แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Ted Lapidus แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Ted Lapidus แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review: Ted Lapidus – TL pour Lui


Ted Lapidus – TL pour Lui

กลับมาหาแบรนด์นี้อีกครั้งเพราะน้ำหอมแต่ละตัวนั้นสร้างความประทับใจมากเลยทีเดียว เมื่อได้มีโอกาสใช้รุ่น TL pour Lui จึงต้องมาบอกเล่าถึงความดีงามกันซักหน่อยล่ะครับ 

เปิดต้นกลิ่นกับ Top Notes กลิ่นของดอกส้มกับลาเวนเดอร์ก็มากันเต็มเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะรัญจวนพอสมควร แต่ก็ยังอยู่ในพื้นฐานของความสดชื่นจางๆ ได้อยู่จากมิ้นท์และกลิ่นโทนซิตรัสจางๆ ถือว่าเปิดต้นกลิ่นได้เรียกแขกและน่าประทับใจเลย เพราะกลิ่นมีมิติสลับหนักเบาเบลนด์ได้อย่างลงตัวมาก และกลิ่นของวานิลลาจะเริ่มดันขึ้นมาจนเต็มยาม Middle Notes แต่มาแบบแป้งวานิลลาอุ่นๆ เพราะมีโทนไม้หอมรองพื้นด้านหลัง และยังมีกลิ่นดอกส้มผสานกับลาเวนเดอร์ในช่วงต้นตามมา เลยทำให้กลิ่นช่วงนี้หอมนุ่มนวลติดโทนแป้งหอมอบอุ่นกำลังดีและลงตัวมากเลยทีเดียว จนได้เวลาปิดท้ายของ Base Notes กลิ่นของแป้งวานิลลายังคงสม่ำเสมอในการปล่อยของ แต่จะลดระดับมาเป็นพื้นหลังให้กลิ่นไม้หอมอบอุ่นติดโทนนุ่มสะอาดของ Musk เด่นขึ้นมา กลิ่นจะอยู่ระหว่างกลางของความแน่นกับกับความโปร่งได้อย่างลงตัว เข้าทางการเป็นสุภาพบุรุษที่อบอุ่นก็ได้ น่าเชื่อถือก็ดี รื่นรมย์ยามอยู่ใกล้ก็เข้าทาง ดูไม่หวือหวาแต่กลิ่นก็ชวนให้อยากเข้าใกล้ได้เลยล่ะครั

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นค่อนข้างสร้างลุคของผู้ชายอบอุ่นได้ดีเลย ซึ่งสามารถใส่ได้แทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและไม่ทางการ ส่วนออกกำลังกายแนะนำว่ารอช่วงปลายท้ายๆ จะดีที่สุด แม้กลิ่นแป้งวานิลลาจะไม่ได้มาหนักมาก แต่อาจจะทำให้คนอื่นเวียนหัวได้ เพราะมีโทนหวานแทรกอยู่ไม่น้อย ส่วนยามค่ำคืนเหมาะกับการออกงาน หรือดินเนอร์มากครับ กลิ่นชวนประทับใจจริงจังเลยล่ะ

ความทน – ยกให้แบรนด์นี้เลย ทนจริงทนจังมากเพราะเกิน 8 ชั่วโมงสบายๆ ซึ่งบนผิวผมจัดไปที่ 12 ชั่วโมง กลิ่นยังมีอยู่จางๆ ยิ่งพอร่างกายทำความร้อนกลิ่นตีขึ้นให้รู้เลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะมากระจายแบบกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัวกำลังดีไปเรื่อยๆ จนเป็น Skin Scent ตีขึ้นยามร่างกายทำความร้อนในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – มันคือหนึ่งในของดีที่ไม่ดังครับ และไม่ค่อยเหมือนใครเสียด้วย ^^

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

Review: Ted Lapidus – Altamir



Ted Lapidus – Altamir

เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มาเงียบๆ แต่ฟาดเรียบนะจ้ะ เพราะน้ำหอมแต่ละตัวกินขาดเรื่องคุณภาพสุดๆ ที่สำคัญไม่มีขายในไทยด้วย แรงงงงงงตรงนี้ เช่นนั้น ต้องพึ่งพาอาศัยในแต่ละรูปแบบที่จะหามาครอบครองกันได้ และหนึ่งในรุ่นที่ถือว่าเป็นน้ำหอมที่น่าสนใจมากตัวนึงของแบรนด์ Ted Lapidus นี้ มีโอกาสเป็นต้องลองนั่นคือ Altamir ครับ

