ โดยไม่มีคาวทะเลแต่อย่างใดประปราย ก็เข้าสู่ Base Notes ของน้ำหอม โดยเนื้อกลิ่นในช่วงกลางจะผ่อนลงมาเหลือให้จับต้องได้แบบ On Top มีเสน่ห์กำลังดีหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ เย้าๆ แต่จะมีไม้โปร่งๆ ติดไม้แห้งๆ สว่างๆ อารมณ์กลิ่นแนวหญ้าแฝกที่มาเสริมโทนนุ่มของ Musk รวมถึงจะจับกลิ่นเค็มกึ่งผิวกายอ่อนๆ มีความอบอุ่นติดไม้หอมแบบเป็นสายเนียนแฝงแต่ไม่ได้ถึงกับนวลละมุนนัก ซึ่งก็ฟันธงได้ไม่ยากว่าเป็นกลิ่นของสารหอมที่ถอดความเป็นเป็นอำพันปลาวาฬออกมาอย่าง Ambroxan ที่เป็นเรื่องดีว่ากลิ่นมาแบบอารมณ์โฆษณาแฝงที่จะจับต้องได้อยู่มุมใดมุมหนึ่งของกลิ่นตลอด แน่นอนว่ายังคงให้ความเป็นกลิ่นอายติดโทนคุณชายนวลเนียนมีเสน่ห์แฝงลุคขี้เล่นแบบที่ไม่ได้ดูห่าม แต่มีความเซ็กซี่เย้าเนียนๆ ในพื้นฐานกลิ่นที่ใกล้เคียงความเป็น Creed MI แต่ก็แตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อยของการผสมผสานกลิ่นก็เท่านั้นเอง

เหมาะสำหรับ - กลิ่นมาสไตล์แบบที่มีความเป็น Unisex ก็จริง แต่ค่อนไปทางผู้ชายมากกว่าราวๆ 75% ได้ ซึ่งยังไงถ้าผู้หญิงไม่มายด์ใช้ไปยังไงก็หอมและผ่าน อย. ทางด้านกลิ่นได้ไม่ยาก ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งหรือใส่เที่ยวทะเลก็เข้าทีมาก รวมถึงการใส่ออกกำลังกายก็ได้ถ้าไม่มายด์เวลากลิ่นจะตีขึ้นเยอะหน่อยตอนร่างกายฮีท ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยอัดสเปรย์หน่อยไปท่องราตรี ออกงาน โรแมนติค ได้หมด แต่กลิ่นอาจจะไม่ได้ถึงกับแน่นอวลแผ่รังสีมาก 

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. เป็นพื้นฐาน และไปต่อได้ถึง 12 ชม. ได้สบายมาก ถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ซึ่งอาจจะแปร่งจมูกและรู้สึกไม่ได้ถึงกับ Nice กันชั่วขณะหนึ่ง แล้วพอเข้าที่กลิ่นกระจายดีไปเรื่อยๆ แล้วผ่อนตัวลงมาที่ปานกลาง พอพ้นไปซัก 4 - 5 ชม. ก็ออร่ารอบๆ ตัวยาวไป

สรุป - ซึ่งแน่ล่ะว่ากลิ่นจะไม่ได้มีความลุ่มลึกอารมณ์นวลอุ่นคลอผิวกายเค็มแบบพลิ้วๆ เท่ากับ Creed Millesime Imperial แต่ยังเอาความมีเสน่ห์ความเป็นกลิ่นสายคุณชายเจ้าเสน่ห์มีระดับมาได้อยู่เกิน 80% ได้เลย ถือว่าเป็นการใช้แรงบันดาลใจได้ดี เติมเต็มการใช้งานแบบสายทางเลือกทดแทน รวมถึงเติมเต็มแบรนด์ให้มีกลิ่นที่ดึงดูดผู้คนให้สนใจได้ดีด้วยเช่นกัน ดังนั้น ตัดจบง่ายๆ ว่า #TeamMillesimeImperial

