แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Pacifica แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Pacifica แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Pacifica - Cosmosis, Vanilla Stardust

Pacifica - Cosmosis, Vanilla Stardust

สิ่งที่สะดุดใจครั้งแรกเลยเวลาที่เห็นน้ำหอมรุ่นนี้ของแบรนด์ Pacifica นั่นคือ การเอากลิ่นโทนวานิลลามาเจอกับกลิ่นขี้เถ้า ซึ่งแค่นึกภาพเราจะได้อารมณ์วานิลลาติดอับไหม้อะไรประมาณนั้น แต่เพราะการตัดสินเพียงแค่นึกอย่างเดียว มันพิสูจน์ไม่ได้ เช่นนั้นการจัดมาเพื่อให้รู้จึงบังเกิด ที่สำคัญชื่อรุ่นน่าสนใจมากอย่างคำว่า Cosmosis ที่อ้างอิงการเป้นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาล รวมถึงมีสร้อยห้อยต่อท้ายว่า Vanilla Stardust ที่เป็นละอองดาวสีวานิลลาเข้ามาอีก

เช่นนั้น ไม่ลอง ไม่ได้แล้วล่ะ

สิ่งที่เกิดขึ้นยามแรกสเปรย์ในการใช้งานและการเทสรอบต่างๆ อย่างแรกเลยคือกลิ่นอายออกทางสดชื่นแบบอากาศเย็นจะวูบขึ้นมาก่อน ซึ่งถ้าอ้างอิงกับ Note กลิ่นที่แบรนด์นำเสนอนั่นก็คือ Ozonic Note แต่มาเพียงวูบเดียวก็จางไป เพราะตัวหลักของกลิ่นอย่างวานิลลาที่แทรกเข้ามาพร้อมกับกลิ่นอายออกทางโทนผลไม้เบอร์รี่ที่ทำให้ช่วงแรกจะมีลักษณะกลิ่นที่มีความหอมแบบวานิลผสมกลิ่นอายเบอร์รี่ต่างๆ แบบเบอร์รี่รวมที่สัดส่วนโทนผลไม้ออกทางสีม่วงจะมากกว่าและเด่นออกมาเลย และเนื้อกลิ่นจะมีความหอมหวานชัดเจนออกมา แต่ข้อดีคือ กลิ่นไม่หนักเกินไปแม้จะเป็นกลิ่นโทนค่อนไปทางขนมมากเลยก็ตาม ก็เพราะมีความปร่าอ่อนๆ ที่สร้างความ Sparkling วิบวับแบบเบาๆ ปลายกลิ่นและเป็น effect ของโทน Ozonic ที่ทิ้งลายเซ็นเอาไว้แม้ว่าจะหายไปแล้ว

การเปลี่ยนแปลงของเนื้อกลิ่นจะไม่ได้ฉีกหรือแตกต่างนัก ค่อนทางมีความทางเดียวที่ให้โทนแบบค่อยเป็นค่อยไปและปรับโทนนิดหน่อยให้มีความหอมที่มีมิติขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นการแบ่งช่วงน้ำหอมออกเป็น 2 ช่วงจากช่วงต้นมาสู่ Dry Down เลย โดยที่กลิ่นโทนวานิลลาเบอร์รี่จะเริ่มมีอารมณ์กลิ่นออกทางหวานแหลมนิดๆ ของกลิ่นออกทางกำยาน Benzoin ที่เป็นตัวสร้างโทนกลิ่นออกทางวานิลลาติดหวานแหลมที่ฟุ้งออกมา แกมกลิ่น Smoky แบบติดทึบไหม้เนียนๆ เข้ามาเป้นสายสนับสนุนให้กลิ่นมีอะไรที่จับต้องได้มากขึ้นและเมื่อดมเข้าไปใกล้ๆ กลิ่นออกทางโทนแป้งเข้ามาร่วมด้วยแบบรองพื้นเนียนๆ อยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามิติกลิ่นยังคงให้อารมณ์แบบกลิ่นออกทางสาย Gourmand หรือขนมหวานเด่นอยู่แต่จะมีความดารก์เนียนๆ ไม่หนักหน่วงและความอบอุ่นสบายๆ สไตล์วานิลลาติดแป้งเข้ามาเสริม ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปยาวพอสมควรจนเมื่อโทนผลไม้เริ่มหายไป ถึงจะเป็นวานิลลานวลๆ ค่อนไปทางแป้งติดหวานแหลมปลายกลิ่นผ่อนคลายสบายๆ เป็นการปิดท้ายไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่เหมาะสม