เพราะน้ำหอมสีส้ม กลิ่นที่ได้ออกมาจึงได้ความรู้สึกแบบซิตรัสแบบส้มชัดเจน กลิ่นให้ความสดชื่นแบบแน่นๆ มีอารมณ์เขียวๆ ของใบสับปะรดกำลังดี แต่ไม่ได้หมายความว่าน้ำหอมตัวนี้เป็นโซนสดชื่นแต่ประการใด เพราะว่านี่แค่ช่วง Top Notes เองนะครับ และจะเริ่มเข้าสู่ความเป็นความนุ่มนวลแน่นๆ ของมวลหมู่ดอกไม้แล้วกับ Middle Notes เริ่มที่การรับช่วงต่อของโทนส้มด้วยกลิ่นดอกส้มที่กระจายดีเหลือเกิน กลิ่นโดดเด่นมาก ตามด้วยการสมทบด้วยมะลิที่ทำให้กลิ่นหอมรัญจวนเข้าไปอีก แต่กลิ่นไม่ได้ออกสาวเลย เพราะโทนกลิ่นที่ได้จากถั่วตองก้าที่รองเป็นพื้นหลังทำให้กลิ่นช่วงนี้ออกทางนุ่มนวลและครีมมี่ติดหวานแบบผู้ชายอบอุ่นชัดเจนกันตรงนี้ และผันเข้าสู่ความเป็นโทนอบอุ่นจัดเต็มกันในช่วง Base Notes ที่ถั่วตองก้าที่ครีมมี่นุ่มนมยังคงอยู่แถมปล่อยของหนักกว่าเดิมมาผสานกับ Musk ที่หอมสะอาด และแอมเบอร์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น กลิ่นยังความความหอมแน่นอยู่ไม่ทิ้งลาย แถมมีความเย้ายวนกำลังงามจากพิมเสนปล่อยของเป็นระยะอีกด้วย โดยรวมบอกได้ถึงผู้ชายอบอุ่น หวานและโรแมนติคแบบธรรมดาที่ไม่ธรรมดาได้เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นออกทางอบอุ่น น่าเข้าใกล้ ไม่ได้ดูวัยรุ่นจ๋าๆ ยิ่งใส่กับอากาศเย็นๆ นะ ฟินนนนน โดยสามารถใส่ทำงานได้สบายๆ รวมถึงใส่ออกทางทางการต่างๆ ที่ต้องพบปะผู้คน รวมถึงใส่ไปโรแมนซ์กับแฟน เที่ยวกลางคืนก็ได้อยู่ครับ แต่ไม่ได้เย้ายวนมากขนาดที่จะได้ใครกลับบ้านทันทียามได้กลิ่นขนาดนั้น เน้นอบอุ่นให้รู้สึกดีไรงี้แทน อ้อ อย่าใส่ออกกำลังกายนะคร้าบ ไม่เหมาะเลย กลิ่นจะกระจายดีแน่นจนคนอื่นจะเป็นลมเองได้

ความทน – เอาไปเลย 8 ชม. ขึ้นไป ถึง 12 ชม. ผมก็เคยเจอมาแล้ว

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากกกกกได้หมดทั้งความสดชื่น ความนุ่มนวล ความหวาน และความอบอุ่นมาครบ ทั้ง 3 ช่วง เลย แต่อาจจะมีช่วง Base ที่ลดระดับลงไปกลางๆ ไม่ได้จัดเต็มเหมือนช่วงต้นๆ แต่ก็ยังคงตีขึ้นให้คนใส่รับรู้ได้ไม่ยาก

ทิ้งท้าย – มันคือของดีที่หายาก เช่นนั้นแบบแบ่งขายที่ผมหามาได้ จึงถนอมสุดชีวิตเลยทีเดียวครับ

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Ted Lapidus - Ted pour Homme



Ted Lapidus - Ted pour Homme 

หนึ่งในเบรนด์ของฝรั่งเศสที่คุณภาพจัดเต็มในราคาที่ถูกกว่าหลายๆ แบรนด์ระดับโลกเสียด้วยซ้ำไป ซึ่งในเมืองไทยแบรนด์นี้ค่อนข้างรู้จักในหมู่นักเล่นนาฬิกา เครื่องประดับ และน้ำหอมกันเลยทีเดียว เพราะเอาดีกันทางนี้จริงๆ ซึ่งน้ำหอมหลายๆ ตัวเป็นที่ยอมรับอย่างมากจริงๆ และหนึ่งในนั้นคือตัวนี้ครับ Ted pour Homme 