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrancex.com/products/_cid_cologne-am-lid_c-am-pid_78672m__products.html

 

วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

Review: Armaf – Club de Nuit Intense for Women

Armaf – Club de Nuit Intense for Women

จาก Club de Nuit Intense ฝ่ายชาย เรียกว่าทำเอาจี๊ดกับกลายเป็นน้ำหอมที่กลิ่นอายคล้าย Creed Aventus ในล็อตการผลิตที่มีกลิ่นอายแบบ Smoky เด่นนำ ก็มาถึงฝ่ายหญิงกันบ้างว่าแบรนด์จากตะวันออกกลางอย่าง Armaf จะทำออกมาในลักษณะไหนซึ่งคงไม่ต้องคาดเดาอะไรมากเพราะว่า

Club de Nuit Intense for Woman มาในลักษณะกลิ่นอายที่ใกล้เคียงรุ่นดังและเป็นตัวเทพอีกหนึ่งตัวจากไลน์ Private ของ Tom Ford เลย นั่นคือ Noir de Noir แต่ก็มีความแตกต่างให้สัมผัสได้อยู่บ้างกับเนื้อและความแน่นหนาของกลิ่น ซึ่งกลิ่นนี้จะเปิด Top Notes กันด้วยลักษณะเดียวกันกับรุ่นดัง เพราะจะมาสายดาร์กที่เป็นกุหลาบเข้มๆ ติดเครื่องเทศดาร์กๆ แต่หวานลึกๆ เย้ายวนของหญ้าฝรั่น ซึ่งกลิ่นจะไม่ได้ลงไปถึงความนัวจัดๆ มากนัก เพราะว่าจะมีกลิ่นติดซิตรัสกึ่งดอกไม้ให้รู้สึกได้แบบเบาบาง กลิ่นเลยจะออกแทนดาร์กแบบซีทรูเสียมาก ซึ่งพอเข้า Middle Notes ความคล้ายเริ่มจะเบาลงไปให้กลิ่นเครื่องเทศเริ่มเด่นขึ้นมาแบบที่มีความหวานหอมดาร์กและโปร่งในความนุ่ม กลิ่นกุหลาบกับหญ้าฝรั่นจะเจือไปด้วยเครื่องเทศโทนหวานที่มาแบบกำลังดี มีความนัวระหว่างความเป็นพริกไทยที่ให้ความปร่ากับเม็ดจันทน์เทศที่มาให้กลิ่นออกไม้หอมนิดเผ็ดนุ่ม กลิ่นมีความโปร่งติดแป้งจางๆ และมีกลิ่นเย้าๆ ติดสากบางๆ ของพิมเสนกับไม้หอมติดอุ่นๆ ดันขึ้นมาผสมผสานด้วยในช่วงนี้กลิ่นเลยจะเป็นกุหลาบ หญ้าฝรั่น และพิมเสนที่มีความอุ่นติดไม้หอมเคล้ากันลงตัว โดยยังให้ความรู้สึกดาร์กแบบซีทรูอยู่คุมโทนได้ดี แล้วส่งต่อให้ Base Notes ที่คราวนี้จะเป็นกลิ่นแบบอุ่นนัวชัดเจนมากขึ้น เพราะกุหลาบกับหญ้าฝรั่นจะจางลงไปเป็นสายสนับสนุน ปรับโทนให้กลิ่นมาสายอบอุ่นติดนัวเพราะจะเด่นที่ความเป็นพิมเสนกลั้ววานิลลาอุ่นๆ กลั้วไม้หอม ในช่วงนี้จะสัมผัสได้ว่ามี Oud อยู่ แต่จะมาแบบเบาบางแทบไม่มีความอวลแบบ Oud แบบชัดๆ นัก มาแบบนักแสดง Extra ประมาณนั้น กลิ่นมีความเย้ายวนดึงดูดชัดเจน ยังคุมโทนความดาร์กแบบซีทรูที่มีความอุ่นนัวมากขึ้น 