เหมาะสำหรับ - Unisex แต่ค่อยไปทางผู้หญิงมากกว่าราว 75% ซึ่งกลิ่นจะมีความน่ารัก หอมหวาน ไม่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้ไก่กา ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบจำนวนสเปรย์กำลังดีถ้าวันอากาศร้อน แต่ถ้าอากาศเย็นเพิ่มได้ตามความเหมาะสม แต่ถ้ามากไปเดี๋ยวคนฉีดจะตึ้บก่อนเอา แต่ให้ตัดการใส่กับยามทางการจ๋าๆไปได้เลย กลิ่นไม่ได้ไปสายเสริมออร่าและบุคลิกทางการเท่าไหร่ รวมถึงการใส่เพือกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายก็ไม่ต้องนึกถึงตัวนี้ แต่ถ้าใส่ทำงาน Office หรือทั่วๆ ไป ใช้ได้สบายมาก รวมถึงยามค่ำคืนเน้นใส่แบบชิลล์ๆ โรแมนติค หรือสบายๆ ได้เลย แต่ถ้าจะใช้ไปท่องราตรีอาจจะโดนกลบเอาได้

ความทน - กลิ่นทนอยู่ที่ราวๆ 6 - 8 ชม. เป็นสำคัญและไม่เกินนี้นัก ซึ่งอาจจะมีแกว่งตามสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวประมาณ 8 ชม. กับ 6 สเปรย์ก็ถือเป็นเรื่องดีแล้ว 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้นแล้วจะลดลงมาไวำอสมควรในการเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันไวมาก และคงตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปซัก 6 ชม. ก็ Skin Scent ชัดเจน

สรุป - เนื้อกลิ่นถือว่าให้ความเป็นวานิลลาหวานแหลมแกมกลิ่นผลไม้ได้มินิมัลพอสมควรและตรงไปตรงมาในการดำเนินกลิ่นที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจนพลิกเกม มีความทางเดียวแต่มีมิติให้รับรู้ได้เวลาพินิจพิเคราะห์กับการดม เช่นนั้น อาจจะไม่ได้รู้ว่ากลิ่นนี้จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลอย่างไร แต่ถ้าบอกว่าตอบโจทย์ละอองดาวสีวานิลลาไหม? ตอบเลยว่าได้เลยเต็มๆ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.pacificabeauty.com/products/natural-origins-cosmosis


 

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Review: Pacifica - Tuscan Blood Orange

Pacifica - Tuscan Blood Orange

การชูโรงกลิ่นส้มแบบธรรมชาติในน้ำหอมนี่เรียกว่าปราบเซียนกันได้ง่ายๆ เลย เพราะนอกจากจะต้องสื่อสารกลิ่นที่ชัดเจน ยาวนาน และสร้างความสดชื่นรื่นรมย์แล้ว จะทำออกมาอย่างไรให้กลิ่นมีความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุดที่จะตอบโจทย์การเป็นกลิ่นส้ม ซึ่งนี่ก็เป็นโจทย์หนึ่งในการค้นหากลิ่นส้มที่แท้ทรูมาอยู่เสมอว่าจะมีตัวไหนที่พร้อมทำให้ฟินบ้าง และเมื่อมาเจอว่าแบรนด์ Pacifica มีกลิ่นส้มที่น่าสนใจอย่างรุ่น Tuscan Blood Orange เช่นนั้น

ก็จัดมาเลยแล้วกันจะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร

เปิดตัวมาอจะได้ความรู้สึกแบบออกทางเปรี้ยวเจือเบอร์รี่ติดคมฟุ้งเสียมาก และเมื่อดมแบบตั้งใจอีกทีก็ชัดเจนเลยว่าเป็นกลิ่นของสตรอเบอร์รี่ที่พุ่งออกมาเต็มๆ อารมณ์กึ่งลูกอมสตรอเบอร์รี่ที่มีกลิ่นหอมติดหวานเฉพาะของราสเบอร์รี่เจือๆ อยู่ด้วย เลยทำให้กลิ่นจะไม่ได้เป็นสตรอเบอร์รี่แบบธรรมชาติแบบมาแบบเป็นลูกๆ แบบนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเลยคือ เนื้อกลิ่นสร้างโทนสีแดงได้ชัดเจน ซึ่งในวูบกลิ่นถัดมาจะค่อยๆ เริ่มมีกลิ่นส้มที่ค่อยๆ เสริมขึ้นมาโดยมีโทนติดเปรี้ยวหอมปนฉ่ำน้ำเล็กๆ ที่ค่อยๆ เสริมขึ้นมาและเริ่มสร้างลักษณะกลิ่นเริ่มเข้าโทนการเป็นส้มทีละหน่อยๆ และปูทางเข้าสู่ช่วงกลางในที่สุด

