วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

Review: Monotheme Fine Fragrances Venezia - Vetiver Bourbon

Monotheme Fine Fragrances Venezia - Vetiver Bourbon

ไม่รู้จัก Monotheme (ขอเรียกสั้นๆ) มาก่อนเลยด้วยซ้ำ จนมาวันหนึ่งได้มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์แนะนำมาว่า ตัวนี้ดีมากกก เลยทำให้รู้จักแบรนด์นี้กันเต็มๆ มากขึ้นว่ามาจากอิตาลี และอยู่ในเครือใหญ่ทางด้านน้ำหอมอย่าง Mavive Vanezia ที่มีแบรนด์น้ำหอมและบอดี้แคร์ในอยู่เครือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pino Silvestre, Police หรือ Zippo เลยถามไถ่ทั่วหล้าว่าใครไปอิตาลีรบกวนช่วยฝากดูกันเลยทีเดียว จนกัลยาณมิตรท่านหนึ่งได้สอยมาฝาก เช่นนั้นเมื่อได้มากับรุ่นที่รับรู้มาว่าดีมากอย่าง Vetiver Bourbon ก็ต้องมาบอกเล่ากันหน่อยว่ากลิ่นเป็นอย่างไรบ้าง 

Top Notes เล่นเอาสดชื่นกันเลยทีเดียว แต่ไม่ได้มาสายคมพุ่งปรี๊ดนัก แบ่งสมดุลกันได้อย่างลงตัวระหว่างความเป็นโทน Citrus ของเลมอน ความเป็นสมุนไพรของโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia) ที่ให้ความเขียวติดขื่นตามธรรมชาติ และความเป็นโทน Spicy เผ็ดปร่าโปร่งสดชื่นของเม็ดผักชี กลิ่นจะผสมผสานกันอย่างลงตัว ให้ความเป็น Spicy Herbal Citrus ที่ฟุ้งกระจายออกมาในโทนสว่างและสะอาดมาก โดยที่จะจับได้ถึงกลิ่นอายสดชื่ื่นติดไม้หอมของหญ้าแฝกและกลิ่นติดเขียวสากจางๆ อยู่เป็นตัวรองพื้นที่จะเป็นตัวดึงเข้าสู่ Middle Notes กับการเป็นกลิ่นหญ้าแฝกที่สดชื่นมีความฉ่ำจากโทน Citrus ติดเขียวสมุนไพรที่ตามมาจากตอนต้น และจะมาเคล้ากับกลิ่นอายดอกส้มที่มาแบบใสๆ ให้กลิ่นมีมิติของความสดชื่นที่โปร่งสว่างที่ยังคงอยู่ สนับสนุนให้หญ้าแฝกที่เด่นขึ้นมาเป็นกลิ่นสะอาดเจือไม้หอม กลิ่นอยู่ระหว่างความแห้งและความฉ่ำได้เป็นอย่างดีมาก ยังเจือกลิ่นสากเขียวที่เริ่มจะชัดขึ้นมาอย่าง Oak Moss ที่ให้ความรู้สึกแบบแมนๆ ติดคลาสสิคกำลังดีลากยาวไปจนถึง Base Notes โดยคราวนี้จะเป็นกลิ่นหญ้าแฝกที่มาสายไม้หอมแห้งๆ กลั้วกลิ่นเขียวติดสากเท่ห์ๆ ของ Oak Moss ชัดเจน ซึ่งจะยังสัมผัสได้ถึงความสดชื่นที่ยังมีอยู่ในเนื้อกลิ่น ซึ่งคุมโทนความสว่างและสะอาดชัดเจนตั้งแต่ต้นยันจบ ได้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายสบายๆ สะอาดสะอ้าน ลุคร่วมสมัยที่คาบเกี่ยวความเป็นแนว Modern เคล้าความคลาสสิคแบบหวีผมเรียบแปล้ ใส่เสื้อสีขาวนวลตา นั่งผ่อนคลายท่ามกลางอากาศดีที่ปลอดโปร่งตามนี้เลย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถจัดตัวนี้ได้เแล้ว เพราะมันเป็นกลิ่นสะอาดที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่ายมาก แม้ว่าจะมีความคลาสสิคในเนื้อกลิ่นเจืออยู่ก็ตาม กลิ่นนี้เรียกว่ากวาดหมดทุกการใช้งานยามกลางวัน มีความครอบจักรวาลชัดเจน ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นนี้ไว้ใส่ยามอากาศร้อนๆ ให้สดชื่นสะอาดผ่อนคลายสบายใจ ให้คนที่อยู่ใกล้ๆ สบายจมูกและรู้สึกดี หรือใส่ไปทานข้าวนอกบ้าน เดินเล่นห้างได้หมด แต่กลิ่นไม่เข้าทางกับการใส่ไปท่องราตรีนักเพราะโดนกลิ่นสายหวานอวลกลบแน่นอน 

ความทน - นี่คือสิ่งดีงามมมมมมม เพราะว่ากลิ่นทนมากถ้าวัดโดยเฉลี่ยก็ 8 ชม. สบายๆ ในหลายๆ สภาพผิว อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด โดยส่วนตัวเจอความทนไปที่ 12 ชม. สบายมากไม่ว่าจะเจอเหงื่อ เจอความชื้น เจอการโต้ลมจากการขี่มอเตอร์ไซต์กลิ่นยังอยู่ไม่หนีไปไหน กับจำนวน 6 สเปรย์ อันนี้ยกดาวให้ทั้งฟ้าจริงๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมาปานกลางในช่วงกลาง แล้วจะเริ่มเป็นออร่าความสะอาดแมนๆ สบายๆ ในช่วงท้าย พอพ้นไปซัก 8 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป็น Skin Scent ที่ตีขึ้นยามร่างกายขยับเนื้อตัว 

ทิ้งท้าย - นี่คือหนึ่งในกลิ่นหญ้าแฝกที่ดีที่สุดตัวนึงของผมเลยทีเดียว ที่ให้ความรู้สึกสะอาด สบาย โปร่ง และมีความดีงามในตัวสูงมาก คลาสสิคก็ได้ สบายๆ สไตล์ Modern แต่มินิิมัลก็ได้ ให้ตำแหน่ง #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ก็ยังไม่พอ ขอยกดาวให้ทั้งฟ้ากับคุณภาพที่เกินราคาไปมากโขจริงๆ ด้วยเลย

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Photo Credit by http://asset1.marksandspencer.com/is/image/mands/SD_07_T23_3909I_NC_X_EC_0?%24PDP_MAXI_ZOOM_NEW%24

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น