ภาพรวมจึงเป็นกลิ่นที่คล้ายตัวดังที่อ้างถึงแน่ๆ แต่จะไม่ได้มาแบบแน่นดาร์กจัดเต็มสไตล์ Noir de Noir ที่จะให้ความรู้สึกแบบกุหลาบดำที่โดนชอคโกแลตอุ่นๆ สาดจนชุ่มที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหลความดาร์ก ซึ่งถ้าจะเปรียบจริงๆ Club de Nuit จะให้ภาพของกุหลาบเด่นอยู่หลังม่านดำซีทรูที่มีกลิ่นนัวๆ ยั่วและเย้ายวน แบบเบาๆ เซ็กซี่ ดึงดูด โดยที่ไม่ปล่อยพลังกระจายจัดๆ นั่นแล 

เหมาะสำหรับ รุ่นนี้ตราเอาไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิง แต่เอาจริงๆ มีความเป็นโทน Unisex ในระดับหนึ่งที่ผู้ชายสามารถใส่ได้สบายๆ เพียงแต่จะเอนไปทางสาวๆ ราวๆ 65% นั่นเอง โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม โยกลิ่นสามารถใส่ได้ในยามทางการที่อาจจต้องเลือกงานหน่อย ถ้างานทางการจัดๆ อาจจะไม่เอื้อนัก ส่วนยามชิลล์ๆ ก็จัดไป กลิ่นดูมีของไม่น้อย งดใส่ยามออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้งทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนตัวนี้เป็นอีกตัวที่สมชื่อรุ่นว่า Club เลย เพราะใส่ไปท่องราตรีได้เลย แต่อาจจะต้องอัดสเปรย์นิดนึง ก็สู้ชาวบ้านได้แล้ว 

ความทน อยู่ที่ประมาณ 6 ชม. เป็นตัวตั้ง แต่จะมากหรือน้อยกว่านี้อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด รวมถึงสภาพผิวเป็นสำคัญ โดยส่วนตัวจัดไป 6 สเปรย์ อยู่ทั้งในห้องแอร์และอากาศร้อนด้านนอก กลิ่นลากไปที่ 8 ชม. ได้สบายๆ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางค่อนไปทางออร่ารอบๆ ตัว ก่อนจะลดลงไปเรื่อยๆ ที่ออร่าเบาๆ และเป็น Skin Scent ในเวลาต่อมา ลากไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปจากผิว 

ทิ้งท้าย ง่ายๆ มันคือ Noir de Noir แบบ Lite Version ที่ใช้ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง จบข่าว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - https://4.imimg.com/data4/TK/YS/MY-11554839/clubdenuitintense-500x500.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Review: Armaf - Tag-Him pour Homme

Armaf - Tag-Him pour Homme 

หลังจากที่ได้แตะน้ำหอมแบรนด์ตะวันออกกลางอย่าง Armaf ไปแล้วก่อนหน้านี้ 2 รุ่น ที่ให้ความใกล้เคียงน้ำหอมยอมนิยมของแบรนด์ Creed กันมาก่อนหน้านี้ ก็ได้เวลาของตัวที่ 3 ที่จะได้มีโอกาสได้จัดมาเสียทีเพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอยว่าตัวนี้กลิ่นอายยังมีความคล้ายรุ่นดังอยู่เช่นเคย เมื่อพิสูจน์แล้วจึงได้รู้ว่า 