เมื่อส้มเริ่มเข้ามาแทนที่เรื่อยๆ จนพอสมควรแก่เวลา ก็เทคโอเวอร์ในการเป็นโทน Citrus ที่เจือความเป็นเบอร์รี่สีแดงที่ชัดเจนมากขึ้น ความหวานก็มาชัดแบบเจือเปรี้ยวหอมสไตล์ส้ม อารมณ์กลิ่นมีวูบของการเป็นน้ำส้มอยู่พอสมควรซึ่งเข้าทางการเป็นส้มสีเลือดที่ให้อารมณ์หวานเจือเปรี้ยวหน่อยๆ ที่มีความสดชื่น และเนื้อกลิ่นจะมีความซ่าปร่าบางๆ เจืออยู่ เลยทำให้บางวูบจะรู้สึกได้ว่ากลิ่นมีอารมณ์กึ่งน้ำอัดลมรสส้ม กึ่งลูกอมที่เสริมจากเบอร์รี่มาด้วยก่อนที่จะเริ่มจางไปตามลำดับ และเริ่มเปลี่ยนโทนสีของกลิ่นมาเป็นโทนสีส้มที่ชัดเจนมากขึ้นมากลายเป็นส้มอมแดงในช่วงท้ายของน้ำหอม ซึ่งช่วงนี้กลิ่นจะตรงไปตรงมาในการเป็นโทนส้มหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ ที่ให้ความสดชื่นติดรื่นรมย์กำลังดี ซึ่งแน่นนอนมีความฉ่ำติดชื้นบางๆ ให้พอจับต้องได้ ตามด้วยปลายกลิ่นมีอารมณ์แบบลูกอมรสส้มหน่อยๆ โดยเมื่อดมเข้าไปใกล้ผิว จะมีวูบปร่าเจือขมหอมอ่อนๆ เจืออยู่นิดๆ อารมณ์แบบกลิ่นเปลือกส้มแบบเบาๆ เลยทำให้ได้ความรู้สึกที่ครบถ้วนกับการเป็นน้ำหอมกลิ่นส้มที่เข้าถึงได้ง่าย สดใส และ Nice แบบที่ไม่ซับซ้อนอะไรนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่านิดนึง เพราะว่าช่วงเปิดมันคือสตรอเบอร์รี่นี่แหละ แต่ถ้าผ่านไปแล้วที่เหลือก็ได้หมดถ้าสดชื่น ซึ่งกลิ่นเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันได้เลย ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วไป เพราะกลิ่นใช้ง่ายเข้าถึงง่ายแบบยังไงก็รอดและให้ความเป็นส้มแบบตรงไปตรงมา แต่ยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีกว่า เพราะถ้าใส่ไปท่องราตรีเรียกว่าโดนกลบซ้ำซากกันได้เลยทีเดียว

ความทน - ค่อนข้างแกว่งพอสมควร เพราะถ้าอากาศร้อนกลิ่นจะอยู่ราวๆ 2 ชม. ก็เริ่มบอกลาแล้ว แต่ถ้าอากาศเย็นๆ สบายๆ กลิ่นพอลากไปได้ถึง 6 ชม. อยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ กลิ่นติดเสื้อมากกว่าผิวกายเสียอีก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นปานกลางซักครู่ ก่อนเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ พอเข้าช่วงท้ายก็ติดผิวรัวๆ

สรุป - ถ้าจะเอากลิ่นแนวส้มธรรมชาติจ๋าๆ อาจจะไม่ได้เป็นกลิ่นที่ให้ความเป็นธรรมชาติแบบส้มหรือน้ำส้มคั้นสดอะไรนัก แต่ถ้าจะเอากลิ่นส้มที่ใช้ง่ายเข้าถึงง่ายและมีความสดชื่นสดใสอันนี้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ให้ได้ครบถ้วน เพียงแต่ให้พกไปเผื่อด้วย เพราะถ้ากลิ่นจางก็เติมระหว่างวันได้   

