Parfum d’Empire - Iskander
Iskander เป็นภาษาเปอร์เซียที่เมื่อแปลออกมาแล้วจะเท่ากับ Alexander ซึ่งแน่นอนว่า Link ไปยังกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Alexander the Great ในการยาตราทัพเดินทางรบทัพจับศึกยึดครองประเทศต่างๆ ในฝั่งเอเชีย บางส่วนของอาหรับ จนถึงชายขอบชมพูทวีป ในราว 350 ปี ก่อคริสตกาล
แน่นอนว่าความคาดหวังในกลิ่นหลังจากรู้ว่าสื่อถึงใครในประวัติศาสตร์ มันจะต้องมีความใหญ่ในกลิ่นประมาณหนึ่ง แต่ พอได้มาศึกษาก่อนลงเนื้อกลิ่นจริง Parfum d’Empire ที่เน้นการสร้างสรรค์จากจักรวรรดิ วัฒนธรรม แและกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ต่างๆ ในอดีต กลับตีความออกมาเป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่แตกต่างที่ดึงเอาของดีจากโซนฝั่งทางเอเชียต่างๆ มาผนวกกับความเป็นเมดิเตอร์เรเนียน อารมณ์แบบเก็บเกี่ยวความรื่นรมย์ทางกลิ่นจากการยกทัพไปยึดครองประเทศต่างๆ แล้วนำมารวมกันให้เห็นถึงอาณาเขตที่กษัตริย์พระองค์นี้ได้ครอบครองประมาณนั้น ซึ่งกลิ่นจะสื่อสารออกมาอย่างไรและทำให้เห็นภาพได้มากขนาดไหน ว่ากันได้ตามนี้
เปิดตัวมาก็บอกโทนกลิ่นกันได้เลยว่านี่คือกลิ่นโทนร่วมสมัยที่มีพื้นฐานความเป็นสไตล์ Classic Citrus แบบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีองค์ประกอบของกลิ่นโทนสมุนไพรเข้ามาร่วมด้วย แน่นอนว่าความ Sparkling ก็มากันเต็มๆ กับตัวเด่นเลยคือ Citron หรือส้มโอมือที่ให้ความเปรี้ยวแห้งๆ ผสมผสานกับกลิ่นออกทางเลมอนที่มีความ Splash เบาๆ แต่เน้นความหอมเปลือกเลมอนมากกว่า และมีความแปร่งเปรี้ยวสดชื่อของเกรปฟรุตที่เข้ามาทำให้กลิ่นมีความสว่างมากขึ้น โดยที่มีความหวานฉ่ำหน่อยๆ คลอๆ ของส้มรวมอยู่ในเนื้อกลิ่นด้วย แต่สิ่งที่เรียกว่ามาตัดทอนไม่ให้เนื้อกลิ่นมีความนิ่ง ไม่ได้ Citrus ลั่นล้าไปนั่นก็คือทาร์รากอน ที่มาให้ความเขียวนวลกึ่งโหระพาที่มีความหวานเนียนๆ รวมอยู่ด้วย ทำให้ให้เป็น Classic Citrus Herb ที่มีมิติและมีระดับ ภาพในเนื้อกลิ่นเลยใช่เลย นี่แหละเมดิเตอร์เรเนียนเต็มๆ
ช่วงกลางเริ่มทำให้ภาพขยายออกไปมาขึ้นในเนื้อกลิ่นมากขึ้น เพราะนอกจากความเป็นโทน Citrus Herb ที่ตามมาตั้งแต่ช่วงต้นทั้งหมด เพียงแต่ลดทอนความเปรี้ยวในเนื้อกลิ่นลงเป็นกลิ่นเปรี้ยวหอมแห้งๆ เฉพาะตัว ก็จะมีตัวเสริมฝั่ง Herb เข้ามามากขึ้นอย่างเม็ดผักชีที่ทำให้กลิ่นมีความปร่าซ่า + มีความเป็นเผ็ดนวลพริกไทยเนียนๆ รับช่วงสร้างความแข็งแกร่งให้สาย Herbal ได้อย่างสมดุลย์ และไม่พอกลิ่นที่มาสร้างความเป็นโทนสดชื่นกึ่งขาวนวลของดอกส้ม (African Orange Blossom) ก็เริ่มมีบทบาทกันอย่างชัดเจนที่มาให้ความขาวนวลสะอาดกำลังดี มีความสดชื่นติดเปรี้ยวอมหวานอ่อนๆ ให้กลิ่นมีความรื่นรมย์ก็ได้และมีความร่วมสมัยมากขึ้นด้วยของดอกส้ม ตลอดจนยังสัมผัสได้อีกว่าเนื้อกลิ่นมีความอบอุ่นเนียนๆ ในลักษณะของโทนแอมเบอร์รวมอยู่ด้วย ถือว่าสร้างมิติทางกลิ่นที่ครอบคลุมการรับรู้ได้ครบถ้วน
เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นโทนเขียวแห้งๆ เข้มหน่อยๆ กึ่งหมึกแบบไม่หนักหน่วงของ Oak Moss ที่ชัดขึ้นตามลำดับ และเนื้อกลิ่นเริ่มมีความนุ่มนวลแกมอบอุ่นกำลังดีเข้ามาเทคโอเวอร์มากขึ้น ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่ตอนนี้ชัดมากว่ากลิ่นนี้คือความเป็น Citrus Chypre เต็มๆ (เพราะองค์ประกอบสาย Chypre ครบถ้วนมากทั้ง Citrus ที่มาตอนต้นลดหลั่นมาเจอความอบอุ่นของแนวแอมเบอร์ และมี Oak Moss กับพิมเสนที่สร้างความ Earthy และรื่มรมย์ในเนื้อกลิ่น) ซึ่งจะมีตัวเสริมที่ดีให้ความนวลสะอาดมากขึ้นจาก Musk ที่จะมาแนนนุ่มนวลแกมหวานที่จับต้องได้ว่ามีโทนออกทางผิวกายอบอุ่นติดเค็มอ่อนๆ ที่เป็น Effect ทางกลิ่นแบบอำพันปลาวาฬ (Ambergris) ให้รับรู่ได้ + มีความปร่าระเรื่ออ่อนๆ ของพิมเสนที่ให้ความรื่นรมย์ ซึ่งภาพรวมของโทนกลิ่นไม่ได้ซับซ้อน เป็น Minimal Classic ที่ใส่ความร่วมสมัยในการใช้งานได้ดีและสมดุลย์มาก โดยไม่ทิ้งความ Sparkling ความสว่างนวล และความเรียบหรูในกลิ่นแต่อย่างใด
เหมาะสำหรับ - เนื้อกลิ่นจะเหมาะกับวัยทำงานขึ้นไปและเป็นโซน Unisex ถ้าใส่แบบทั่วไปชิลล์ๆ แต่ถ้าใส่ทำงาน กิจกรรมกลางแจ้ง หรือว่าออกงานทางการ โทนกลิ่นจะค่อนไปทางผู้ชายมากกว่าพอสมควร ซึ่งถ้าจะใส่ไปท่องราตรีหรือปล่อยเสน่ห์เย้ายวนอวลซูเปอร์ไซย่า บอกเลยว่าไม่เข้าทาง เพราะกลิ่นนี้เน้นสมาร์ทรื่นรมย์
ความทน - กลิ่นทนลงตัวมากๆ ที่ 8 ชม. แต่อาจจะมีดรอปลงมาที่ 6 ชม. บ้าง หรือเลยไปแตะ 10 - 12 ชม. อยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนตัวเจอที่ 8 - 10 ชม. เสมอกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นไปราวๆ 15 นาที แล้วจะลดลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปราวๆ 4 ชม. ก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัว แล้วจบที่ Skin Scent เมื่อผ่านไปแล้วราวๆ 6 - 8 ชม.
สรุป - ส่วนตัวไม่ได้นึกถึงคาแรคเตอร์ของ Alexander The Great เลย แต่ออกแนวได้ความเป็นกลิ่นอายสไตล์ร่วมสมัยที่ให้ความสดชื่นที่มีความเป็น Italian Classic สูงมาก คือ ใส่ยังไงก็สมาร์ทและดูหล่อแบบ Classic แนวๆ นี้ แต่ถ้าจะว่ากันที่แรงบันดาลใจที่หยิบเอาสิ่งละอันพันละน้อยมาจากแผ่นดินที่อยู่ภายใต้อาณัติของกษัตริย์พระองค์นี้ เช่น สมุนไพร + Citrus จากแถบเมดิเตอร์เรเนียน Oak Moss ที่เมซิโดเนีย ดอกส้มจากฝั่งแถบ African (อียิปต์) แอมเบอร์หรือ Ambergris จากฝั่งเปอร์เซีย และ Musk จากโซนจีนแลอินเดีย ก็ถือว่าตอบโจทย์ที่สื่อถึงอาณาจักรทั้งหมดรวมกันของกษัตริย์ที่เป็นแม่ทัพที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาตร์โลกได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน
เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://parfumdempire.com/en/parfums/iskander/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น