Tag-Him pour Homme นั้นเปิดตัวด้วยกลิ่นอาย Citrus แบบกลั้วเครื่องเทศแบบที่คมและบาดกันนิดนึง โดยจับได้ถึงกลิ่นมินท์ แต่เพียงแค่แป๊บเดียวกลิ่นอายของเกรฟฟรุตและเลมอนจะเด่นออกมาแบบรองพื้นด้วยกลิ่นขิง ซึ่งมินท์ก็ยังอยู่แต่จะเบาลงมา ซึ่งเรียกว่ามีความคุ้นกับโทนกลิ่นนี้มากมายว่าคล้ายตัวไหนเลยกันตั้งแต่ช่วงนี้ เพียงแต่กลิ่นจะฉีกออกไปนิดนึงในเรื่องของความคม และกลิ่นขิงจะเริ่มเทคโอเวอร์นำเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นจะนุ่มขึ้นเพราะมีกลิ่นอายของเม็ดจันทน์เทศมาทำให้กลิ่นเข้าทางการเป็น Fresh Spicy โดยที่ยังมีความเขียวคมจางๆ ของมินท์และความสดชื่นของ Citrus อยู่ และจะเริ่มจับได้ถึงการเป็นกลิ่นอาย Smoky จางๆ จากโทนธูป Incense อ่อนๆ ล้อมด้วยกลิ่นอายไม้หอมหน่อยๆติดขิง จนนำเข้าสู่ช่วงท้ายกับการเป็นกลิ่นอายแบบหญ้าแฝกที่แห้งๆ เคล้ากลิ่นพิมเสน โดยมีโทนไม้หอมผสมเข้ามาทำให้ได้ความรู้สึกหรูหรากำลังดีและกลิ่นอายแบบเมโทรทันสมัยในเนื้อกลิ่นยาวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายไปจากผิว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ตรงตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอย เพราะว่ากลิ่นคล้ายรุ่นยอดนิยมสุดๆ อย่าง Bleu de Chanel มากเลยทีเดียว แต่มันก็มีความต่างที่พอจับได้ในพื้นฐานกลิ่นที่ใกล้เคียงกันมากซึ่งเปรียบเทียบออกมาเป็นดังนี้เลย 

Bleu de Chanel (EDT) - โทน Citrus จะเด่น ล้อมด้วยขิงและกลิ่นโทน Incense 
Tag-Him pour Homme - โทน Fresh Spicy จะเด่น ล้อมด้วย Citrus คมๆ โดยไม้หอมจะเบากว่า Chanel 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมาหลัยขึ้นไปก็สามารถจัดจัวนี้ได้สบายๆ เพราะกลิ่นเข้าถึงได้ง่าย แถมถ้าไม่ได้ลงรายละเอียดในการแยกกลิ่นแทบจะไม่ได้แตกต่างอะไร นอกจากที่จะรู้สึกว่ากลิ่นมันคมอิงไปทางเครื่องเทศโทนสดชื่นเสียมากกว่า ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือชิลล์ๆ ทั่วไปก็สามารถ ซึ่งถ้าจะใส่เพื่อออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนถ้าอัดสเปรย์หน่อย ก็สามารถสู้ชาวบ้านเขาได้ในแง่ของการท่องราตรีหรือจิบเบาๆ เคล้าเสียงเพลงทั่วไป 

ความทน - กลิ่นจะติดทนราวๆ 8 ชม. ได้อยู่ ซึ่งก็ยังคงอิงกับจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ โดยส่วนตัวจัดที่ 6 สเปรย์ กลิ่นลากยาวไป 10 ชม. ได้เลยแบบอยู่ในห้องแอร์ตลอดวัน 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีแบบคมแปร่งกันก่อนในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลางในช่วงกลาง แล้วปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัวผันไปเรื่อยๆ เมื่อผ่าน 8 ชม. ไปแล้วจะกลายเป็น Skin Scent 

