วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review: Cacharel – Nemo


Cacharel – Nemo 


ถ้าพูดถึงน้ำหอมของแบรนด์ Cacharel ตัวแรกๆ ที่คนใช้น้ำหอมมักจะนึกถึงเลยคือรุ่น Anais Anais ที่เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่อยู่ยงคงกะพันมาตั้งแต่ยุค 70 จนปัจจุบันที่แม้ว่ากลิ่นอาจจะมีความ Old-School Classic ไปบ้าง แต่ความดีงามยังเป็นทื่ประจักษ์อยู่เสมอ ซึ่งแบรนด์เองถือว่าประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะน้ำหอมผู้หญิงที่มีการต่อยอดมากมายจนถึงทุกวันนี้ แล้วน้ำหอมชายล่ะ?  


แน่นอนว่าก็มีรุ่นของผู้ชายที่คงกระพันชาตรีอยู่เช่นกันอย่างรุ่น pout L’Homme ที่ยังคงเป็นหนึ่งในกลิ่นอายสาย Classic ที่ลงตัวอยู่เสมอ แต่พอหันไปดูน้ำหอมชายรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์แม้จะเป็นที่นิยมอยู่พอสมควร แต่ก็เริ่มหายๆ ไป และมีหลายๆ รุ่นก็ปลดประจำการเลิกผลิตไปแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีรุ่น Nemo ที่ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชั้นยอดที่คุณภาพจัดเต็ม จนเหล่ามวลมหาประชาชีที่ชอบน้ำหอมตัวนี้ต่างเสียดายไปตามๆ กัน 


เจ้า Nemo มาพร้อมกับขวดทรงตัว Y สวยงามน่าสะสมอย่างแรง + กลิ่นแนวๆ Oriental Woody เปิดที่ออกแนวสาบปลุกเร้ากลิ่นติดโทนคล้ายถั่วผสมกับความเป็นเครื่องเทศติดเผ็ดเย้ากันตั้งแต่ต้น ซึ่งตัวเด่นจัดมาเลยคือเม็ดกระวานที่ให้ความเผ็ดหวานติดขมปลายกลิ่นที่ไม่ได้ข้นแน่นเคล้ากับพริกไทยที่มีความปร่านวลติดไม้หอม แต่กลิ่นไม่ได้เผ็ดจัดเพราะมีตัวมากล่อมให้เนื้อกลิ่นมีความกลมๆ ติดแปร่งคมแปลกแต่มีเสน่ห์ที่แตกต่างอย่างเม็ดจันทน์หอม (สายเกลากลิ่นที่แท้ทรู) ที่สำคัญเสริมความนวลในเนื้อกลิ่นด้วยลาเวนเดอร์เข้าไปอีกทำให้กลิ่นช่วงเปิดมีความหลากหลายในมิติของการเป็นน้ำหอมชายที่เด่นกับโทนเครื่องเทศเย้าแปร่งฉาบหน้าลาเวนเดอร์เจือไม้หอมกึ่งถั่วได้น่าสนใจมาก แต่แน่นอนว่าถ้าคนที่ไม่คุ้นชินกับกลิ่นสไตล์นี้ อาจจะไม่พิสมัยที่จะใช้เอาได้เลย เพราะกลิ่นแปลกๆ ที่ว่ามันมีลักษณะแบบสาบเครื่องเทศหน่อยๆ ที่เป็นธรรมชาติอยู่ด้วย  


