Thierry Mugler - A*Men Urban
เพียงแค่เห็นชื่อรุ่น
อย่างแรกคือแปลกใจว่า A*Men ของ
Thierry Mugler มีรุ่นนี้ด้วยหรือนั่น
ซึ่งหลังจากหาข้อมูลไปมาถึงได้รู้ว่า นี่เป็นรุ่น Limited Edition ที่มีการวางจำหน่ายแถวยุโรปชั่วคราว
แล้วระงับไปในเวลาต่อมา ทำให้รุ่นนี้มีขายกระจายตามเว็บไซต์ขายน้ำหอมเชื่อถือได้มาอยู่ระยะหนึ่งแล้วก็หมดไปในที่สุดในความ Rare Item ของรุ่นนี้
แต่การค้นฟ้าคว้าดาวด้วยความพยายาม ก็สามารถเอาตัวนี้มาครอบครองได้
เช่นนั้นได้เวลาจัดเต็มกันแล้วกับรุ่นนี้เลย A*Men Urban
สปอยกันตั้งแต่ต้นเรื่องมันเลยแล้วกันว่า
“กลิ่นไม่ต่างอะไรกับการเป็น
A*Men ตัวต้นตระกูลเลย เปลี่ยนแค่เกราะที่ใส่ประมาณนั้น”
แต่บางวูบมันมีบางโทนที่เด่นขึ้นมาจากตัวต้นตระกูลบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นนัยยะสำคัญอะไรนัก
เพราะลักษณะนี้มันเป็นได้จากการผลิตต่างล็อตที่คุณภาพส่วนผสมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง
การเปิดตัวมาลักษณะที่ชัดเจนกับ Signature
หลักของกลิ่นอย่างพิมเสนที่จะเป็นตัวเดินเรื่องแบบยาวไป
กลิ่นจะมีความสากๆ จมูก Earhty แบบดิบๆ ติด Spicy ชัดเจนเพราะกลิ่นของเม็ดผักชีกับมินต์จะเป็น 2 ประสานดันความพุ่งฟุ้งกระจายออกมาแบบเผ็ดปร่าปนสดชื่น
สนับสนุนด้วยกลิ่นอายโทนผลไม้เจือๆ เคล้ากลิ่นลาเวนเดอร์ที่มาแบบนวลๆ
รองพื้นอยู่ และมีความแน่นสไตล์กลิ่นโทนหอมหวานอบอุ่นแนวๆ นม คาราเมล
และกาแฟที่ค่อยๆ ปลดปล่อยสวัสดิกะออกมาให้อารมณ์เรียกร้องความสนใจแบบที่อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า
“อะไรของมันกันเนี่ยนัวมะรุมมะตุ้มไปทุกสิ่งอย่าง”
ตามสไตล์น้ำหอมที่ Hate it or Love it แต่จะสัมผัสได้เลยว่า
กลิ่นมันมีโทนหวานรองพื้นชัดเจนมากท่ามกลางความบาด ความสาก
และความพุ่งกระจายแบบไม่แคร์สื่อใดๆ ของกลิ่น
และก็ได้เวลาของการเปลี่ยนความรู้สึกที่มะรุมมะตุ้มในช่วงแรกไปได้
เพราะกลิ่นของคาราเมลจะเด่นขึ้นมาแบบหวานติดคมนิดๆ แต่ไม่ใช่หวานเลี่ยน
เพราะกลิ่นอายโทนสากดิบแต่เร้าใจของพิมเสนจะตีคู่มาอย่างชัดเจน
โดยยังติดกลิ่นอายโทน Fresh Spicy จากตอนแรกอยู่ให้รู้สึกปร่าๆ เคล้ากับลาเวนเดอร์ที่มานุ่มๆ เนียนๆ
มีความครีมมี่นุ่มนมหน่อยๆ Animalic จางๆ ของน้ำผึ้ง
แต่สิ่งที่จับได้ชัดเจนคือกลิ่นไม้หอมเจือกาแฟที่เข้ามาค่อนข้างชัด
แต่ความซับซ้อนไม่ได้มีแค่นั้น เพราะสิ่งที่จับได้ออกแนวอ้อยอิ่งแต่ชัดเจนอยู่คือ
กลิ่นอายมะลิที่ชัดพอสมควร ซึ่งกลิ่นตอนนี้ที่แม้มันจะเป็นลักษณะเดียวกันกับต้นตระกูล
แต่มันก็แอบมีความชัดที่มากกว่าต้นตระกูลนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นนัยยะสำคัญนักตามที่บอกข้างต้น
ซึ่งช่วงนี้กลิ่นจะมีหลายโทนให้จับต้องทั้งโดยมีพื้นฐานในความหวานแบบดึงดูด