ทิ้งท้าย - เอาจริงๆ ถ้าเป็นการ C&D ถือว่ากลิ่นไม่ได้แตกต่างมากนักกับการดมเพียงผิวเผิน เพียงแต่ถ้าจับกันจริงๆ มันก็มีความแตกต่างกันบ้าง เพราะกลิ่นจะคมกว่า ซึ่งถ้าเทียบกันเรื่องความทTag-Him ทำได้ดีและอาจจะดีกว่า Bleu de Chanel (EDT) เสียด้วยซ้ำไป ซึ่งถ้าไม่ได้มายด์ในเรื่องแบบนี้และรับได้ Armaf นั้นราคาคุ้มค่ากว่า Bleu de Chanel มากกกกกกเลยล่ะครับ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้ามผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ  https://cdn.shopify.com/s/files/1/0910/0818/products/Special-Selection-Tag-Him-Mens-Eau-de-Toilette-Spray-3.4-Best-Price-Fragrance-Parfume-FragranceOutlet.com-Detail_large.jpg?v=1442926172

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Review: Armaf – Tres Nuit pour Homme

Armaf – Tres Nuit pour Homme

เพราะ Creed ช่างทำน้ำหอมออกมาได้ถูกใจคนได้กลิ่น รวมถึงการใช้งานก็ยอดเยี่ยมมาตลอด แต่ราคานี่สิ มันเจ็บ! ซึ่งแน่นอนพอกลิ่นยอดฮิต งานคล้ายก็ต้องมาซึ่งคิดเสียว่าเป็นการ Tribute ไปก็จะได้ไม่เครียดแล้วกัน ซึ่งแบรนด์อาหรับอย่าง Armaf ก็ได้มีกลิ่นอายอยู่ 1 รุ่นที่กลิ่นอายทำให้ระลึกถึง Green Irish Tweed ตัวดัง แต่ราคาถูกกว่ามากเสียด้วยอย่าง Tres Nuit pour Homme เช่นนั้นจัดสิจะรออะไร ใช้จริงอย่างหนำใจแล้วจึงได้รู้ว่ากลิ่นเป็นเช่นนี้

Top Notes ก็มาเต็มกันด้วยความเป็นซิตรัสติดเขียวจากใบเวอร์บีน่าที่มีความเป็นกลิ่นเปรี้ยวๆ ออกทางเลมอนกลั้วกลิ่นเขียวของใบไม้ ผสมผสานกับเลมอนให้ความสดชื่กันเลย แต่กลิ่นไม่คมบาดจมูกทั้งๆ ที่ควรจะเป็น เพราะกลิ่นโทนแป้งของดอกไอริสเป็นตัวเบรกโทนคมๆ ของซิตรัสไปทั้งหมด เลยทำให้กลิ่นเปิดจะสดชื่นแบบนุ่มๆ กันเลยทีเดียว เพียงไม่นานลาเวนเดอร์จะขึ้นมาแจมให้ความนุ่มเข้าไปอีก นำไปสู่ Middle Notes ที่กลิ่นอายจะเป็นโทนแป้งหอมติดเขียวนุ่มอย่างชัดเจน ที่เป็นการผสมผสานกลิ่นอายในช่วงแรกที่ยังตามมา โดยกลิ่นอายของลาเวนเดอร์จะมาเด่นเป็นสง่าแบบหอมนุ่มจมูกกลั้วสะอาดๆ นวลๆ โดยที่จะมีความเป็นแป้งหอมนวลติดเขียวจากไวโอเล็ตและไอริสที่ทำให้กลิ่นออกทางนุ่มนวลหอมสบายจมูกแลลยาวไป จนเมื่อเข้าสู่ Base Notes กลิ่นแนวๆ ผิวกายติดเค็มจางๆ ของอำพันปลาวาฬหรือ Ambergris จะเริ่มมาแบบเบาๆ ผสมผสานกับกลิ่นแป้งหอมดอกไม้ติดเขียวนวลให้กลิ่นอายสะอาดแบบนุ่มๆ จมูก โดยมีไม้จันทน์หอมนวลๆ แทรกอยู่แบบอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ ภาพรวมจึงต้องขอบอกว่า ใกล้เคียงความเป็น Green Irish Tweed มาก เพราะกลิ่นมาโทนเดียวกันตั้งแต่ต้นยันจบจริงๆ กับความเขียวนวลจมูกคิดแป้งหอมอ่อนๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อแตกต่าง ซึ่งมีบ้างเพราะกลิ่นช่วงกลางลาเวนเดอร์ที่จะเด่นขึ้นมาเหนือโทนเขียวหอมนุ่มพอสมควรนั่นเอง

