วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2566

Review: Strangers Parfumerie - Chokedee (โชคดี)

Strangers Parfumerie - Chokedee (โชคดี)

สำหรับกลิ่นนี้ของ Strangers Parfumerie ถือเป็นหนึ่งใน Exclusive Scent ที่วางจำหน่ายเฉพาะที่เว็บไซต์ Luckyscent ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่นำเสนอความไม่ธรรมดาของการเอาความเป็นกลิ่นอายแบบขนมหรืออาหารไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอม และเป็นการนำเสนอสู่ระดับ International ที่ทำให้ผู้เล่นน้ำหอมสาย Niche ต่างๆ จะได้รับรู้ถึงความแตกต่างทางกลิ่นและซึมซับความหอมได้มากขึ้น รวมถึงการ Exclusive เฉพาะเว็บไซต์หรือร้านน้ำหอมนั้นๆ ยิ่งเป็นการเกื้อกูลกันได้เป็นอย่างดีเพราะจะได้ทั้งการซื้อที่ต้องมาซื้อผ่านร้านนั้นๆ เท่านั้น และเป็นจุดขายที่ดีให้กับร้านน้ำหอมนั้นๆ ในการทำการตลาดด้วยเช่นกัน

สำหรับ Chokedee หรือ “โชคดี” ในภาษาไทย จะมีจุดตั้งต้นของกลิ่นที่นำมาสร้างสรรค์น้ำหอมอย่าง “ข้าวเหนียวมูน” ซึ่งคนไทยๆ อย่างเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจากข้าวเหนียวมะม่วงหรือว่ากลุ่มแนวข้าวเหนียวสังขยาต่างๆ ซึ่งมีกลิ่นที่หอมเฉพาะตัว และให้ความหวานหนึบเวลาเคี้ยวแล้วกลิ่นข้าวเหนียวกับกะทิและน้ำตาลที่มูนข้าวนั่นฟุ้งหอมขึ้นมาให้รู้สึกฟิน อร่อย หรือพึงใจ ซึ่งนี่แหละที่จะกลายมาเป็นกลิ่นหอมที่จะทำให้เราพึงใจและโชคดีตามมา โดยกลิ่นจะสร้างสรรค์ออกมาอย่างไร ก็ขอเล่าออกมาได้ตามนี้

กลิ่นเปิดให้อารมณ์กลิ่นอายดอกไม้ขาวที่ไม่หนักไปและก็ไม่เบาไปมาทักทายก่อนใครเพื่อนเลย และในเนื้อกลิ่นจะมีลูกผสมของกลิ่นเขียวอะโรม่าติดหวานโปร่งของใบเตยรวมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณากลิ่นลึกลงไปจะจับต้องได้ถึงกลิ่นดอกชมนาดที่ให้อารมณ์กึ่งข้าวหอมหุงสุก เคล้ากับกลิ่นหอมเย็นๆ ปร่าหวานหน่อยๆ ของลีลาวดี แกมกลิ่นดอกมะลิใสๆ ที่ทำให้เนื้อกลิ่นในช่วงนี้ได้ความหวานโปร่งเย็นๆ กำลังดี และมีลูกเอื้อนกลิ่นข้าวสุกกึ่งใบเตยที่ให้ความอะโรม่าผ่อนคลาย ซึ่งถือว่าช่วงเปิดให้อารมณ์แบบไทยๆ ในช่วงเช้าๆ ที่ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมและเป็นจุดเริ่มต้นของกลิ่นที่ประกอบเข้าด้วยกันจนเป็นการทำข้าวเหนียวมูนใบเตยที่พอเหมาะ และไม่ได้จงใจเกินไปเสียด้วยซ้ำ อารมณ์บรรยากาศประมาณนั้นเลย

การเข้าสู่ช่วงกลางยิ่งชัดเจนเข้าไปอีกกับการเป็นโทนกลิ่นข้าวเหนียวที่หุงสุกที่เป็น Effect จากดอกชมนาดร่วมด้วย แต่จะมีมิติอื่นๆ เข้ามาเสริมนั่นคือ กลิ่นกะทิที่ไม่ได้มาแบบข้นในลักษณะแบบซันแทนโลชั่น แต่จะมาแบบกลิ่นน้ำกะทิที่สมดุลย์ให้อารมณ์แบบมะพร้าวกะทิที่มีกลิ่นมะลิและใบเตยรวมอยู่ในนั้น และมีความอะโรม่าของชาให้จับต้องได้ร่วมด้วย ตามด้วยกลิ่นออกทางถั่วหน่อยๆ + ไม้จันทร์หอมที่ให้ความครีมมี่มิลค์กี้ที่ได้อารมณ์กลิ่นไม้ครีมมี่นวลๆ สว่างๆ ที่ชัดเจนพอสมควรและเดาไม่ยากว่าจะเป็นแกนหลักของกลิ่นในช่วงถัดไปแน่นอน รวมถึงบางวูบให้อารมณ์กลิ่นแบบหวดนึ่งข้าวที่ซึมเข้าไปในข้าวที่มีเสน่ห์เฉพาะร่วมด้วย ซึ่งทำให้ภาพรวมของกลิ่นกลายเป็นกลิ่นอายคล้ายข้าวเหนียวมูนที่กำลังดี ไม่ได้หวานเกินไปจนกลายเป็นข้าวเหนียวแก้ว โดยที่จะมีไม้จันทน์หอมสร้างความเป็นโทนสีครีมไม่นวลๆ ตลอดเวลา ทำให้มิติกลิ่นช่วงนี้มีความเป็นโทน Gourmand ที่มีความเป็นไทยแต่ไม่ได้ยัดเยียด เน้นให้ความเป็นบรรยากาศทั้งกลิ่นและภาพที่เราจินตนาการตามได้จากการได้รับกลิ่น แน่นอนว่ามีความ Tropical ในเนื้อกลิ่นในสไตล์เอเซียชัดเจน