ไม่เหมือนใคร มาสายเซ็กซี่เย้ายวนปล่อยพลังปล่อยของไม่ยั้งแบบจัดเต็มเข้าไปอี๊กกกกก
จนเมื่อกลิ่นกาแฟเริ่มจะกลายเป็นตัวเด่นตีคู่กับคาราเมล
กลิ่นเลยจะมีอารมณ์ติดดาร์กน่าค้นหาเข้ามาเสริม เคล้ากับความอบอุ่นติดหวานปนนุ่มนมน่าซุกก็เริ่มมาชัดเจนมากขึ้นจากโทนวานิลลา
ถั่วตองก้า และแอมเบอร์ เคล้ากับกำยานเนียนๆ หอมหวาน มีกลิ่นไม้หอมครีมจางๆ นวลๆ
เคล้า Musk หน่อยๆ
กลิ่นแบ่งเค้กกันได้ลงตัวและผสมผสานกันอย่างดีทั้งโทนหวานและโทนอบอุ่น
แต่สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย คือ พิมเสน ไม่ได้หนีไปไหน มาสายอ้อยอิ่งยั่วเย้าติดสากบางๆ
ที่เซ็กซี่ปนขี้เล่นหน่อยๆ แบบปล่อยของทุกเม็ดไม่มีลดราวาศอก ทุกอย่างเรียกว่ามาเต็ม
คุมความเป็นโทนเซ็กซี่ หวานยั่ว ฟุ้งกระจาย ปล่อยพลังแบบโทนน่ากินได้ครบถ้วนและโจ่งแจ้งแบบไม่มีปิดบัง
สมกับคำว่า “Sex in the Bottle” ไม่มีผิดเพี้ยนแต่ประการใด
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใส่ได้สบายมาก
เพียงแต่กลิ่นนี้มาสายถ้ารักก็ฟิน ไม่รักก็เกลียดวายป่วงเอาได้ เช่นนั้น
การใส่จึงต้องอยู่ที่ความมั่นใจส่วนตัว และดูสถานการณ์บ้างอะไรบ้าง ให้ตัดการใส่เพื่องานทางการทุกกรณีไปจะดีกว่า
กลิ่นไม่ได้สื่อให้เห็นความภูมิฐานแน่ๆ นอกจากจะยั่วเย้าเอาเข้าไป
รวมถึงตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย
จุกคอหอยตายหมู่เอานะ บอกเลย แต่ถ้าใส่แบบทั่วๆ ไปที่ชัดเจนในการเรียกร้องความสนใจจะใช่มาก
ทางที่ดีจำกัดสเปรย์หน่อยในยามกลางวันแบบอากาศบ้านเรา
เดี๋ยวจากยั่วยวนจะเป็นยั่วโมโหเอาได้ ส่วนยามค่ำคืน จัดไป
เรียกว่ามาเพื่อฆ่า มาเพื่อเด่น จะหวานให้ตายแค่ไหน A*Men มา ก็ต้องสยบในเรื่องการปล่อยของแบบให้รู้ว่า
“ผมมาเพื่อเซ็กซี่” (แต่อาจจะสูสีกับ Joop
Homme นิดนึงในเรื่องการปล่อยพลังก็เท่านั้นเอง)
ความทน -
อยู่ที่ 8 ชม. เป็นพื้นฐาน
และสามารถลามไปทั้งวันถึงค่อนคืนเลยด้วยซ้ำ ความทนเป็นเลิศมาก กลิ่นติดเสื้อเอาไปซักจนแห้งสะอาดแล้วยังมีกลิ่นหอมหวานจางๆ
ลอยออกมาเลย
การกระจาย - Sillage Monster ตามสไตล์แหละ กระจายดีมาก
(อันนี้อิงที่จำนวนสเปรย์ด้วย เพราะถ้าใส่ไม่เยอะ จะไม่ได้ปล่อยพลังเยอะอะไรมา
มาแนวพอดีๆ แทน) แล้วจะลดลงมาที่กระจายดี ก่อนเรียกร้องความสนใจยาวไปเรื่อยๆ
พอพ้นซัก 12 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป็นออร่ารอบๆ
ตัวเซ็กซี่ชวนซุกแทน
ทิ้งท้าย -
มันคือการ Review แบบ Rewrite
ใหม่ ถึงตัว A*Men ที่เปลี่ยนเกราะใหม่ที่ดูเท่ห์ขึ้นในสไตล์สีเขียวแบบทหารหล่อกล้ามใหญ่เรียกร้องความสนใจ
ใครสนก็ให้มากินหัวกินหางกินกลางลำตัวแบบชัดเจนไม่มีปิดบัง
ประมาณนั้นเลย
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit –
FragranceX --> https://img.fragrancex.com/.../parent/medium/71020m.jpg
hi
ตอบลบhi
ตอบลบ