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว เพราะกลิ่นใช้ง่ายมาก คนได้กลิ่นมักไม่ยี้เพราะมันหอมนุ่มนวลจมูกมาก โดยสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ได้หมดทั้งงานทางการและทั่วๆ ไป ส่วนออกกำลังกายก็ใส่ได้อยู่ เพราะกลิ่นมีความสดชื่นนุ่มๆ ติดเขียว ส่วนยามค่ำคืนอาจจะไม่ได้เข้าทางเท่าไหร่ แต่ถ้าทั่วๆ ไปคิดอะไรไม่ออกบอกตัวนี้ก็ไม่มีปัญหาในยามกลางคืนแบบสบายๆ ทั่วไป อัดสเปรย์ก็รอดได้อยู่เพียงแต่อาจจะไม่ได้เน้นยั่วยวนอะไรมากนัก

ความทน
อันนี้แหละที่ด้อยกว่า Creed เพราะกลิ่นจะอยู่ได้ประมาณ 6 ชม. ซึ่งอาจจะบวกลบบ้างตามจำนวนสเปรย์ที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาที่เป็นออร่ารอบๆ ตัว ก่อนจะเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย กลิ่นเหมือน GIT ใช่เลย แต่ไม่ได้เหมือนเปี๊ยบขนาดนั้น และกลิ่นไม่ได้มาในโทนที่มีระดับแบบ Creed ที่มีความนวลเนียนกริบในเนื้อกลิ่น แต่ถ้าไม่ได้สนใจความละเมียดอะไรขนาดนั้น ตัวนี้ถือว่าให้ความหอมที่ลงตัวมากตัวนึงครับ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ



วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

Review: Armaf – Club de Nuit Intense for Men

Armaf – Club de Nuit Intense for Men

เมื่อได้อ่านข้อมูลมาจากหลายๆ ทางไม่ว่าจะเป็นทั้งเวบไซต์เกี่ยวกับน้ำหอม หรือเพจต่างๆ ที่เหล่าคนรักน้ำหอมเขาไปชุมนุมกันของ ตปท. มักจะพูดกันว่า Armaf รุ่น Club de Nuit Intense for Men เป็นอีกหนึ่งตัวที่คล้าย Creed Aventus มากโดยเทียบกับ Batch การผลิตในรุ่นที่มีกลิ่นอาย Smoky จัดๆ (ต้องเข้าใจกันก่อนว่า Creed เป็นแบรนด์ที่วัดกลิ่นเหมือนกันในทุกรอบการผลิตได้ยาก เพราะอิงกับคุณภาพวัตถุดิบในช่วงนั้นๆ เลยทำให้จะมีบาง Batch ที่กลิ่นนี้เด่นกว่ากลิ่นนั้น กลิ่นนั้นโดยกลบไปเยอะบ้าง) เช่นนั้นเราต้องพิสูจน์ด้วยการเสียเงินสอยมาแล้วผลที่ออก คือ