แต่การตัดสินน้ำหอมคงตัดสินไม่ได้เพียงแค่ช่วงเปิด เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงกลาง ความเป็นเครื่องเทศแปร่งหวานเผ็ดเจือคมหน่อยๆ ที่ฉาบลาเวนเดอร์จะเริ่มมีโทนอบอุ่นคาบเกี่ยวกลิ่นโทนหนังกับแอมเบอร์เข้ามาเสริม ทำให้มีความอวลลึกกำลังดีเข้ามาร่วมด้วย และกลิ่นแปร่งๆ ตอนแรกจะเริ่มจางไปในที่สุด ซึ่งจะไม่ได้มีมิติกลิ่นแต่เพียงเท่านี้ เพราะจะมีกลิ่นดอกไม้บางๆ ติดเขียวปนปร่า Spicy เจือกลิ่นติดกุหลาบเบาๆ ที่ทำให้กลิ่นมีเลเยอร์ที่นวลมากขึ้น กลิ่นจะคุมโทนน้ำหอมผู้ชายที่จะมีลูกเล่นกลิ่นที่ไล่จากโทนเครื่องเทศคลอดอกไม้ปลายกลิ่น สู่กลิ่นโทนลาเวนเดอร์หอมติดสมุนไพรเจือนวลปนกลิ่นหนังอบอุ่นลึกๆ โดยที่มีความหวานเป็นพื้นฐาน จนเมื่อกลิ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและจับต้องโทนหนังที่ชัดเจนมากขึ้นจนกลายเป็นตัวหลักที่มีกลิ่นไม้หอมเข้ามาเสริม โดยมีความอบอุ่นติดโทนวานิลลา (ที่ไม่ได้ไปสายขนมแต่อย่างใด) และมีโทนไม้หอมเจือพิมเสนปร่าโปร่งๆ เข้ามา ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะให้ความเป็นกลิ่นหนังติดแมนๆ ที่มีโทนลาเวนเดอร์สร้างอารมณ์ติดนวล เจือกึ่งไม้หอมที่มีความปร่าระเรื่อกำลังดี และมีความหวานฉาบหน้ากลิ่นบางๆ จากเครื่องเทศของเทียนตากบ (Caraway) และเม็ดกระวาน เลยทำให้ได้ความเย้ายวนและดึงดูดในความเป็นโทนกลิ่นหนังแบบผู้ชายได้อย่างลงตัว      


เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ที่อาจจะต้อแงผ่านน้ำหอมกลิ่นเครื่องเทศ + หนังมาบ้าง จะเข้าถึงตัวนี้ได้ง่ายมากขึ้น  แต่เพราะพื้นฐานกลิ่นเป็นโทนหวานสาวๆ เลยมาแตะต้องในการใช้งานได้แต่จะแมนๆ นิดนึง ซึ่งกลิ่นถ้าใส่อย่างพอเหมาะ ก็จัดไปในยามกลางวันได้ไม่ว่าจะยามทางการหรือทั่วๆ ไป และเหมาะมากกับการใส่ในห้องแอร์ ไม่เช่นนั้นเจอแดดและไอร้อนเพราะอาจจะตลบอบอวลเอาได้ จึงเห้นควรข้ามการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย กลิ่นเครื่องเทศชัดมากเดี๋ยวจะกลายเป็นผัวแขกเสียเปล่าๆ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่พอเหมาะกลิ่นดึงดูดและสร้างเสน่ห์ไม่เหมือนใครได้เลย เผลอๆ เซ็กซี่เร้าใจได้อีกด้วยเพราะกลิ่นมันกระตุ้นเรื่องความเย้ายวนได้ดีเลย 


ความทน – มากกกกกก กลิ่นติดทนจากที่พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว ไม่ต่ำกว่า 10 ชม. และไปต่อไปถึง 15 ชม. เลย 


การกระจาย – อยู่ที่สภาพอากาศด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าอากาศร้อนรอบทิศกระจายดีมากในช่วงต้นถึงกลาง แล้วผ่อนลงเป้นออร่ารอบๆ ตัว แต่ถ้าอากาศเย็นๆ จะกระจายปานกลางแบบเสถียรพอสมควร ก่อนเป็นออร่าอบอุ่นรอบตัวกำลังดีกันยาวๆ จนเมื่อผ่านไปซัก 8 ชม. ถึงเป็น Skin Scent


สรุป - เพราะคุณภาพของน้ำหอมที่กลิ่นออกแนวธรรมชาติไม่สังเคราะห์กลิ่นขึ้นมาเลียนแบบ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมคนที่รักน้ำหอมส่วนใหญ่จะชอบตัวนี้กันมาก ที่สำคัญนำเสนอกลิ่นได้ดีเปิดได้แปลกและไม่เหมือนใคร ก่อนจะตามด้วยกลิ่นที่แมนๆ เข้ายวนและมีเสน่ห์แบบดึงดูดได้ลงตัว เสียดายจริงๆ ที่กลิ่นนี้เลิกผลิต  


หมายเหตุ: 

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”


Photo Credit - https://www.parfumo.net/Perfumes/Cacharel/Nemo_Eau_de_Toilette 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น