ช่วงท้ายของน้ำหอมแกนหลักจะกลายเป็นไม้จันทน์หอมเต็มตัว ที่มีความแห้งและมีลักษณะโทนไม้หอมกึ่งวานิลลาอ่อนๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นโทนไล่เฉดที่มีสีครีมนวลเป็นพื้นฐาน โดยจะมีกลิ่นออกทางจืดหอมแกมครีมมี่มิลค์กี้กึ่งกะทิเบาๆ ให้จับต้องได้ แต่ในเนื้อกลิ่นจะแฝงความโปร่งไม้แกม Earthy กึ่งถั่วติดมันหน่อยๆ ที่เป็นเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างหญ้าแฝก ไม้ซีดาร์ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์  รวมถึงมีความเป็นโทน Musk ติดเขียวเบาๆ ที่ทำให้กลิ่นมีโทนสะอาดๆ สบายๆ ติดเขียวเป็นมิติที่ซ้อนเนียนๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข่วงที่ให้ความผ่อนคลาย สบายๆ ที่ให้ความรื่นรมย์ทางกลิ่นอย่างสมดุลย์ในการเป็นโทนสว่างครีมนวลกึ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของข้าวเหนียวมูนที่เรียกรอยยิ้มในการใช้งานที่สร้างความโชคดีตามชื่อกลิ่นได้แบบไม่ยาก

เหมาะสำหรับ - Unisex เพราะกลิ่นข้าวเหนียวมูนไม่ว่าจะเพศไหนก็เข้าถึงได้ไม่ยากอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งกลิ่นไม่ได้หนักไป หรือเบาไป มีความสมดุลย์แบบที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญแต่ให้ความเป็นบรรยากาศ หรืออารมณ์เห็นภาพเหี่ยวกับข้าวเหนียวมูนเสียมากกว่า ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แต่จะมีการใส่เพื่อออกกำลังกายที่ไม่เข้าทางเท่าไหร่ ข้ามไปจะดีที่สุด ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่ออกงานหรือทั่วๆ ไปก็พอ เพราะกลิ่นไม่ได้ทรงพลังมากขนาดที่จะเอาไปประชันกับโทนหวานแน่นเท่าไหร่

ความทน - ลงตัวที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และสามารถไปต่อได้อีกถ้าจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายเอื้อมากพอในการต่ออายุน้ำหอมให้ยาวๆ ไปบนผิวกาย โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางไปราวๆ 2 ชม. ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป แล้ว Skin Scent ชัดเจนเมื่อผ่านไปราวๆ 8 ชม. แล้ว

สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นที่สื่อสารออกมาแบบที่เรียกว่า Modern Thai Twist เลยก็ย่อมได้ เพราะว่าไม่ได้จงใจเอาความเป็นข้าวเหนียวมูนแบบฉ่ำๆ เต็มเหนี่ยวมาป้อนให้ถึงจมูกขนาดนั้น แต่เอาบรรยากาศ กลิ่นอายที่ลอยมาให้รู้สึกได้ หรืออารมณ์แบบที่เราเห็นภาพข้าวเหนียวมูน แล้วเรานึกถึงกลิ่นมันในความรู้สึกอะไรประมาณนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการวางสมดุลย์ทางกลิ่นที่ดี เอาทั้งความเป็นข้าวเหนียวมูนมาเจอกับไม้จันทน์หอมที่เป็นพื้นกลิ่นสร้างความครีมมี่มิลค์กี้หอมมีระดับได้อย่างลงตัวและงดงามโดยที่ไม่หนักไป เน้นความผ่อนคลายโทนสว่างและสร้างรอยยิ้มที่ก่อให้เกิดเรื่องดีๆ ที่จะตามมาได้ไม่ยาก สมกับชื่อกลิ่นว่า “โชคดี”

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/strangersparfumerie

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น