เพียงแค่ Top Notes ก็ปล่อยกลิ่นออกมาได้แบบที่หอมแบบน่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะกลิ่นเลมอนที่ควรจะออก Citrus สดชื่น มันกลายเป็นกลิ่นโทนเลมอนหวาน เหมือนเราได้กลิ่นผิวลูกเลมอนราดน้ำเชื่อม หรือตรงๆ ก็เลมอนดองแบบหวาน ที่สำคัญการมีโทนวู้ดดี้ของไม้ซีดาร์ทำให้กลิ่นนั้นแน่นในระดับหนึ่ง แต่ไม่หนักข้อเกินไป ถือเป็นกลิ่นที่แบบว่าให้ความรู้สึกที่สดชื่นแต่ไม่คมจนบางทีจะเสียดจมูกเลย และกลิ่นออกทางคลาสสิคหน่อยๆ ใช้ง่ายมากกว่าที่คิด ที่สำคัญพอกลิ่นของเลมอนหวานเริ่มจางๆ ไป คราวนี้ได้เวลาจัดเต็มของช่วงอบอุ่น เย้ายวน แต่ยังคงความสดชื่นกันได้ในช่วง Middle Notes ของอบเชยที่โดดเด่นมากกลิ่นหอมนุ่มอบอุ่นจริงๆ แต่ที่มีความสดชื่น คือ เปลี่ยนถ่ายจากเลมอนหวานมาเป็นกลิ่นของมะนาวแบบดองหวานแทน ให้อารมณ์เหมือนกลิ่นในครีมชีสมะนาวออกหวานอมเปรี้ยว มีโทนซ่าๆ ของลูกจันทน์เทศเอาไปอีก กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ได้มากมายเลยทีเดียว และไม่ออกในโทนขนมแต่อย่างใด มันเก๋ตรงนี้แหละ พอเปลี่ยนถ่ายมาเป็นช่วง Base Notes ได้เวลาของกลิ่นโทนนุ่มอบอุ่นทั้งหลายทำหน้าที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นครีมมี่ของ Tonga Bean นุ่มนวลของวานิิลา อบอุ่นแอมเบอร์ และสะอาดของ Musk โดยที่กลิ่นโทนของอบเชยและมะนาวหวานๆ ยังคงมีอยู่ บางๆ เป็นฉากหลังที่ยังให้ความสดชื่นจางๆ อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหอมที่ทำออกมาเป็นเอกลักษณ์มากในเนื้อกลิ่น หอมมีระดับ แถมยังมีความคลาสสิคให้จับต้องได้เสียด้วยซ้ำไป

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปครับ เพราะโทนกลิ่นให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่สดชื่นกำลังดี ใส่ทำงาน ใส่เที่ยว เดินเล่น เที่ยวกลางคืน และจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะได้หมด เพราะโทนเย้ายวนของอบเชยสามารถจัดเต็มได้อยู่ในเรื่องแบบนี้ ที่สำคัญกลิ่นที่ออกแนวคลาสสิคพอประมาณแบบนี้ใส่ออกงานชุดสูทยังได้เลย กลิ่นทำให้หล่ออบอุ่นได้มากโขอีกด้วยซ้ำไป แถมใส่ได้ทุกช่วงเวลาอีกด้ว

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ และถ้ากลิ่นเข้ากับผิว เกิน 10 ชม. ก็สามารถครับ คุณภาพจัดเต็มเลยทีเดียวในเรื่องของทนของแบรนด์นี้

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top และ Middle ครับ ให้อารมณ์สดชื่นหวานแบบไม่แน่นมากเกินไป และตามด้วยความอบอุ่นเย้ายวนเต็มๆ ปล่อยเสน่ห์ได้ดีมาก แต่พอ Base กลิ่นจะออกแนวเป็นออร่ารอบๆ ตัวให้ความรู้สึกอบอุ่นกำลังงามแทน

ทิ้งท้าย - เสียดายที่ผมเองไม่เคยเห็นแบรนด์น้ำหอมตัวนี้ในขายไทยนะครับ ทั้งๆ ที่ทำน้ำหอมออกมาได้ดีมาก เห็นทีต้องพึ่งแบบแบ่งขายและ Pre-order จากเมืองนอกกันต่อไป "