Top Notes กลิ่นมีความเข้มข้นของโทน Smoky จากเปลือก Birch ชัดเจนมากกลิ่นมาติดโทนหนังหน่อยๆ เสียด้วย แต่เพราะว่ามีกลิ่นอายของทนสดชื่นอย่างซิตรัสและผลไม้นั้นไม่ยอมให้มาแย่งซีนแน่ๆ เลยทำให้กลิ่นของเลมอนและโทนผลไม้นั้นยังทำหน้าที่เด่น แน่นอนว่ากลิ่นสับปะรดนั้นแทบไม่รู้สึกเพราะออกแนวจะไปทางโทนผลไม้อย่างแบล็คเคอแรนท์และแอปเปิ้ลเขียวเสียมากกว่า โดยกลิ่น Smoky ก็ขอตีคู่กันไปตั้งแต่ต้น จนเมื่อเข้า Middle Notes งานมาเต็มของโทน Smoky จึงได้มาและเป็นตัวที่จะเด่นไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลยนั่นคือ เปลือกไม้ Birch ที่จะให้กลิ่นอายหนังติดโทน Smoky แมนๆ มาเลยก็จริง แต่จะมีกลิ่นโทนดอกไม้อย่างมะลิติดกุหลาบจางๆ เคล้าวานิลลาหน่อยๆ มาทำให้กลิ่นนุ่มขึ้น ไม่มามะรุมมะตุ้มผลัดกันเด่นแบบช่วงต้นแล้ว ซึ่งส่งต่อไปยังช่วง Base Notes ที่ความ Smoky ยังคงอยู่ไม่หนีไปไหน แต่จะมีความอบอุ่นติดนุ่มนวลของ Musk และกลิ่นตรึงที่ออกทางผิวกายสะอาดติดเค็มจางๆ ของอำพันปลาวาฬ (Ambergris) ที่จะมาตรึงให้เกิดความนุ่ม วานิลลาจะมาให้ความอบอุ่นเพิ่มมีกลิ่นอายของพิมเสนมาแบบเบาๆ เคล้าไปตลอด ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วกับตัวเทพอย่าง Aventus คงต้องบอกว่า

กลิ่นช่วงต้นแตกต่างเพราะยังอยู่ในช่วงชิงดีชิงเด่นกันอยู่ ก่อนที่จะเริ่มมีความคล้ายมากขึ้นในช่วงกลางแต่มีความแมนเข้มอยู่ และใกล้เคียงมากในช่วงท้าย ซึ่ง
Batch ของ Aventus ที่มีความเป็น Smoky จัดๆ กลิ่นจะใกล้เคียงตัวนี้มากจริงๆ แต่ Armaf ก็ยังไม่ได้มีกลิ่นอายที่นุ่มนวลจมูกกว่า Aventus ที่มีคุณภาพกลิ่นและตัวเกลาให้กลิ่นมีความหรูหรามีระดับแบบสัมผัสได้มากกว่ารวมถึงมีความนวลเนียนกว่าก็เท่านั้นเอง

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะอยู่ระหว่างกลางๆ ที่ไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายมากขนาดนั้น แต่ถ้าใครต้องการตัวแทนของ Aventus ในแบบที่ Smoky จัดๆ ตัวนี้ไปได้ค่อนข้างดีและมีความแมนเข้มเพิ่มเข้ามาเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ถ้าจะออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน กลับกลายเป็นว่าตัวนี้เข้าทางกว่าในแง่ของการใส่ไปเรียกเรตติ้งและไม่ได้ดูออกทางคุณชายมากเกินไป แบบที่ Aventus ทำได้ เพราะความเข้มของโทน Smoky ที่สร้างความแมนเท่ห์นั่นเอง

ความทน – EDP มาเต็มเช่นนั้นจัดไปที่ 8 ชม. สบายๆ แถมลากยาวไปได้มากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำถ้าจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเอื้อมากพอ ส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. แบบฟินๆ เลย

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบดีค่อนไปปานกลาง และปิดท้ายที่การเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย แล้วลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ

ทิ้งท้าย เทียบกับกลิ่นใกล้เคียงทั้งหมดที่ผมมี ต้องบอกจุดเด่นของแต่ละตัวแบบนี้แล้วกันว่า
Aventus – กลิ่นนวลเนียนมีระดับสมดุลทุกทาง (เฉพาะ Batch ของผม)
Cedrat Boise – โทนอบอุ่นจะเด่น
Supremacy Silver – โทนผลไม้จะเด่น
Club de Nuit Intense for Men – โทน Smoky จะเด่น
Tierra del Fuego – โทนห่ามๆ ติดแมนแบบไม่นุ่มนวลจะเด่น

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