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.pacificabeauty.com/products/tuscan-blood-orange-spray-perfume

 

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563

Review: Pacifica - French Lilac

Pacifica - French Lilac

จากความชอบส่วนตัวในการผสมกลิ่นโน้นนี้ สู่การต่อยอดในชีวิตเพื่อเรียนทางด้านกลิ่นและอะโรม่าเธอราพีที่มาจากธรรมชาติจนจบ สร้างเสริมประสบการณ์ สปช. ให้ชีวิตแบบเอาดีทางนี้จริงๆ ของ Brook Harvey Taylor และได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมจากชายฝั่งตะวันตกที่ติดมหาสมุทรแปซิฟิค จนได้มาเปิดเป็นแบรนด์ออกมาและนั่นก็คือ Pacifica

โดยแบรนด์มี Concept ที่ตรงไปตรงมาในการสร้างสรรค์น้ำหอมโดยเน้นที่ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติเป็นสำคัญ และไม่ได้เน้นการตลาดที่ทุ่มเม็ดเงินเพื่อให้เป็นที่รู้จัก แต่ใช้วิธีการบอกต่อๆ ของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งก็ได้ผลดีเสียด้วย จนทุกวันนี้ Pacifica เองได้เติบโตและมีมากกว่าน้ำหอม ทั้งเทียนหอม Body Care และ Make-up Line ที่ต่างก็ได้รับความนิยม เช่นนั้น เมื่อได้มารู้จักแบรนด์นี้ มีหรือที่จะพลาดกลิ่นน้ำหอมที่น่าสนใจ เช่นนั้นก็มาเจอกันหน่อยกับกลิ่นแรกของแบรนด์ที่ได้ลองนั่นก็คือ French Lilac

เปิดตัวกลิ่นที่ถ้าดมแบบไม่ได้เจาะลึกว่ามีกลิ่นอะไรบ้างสิ่งที่ได้คือ อารมณ์กลิ่นแบบไลแลคที่มาเต็มทุกสโตรก จะได้ความเป็นแป้งติดน้ำผึ้งที่หวานและมีความรวยรินของมะลิเจือๆ ที่จะมีโทนตุ่ยๆ เจือเขียวสดชื่นติดชื้นๆ ตามธรรมชาติได้ชัดมากถึงมากที่สุด แบบที่ให้อารมณ์เหมือนยืนงงในดงไลแลครอบตัว เพราะมาเต็มมากถึงมากที่สุดกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าคนที่ไม่ชินอาจจะตึ้บเอาได้เพราะกลิ่นมันแน่นอวลเลยทีเดียว แต่ถ้ามาเจาะลึกกันหน่อย ต้องเรียกว่าเป็นการผสมผสานกลิ่นที่ลงตัวด้วยกลิ่นอายสายดอกไม้ที่สนับสนุนกันเป็นอย่างดีในการสร้างกลิ่นไลแลคที่เข้มข้นออกมาได้มากขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนในนี้มีไลแลคอยู่แล้ว แต่เสริมด้วยกลิ่นโทนเขียวติด Stem เมือกๆ ที่ให้โทนเขียวกึ่งน้ำลายเล็กๆ ของไฮยาซินท์ และกลิ่นติดสดชื่นอมเปรี้ยวของแมกโนเลียที่ให้ความสว่างในกลิ่น พร้อมกับกลิ่นอวลๆ ติดโทนกึ่งมะลิกึ่งกระดังงาที่ให้ความอวลหวานเข้ามาเสริมกับกลิ่นอายติดน้ำผึ้งเดิมของไลแลคเข้าไปอีก ซึ่งถือว่าสร้างสรรค์กลิ่นออกมาจากการผสมผสานได้น่าสนใจมากจริงๆ และได้อารมณ์กลิ่นที่เป็นสีม่วงไลแลคชัดเจนในความรู้สึกจริงๆ

