Christian
Dior – La Collection Privee: Eau Noire
เป็นหนึ่งใน
La
Collection Privee ที่นำเสนอเป็น 1 ใน 3
น้ำหอม Unisex ที่ออกมาวางตลาดพร้อมกัน
ซึ่งแน่นอนว่ามีรุ่นนี้ Eau Noire เป็นหนึ่งในนั้น
และเป็นกลิ่นที่หลายๆ ความคิดเห็นต่างก็บอกให้ลอง เช่นนั้นจะพลาดไปได้อย่างไรกัน
ผลออกมาคือออออออ
ความรู้สึกเมื่อฉีดลงผิวบอกได้เลยว่าช่วงต้นของน้ำหอมตัวนี้มีความเป็นสมุนไพรติดเขียวซ่าๆ
ที่ให้ความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นได้ลงตัวแว้บขึ้นมาก่อนเลยจากเซจ
ซึ่งกลิ่นจะมีความสดชื่นซ่าๆ แปร่งๆ คมๆ กันก่อน และกลิ่นของลาเวนเดอร์แบบธรรมชาติจะค่อยๆ
ผสมผสานกับกลิ่นเขียวซ่าๆ ตอนแรกมาเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ที่หอมติดสมุนไพรได้อย่างลงตัวมาก
แล้วจะผันตัวเข้าสู่ช่วงกลาง ที่กลิ่นอายของลาเวนเดอร์จะมาผสมผสานกับกาแฟดำ
โดยจะมีความดาร์กนัวให้รู้สึกได้ในช่วงนี้ แถมด้วยความหวานนวลๆ ลึกลับจากชะเอมที่มาผสมผสานกลายเป็นกลิ่นนัวแบบมีระดับ
แต่ไม่ได้ออกทางยั่วยวนเกินกว่าเหตุเพราะกลิ่นมีชั้นเชิงจากความหวานของเนื้อไม้
ความดำของกาแฟ และความเข้มของลาเวนเดอร์ ซึ่งกลิ่นของกาแฟลาเวนเดอร์จะตามไปยังช่วงท้ายผสมผสานกับโทนหอมอุ่นของวานิลลาที่จะมาในโทนแป้งนุ่มอุ่นเคล้ากับกลิ่นหนังนวลๆ
ที่จะมาให้ความนัวต่อยอดจากช่วงกลาง
และจะมีตัวหลักอย่างไม้หอมเป็นตัวล้อมกลิ่นกลั้วไปมามีความลึกลับกำลังดี มีความหวานที่มีชั้นเชิงมากพอแบบดาร์กๆ
ตีขึ้นให้รับรู้ ซึ่งแม้จะมาในโทนติดแป้งนวลๆ แต่ก็แอบมีความเป็นขนมหน่อยๆ
ผสมผสานอยู่ในนั้น เหมือนไล่เรียงกันมาตั้งแต่สดชื่นติดธรรมชาติ
ตามด้วยความดาร์กแบบมีระดับ
และปิดท้ายที่หอมหวานแป้งปนขนมติดไม้เนื้อหอมที่มีชั้นเชิงแต่ยังคุมโทนความนัวอยู่ไม่หายไปไหน
นี่แหละคือ Eau
Noire
เหมาะสำหรับ
–
Unisex ครับ แต่จริงๆ มีความแมนในเนื้อกลิ่นประมาณ 60% ได้อยู่ ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดสเปรย์เพราะกลิ่นหนักไม่ใช่เล่น ซึ่งสามารถใส่ทางการก็ได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ควรใส่รับแขกบ้านแขกเมืองเท่าไหร่เพราะว่ากลิ่นมันนัวไป
นอกนั้นสถานการณ์อื่นๆ จัดได้
ยกเว้นกลางแจ้งกับออกกำลังกายเดี๋ยวตายกันพอดีกลิ่นตีขึ้นหนำมาก
ส่วนเที่ยวกลางคืนเข้าทางทั้งแบบจิบทั่วไป
และหาเหยื่อไม่น้อยเพราะกลิ่นมันนัวยั่วกวานแบบมีชั้นเชิงนั่นเอง
ความทน – มากกกกก 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้น เช่นนั้นอยู่ที่ 8 ชม. ได้สบายๆ
ความทน – มากกกกก 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้น เช่นนั้นอยู่ที่ 8 ชม. ได้สบายๆ
การกระจาย
– กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมาเป็นกระจายปานกลาง
และลากยาวไปกึ่งออร่ารอบตัวในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย
– ส่วนตัวผมประทับใจมาก เพราะว่ากลิ่นมีความนัวแบบมีชั้นเชิงจริงๆ
ยิ่งลาเวนเดอร์ไม่ได้มาแบบน้ำหอมทั่วไปที่เน้นนุ่มสะอาด มีความเป็นธรรมชาติแบบดาร์กๆ
เจอกับกาแฟและชะเอมก็เท่ห์ติดเย้ายวนนัวๆ และปิดท้ายด้วยวานิลลากลั้ววู้ดดี้ จบเลย
เผลอหลงรักตัวนี้ไปแล้ว กลิ่นดีจริงอะไรจริง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น