เมื่อเข้าสู่ช่วง Dry Down ที่จะเป็นช่วงกลางไปท้าย จะเริ่มจากความเป็นไลแลคจะลดทอนความสดชื่นติดชื้นลง โดยยังมีความเขียวสไตล์ไฮยาซินท์และความหวานอวลของกระดังงาอยู่ และกลิ่นโทนที่มาสอดรับความเป็นกลิ่นอายหวานอวลสีม่วงคือดอกเฮลิโอโทรเป้ที่จะให้ความเป็นกลิ่นอายโทนแป้งกึ่งอัลมอนด์เข้ามาร่วมด้วย แต่สิ่งที่ดีคือ กลิ่นไม่ได้ไปสายแป้งจ๋าๆ นัก ยังคุมโทนได้ดีในการเป็นกลิ่นอายดอกไม้มากกว่าจะเป็นแป้งดอกไม้ได้อยู่ เพราะมีกลิ่นออกทางผลไม้ที่ค่อนไปทางพีชติดฉ่ำหวานกึ่งน้ำผึ้งของลูกท้อ เลยทำให้กลิ่นมีลูกเล่นในความเป็นไลแลคที่ติดหวานผลไม้เจือน้ำผึ้งใสๆ ที่หวานรื่นรมย์เลยทีเดียว จนเมื่อกลิ่นเขียวๆ ของไฮยาซินท์และความอวลกระดังงาจางไป กลิ่นที่รองพื้นจะชัดเจนมากว่าเป็นวานิลลาแบบสาย Soft ที่มาสอดรับกับความเป็นไลแลคที่ลดทอนความหวานลงมากลายเป็นหวานรื่นรมย์ระเรื่อๆ ทำให้ช่วงท้ายอารมณ์จะได้แบบอากาศดีๆ แล้วกลิ่นหวานหอมของไลแลคลอยมาให้ได้รับกลิ่นตามลมแบบพลิ้วๆ โดยไม่ได้ดูเป็นการไปยืนในดงไลแลคที่อัดแน่นแบบในช่วงแรกแล้ว กลิ่นจะให้อารมณ์หวานที่ผ่อนคลายสบายๆ คลอผิวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปตามเวลา

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยตั้งแต่มัธยมขึ้นไปก็สามารถใช้กลิ่นนี้ได้แล้ว เพราะกลิ่นมาสายดอกไม้แบบติดสดชื่นและหวานมีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่ต้องเบามือนิดนึงเพราะไม่งั้นจะมึนตึ้บเอาได้ช่วงแรกจัดเต็มจริงๆ ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป กลิ่นให้ความไร้เดียงสาหน่อยๆ ก็ได้ หรือจะได้จริตความเป็นผู้หญิงหวานหอมก็ได้ แต่ให้ตัดการใส่ไปออกกำลังกายจะดีที่สุด กลิ่นไม่ได้มาสายนี้นัก ส่วนยามค่ำคืนแม้ว่าจะใส่ท่องราตรีได้ถ้าอัดสเปรย์ไป แต่อาจจะสู้กับสายหวานอวลขนมต่างๆ ได้ยากหน่อย แต่ถ้าใส่เพื่อความหวานอะโรม่าแบบน้อยสเปรย์จะให้ความหวานหอมน่ารักได้ดีมากเลย

ความทน - เกินคาด เพราะคาดไว้ว่าไม่น่าเกิน 4 ชม. แต่เอาจริงๆ ยาวไปถึง 8 ชม. ได้ไม่ยากเลย กับการใช้ที่ 5 สเปรย์ ซึ่งก็อิงสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น เรียกว่าตึ้บได้เลยเพราะในความหวานถ้ามาแบบจัดเต็มอาจจะทำเอามึนๆ ได้ แล้วจะลดลงมากระจายดีซักระยะ ก่อนจะดรอปลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัวเมื่อผ่านไปซัก 3 ชม. ก่อนที่จะเป็น Skin Scent หอมระเรื่อตีขึ้นยามขยับร่างกายกันยาวๆ

สรุป - เป็นไลแลคที่ซื่อตรงมาก เพราะตรงไปตรงมา ไม่มีอ้อมค้อมในการนำเสนอกลิ่นไลแลคแต่อย่างใด อยู่ตั้งแต่ต้นยันจบเลย และมาเต็มม๊ากมาก ซึ่งถ้าพื้นฐานใครที่ชอบไลแลคเป็นทุนเดิม กลิ่นนี้สามารถทำให้ฟินได้เลย แต่ถ้าไม่ชินเพราะดอกไม้ชนิดนี้ไม่ได้มีในไทย อาจจะต้องเรียนรู้กันหน่อยก็เท่านั้นเอง

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.pacificabeauty.com/products/french-lilac-spray-perfume